TWO Chapter 215 การยอมรับ
TWO Chapter 215 การยอมรับ
หลังจากที่เอ้อหลายทำให้สัตว์ประหลาดเหนียนเชื่องได้แล้ว พวกเขาก็ออกจากภูเขาด้านหลัง และไปที่กรมกิจการทหาร ในสัปดาห์หน้า การก่อสร้างค่ายทิศตะวันออกและการจัดตั้งกรมทหารที่ 3 จะต้องเสร็จสิ้น โอหยางโชวได้ให้กำหนดการต่างๆแก่เอ้อหลายและเก่อหงเหลียง
ในช่วงบ่าย โอหยางโชวเรียกเจ้ากรมกิจการภายใน เทียนเหวินจิง เข้ามาในสำนักงานของเขา เพื่อหารือเกี่ยวกับนักรบคนเถื่อนภูเขา
โอหยางโชวเชิญให้เขานั่ง แล้วกล่าวว่า “กองทัพกำลังขยายตัว ดังนั้น เราจึงต้องการนักรบคนเถื่อนภูเขาชั้นสูงจำนวนมาก ไปใช้ในการจัดตั้งกองพันทหารราบเกราะหนัก อย่างไรก็ตาม ชนเผ่าคนเถื่อนภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง ได้ถูกนำมาใช้ทั้งหมดแล้ว จากที่ข้าเห็น เราจำเป็นต้องเดินทางลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อให้พวกเขาไว้วางใจพวกเรา คนเถื่อนภูเขานับเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และเราต้องรักษานโยบายของเราเกี่ยวกับพวกเขาไว้เป็นอย่างดี”
เทียนเหวินจิงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ข้าเข้าใจความหมายของนายท่าน พรุ่งนี้ข้าจะรีบไปที่เผ่าซวนเหนียว แล้วขอให้พวกเขาทำหน้าที่เป็นคนกลาง เพื่อช่วยพาพวกเราไปเยี่ยมเผ่าอื่นๆ และมอบของขวัญให้พวกเขาเพื่อแสดงความจริงใจของเรา”
เทียนเหวินจิงเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการ และโอหยางโชวก็รู้สึกถึงมันได้ “ข้าทำให้ท่านต้องลำบากแล้ว”
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็พูดคุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อย จนถึงเวลา 17.00 น. เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาให้ความสำคัญกับชนเผ่าคนเถื่อนภูเขามากเพียงใด
…………………………………………………………………………….
ไกอ ปีที่ 1 เดือนที่ 8 วันที่ 21
โอหยางโชวได้เชิญซ่งเจี๋ยและซ่งเหวินมาที่เมืองซานไห่
สงครามมู่เย่ทำให้ซ่งเหวินรู้สึกได้ถึงพลังและอิทธิพลของโอหยางโชว เมื่อเขากลับไปยังดินแดน เขาก็คิดถึงเรื่องนี้ และตัดสินใจตามน้องสาวของเขามาที่นี่ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกัน
โอหยางโชวไม่ได้จัดพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่ เขาเพียงนำพวกเขาไปที่คฤหาสน์ของลอร์ดเท่านั้น
ทางด้านหลัง แม้ว่าซ่งเจี๋ยจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเมืองซานไห่ เธอก็ไม่ได้ถามออกไป ในระหว่างการมาเยือนครั้งนี้ เธอได้ตัดสินใจที่จะย้ายมาที่นี่ได้
ห้องโถงประชุมจัดตามระดับอำนาจ ดังนั้น มันจึงไม่เหมาะสมนักที่จะใช้ต้อนรับแขก เขาจึงพาทั้ง 2 คน เข้าไปในห้องรับแขก และสั่งให้คนรับใช้นำเครื่องดื่มมาให้พวกเขา
“พี่ชายซ่งควรจะอยู่ที่นี่ซัก 2-3 วัน และให้โอกาสข้าพาท่านไปทัวร์รอบๆนะ” โอหยางโชวกล่าวขณะหัวเราะ
ซ่งเหวินหัวเราะ “เมื่อท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร” เขาดื่มชาไปอึกหนึ่ง แล้วดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้น ขณะที่เขาร้องออกมาว่า “ชาดี!”
