ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (3)

เล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (2)


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 6 : ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ (2)

มันอาจต้องใช้เวลานาน แต่เขาต้องยกระดับเลเวลตนเองให้ถึง 80 ด้วยการล่าพวกหนอนเหล่านั้นที่มีเพียงแค่ภายในวงกตของวาฬขาว ด้วยโบนัสจากความมืดที่เสริมเข้าไป 20% มันจะทำให้เขาพอรับมือกับอเดเลียนได้บ้าง

อาร์คหลบเลี่ยงหนวดที่พุ่งเข้ามาขณะเปิดทางออกด้วยมือที่ยื่นออกไป

ขณะที่เขาวิ่งหนีราวบ้าคลั่ง ทั่วทั้งดันเจี้ยนกลับสั่นเทิ้มพร้อมเสียงคร่ำครวญที่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปมอง ใบหน้าของอาร์คต้องซีดเผือด

อเดเลียนกำลังกรีดแทงโดยการใช้หนวดเหล่านั้นปะทะเข้าใส่ผนัง

ทุกครั้งที่มันทำ เลือดเนื้อของผนังจะหล่นลงมาเป็นก้อน

วงกตที่กำลังสั่นไหวนี้ มันหมายถึงแกลลิคไม่อาจทานทนต่อความเจ็บปวดจนต้องอาละวาด ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาให้เขาไปขออภัยต่อความเจ็บปวดของแกลลิค

ขณะที่ทำลายผนังด้วยพละกำลังมหาศาล อเดเลียนก็เริ่มที่จะเข้ามาใกล้อาร์ค อเดเลียนมันเป็นตัวที่สร้างความสยดสยองอย่างแท้จริง

‘บ้าไปแล้ว นี่มันเคลื่อนที่เร็วขนาดนั้น...!’

ทุกครั้งที่หนวดฟาดออก เสียงของสายลมจะดังเข้าปะทะจากทางด้านหลังของเขา มันแทบทำเอาผมบนหัวของอาร์คลุกชี้ชัน

‘บัดซบ คิดว่าพอออกมาจากหัวใจแล้วมันจะไม่ตามมาเสียอีก!’

เขาพลาดไป อเดเลียนคิดตามติดเขาอย่างไม่ลดละ

อาร์คคาดการณ์ว่าแม้อเดเลียนจะยังคงตามมา ด้วยร่างกายใหญ่ยักษ์นั่นสมควรเชื่องช้าลงเพราะผนังที่แคบ

ถ้าหากเขาใช้โอกาสนี้หลุดรอดพ้นสายตาของมันและออกมาห่างเกินร้อยเมตรได้ สภาวะการต่อสู้ก็จะถูกยกเลิก จากนั้นเขาจะซ่อนตัวด้วย ‘ลอบเร้น’ แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น อเดเลียนกลับบีบระยะห่างให้เข้ามาใกล้ขณะที่ทำลายผนังไปด้วยระหว่างที่ไล่ล่า

ราวกับว่าข้อความแจ้งเตือนถึงอันตรายกำลังปรากฏต่อหน้าสายตาของเขา

‘นี่เราต้องมาตายแบบนี้เหรอเนี่ย?’

ค่าสถานะต้องสูญเสีย! นอกจากนี้ เขาต้องไปสำรวจดันเจี้ยนใหม่ตั้งแต่ต้น แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น! ตายโดยบอสฆ่ามันมีโอกาสมากที่จะดร็อปอุปกรณ์สวมใส่ อีกทั้งมอนสเตอร์ยังสามารถหยิบไอเทมได้หากพวกมันพบเห็น

ถ้าหากดาบของแลนเซลดร็อปออกไปแล้วอเดเลียนหยิบไปล่ะ? ผลลัพธ์คือเขาต้องใช้ดาบง่อย ๆ จนกว่าจะเอาชนะอเดเลียนได้เลยหรือไร

‘ไม่มีทาง! ต่อให้เราตาย เราก็จะขอวิ่งหนีให้ถึงที่สุด! มาดูกันว่าแกจะตามติดไปได้ถึงเมื่อไหร่!’

อาร์ควิ่งไปมาในท้องของแกลลิคโดยแทบไม่หยุดพัก

ทันใดนั้น มันมีบางสิ่งวาบผ่านเข้ามาในใจเขาขณะที่ผ่านทางแยกไป

‘เดี๋ยวนะ เส้นทางพวกนี้... ใช่แล้ว! บางทีวิธีนี้อาจจะ...?’

