เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (3)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (3)
หลังได้ลิ้มรสความขมขื่นไปครั้งหนึ่ง อาร์คยิ่งมายิ่งระมัดระวัง
ไม่เหมือนดั่งครั้งแรก เขาไม่กล้าที่จะเดินมั่วในดันเจี้ยน เขาเริ่มสำรวจอย่างระมัดระวังไปทีละก้าว เป็นเพราะเจ้าค้างคาวไม่อยู่แล้ว เขาจึงไม่มีหน่วยสอดแนมคอยช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวัง เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอะไรที่น่าสงสัยและอยู่ห่างออกไป อย่างรวดเร็วเขาจะใช้ ‘ลอบเร้น’ เพื่อหลบซ่อนตัว เขาสามารถเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่หนอนได้โดยไม่ยากลำบากแม้ไม่มีสมุนปีศาจคอยช่วย ถ้าหากมันไม่มีหนอนยักษ์อะไรอีก ที่แห่งนี้ก็คงเป็นสุดยอดพื้นที่การล่าให้ค่าประสบการณ์สูงเลยทีเดียว ขณะที่เขาสำรวจดันเจี้ยนเช่นนี้ต่อไป อาร์คจึงตระหนักถึงอีกหลายสิ่งขึ้นมาได้
ในดันเจี้ยน คลื่นยักษ์ที่มีความรุนแรงนั้นจะโผล่ขึ้นทุกสองชั่วโมง อาร์คได้คำนวณเวลา และเมื่อใดที่ถึงเวลาเกิดคลื่นยักษ์ เขาจะสวมใส่ตรวนมนุษย์ฉลาม ด้วยการสวมใส่ตรวนมนุษย์ฉลามจะทำให้เขาไม่โดนกระแสน้ำพัดพา อาร์คจะไม่โดนคลื่นยักษ์นำไป ทว่า ข้อจำกัดมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย ในทันทีที่พวกมันพัดผ่านไปเขาถึงกับต้องถอดพวกมันออกโดยทันที
มันออกจะน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่คลื่นยักษ์พวกนั้นก็ไม่แย่เสียทีเดียว เมื่อคลื่นยักษ์พัดผ่านไป กองขยะจะเกิดขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถค้นหาสิ่งของที่มีประโยชน์จากกองขยะได้ ในหลายความหมาย นี่ก็เป็นดันเจี้ยนที่ดีเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
อาร์คเริ่มสำรวจดันเจี้ยนแห่งนี้จนแทบลืมหลับนอน ยี่สิบสี่ชั่วโมงผ่านพ้นไป
“พวกนายทำได้ดีมาก เอ้ากินนี่ซะสิ” อาร์คกล่าวชมเจ้าค้างคาวและกะโหลกที่ทำได้ดีมากขณะยื่นอาหารที่ทำให้พวกมัน
เมื่อพลังชีวิตของสมุนปีศาจฟื้นคืน เขาจึงถามเจ้าค้างคาวออกไป “เจ้าค้างคาว อยากแก้มือกับดันพิลอีกครั้งไหม?”
