TWO Chapter 214 ลั้วซา
TWO Chapter 214 ลั้วซา
หลังจากประกาศการจัดการกองพลทหารที่ 1 แห่งเมืองซานไห่เสร็จแล้ว เขาก็ยังคงกล่าวถึงแผนการขยายกองทัพต่อ
เขามองไปที่เผ่ยหลาย แล้วกล่าวว่า “สำหรับกองทัพเรือเป่ยไห่ มันจะขยายจากกองพันเป็นกรมทหาร และท่านจะได้เป็นผู้บัญชาการ”
“ขอรับนายท่าน!” เผ่ยตงหลายรู้ดีว่า เป้าหมายของการขยายกองทัพเรือในครั้งนี้ คือการโจมตีเกาะพระจันทร์
“ขุนพลหวัง!”
“นายท่าน!” หวังหยวนเฟิงก้าวออกมา
“กองพันเครื่องกลพระเจ้า จะขยายเพิ่มอีก 1 กองพัน ในขณะเดียวกัน เจ้าจะต้องแนะนำ เมืองสาขาของดินแดน ในการจัดตั้งทหารหน้าไม้อย่างน้อย 1 กองร้อย เพื่อช่วยในการป้องกันเมือง” โอหยางโชววางแผนที่จะติดตั้งเครื่องยิงหน้าไม้ในเมืองสาขาของดินแดน
“ขอรับนายท่าน!”
การขยายกองทัพครั้งใหญ่ของเมืองซานไห่ได้สิ้นสุดลง โดยในกรมทหารที่ 2 จะเพิ่มทหารม้า 2 กองพัน, กรมทหารที่ 3 จะเพิ่มทหารหอก 1 กองพัน และทหารธนู 1 กองพัน, กองทัพเรือเป่ยไห่ จะเพิ่มทหารเรืออีก 2 กองพัน, ส่วนกองพันเครื่องกลพระเจ้าจะเพิ่มขึ้นมาอีก 1 กองพัน ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนขั้นทหารทั้งหมดสูงถึง 3,250 เหรียญทอง
โอหยางโชวมีเงินในมือเงียบ 2,250 เหรียญทอง เขายังขาดอีก 1,000 เหรียญทอง และอีก 10 วันกว่าจะถึงสิ้นเดือน การรอใช้กำไรจากกิจการของดินแดนคงจะสายเกินไป ฉะนั้น เงินที่ยังขาดอยู่ก็คงต้องหาจากค่ายโจร
โอหยางโชวให้สิทธ์กรมทหารที่ 3 ก่อน ตามด้วยกองทัพเรือเป่ยไห่ และกองพันเครื่องกลพระเจ้า ในขณะที่กรมทหารที่ 2 จะต้องรอไปก่อน ในขณะเดียวกัน กรมทหารที่ 1 และ 3 จะต้องรับผิดชอบการกวาดล้างค่ายโจรจากทั้ง ทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก
หลังจากพิจารณาแล้วว่า กรมทหารที่ 3 ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นยังไม่สมบูรณ์ โอหยางโชวก็ตัดสินใจนำกองพันป้องกันเมืองทั้ง 3 ไปช่วยพวกเขา โดยแต่งตั้งนายพันแห่งกองพันป้องกันเมืองซานไห่ เจ้าซีฮูเป็นรองผู้บัญชาการค่ายทิศตะวันออกชั่วคราว
สำหรับกรมทหารที่ 2 พวกเขายังคงอยู่ที่ค่ายทิศเหนือ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในเร็วๆนี้ สถานการณ์ในทุ่งหญ้าเริ่มรุนแรงมากขึ้น ตลาดการค้าของเมืองมิตรภาพได้กลายเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี ธุรกิจการค้าของพวกเขาขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และยังคงขยายตัวต่อเนื่อง กรมทหารที่ 2 จึงต้องคอยป้องกัน ไม่ให้เผ่าต่างๆมีความคิดอื่นๆได้
ยุทธศาสตร์ของโอหยางโชวต่องทุ่งหญ้าก็คือ การรอดูและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
หลังจากสิ้นสุดการประชุมแล้ว เหลือเพียงเอ้อหลายเท่านั้นที่ยังคงอยู่
ขุนพลผู้นี้สวมชุดเกราะปูเหริน ที่ฝ่ายคลังอาวุธสร้างให้สำหรับเขาโดยเฉพาะ ที่ด้านหลังของเขาเป็นง้าวที่สร้างจากเหล็กชั้นสูง เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ของเขาในสงครามมูเย่ ตอนนี้ เขาดูน่าเกรงขามและทรงพลังขึ้นมาก
“ท่านขุนพล ท่านมีปัญหาอะไรหรือไม่?” โอหยางโชวถาม
เอ้อหลายหัวเราะ แล้วกล่าวอย่างอายๆว่า “เรียนนายท่าน ข้าได้เห็นพาหนะและสงสัยว่า นายท่านจะมอบมันเป็นของขวัญให้ข้าได้หรือไม่?”