อาร์คที่ตระเวนไปทั่วทั้งเขาวงกตนี้พลันตระหนักได้ถึงวิธีการลับที่เปลี่ยนสถานการณ์

‘แต่เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้เหรอ? ไม่ ไม่ว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่นั้นล้วนไม่สำคัญ สิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้คือเดิมพันทุกสิ่งเอาไว้กับวิธีการนี้!’

อาร์คหยุดอย่างฉับพลันและหันร่างกลับ

อเดเลียนกำลังหวดหนวดของมันไปมาอย่างรวดเร็ว

อาร์คหลบเลี่ยงหนวดเหล่านั้นขณะวิ่งเข้าหาอเดเลียน จากนั้น เมื่อเขาอยู่แทบจะต่อหน้าของมัน เขาพลันม้วนกลิ้งตัวกับพื้น ขณะที่หนวดไล่ตามมา เขาได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทว่า อาร์คไม่คิดสู้กลับ

เขากระโจนตัวขึ้นและวิ่งผ่านอเดเลียนมุ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง จากนั้น เขาจึงเลี้ยวเข้าทางแยกที่เจอก่อนหน้านี้และมุ่งไป มันคือลานกว้างที่เต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมหัวเข่า

อาร์คก้าวเดินขึ้นไปยังกองขยะที่สุมกันขณะเคลื่อนร่างไปใกล้ใจกลางของลานมากขึ้น จากนั้นเมื่อหันกลับไป อเดเลียนก็กำลังมุ่งเข้ามาในลานกว้างแห่งนี้

อาร์คยกยิ้มขณะพึมพำออกมา “เอาล่ะ มาดูกันว่าฉันหรือแกที่ต้องตาย”

“คว๊ากกก!”

อเดเลียนกรีดร้องขณะวิ่งเข้าใส่ ทว่ามันหยุด เมื่อเท้าของมันสัมผัสกับพื้นผิว กรดที่กัดกร่อนจนเกิดควันกำลังพวยพุ่ง แต่สายเกินไป อเดเลียนแม้ตระหนักได้ว่าเป็นอันตรายและคิดถอยกลับ แต่อาร์คไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้หลังพยายามล่อมันมาอย่างยากลำบาก

“เข้ามาง่ายแต่ออกไม่ง่ายหรอกนะ เจ้างู เอาโล่มา!”

ราวกับเจ้างูน้อยกำลังรอคอย มันคายเอาโล่สภาพยับเยินออกมา

มันคือโล่ที่ทำจากเปลือกหอยน่ารังเกียจที่เขาพบในกองขยะ แต่ตอนนี้ โล่นี้กลับเป็นสิ่งเดียวที่จะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้

อาร์คนำโล่ออกมาตั้งเอาไว้เหนือศีรษะใช้มันประหนึ่งร่ม จากนั้นจึงเหวี่ยงดาบในมือเข้าใส่ผนัง พื้นที่พลันขยับอย่างรุนแรง มันปิดทั้งทางเข้าและออก อเดเลียนกรีดร้องออกด้วยความสับสนขณะส่ายหนวดของมันไปมา ทว่าทางออกทั้งหมดถูกปิดกั้นเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว

ขณะเดียวกัน สายฝนกำลังร่วงโรยมาจากด้านบน

คว๊ากกก!

======

ความทนทานของโล่ลดลง 10 หน่วย!

=====

ท่านได้รับความเสียหายจากพิษกรด 50 หน่วย!

=====

เมื่อฝนโรยริน รูทะลุหลายแห่งจึงปรากฏขึ้นบนตัวโล่ กระทั่งว่ามันเป็นรูเล็กแม้นิดเดียวที่หยดเข้าใส่เขา พลังชีวิตของเขาก็ยังคงลดลง

มันเป็นดังคาด ของเหลวที่ร่วงหล่นลงมาเหล่านี้ราวกับสายฝนพวกมันคือน้ำย่อย!

สถานที่ที่อาร์คเข้ามานี้ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากกระเพาะของแกลลิค

เมื่ออาร์คเข้ามาในกระเพาะ และออกแรงจนกลไกร่างกายปิดทางเข้าออกจนหมด มันจึงเริ่มหลั่งน้ำย่อยออกมา

‘อยู่ในนี้ก็มีโอกาสที่มันไม่ตาย หรือตายร่วม หรือไม่ก็มันตาย!’