“ว่าอะไร? จริงหรือเจ้านาย?” เจ้าค้างคาวถามด้วยความตื่นเต้น
เจ้าค้างคาวไม่ได้แก้มือกับดันพิลหลังแพ้พ่ายไปสองครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะยุ่งอยู่กับภารกิจ แต่เหตุผลแท้จริงที่อาร์คคิดคือเจ้าค้างคาวยังขาดทักษะไปบ้าง มันจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากเจ้าค้างคาวแพ้ดันพิลและโดนเรียกกลับไป
แต่ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียวมาพักหนึ่ง
โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดทางน้ำ เจ้าค้างคาวนั้นแข็งแกร่งขึ้น ด้วยสภาพของเจ้าค้างคาวในตอนนี้อาจชนะได้ ไม่ ขวัญกำลังใจของมันย่อมเพิ่มมากขึ้นเพราะการเติบโตแบบเห็นได้ชัด นี่นับเป็นโอกาสทอง
‘ถ้าหากเจ้าค้างคาวแพ้ ตราบเท่าที่เรายังหลบเลี่ยงหนอนยักษ์ได้ เจ้ากะโหลกกับเราก็นับว่าเพียงพอ’
“อย่าลืมการฝึกซ้อมที่พวกเราทำมา ใจเย็นลงและหนักแน่นไว้ แกรู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม? แกไม่ได้แพ้เพราะความสามารถไม่ถึง แต่แกเพราะไม่อาจแสดงความสามารถออกมาได้ดี และฉันจะไม่มอบโอกาสให้แกอีกแล้วนะ”
“เข้าใจแล้วขอรับเจ้านาย ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
อาร์ครับคำสัญญานั่นและอัญเชิญดันพิลออกมา
ดันพิล ก็เหมือนเคย มันพูดออกด้วยน้ำเสียงที่อหังการ
“อะไรอีกล่ะ? ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือไง?”
“ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนแน่”
“เหอะ จะยังไงค้างคาวก็คือค้างคาว ยิ่งไปกว่านั้น ค้างคาวที่เป็นข้าทาสของแวมไพร์ไม่อาจเอาชนะข้าผู้ซึ่งเป็นชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพได้”
เจ้าค้างคาวหาได้โมโหโกรธาเพราะคำพูดยั่วยุของดันพิล มันเพียงแค่จ้องมองด้วยสายตาคมกริบ
อาร์คพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจและกล่าวขึ้น “ดี เจ้าค้างคาว เริ่มได้”
“ระวังเงาหัวแกไว้!” เจ้าค้างคาวร่ำร้องออกและบินเข้าใส่
ดันพิลโบกสะบัดกรงเล็บของตนเราเป็นการเย้ยหยัน ทว่าสถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อน เจ้าค้างคาวพุ่งเข้าใส่บริเวณแขนของดันพิลราวกับเป็นงูที่ปีนป่ายต้นไม้และเริ่มที่จะโจมตีเข้าใส่ลำคอ
“อั่ก! ปะ-เป็นแบบนี้ได้ยังไง!” ดันพิลเผยความสับสนโพล่งออกมาจากปาก
มันเคยเจอเพียงแต่การเคลื่อนไหวใต้น้ำที่เชื่องช้า ดังนั้นแล้วมันจึงไม่อาจเป็นคู่มือให้เจ้าค้างคาวที่การเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้นหลายเท่าได้
เมื่อเห็นศัตรูเผยความสับสนออกมา จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเจ้าค้างคาวจึงพุ่งสูงขึ้น ขณะที่บินโฉบไปมาทั้งบนและล่าง มันเข้าปะทะเข้ากับคางของดันพิล
นี่เป็นเทคนิคต่อเนื่องที่ได้เรียนรู้มาจากอาร์ค!
เจ้าค้างคาวเผยท่าทีที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ นับได้ว่าเป็นเรื่องดีที่อาร์คไม่จำเป็นต้องสอนสั่งมันออก
การโจมตีทุกครั้งจะเชื่อมต่อกัน ดันพิลเริ่มซวนเซ
“แก! นี่คือผลตอบแทนกับสิ่งที่แกกระทำกับข้ามาตลอด!”
“อะ-ไอ้ค้างคาวนี่!”
เมื่อพลังชีวิตลดลงไป 40% ร่างของดันพิลเริ่มปกคลุมไปด้วยควัน ค้างคาวตัวใหญ่พลันปรากฏตัวขึ้นจากกลุ่มควันและพุ่งเข้าใส่เจ้าค้างคาว
‘เปลี่ยนร่าง!’
ดันพิลตัดสินจากสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะความรวดเร็วของเจ้าค้างคาวด้วยร่างมนุษย์ มันจึงเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นค้างคาว ดูเหมือนว่าแม้มันจะยังเป็นแวมไพร์เยาว์วัย แต่มันก็ยังสามารถเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวได้เพราะศักดิ์ฐานะแวมไพร์ของมัน
เมื่อดันพิลเปลี่ยนร่าง การต่อสู้กลางอากาศจึงเริ่มปะทุขึ้น
ขณะที่ค้างคาวสองตัวพัวพันกันยุ่งเหยิง พวกมันโจมตีเข้าใส่กันไปมา การต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็ว อาร์คไม่อาจพูดได้ว่าฝ่ายไหนคือดันพิลหากไม่ใช้เนตรแห่งแมวเข้าช่วย
ขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป ดูเหมือนว่าเจ้าค้างคาวจะเป็นฝ่ายโดนผลักดันกลับทีละนิด ความสามารถของพวกมันนับว่าใกล้เคียงกัน แต่ดันพิลได้เปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวแล้ว นอกจากนี้ เจ้าค้างคาวยังไม่มีประสบการณ์ต่อสู้ทางอากาศกับมอนสเตอร์ตัวอื่นด้วย
“เจ้าค้างคาว อย่าเพิ่งสับสนไป คิดถึงการต่อสู้ใต้น้ำเข้าไว้ แกหลบเลี่ยงหนวดของแมงกะพรุนได้ ไม่มีเหตุผลเลยที่หลบการโจมตีของดันพิลไม่ได้”
การแนะนำของอาร์คประสบผล
เจ้าค้างคาวที่ไม่เคยต่อสู้ทางอากาศกับมอนสเตอร์อื่นมาก่อน แต่มันเคยต่อสู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำและสามารถเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติใต้น้ำได้ หรือก็คือ พวกมันไม่มีความแตกต่างอะไรไปจากมอนสเตอร์ที่เคลื่อนไหวทางอากาศ นอกจากนี้ ขณะที่สู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำ มันยังคงมีข้อจำกัดของท้องทะเลเข้ามาเกี่ยวข้อง
ไม่ว่าดันพิลจะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็ไม่ยากไปกว่าการต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ใต้น้ำโดยมีข้อจำกัดทางน้ำพ่วงมาด้วยเป็นแน่
รูปแบบการโจมตีของเจ้าค้างคาวเปลี่ยนไป ราวกับมันกำลังแหวกว่ายอยู่ในห้วงน้ำ มันเริ่มกางปีกออกให้กว้างขึ้นและเริ่มกรุยกราย ขณะที่มันพบทางออกของสถานการณ์จึงเปรียบดั่งเหยี่ยวที่พร้อมจะลงมาโฉบเข้าใส่ ความเร็วในการโจมตีที่มันได้มานี้เป็นผลพวงจากการที่อาร์คฝึกสอน
“โกง แทรกแซงการต่อสู้!”
“เหอะ แกพูดไม่ใช่เหรอว่ามันไร้ซึ่งการท้าทาย ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำพูดแล้ว?”
เมื่อเจ้าค้างคาวใช้เทคนิคออกมาได้ การต่อสู้จึงพลิกผันสถานการณ์ให้กลับเป็นแบบเดิม
พลังชีวิตของเจ้าค้างคาวและดันพิลอยู่ในสภาพใกล้เคียงกันมาโดยตลอด แต่ในเมื่อดันพิลเป็นฝ่ายที่เสียพลังชีวิตเยอะกว่า มันจึงไม่อาจกล่าวเกินเลยไปว่าเป็นเจ้าค้างคาวที่เหนือล้ำกว่า
ห้านาทีผ่านไป ดันพิลเข้าสภาวะวิกฤตเป็นฝ่ายแรกจากการที่พลังชีวิตเหลือเพียงน้อยนิดจนร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ดันพิลปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาขณะที่รั้งตัวกลับ ขณะเดียวกัน อากาศสีดำพลันระเบิดออกจากปากของมันบดบังทัศนวิสัยของเจ้าค้างคาว ดันพิลพุ่งตัวเข้าใส่ มันพยายามเป็นเฮือกสุดท้าย
ดวงตาของอาร์คทอประกายวูบ
“เจ้าค้างคาว ไม่ต้องหลบ สถานการณ์ศูนย์!”
“เหอะ ตายซะ! แกไอ้ตัวบัดซบ!”
ดันพิลพุ่งตัวเข้าใส่ราวกับมันเป็นลูกศรที่หลุดจากคันธนู
ด้วยความแค้นเคือง เจ้าค้างคาวพลันพุ่งตัวเข้าใส่เช่นเดียวกัน
“ตัดสินกันเท่านี้แหละ!”
เจ้าค้างคาวกัดฟันและพุ่งเข้าใส่ เมื่อค้างคาวทั้งสองโจมตีแบบเดียวกันเข้าหากัน เจ้าค้างคาวเป็นฝ่ายเอี้ยวตัวหลบเลี่ยง ดันพิลที่พุ่งเข้าใส่อย่างสุดแรงเกิดถึงกับต้องดวงตาเบิกกว้างเพราะความแตกตื่น
“อะ-อะไรกัน...?”
ตูม!
ดันพิลพุ่งปะทะเข้ากับผนัง จากนั้นเจ้าค้างคาวจึงรั้งตัวกลางอากาศและโจมตีเข้าใส่แผ่นหลังของดันพิลด้วยศีรษะของมัน
ท้ายที่สุด ดันพิลที่พลังชีวิตหมดสิ้นจึงร่วงลงกับพื้นราวกระดาษที่อ่อนปวกเปียก
“ทำได้ดีมากเจ้าค้างคาว!”
อาร์คพยักหน้ารับขณะเผยรอยยิ้มพึงใจ นี่เป็นชัยชนะอันสมบูรณ์ที่อาร์คเคยสอนมัน สถานการณ์ศูนย์ คือโค้ดลับที่อาร์คใช้บอกทิศทางของศัตรู
“อั่ก นี่ข้าแพ้หรือ...”
ดันพิลคร่ำครวญออกมาขณะตะเกียกตะกายอยู่กับพื้น มันพยายามยิ้มออกส่งไปให้เจ้าค้างคาว
“เหอะ แกแข็งแกร่งขึ้นนะ ที่จริง ข้าจำได้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ข้าอยากให้แกแข็งแกร่งขึ้น ข้าจึงจำเป็นต้องเย็นชาใส่...”
ดูเหมือนดันพิลคาดหวังจะใช้ฉากเรียกน้ำตา
ทว่าเจ้าค้างคาวกลับไม่คิดเห็นเช่นนั้น เจ้าค้างคาวที่เร่งเข้ามาใกล้พลันเหยียบเข้าใส่จมูกของดันพิล
ท้ายที่สุดแล้ว ดันพิลร่างหายไปโดยไม่อาจกล่าวคำอื่นใดออกมาได้อีก
ขณะเดียวกัน หน้าต่างข้อความได้เด้งขึ้นมาต่อหน้าอาร์ค
=====
สมุนปีศาจของผู้เล่น ค้างคาวผู้เกลียดชัง ได้โค่นล้มดันพิลสำเร็จ
=====
ท่านสามารถผสมผสานสมุนปีศาจเพื่อพัฒนาได้ โปรดเลือกสมุนปีศาจตัวหลัก
สมุนปีศาจที่สร้างขึ้นจากการผสมผสานเพื่อวิวัฒนาการนั้นจำเป็นต้องมีสมุนปีศาจตัวหลัก ค่าสถานะของพวกมันจะถูกประเมินหลังควบรวมกันเรียบร้อยแล้ว
=====
แม้ว่าเจ้าค้างคาวจะชนะ และดันพิลก็มีค่าสถานะโดยรวมและเลเวลเหนือกว่าเจ้าค้างคาว แต่อาร์คก็ยังไม่ลังเลที่จะเลือกเจ้าค้างคาว ค่าสถานะไม่ใช่ทุกสิ่ง
เช่นกัน เขาไม่คิดปล่อยให้เจ้าค้างคาวผู้เกลียดชังตัวนี้ที่เขาได้รับมาต้องถูกแทนที่ด้วยดันพิล