โอหยางโชวแข็งค้าง “กรมกิจการทหารไม่ได้มอบม้าศึกฉิงฟู่ชั้นสูงให้ท่านแล้วหรอกหรือ? หรือว่าท่านขุนพลไม่พอใจกับม้าตัวนั้น?”
“ไม่ใช่เช่นนั้น” เอ้อหลายส่ายหัว “เมื่อไม่กี่วันก่อน ในขณะที่ข้ากำลังเดินดูรอบๆดินแดน ข้าก็ได้เห็นสัตว์ร้าย 2 ตัว และข้าก็หลงรักพวกมันในทันที”
โอหยางโชวไม่รู้ว่าเขาจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “สัตว์ร้ายที่ท่านกล่าวถึง คงจะเป็นสัตว์ประหลาดเหนียนใช่หรือไม่?”
“ใช่ๆ มันคือสัตว์ประหลาดเหนียน เจ้ากรมเก่อบอกข้าว่า ท่านเป็นผู้ทำให้มันเชื่อง”
ในความเป็นจริง สัตว์ประหลาดเหนียนสองตัวนี้ได้อยู่ในเมืองซานไห่มานานถึงครึ่งปีแล้ว และเมื่อเดือนที่แล้ว พวกมันได้ให้กำเนิดลูกน้อยคู่หนึ่ง ตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ และอีกตัวหนึ่งเป็นตัวเมีย เมื่อมองมองไปที่พวกมัน จะเห็นได้ชัดว่าพวกมันต่างจากสัตว์ประหลาดเหนียนทั่วไป ดูราวกับว่า สายเลือดฉีหลินของพวกมันกำลังตื่นขึ้นช้าๆ และพวกมันก็จะกลายเป็นเหมือนฉีหลินในตำนาน
โดยสัตว์ประหลาดน้อยที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ได้กลายเป็นเพื่อนเล่นของปิงเอ๋อ เธอมักจะวิ่งไปที่ภูเขาด้านหลัง เพื่อเล่นกับพวกมัน น่าประหลาดใจที่สัตว์ประหลาดเหนียนที่แสนดุร้ายกลับอ่อนโยนกับเธอ
บางครั้งพวกมันทั้งคู่ก็ยินดีตามปิงเอ๋อออกไปเล่นนอกภูเขา มันทำให้มีสิ่งอื่นนอกเหนือจากเซว่เอ๋อและเขี้ยวดำที่ตามเธอไปรอบๆ
เด็กๆทุกคนในดินแดนรวมถึงเอ้อหว้าฉี พวกเขาได้นับถือปิงเอ๋อ ตอนนี้ ปิงเอ๋อได้กลายเป็นดั่งราชินีแห่งเมืองซานไห่ และมีกลุ่มสาวกน้อยๆคอยติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อเอ้อหลายได้ยกหัวข้อนี้ขึ้นมา โอหยางโชวก็เริ่มคิดเกี่ยวกับทางเลือกในการใช้สัตว์ประหลาดเหนียนเป็นพาหนะ เขาอยากรู้อยากเห็นมาก “ท่านขุนพล ท่านสามารถทำให้มันเชื่องได้หรือ?”