ร่างของอเดเลียนถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยสายฝนน้ำย่อย

ผ้าคลุมของมันที่โบกสะบัดเต็มไปด้วยรูโหว่หลายแห่ง หนวดของมันก็เริ่มโดนฤทธิ์เข้าให้แล้ว อเดเลียนกลับกลายเป็นคลั่ง เมื่อพลังชีวิตของมันลดลงไปถึง 50% มันกำลังเข้ามาใกล้อาร์ค ทว่า ด้วยแต่ละก้าวเดินของมัน นั่นหมายถึงพลังชีวิตของอเดเลียนที่หลั่งไหลออกไปราวสายน้ำไหล

แต่มันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่อาร์คจะนอนใจได้

“เวทมนตร์ฟื้นคืน! เวทมนตร์ฟื้นคืน! เวทมนตร์ฟื้นคืน!”

อาร์คซ่อมแซมโล่โดยไม่หยุดพักขณะดื่มโพชั่นฟื้นฟูไปด้วย กระนั้นพลังชีวิตของเขาก็ยังลดอยู่เรื่อยไป

‘นี่คือการประชันความอดทน!’

เวลาผ่านไป อเดเลียนที่เดินข้ามผ่านกระเพาะเข้ามาใกล้อาร์ค ตอนนี้พลังชีวิตของมันเหลือเพียงแค่ 10% เท่านั้นแล้ว

อเดเลียนกรีดร้องออกด้วยโทสะขณะกวัดแกว่งแขนที่ขาดรุ่งริ่งนั้น

อาร์คเตรียมใช้ไพ่ตาย

“อัญเชิญสมุนปีศาจ เดดริค!”

“แอ่ก! จะ-เจ้านาย?”

เดดริคส่งเสียงสับสนออกมาขณะที่โดนเรียกตัว

“จะ-เจ้านาย โปรดอภัย...”

“หุบปากแล้วทำอะไรก็ได้ที่จะขวางไอ้ตัวนั้นเอาไว้ ถ้าทำได้ดีฉันจะยกโทษให้!”

“หา? จริงหรือขอรับ?”

โดยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เดดริคตอบรับด้วยสีหน้าสุขสันต์ จากนั้นมันจึงเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวพุ่งออกไปพัวพันเข้าที่ใบหน้าของอเดเลียน

ทว่า เดดริคก็โดนบังคับเรียกตัวกลับหลังจากออกไปได้ไม่กี่วินาทีเพราะผลกัดกร่อนของน้ำย่อย

“อั่ก มันร้อนมาก... เจ้านาย... ท่าน... สัญญาแล้ว...”

ความกล้าหาญของมันจบลงที่ตรงนี้

การเสียสละของเดดริคได้ผล เมื่อเดดริคพุ่งเข้าไปพัวพันกับอเดเลียน แม้ว่าอาร์คจะสูญเสียพลังชีวิตไปบ้าง แต่เขาก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีโดยตรงได้

อาร์คพลิกโล่สวมใส่ไว้กับแผ่นหลังราวกับกระดองเต่าแล้วพลันกระโดดขึ้น

“คมดาบแห่งความมืด!”

ดาบเวทมนตร์ถูกปลดปล่อยออกเป็นคมดาบแห่งความมืด

ด้วยเสียงอันกึกก้อง เขาได้ลั่นการโจมตีคริติคอลเข้าใส่ ขณะเดียวกัน โอกาสทองก็เผยออกมาให้เห็น จากการที่โดนกรดกัดกร่อนเข้าไป อเดเลียนถึงกับคุกเข่าลงจนเผยซึ่งโอกาสการทำดับเบิลคริติคอล โดยไม่รีรอ อาร์คร่ายคมดาบแห่งความมืดออกโดยทันที

=====

ด้วยผลของดับเบิลคริติคอล ความเสียหายคริติคอลของท่านเพิ่มเป็นสองเท่า

=====

เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น

=====

ขณะที่อเดเลียนลำคอเปิดกว้าง แสงสว่างสีดำพลันระเบิดออก ในเมื่อเขาโค่นล้มบอสมอนสเตอร์เลเวล 100 ได้ โดยทันทีเลเวลของอาร์คจึงเพิ่มขึ้นไปถึง 64