“ตัวหลัก ค้างคาวผู้เกลียดชัง ตัวเสริม ดันพิล”
เมื่ออาร์คตัดสินใจได้ แสงสว่างจึงเข้าปกคลุมร่างของเจ้าค้างคาว และร่างของมันก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น มันเริ่มปรากฏขึ้นเป็นร่างมนุษย์
ด้วยผ้าคลุมสีดำและเส้นผมประบ่า เป็นเด็กชายอายุราวสิบปีคนหนึ่ง
คล้ายกับเด็กชายที่สวมใช่ชุดแดรคคูล่าไปงานปาร์ตี้วันฮาโลวีน นี่ทำเอาเขาโดนความรู้สึกว่าน่ารักนั้นเข้าปกคลุม แต่ด้วยคิ้วที่แหลมคมนั้นขมวดทำให้สีหน้าดูจริงจังเกินคาด
=====
ผสมสมุนปีศาจและวิวัฒนาการเสร็จสิ้นเป็นผลสำเร็จ
หลังผสมผสานกับดันพิล ค้างคาวผู้เกลียดชังได้รับการยกระดับขึ้นเป็นเผ่าพันธุ์แวมไพร์ชั้นต่ำ ด้วยความปรารถนาที่คิดควบคุมโลกใต้พิภพ เขาจึงได้รับนามว่าเดดริค ดังนั้นแล้ว เดดริคจึงได้รับสถานะขุนนางชั้นต่ำในโลกใต้พิภพและยังได้รับสิทธิ์อันชอบธรรมในการครอบครองอุปกรณ์
ดาบของแลนเซล ณ ปัจจุบัน ผู้ครอบครองคือ เดดริค
ด้วยการใช้ดาบของแลนเซล โบนัสพลังโจมตี 10% จากการโจมตีประสานจะถูกเพิ่มเข้าไป เป็นเพราะการครอบครองอุปกรณ์ ผลลัพธ์เพิ่มเติมจากทักษะได้ผูกติดอยู่กับเดดริค
=====
เดดริค
ประชากรแห่งโลกใต้พิภพที่รวดเร็วประดุจแสงและเป็นแวมไพร์ชั้นต่ำในหมู่แวมไพร์ ด้วยความคุ้นเคย เขาจึงมีความหยิ่งยโสและไม่ชอบความอัปยศอดสู
ด้วยผลลัพธ์จากการเป็นแวมไพร์ หากไม่อยู่ในดันเจี้ยนเขาจะไม่อาจเปลี่ยนร่างเป็นแวมไพร์ในช่วงเวลากลางวันได้ ในร่างค้างคาวนั้นจะถูกลดทอนค่าสถานะ 30% เพราะแสงตะวัน
เผ่าพันธุ์ : ปีศาจ
แนวโน้ม : ความมืด
ชนชั้น : ระดับต่ำ
พลังชีวิต : 250 (+200)
ความภักดี : 43 (-25)
พละกำลัง : 25 (+15)
ความคล่องตัว : 40 (+15)
ความอดทน : 35 (+15)
สติปัญญา : 15 (+15)
ความฉลาด : 55 (+15)
โชค : 15 (+15)
=====
*สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์หรือค้างคาวได้
*พุ่งชนความมืด สามารถใช้งานได้
สามารถกระจายความมืดชั่วคราวทำให้ศัตรูติดสถานะตาบอดได้ จากนั้นเมื่อใช้การโจมตีธรรมดาจะเพิ่มความเสียหายยิ่งขึ้น
พลังมานาเรียกใช้ : 30
=====
‘โอ้ ไม่ใช่ว่ามีประโยชน์ขึ้นเยอะเลยหรือไงกัน?’
ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ถ้าหากเขาคำนวณจากค่าสถานะทั่วไปแล้ว เลเวลน่าจะอยู่ราว 27 ตอนที่อยู่โนเดเลสหลังกินอาหารเข้าไปสมควรเลเวลใกล้เคียง 18 ดังนั้นแล้วนี่หมายความว่าเลเวลเพิ่มขึ้นถึง 9 เลเวลในคราวเดียว อีกทั้งยังได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ดูเหมือนนี่จะเป็นการย้ายสิ่งที่ดันพิลเคยมีเข้ามาแทนที่
เป็นเพราะแวมไพร์มีข้อจำกัดเรื่องการปรากฏตัว ดังนั้นแล้วโดยภาพรวมนับได้ว่าเป็นการเติบโตที่น่าพึงพอใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่กวนใจเขาอยู่เหมือนกัน
ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้น แต่ค่าความภักดีลดลงไปถึง 25 ไม่ช้าเขาจึงต้องการยืนยันผลที่เกิดขึ้น
“เจ้าค้างคาว ทำได้ดีมาก”
“ค้างคาว? ใครกัน?”
“ว่าอะไร?”
“เหอะ ฟังให้ดี ข้าไม่ใช่ค้างคาวที่เจ้ารู้จักอีกต่อไป ข้าในตอนนี้คือชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพ เดดริค จนถึงตอนนี้ที่เจ้าให้ข้ากินอาหารดังที่ต้องการ ข้าจะไม่ทนกับเรื่องเช่นนั้นอีกต่อไป”
สีหน้าของอาร์คเริ่มบิดเบี้ยว
ฟังจากมันแล้ว ดูเหมือนมันจะยังไม่ลืมช่วงที่ยังเป็นค้างคาว กล่าวก็คือ เป็นเพราะมันแข็งแกร่งขึ้นจึงเริ่มต่อต้านเจ้านาย
อาร์คเริ่มโมโห เขาพยายามอย่างหนักเพื่อป้อนอาหารให้สมุนปีศาจและกระทั่งฝึกซ้อมพวกมัน แล้วยังไงกัน? เขาเลือกเจ้าค้างคาวแทนที่จะเป็นดันพิลที่มีความสามารถดีกว่า แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเป็นการต่อต้านหรือ
น้ำเสียงของอาร์คเย็นเยียบ “แล้ว?”
“แน่นอน ข้าไม่อาจพูดว่าข้านั้นปฏิเสธตัวตนของเจ้า ด้วยสถานะของข้าที่เพิ่มขึ้น แต่ความเป็นจริงที่เจ้าคือเจ้านายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทว่า ข้านั้นไม่ยินดีที่จะเป็นหนูทดลองอาหารให้เจ้าอีกต่อไป แน่นอนว่าข้าต้องการเติบโตขึ้น ดังนั้นแล้วข้าจะกินในสิ่งที่ข้าตัดสินใจแล้วว่ามันเป็นอาหารที่เหมาะสม นี่คือความชอบธรรมของข้า”
“ความชอบธรรมของแก?” อาร์คหัวเราะออก
ดูเหมือนมันจะเริ่มใช้คำที่ยากขึ้นเพราะค่าความฉลาดที่เพิ่มมากขึ้น เขาจะเรียกว่ายังไงดี? นี่มันน่าเสียใจเอาการ
เหตุใดมันผู้นี้ถึงกับลืมไปว่าเจ้านายของตนนั้นชาญฉลาดเพียงใดเมื่อครั้งที่มันยังเป็นค้างคาว? เมื่ออาร์คคิดที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับใครสักคน เขาไม่คิดหยุดเพียงเพราะความเหมาะสม
‘ดูเหมือนคงต้องแสดงให้เห็นแล้วว่าสมุนปีศาจก็ยังเป็นแค่ผู้ใต้บัญชาของเรา’
อาร์คยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและเริ่มเตะเข้าใส่เดดริคโดยไม่ยั้ง
กระทั่งว่ามันวิวัฒนาการขึ้นมา อย่างไรก็เลเวลแค่ 27 ขณะที่อาร์คปล่อยลูกเตะออกไป พลังชีวิตของมันจึงลดลงฮวบ
เดดริคที่กลิ้งไปกับพื้นกรีดร้องออกมา
“พะ-พูดคุยกันก่อน! นี่มันใช้ความรุนแรง!”