เอ้อหลายหัวเราะ “ตราบเท่าที่นายท่านเห็นด้วย ข้ามีความมั่นใจ 90%”
“เช่นนั้นก็ตกลง ข้าเห็นด้วย” โอหยางโชวตัดสินใจให้เอ้อหลายลอง
โอหยางโชวคิดว่า แทนที่จะปล่อยให้พวกสัตว์ประหลาดเหนียนใช้เวลาทั้งวันอยู่บนภูเขาด้านหลัง ทำไมไม่ใช้พวกมันในการต่อสู้ล่ะ? ตราบเท่าที่สัตว์ประหลาดน้อยยังคงอยู่ที่นี่ ลักษณะพิเศษและบัฟก็จะไม่หายไป
เอ้อหลายรสนิยมดี ถ้าเขาสามารถทำให้มันเชื่องได้ พวกมันดียิ่งกว่าม้าฉิงฟู่ชั้นสูง และพวกมันยังมีทักษะที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ในขณะที่เขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น โอหยางโชวก็ลุกขึ้น และนำเอ้อหลายไปที่ภูเขาด้านหลัง
ขณะที่ไปถึงที่นั่น ครอบครัวของสัตว์ประหลาดเหนียนก็กำลังเพลิดเพลินกับอาหารที่ฝ่ายทรัพยากรได้จัดหาให้
ภายใต้การอนุญาติของโอหยางโชว เอ้อหลายได้เดินเข้าไปช้าๆด้านหน้าสัตว์ประหลาดเหนียน เขาเลือกตัวที่น่าเกรงขามและแข็งแกร่งกว่าอีกตัว เขาเข้าไปใกล้มันอย่างมาก มันดูระมัดระวังและไม่พอใจที่มีคนไปรบกวนการทานทหารของมัน มันจึงได้คำรามออกมาเป็นการเตือน
โอหยางโชวถือโอกาสยกเลิกสัญญากับสัตว์ประหลาดเหนียน เพื่อให้เอ้อหลายสามารถควบควมมันได้
“แจ้งเตือนระบบ : ผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่ได้ยกเลิกสัญญากับสัตว์ประหลาดเหนียนแล้ว เนื่องจากมันได้ให้กำเนิกลูกน้อยในเมืองซานไห่ มันจึงยังคงเป็นผู้พิทักษ์แห่งเมืองซานไห่”
ในขณะที่โอหยางโชวยกเลิกสัญญา ความโกรธก็เต็มอยู่ในดวงตาของมัน แต่เมื่อมองไปที่สัตว์ประหลาดน้อยทั้ง 2 ตัว พวกมันกลับไม่มีความดุร้ายในสายตาของพวกมันเลย เห็นได้ชัดว่า เห็นได้ชัดว่า สัตว์ประหลาดเหนียนได้ฟื้นคืนความน่าเกรงขามและความโหดร้ายของมันกลับคืนมากแล้ว
“เหนียน!!!” มันร้องคำรามออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ เสียงของมันดูกังวลมากขึ้น
เอ้อหลายไม่มีความกลัวใดๆ เขาแสดงออกอย่างโหดเหี้ยม เขาจ้องไปที่มัน ก่อนจะคำรามออกมาเหมือนสัตว์ร้าย ดูเหนือนเขาพยายามจะสื่อสารกับมัน
ดูเหมือนว่าเอ้อหลายจะใช้วิธีนี้ ในตำนาน เอ้อหลายจับเสือดาวในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่ได้
เมื่อถูกท้าทายโดยเอ้อหลาย มันก็ดูกระสับกระส่ายมากขึ้น ในตอนแรก มันยังคงนิ่งอยู่ แต่ตอนนี้ มันได้ลุกขึ้นยืนแล้ว หางของมันชี้ขึ้นขณะที่มันเตรียมจะโจมตี มันคำรามไปทางเอ้อหลาย เผยให้เห็นถึงฟันที่แหลมคมของมัน
เอ้อหลายไม่ถอย เขากลับยังท้าทายมันมากขึ้น มือของเขาไวเหมือนแสง คว้าไปที่เขาทั้งสองข้างของสัตว์ประหลาดเหนียน ในขณะเดียวกัน มันก็พยายามที่จะขวิดเขาด้วยหัว เขาพยายามสู้กับสัตว์ประหลาดเหนียนด้วยกำลัง
สัตว์ประหลาดเหนียนเป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาดที่น่าเกรงขาม ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะท้าทายมันด้วยวิธีดังกล่าว โดยเฉพาะเขาที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ มันฝังขาทั้ง 4 ข้างของมันลงไปในพื้นดิน แล้วบังคับให้หัวของมันดันไปข้างหน้า ต้องการจะเจาะทะลวงร่างของเอ้อหลายด้วยเขาของมัน
โดยไม่คาดคิด แม้ว่าสัตว์ประหลาดเหนียนจะแข็งแรงมาก แต่เอ้อหลายกลับไม่ได้ด้วยไปกว่ามันเลย เขายืนอยู่บนพื้น ความแข็งแรงปริมาณมหาศาลทำให้ขาของเขาค่อยๆจมลงไปในพื้นดิน แต่เขาก็ไม่ได้ไถลออกมาเลย โอหยางโชวคาดว่า เอ้อหลายได้ใช้เทคนิคบางอย่างในการเปลี่ยนทิศพลังที่สัตว์ประหลาดเหนียนปลดปล่อยออกมา