กระแสแสงแห่งความมืดสาดซัดออกมาพักหนึ่ง จากนั้น ร่างของอเดเลียนจึงเริ่มสั่นอย่างไม่หยุด ท้ายที่สุด มันเริ่มหดตัวจนเหลือขนาดใกล้เคียงเท่าอาร์ค มันเป็นแสงสีเทาที่พร่ามัวกำลังรวมตัวกันเป็นร่างของหญิงสาวชาวเงือก เป็นนางเงือกที่กำลังยื่นแขนอันสั่นเทิ้มออกมาขณะกล่าวกระซิบด้วยเสียงโรยรา

…คริสติน...

ไม่นาน ฝนกรดจึงค่อยหยุดลง

* * *

อาร์คจ้องมองนางเงือกด้วยใบหน้ามึนงง เขาเพิ่งจัดการบอสมอนสเตอร์ไปได้ แต่แทนที่ควรจะมีไอเทมดร็อปกลับไม่มี บางสิ่งกลับปรากฏขึ้นมาแทน

ไม่ว่าจะอะไร อาร์คที่อยู่ห่างออกไปกำลังจ้องมองร่างของหญิงสาวชาวเงือก

“คริสติน คริสติน เป็นท่านใช่ไหม?”

มือของเงือกสาวผู้นั้นได้ยื่นคลำออกมาราวกับเธอดวงตามืดบอด

“เหตุใด? เพราะเหตุใดกันถึงไม่เอ่ยนามของข้า? เหตุใดท่านถึงไม่กุมมือของข้าเอาไว้? ท่านหลงลืมข้า? หรือว่าเพราะ? เป็นข้ารอคอยท่าน ข้ารอคอยท่านเสมอมาจนกระทั่งข้าหลั่งน้ำตาจนดวงตาไม่อาจมองเห็นได้อีก คริสติน... ได้โปรด...”

เงือกสาวผู้นั้นได้โค้งศีรษะลงขณะที่สะอื้นไห้

“ท่านคงโกรธข้าใช่หรือไม่? ท่านโกรธที่ข้าหลอกลวงท่านใช่ไหม? ข้าขออภัย ข้าขออภัยจริง ๆ ข้า... รู้ว่าท่านจะกลับมา ข้ารู้ว่าท่านจะกลับมาหากข้าทำเรื่องนั้นลงไป เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นท่านไม่ให้อภัยข้าใช่ไหม?”

อย่างกะทันหัน คันฉ่องที่หน้าอกของเขาพลันสั่นเทิ้มขึ้น เมื่อเขานำมันออกมา แสงสว่างได้สาดส่องแสงสีแดงฉานไปทั่วทั้งกระเพาะอาหารและเริ่มฉายเรื่องราวขึ้น

นั่นคือชายผู้ที่เขาเคยเห็นจากภายในเสา อีกทั้งยังมีนางเงือกผู้นั้น

ชายหนุ่มทุกข์ทรมานเพราะโลกใบนี้กำลังถูกความมืดเข้าปกคลุม

พลังแห่งความมืดที่กำลังปกคลุมโลกทั้งใบยังสาดซัดไปไม่ถึงโนเดเลส ทั่วทั้งแดนดินต่างเต็มไปด้วยไฟสงคราม ทว่า โนเดเลสกลับสงบสุขดังที่มันเคยเป็น

เป็นเพราะเรื่องนี้เขาจึงยิ่งทุกข์ใจมากขึ้น เขาอับอายที่ตนต้องมองโลกล่มสลายไปต่อหน้า และเขารู้ว่าสักวันหนึ่ง โนเดเลสอันงดงามนี้ก็จะโดนความมืดเข้าปกคลุมเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุด ชายหนุ่มได้ยืนหยัดขึ้น

เขาตัดสินใจอุทิศชีวิตของตนเพื่อเข้าหยุดยั้งความชั่วร้ายทั้งปวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ ชายหนุ่มได้กล่าวอธิบายความรู้สึกของตนต่อคนที่เขารักยิ่ง

คนรักผู้นั้นเข้าใจตัวเขา นั่นคือทั้งหมดเท่าที่เธอสามารถกระทำ เป็นเพราะมันคือคำพูดของคนที่เธอรัก