“ข้าไม่คิดเลยว่าพี่ชายซ่งจะรู้เรื่องชา ไม่เหมือนกับข้าที่แทบจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเลย”
ซ่งเหวินโบกมือให้เขา “ข้าเองก็ไม่รู้เกี่ยวกับชามากนักหรอก เป็นท่านปู่ที่ชอบดื่มชาและมักจะลากข้าไปด้วย ข้าจึงได้เรียนรู้มาเล็กน้อย”
โอหยางโชวพยักหน้า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ก่อนที่พี่ชายซ่งจะกลับไป ท่านสนใจจะนำใบชาเหล่านี้กลับไปด้วยหรือไม่? ถือซะว่ามันเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากข้า ชานี้เรียกว่าชาขาว และมันเป็นชาที่มีชือเสียงในกวางสี เราได้ค้นพบสวนชาป่าใกล้ๆ จึงได้นำมันมาทำเป็นชา”
“ขอบคุณมาก สำหรับท่านปู่แล้ว ท่านถือว่าชาเป็นชีวิตของท่าน มันยากที่จะหาชาดีๆได้ที่นี่ เขาจู้จี้มาก และสิ่งนี้ก็คงจะทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก” ซ่งเหวินยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ซ่งเหวินเป็นทายาทของตระกูล ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่ทักษะทางธุรกิจและทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ของเขาจะยอดเยี่ยม ในระหว่างสงครามมู่เย่ เขาได้พัฒนามิตรภาพกับกิงเฉิงซีและซุ่นหลงเตียนเซว่ วัตถุประสงค์ของเขาก็คือ การลดระยะห่างและอุปสรรคที่ขวางกันพวกเขาและเมืองเทียนซวง เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าร่วมกับพันธมิตรซานไห่ได้
ซึ่งเขาก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากจบสงคราม โอหยางโชวก็ลองคุยกับสมาชิกผ่านช่องพันธมิตรเกี่ยวกับเมืองเทียนซวง และเขาก็ไม่ได้พบอุปสรรคใดๆใยการพูดคุยนั้น
นอกเหนือจากที่พวกเขาได้ยอมรับหวู่ฟู่ก่อนหน้านี้แล้ว โอหยางโชวจึงแนะนำให้เชิญเมืองเทียนซวงมาเข้าร่วมพันธมิตรในเวลาเดียวกัน และมันก็เป็นไปตามที่คาดไว้ พวกเขาทั้ง 2 ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี
และนั่นก็คือเหตุผลในการมาเยือนในครั้งนี้ของซ่งเหวิน
หลังจากที่ได้ยอมรับเมืองหินและเมืองเทียนซวงแล้ว พันธมิตรซานไห่ก็มีสมาชิก 8 คน ซึ่งเท่ากับพันธมิตรหยานหวง
การกระทำของพันธมิตรหยานหวงเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้โอหยางโชวยอมรับดินแดนทั้ง 2 นี้
ผลของการสืบสวนทำให้เขาคลายกังวล รวมกับสิ่งที่เขาจำได้ว่า ในชีวิตที่แล้วของเขา หวู่ฟู่ไม่ได้เข้าร่วมกับฝ่ายใด มันจึงทำให้เขาจึงแทบไม่ต้องกังวลเลย
การมาเยือนของซ่งเหวิน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เป็นการย้ำเตือนเกี่ยวกับสงครามมู่เย่ เขาเข้าใจว่าโอหยางโชวชอบสร้างสาขาของธนาคาร 4 สมุทร ในดินแดนของพันธมิตร
ก่อนที่เขาจะมา เขาได้เข้าไปพูดคุยเรื่องนี้กับพ่อและปู่ของเขา พวกเขาตกลงกันว่า หากเมืองเทียนซวงต้องการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา พวกเขาต้องพึ่งพาคนอื่น