มันไม่คิดว่าเอ้อหลายจะทนได้ สัตว์ประหลาดเหนียนแปลกใจที่มนุษย์ที่อยู่ข้างหน้าของมัน สามารถแข่งขันเรื่องความแข็งแรงกับมันได้ สิ่งนี้ได้กระตุ้นมันมากขึ้นเรื่อยๆ มันคำรามและคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง พลังที่มันปลดปล่อยออกมาก็เพิ่มขึ้น สามารถมองเห็นขาที่ค่อยๆจมลงอย่างต่อเนื่องได้อย่างชัดเจน
โชคดีที่ในช่วงเวลาที่สำคัญนั้น เขาได้ใช้กำลังของเขา กระโดดขึ้นจากพื้นดินพร้อมตีลังกาคว้าไปที่เขาของสัตว์ประหลาดเหนียนอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนตำแหน่ง ร่างกายของเขาได้บิดกลางอากาศ และเขาก็ได้ไปนั่งอยู่บนหลังของสัตว์ประหลาดเหนียน
สัตว์ประหลาดเหนียนจะสามารถทดความอัปยศนี้ได้อย่างไร? มันกระโดดไปมา สะบัดตัวเองไปซ้ายบ้างขวาบ้าง เพื่อให้เอ้อหลายหลุดออกจากหลังของมัน
แต่น่าเสียดาย เอ้อหลายเกาะติดกับร่างกายของมันดุจมีกาวทา ไม่ว่ามันจะดิ้นรนมากเพียงใด มันก็ไม่สามามรถทำให้เขาหลุดออกไปได้ เมื่อเห็นเช่นนั้น โอหยางโชวก็ได้รับแจ้งเตือนว่า มันดูคล้ายกับเทคนิคยึดเกาะขุนเขาของปาจีฉวนเป็นอย่างมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากขั้นคือการต่อสู้ขัดขืน
สัตว์ประหลาดเหนียนที่หันหลังให้กับเอ้อหลายสิ่งไปรอบๆภูเขาด้านหลัง มันดินรนและทำทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะไม่ยอมหยุดจนกว่ามันจะบรรลุเป้าหมาย บางครั้ง มันก็พุ่งเข้าไปกระแทกกับต้นไม้ และกระโดดลงไปปะทะกับก้อนหิน
แต่น่าเสียดาย แม้ว่าเอ้อหลายจะได้รับบาดเจ็บ เขาก็ไม่ยอมปล่อยมัน และยังคงเกาะติดอยู่ที่หลังของมัน
2 ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดการเคลื่อนไหวของมันก็หยุดลง สิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นคือ สัตว์ประหลาดเหนียนเพิ่งจะทานอาหาร การกระโดดไปมาของมัน จึงทำให้มันรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
ในความเป็นจริงเอ้อหลายได้ถึงขีดจำกัดแล้ว ในตอนนี้ เขาได้อาศัยเพียงความยืดหยุ่นเท่านั้น
ในช่วงเวลาที่สำคัญ เอ้อหลายได้เรียนรู้และมีประสบการณ์แล้ว เขารู้ว่าสัตว์ประหลาดเหนียนได้รับรู้ถึงความสามารถของเขา และตราบใดที่มันให้โอกาสเขา เขาก็จะสามารถทำให้มันเชื่องได้
เอ้อหลายปล่อยมือและลูบหัวของมันเบาๆ “สัตว์ประหลาดเหนียน เจ้ามีความแข็งแกร่งและรวดเร็วมาก แต่กลับต้องมาอยู่ในภูเขาเล็กๆเช่นนี้ ข้า เอ้อหลาย ไม่สามารถทนเห็นเจ้าทำเช่นนั้นได้ ทำไมเจ้าไปติดตามข้าไปสนามรบล่ะ?”
สัตว์ประหลาดเหนียนฉลาด และมันเข้าใจภาษามนุษย์ ดังนั้น หลังจากที่ฟังคำกล่าวของเขาแล้ว มันจึงหยุดดิ้นรน
เมื่อเห็นเช่นนั้น เอ้อหลายก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก “เอาล่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเรียกเจ้าว่าลั้วซา เราจะเข้าร่วมสนามรบด้วยกัน”
“เหนียน!!!” สัตว์ประหลาดเหนียนส่งเสียงคำรามดังกังวาล
เอ้อหลายดูเหมือนจะเข้าใจว่ามันจะสื่ออะไร เขารู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก
โอหยางโชวยื้นอยู่ข้างๆและยิ้ม เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันจะน่าเกรงขามแค่ไหน ถ้าได้มองเอ้อหลายนั่งอยู่บนหลังของลั้วซาในสนามรบ มันคงจะทำให้ศัตรูของพวกเขาถึงกับฝันร้ายแน่นอน
ขณะที่ขี่สัตว์ประหลาดเหนียน เอ้อหลายก็เดินมาหาโอหยางโชว แล้วกระโดดลงมา ก่อนจะกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณนายท่าน!”
โอหยางโชวพยักหน้า “ขอแสดงความยินดีด้วยกับการได้รับพาหนะที่ดี ฝ่ายคลังอาวุธจะสร้างชุดเกราะสำหรับลั้วซาเพื่อช่วยปกป้องมัน”
“ขอบคุณขอรับนายท่าน!” เอ้อหลายรู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์ชั้น 9
แฟนเพจ : TWOแปลไทย