แต่เธอไม่ยอมรับ

คนรักผู้นั้นได้หลับนอนร่วมยามค่ำคืนสุดท้าย และคว้าเอาสมบัติของชายคนนั้นไปเก็บงำเอาไว้ เธอเชื่อว่าหากซ่อนมัน ชายหนุ่มย่อมต้องยอมแพ้และกลับมาหาเธออีกครั้งหนึ่ง

ทว่าชายหนุ่มหาได้กลับมา กระทั่งกาลเวลาสิบปีผ่านพ้นไปจนความมืดถูกกวาดล้างจนหายไปสิ้น ชายหนุ่มก็ยังคงไม่กลับมา

หญิงสาวท้ายที่สุดแล้วจึงเสียใจต่อการกระทำนี้

ความทุกข์ตรมแห่งการรอคอยคนรักที่ไม่มีโอกาสได้กลับมาหาเธอ ทำให้ผมของเธอเริ่มร่วงหล่น ผิวหนังเริ่มปริแตกไม่ต่างอะไรไปกับต้นไม้ที่ชราภาพ

หยาดหยดน้ำตาอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นกระทั่งพรากเอาการมองเห็นของเธอไป ท้ายที่สุดชีวิตของเธอแทบสิ้นสุด เมื่อเธอรู้ว่าใกล้ถึงจุดจบของตน เธอได้ฝากร่างของเธอเอาไว้กับแกลลิคที่เป็นสหายร่วมดวงวิญญาณ

ดังนั้นแล้วกระทั่งว่าเธอสิ้นชีพไป สมบัติของชายหนุ่มคนนั้นก็จะได้รับการปกปักษ์

นี่คือสิ่งเดียวที่เธอสามารถกระทำให้เป็นการชดเชยได้

หลังการคุมขังตัวเอง เธอได้ใช้เวลาอันยาวนานสำนึกเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคิดหาทางชดใช้สิ่งที่กระทำไป

อาร์ครู้สึกได้ถึงความรู้สึกอันแรงกล้าของเธอ

คันฉ่องในมือกระทั่งมีความรู้สึกของเธอปกคลุมเอาไว้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเพียงอย่างเดียว

เหตุใดเขาจึงจะไม่เข้าใจความปรารถนา ความอ้างว้าง และความเจ็บปวดที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักกันเล่า? จะอย่างไรแล้วอาร์คก็เคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้มาแล้ว

ห้าปีก่อนตอนที่พ่อของเขาจากไป เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดจนยากบรรยายออกนี้เช่นเดียวกัน

นี่กระทั่งเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเป็นเพราะความผิดพลาดของเธอเอง...

มันคือบาดแผลที่ฝังลึกถึงดวงวิญญาณยากชำระล้าง

“ข้าขออภัย ข้าขออภัย...”

อาร์คลดโล่ลงต่ำขณะเดินเข้าไปหาเธอ

เขาควรทำอะไร? เขาจะทำอะไรเพื่อเธอได้บ้าง?

ภายในใจของเขากำลังเปี่ยมล้นไปด้วยความเห็นใจ เธอคือหญิงสาวคนหนึ่งที่กลับกลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายขณะที่รอคอยคนที่เธอรัก เมื่อวิญญาณชั่วร้ายโดนชำระล้างไป มันจึงเหลือเพียงแค่ความรักอันน่าเวทนาที่ร้องขอการอภัย

เป็นเพราะรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ อาร์คจึงร้องไห้ออกขณะกุมมือของเธอเอาไว้

“อเดเลียน... ท่านไม่ได้ทำสิ่งใดผิด เพราะนี่คือความรัก สิ่งเดียวที่จะทำให้มันงดงามได้ย่อมเป็นเพราะการกระทำเพื่อตัวเอง มันเป็นความรัก และความรักนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับที่ข้าแบ่งปันให้กับท่าน ไม่มีผู้ใดคิดกล่าวโทษท่านเพราะความปรารถนาดีต่อข้า ข้าจะไม่ให้อภัยท่าน เพราะข้านั้นไม่เคยเกลียดท่านเลย...”