“นี่แกไม่รู้หรือไง? ว่าฉันน่ะชอบความรุนแรง”
“ขะ-ข้าเป็นเด็กนะ! นี่มันทารุนเด็ก!”
“ถึงแบบนั้น แกต้องโดนดีเสียบ้างเพราะทำอะไรไม่ยั้งคิด เด็กไม่ดีจะเติบโตมาเป็นปัญหาสังคม”
อาร์คยังคงก้าวเดินเข้าหาและเริ่มใช้ความรุนแรงที่เกินเลย ท้ายที่สุดแล้ว พลังชีวิตของเดดริคจึงหมดสิ้นและโดนเรียกตัวกลับไป
เจ้ากะโหลกและงูน้อยต่างดวงตาเบิกกว้างกับท่าทีของอาร์คที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
อาร์คพูดออกขณะยังเผยรอยยิ้มอ่อน
“ไม่ต้องห่วง พวกแกไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ไอ้ที่เติบโตขึ้นมานิดหน่อยแล้วต่อต้านฉันน่ะสมควรต้องโดน แน่นอนว่าถ้าพวกแกเป็นเด็กดีเรื่องพวกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เข้าใจไหม?”
แม้เขาจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับทำให้สภาพแวดล้อมเย็นเยียบ
เจ้ากะโหลกและงูน้อยต่างพยักหน้ารับโดยทันที
จากนั้นอาร์คก็ขลุกอยู่กับเจ้ากะโหลกออกล่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความน่าสังเวชที่เกิดขึ้นกับเดดริค เจ้ากะโหลกถึงกับลงแรงแข็งขันมากขึ้น ถ้าหากมันรู้ว่าอาร์คตกอยู่ในอันตราย มันจะไม่ลังเลที่จะเข้าเป็นโล่เข้าป้องกันให้ ดูเหมือนเจ้ากะโหลกจะพยายามแสดงให้อาร์คเห็นว่าตนนั้นแตกต่างจากเดดริค
อาร์คส่งมอบอาหารเลิศรสและมีผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมให้เจ้ากะโหลก แต่กับเดดริคนั้นแตกต่างออกไป อาร์คอัญเชิญเดดริคหลังผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมงและก้าวเดินเข้าหาโดยไม่พูดสิ่งใดแม้ครึ่งคำ
“วะ-เหวอ ยะ-หยุดนะ ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก!”
“เคยทรยศสักครั้งก็จะทรยศอยู่เรื่อยไป”
หลังผ่านพ้นไปสามหรือสี่ครั้ง เดดริคก็เริ่มงอมือคุกเข่าขอร้องโดยทันทีที่โดนอัญเชิญออกมา
“หวา จะ-เจ้านาย ข้าขออภัย! ข้าสูญเสียจิตใจไปวูบหนึ่งและเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง!”
ทว่าอาร์คกลับไม่ใส่ใจฟังและก้าวเดินเข้าหาโดยไร้ซึ่งความปรานี
ถ้าหากต้องการดัดนิสัยผู้ที่เคยทำผิดสักครั้งและเผลอผ่อนปรนให้ พวกมันย่อมต้องเผยเขี้ยวเล็บลับหลัง เด็กน้อยที่โตขึ้นโดยไม่รู้ซึ่งมารยาทนั้นทั้งมวลล้วนเป็นเพราะครอบครัวไม่สอนสั่ง
เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงที่กัดเจ้านายเพราะไม่สอนสั่งตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อสอนมารยาทที่ถูกต้องให้กับมันก็ต้องมั่นใจว่ามันจดจำฝังลึกแน่นเป็นอย่างดีแล้ว
อาร์คคิดที่จะลงมือกระทำเช่นนี้ต่อไป อย่างน้อยก็จนกว่าจะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้ได้