สิ่งที่พวกเขากังวลก็คือ เมืองซานไห่จะมีเงินทุนเพียงพอ ที่จะสนับสนุนสาขาจำนวนมากในเวลาเดียวกันหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เกิดสถานการณ์ของเมืองหงส์สาบสูญ ซึ่งมันบังคับให้โอหยางโชวต้องจ่ายเงินออกไปถึง 20,000 เหรียญทอง ดังนั้น ซ่งเหวินจึงต้องมาตรวจสอบบางสิ่งบางอย่างก่อน
ในความเป็นจริง มันเป็นเช่นเดียวกับที่เขากลัว การเงินของเมืองซานไห่ตึกตัวมาก และแม้แต่เงินที่จะใช้ในการเปลี่ยนขั้นทหาร พวกเขาก็ยังต้องหาจากการโจมตีค่ายโจรเท่านั้น
แต่ทั้งหมดนี้ก็แค่ชั่วคราว ตราบเท่าที่โอหยางโชวขายธัญพืชที่เขาสะสมไว้ เขาก็จะได้รับเงินสดเป็นจำนวนมาก และมันจะสนับสนุนการขยายตัวของธนาคาร 4 สมุทรได้เป็นอย่างดี
เพื่อให้ซ่งเหวินคลายกังวลและผ่อนคลาย โอหยางโชวจึงได้เปิดเผยเรื่องเหมืองแร่หลางซานให้เขารู้ หลังจากที่ได้ยินว่าเมืองซานไห่มีเหมืองทางดังกล่าว ซ่งเหวินก็โลกใจ
เมื่อเห็นทั้ง 2 คน กำลังพูดคุยเรื่องเป็นทางการ ซ่งเจี๋ยก็รู้สึกเบื่อหน่าย
แน่นอนว่าโอหยางโชวดูออกว่าเธอเบื่อหน่าย เขาส่ายหัวและเรียกคนรับใช้
“นายท่าน!”
“ไปเชิญท่านหญิงสามมาที่นี่ บอกนางว่าเรามีแขกสำคัญ”
“ค่ะ!”
ผ่านไปซักระยะหนึ่ง ปิงเอ๋อก็เดินตามคนรับใช้เข้ามา “พี่ชาย ใครมาหรือ?”
โอหยางโชวโบกมือให้ปิงเอ๋อ “เด็กน้อย พาพี่สาวซ่งเจี๋ยไปเดินเล่นรอบๆเมืองได้หรือไม่?”
ปิงเอ๋อได้อยู่ที่นี่มาเกือบ 3 เดือนแล้ว และมันก็กลายเป็นถิ่นของเธอไปแล้ว การให้เธอเป็นผู้แนะนำซ่งเจี๋ย มันเป็นอะไรที่เหมาะสมมาก ซ่งเจี๋ยรู้ว่าโอหยางโชวมีน้องสาว และเขาก็ดูแลเธอราวกับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เพียงแต่เธอยังไม่มีโอกาสได้เห็นน้องสาวของเขามาก่อน
เมื่อได้เห็นปิงเอ๋อในวันนี้ เธอทั้งน่ารักและประพฤติดี ทำให้ซ่งเจี๋ยหลงรักเธอในทันที เมื่อเห็นการแสดงออกของเธอ โอหยางโชวช่วยไม่ได้ที่จะส่ายหัว ไม่ว่าจะเป็นซ่งเจี๋ย, เสี่ยวเยว่ หรือน้าของเขา พวกเธอทั้งหมดไม่สามารถจะต้านทานเสน่ห์ของเด็กน้อยคนนี้ได้เลย
ปิงเอ๋อตกลง และกล่าวด้วยเสียงหวานว่า “พี่สาวคนสวย ให้ปิงเอ๋อพาท่านไปเดินเล่นนะ ดินแดนของเรามีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย และปิงเอ๋อก็รู้จักทุกที่เลย”
คำกล่าวของเธอทำให้ซ่งเจี๋ยหน้ามืด เธอไม่สนใจซ่งเหวินและโอหยางโชวอีกต่อไป พร้อมเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิงเอ๋อ
โอหยางโชวมองไปที่ซ่งเหวิน จากนั้น ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
ถึงแม้ว่าเขาจะติดต่อกับซ่งเหวินมาหลายครั้งแล้ว แต่โอหยางโชวก็ยังคงรู้สึกว่า ซ่งเหวินมีกลิ่นอายของความเป็นเจ้า โอหยางโชวไม่ได้พยายามที่จะปิดบังอะไรเขา เขาได้เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในระหว่างการสร้างดินแดนให้ซ่งเหวินฟังเกือบทั้งหมด
ทั้งในเรื่องการจัดการที่อยู่อาศัย, การก่อสร้างอุตสาหกรรม, โครงสร้างรัฐบาลและนโยบายการเงิน ซ่งเหวินไม่ได้ต้องการคำแนะนำใดๆ กลุ่มการเงินของตระกูลซ่งมีคนคอยช่วยเขาอยู่แล้ว สิ่งที่เขาต้องการก็คือ การใช้ประโยชน์จากเมืองหลัก ในการช่วยเหลือเมืองสาขาของดินแดน และวิธีการจัดการการเพิ่มดัชนีวัฒนธรรม ฯลฯ
แน่นอนว่าถ้าโอหยางโชวบอกเขาเกี่ยวกับช่องทางในการทำเงินก็จะดีที่สุด
น่าเสียดายที่นาเกลือเขตเหนือเป็นความลับสูงสุดของเมืองซานไห่ โอหยางโชวจึงไม่สามารถเปิดเผยต่อเขาได้ นอกจากนี้ เมืองเทียนซวงก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับทะเล มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกเรื่องนี้กับเขา
โอหยางโชวไม่ลืมที่จะเตือนเขาให้ใส่ใจกับราคาธัญพืช ในฐานะตระกูลนักธุรกิจ พวกเขามีความอ่อนไหวกับราคาตลาดมากอยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเกมส์ และไม่สามารถคาดเดาการเปลี่ยนแปลงของราคาธัญพืชได้จากการวิเคราะห์ทั้งภูมิภาคจีน
หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของโอหยางโชว การแสดงออกของซ่งเหวินก็กลายเป็นเคร่งเครียด ในความเป็นจริง ได้มีบางคนรายงานเรื่องนี้กับซ่งเหวินมาบ้างแล้วว่า เมื่อเร็วๆนี้ ราคาของธัญพืชเพื่มสูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นว่ามันเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่ได้ฟังคำกล่าวของโอหยางโชว เขาก็เริ่มคิดเกี่ยวกับมันอย่างจริงจัง
หลังจากที่ซ่งเหวินได้ซื้อหมู่บ้านเทียนซวงมา เวลาก็ได้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว เมื่อครั้งที่เขาเพิ่งจะได้รับมัน เขาไม่ได้รู้อะไรและยุ่งอยู่กับการทำความคุ้นเคยกับมัน ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการเตรียมพื้นที่เพราะปลูกสำหรับทำการเกษตรมากนัก ถ้าพวกเขารอจนถึงเทศการฉิงหมิง แล้วค่อยเริ่มฤดูเพาะปลูกแรก มันก็คงจะสายเกินไปแล้ว
ในตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงซื้อธัญพืชจำนวนมากจากในตลาด เพราะผลผลิตของพวกเขาเองมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากจำนวนประชากรของดินแดนในตอนนั้นอยู่ในระดับต่ำ มันจึงไม่ได้มีปัญหามากนัก แต่เมื่อดินแดนของพวกเขาอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็ก และยังสร้างเมืองสาขาของดินแดนเพิ่มขึ้นอีก ประชาการของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันจึงทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกกดดันเล็กน้อย
ในวันนี้ เมื่อได้ดินโอหยางโชวกล่าวว่า ราคาของธัญพืชจะเพิ่มสูงขึ้น ซ่วเหวินก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ทางการเงินของเมืองเทียนซงในตอนนี้ คงไม่พอที่จะรักษาสถานการณ์ไว้ได้
โชคดีที่เมืองเทียนซวงเห็นด้วยกับโอหยางโชว ในการเปิดสาขาของธนาคาร 4 สมุทร และทั้งสองได้ตกลงที่จะให้มันเปิดดำเนินการเมื่อสิ้นสุดเดือนที่ 8 ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 4,000 เหรียญทอง
ทั้ง 2 คน ไม่ได้พูดคุยกันเพียงเรื่องดินแดนและเรื่องในชีวิตจริงเท่านั้น ในระหว่างที่พูดคุยกันอย่างสบายๆ พวกเขายังได้พูดถึงเรื่องที่น่าสนใจและน่าอายของซ่งเจี๋ย มันทำให้พวกเขาหัวเราะออกมาเสียงดัง
แฟนเพจ : TWOแปลไทย