“คริสติน...” ดวงตาของอเดเลียนกำลังสั่นไหว

และจากนั้น

อย่างกะทันหัน ร่างสีเทาของเธอได้ถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว เธอกำลังเปลี่ยนสภาพร่างกายสู่ความเยาว์วัยทีละน้อย

มันคือรูปลักษณ์ของเงือกสาวผู้งดงามที่เขาเคยเห็นทั้งจากคันฉ่องในมือและเสา

เธอจ้องมองอาร์คด้วยรอยยิ้มชวนเคลิบเคลิ้ม จากนั้นเธอจึงเริ่มเข้ามาใกล้ราวสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพร้อมบรรจงจูบด้วยความอ่อนโยน

‘นี่อเดเลียนรู้หรือเปล่าว่าเราไม่ใช่คนรักของเธอ?’

ขณะที่เขารับจูบนี้เอาไว้ก็พลันเกิดความคิดนี้ขึ้นมา

แต่แล้วเธอก็เผยออกซึ่งรอยยิ้มที่คลุมเครือขณะที่ร่างของเธอกำลังจางหาย

=====

เยียวยาปาฏิหาริย์ประสบความสำเร็จ

ด้วยความโศกเศร้าที่มาจากใจจริงของท่าน ท่านได้ช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ร่วงหล่นเอาไว้ ผู้คนที่เจ็บป่วยทางกายหาได้ใช่คนไข้เพียงหนึ่งเดียว ผู้ป่วยนั้นต้องการใครสักคนที่ยื่นมือมาเพื่อช่วยรักษาอาการป่วยทางใจ อาการป่วยทางใจนับว่าเป็นอาการป่วยที่น่ากลัวยิ่งจนกระทั่งอาจฝังรากลึกถึงดวงวิญญาณ

อาการป่วยทางร่างกายสามารถรักษาได้ด้วยยา ทว่า อาการป่วยทางใจสามารถรักษาได้เพียงแค่บุคคลที่เข้าใจ

บางครั้ง เพียงเอ่ยแค่หนึ่งคำอันอ่อนโยนก็สามารถแสดงอำนาจแห่งปาฏิหาริย์ที่เวทมนตร์ไม่อาจกระทำ ด้วยคำพูดอันจริงใจและอ่อนโยนของท่าน หัวใจของอเดเลียนได้พบหนทางสู่ความสงบ และเธอจะได้ไปอยู่กับบุคคลอันเป็นที่รัก

*การเยียวยาปาฏิหาริย์ประสบความสำเร็จ ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น 1

*ค่าเสน่หาเพิ่มขึ้น 10

*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50

*แนวโน้มความดีเพิ่มขึ้น 50

=====

เมื่อท่านใช้เยียวยาปาฏิหาริย์สำเร็จ ฉายาของท่านจะได้รับการยกระดับขึ้นเป็น ‘ผู้เยียวยาดวงวิญญาณ’

ชื่อเสียงในฐานะผู้เยียวยาของท่านได้เพิ่มมากขึ้น และท่านจะได้รับคำยกย่องจากผู้ป่วยทั้งหลาย

*โบนัสที่เกี่ยวข้องกับฉายา ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น 1

*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50

=====

ชิ้นส่วนศิลาและสร้อยคอได้ร่วงหล่นลงมายังจุดที่อเดเลียนหายตัวไป

=====

ชิ้นส่วนศิลาลึกลับที่มีพลังอำนาจโบราณ

มันคือชิ้นส่วนศิลาที่ปรากฏพลังงานความมืดออกมาจากพื้นผิว

ท่านสามารถตรวจสอบได้เมื่อ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ มีระดับถึง 50 จนกว่าจะตรวจสอบได้ ผู้ถือครองจะโดนข้อจำกัดทุกค่าสถานะ -50%

=====

สร้อยคอของอเดเลียน (หายาก)

ประเภท : สร้อยคอ

ข้อจำกัด : เลเวล 70

สร้อยคอที่เคยเป็นของอเดเลียน มันเป็นสร้อยคอไข่มุกที่เรียบง่าย แต่แล้ว มันได้ตอบรับคำภาวนาของอเดเลียนถึงคนรักของเธอทุกวี่วันให้ปลอดภัยจนกลับกลายเป็นมีพลังเวทมนตร์ขึ้นมา

ผลลัพธ์ : พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 30, เสน่หาเพิ่มขึ้น 5

ผลลัพธ์พิเศษ : วันละ 1 ครั้ง ท่านสามารถใช้พรแห่งท้องสมุทรเพื่อเพิ่มพลังป้องกัน 40% ได้

=====

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด