TWO Chapter 213 นิพพาน
TWO Chapter 213 นิพพาน
3 วันต่อมา ในที่สุด สถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฟิงก็สิ้นสุดลง
พันธมิตรหยานหวงจัดหาเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับเหล็กดำให้กับพี่ชายของเฟิงฉิวฮวง เฟิงเทียนลี้ และเขาก็สามารถก่อตั้งหมู่บ้านเฟิงเสี้ยงขึ้นมาได้ สมาชิกทั้งหมดของตระกูลเฟิงที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองหงส์สาบสูญได้ย้ายไปยังหมู่บ้านเฟิงเสี้ยง
นอกเหนือจากเพื่อนที่ดีที่สุดของเฟิงฉิวฮวงอย่าง ฉิงหลวนแล้ว ตระกูลของจูเฉว่, เฮยเทียนเอ๋อ และเซว่เหยา บังคับให้พวกเธอย้ายออกไปกับพวกเขา หลังจากที่รู้ข่าวนี้ โอหยางโชวก็นำรายชื่อของพวกเธอทั้ง 3 คน ออกจากช่องพันธมิตร
ขณะที่เฟิงเทียนลี้สร้างหมู่บ้านเฟิงเสี้ยง พันธมิตรหยานหวงก็ได้รับพวกเขาเข้าเป็นสมาชิกใหม่
ในเวลานี้ เมืองหงส์สาบสูญได้สูญเสียเป็นอย่างมาก พวกเขาสูญเสียประชากรไปถึง 10,000 คน ซึ่งทำให้ดินแดนของพวกเขาพิการไปครึ่งหนึ่ง และพวกเขายังเป็นหนี้เมืองซานไห่อีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้
เพื่อรวบรวมเงินสดได้เพียงพอ โอหยางโชวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรวมรวบกำไรครึ่งเดือนแรกของเดือนที่ 8 ซึ่งเขาได้รับเงินมา 8,500 เหรียญทอง รวมกับที่มีอยู่ 14,000 เหรียญทอง เขาจึงมีเงินสดในมือทั้งสิ้น 22,500 เหรียญทอง
โอหยางโชวปล่อยกู้ให้เฟิงฉิวฮวง 20,000 เหรียญทอง แน่นอนว่ามันจะได้รับการชำระคืนผ่านธนาคาร 4 สมุทรสาขาเมืองหงส์สาบสูญ
เงิน 20,000 เหรียญทองนี้ จะเป็นเงินกู้ระยะยาว 2 ปี เมื่อรวมกับดอกเบี้ยแล้ว ในแต่ละเดือน เธอจะต้องจ่ายมากถึง 1,418 เหรียญทอง นี่เป็นวิธีชำระคืนเช่นเดียวกับเมืองซุ่นหลง เงินที่ถูกจ่ายในทุกๆเดือน จะถูกนำไปเป็นเงินทุนให้กับธนาคาร 4 สมุทร เพื่อใช้สำหรับนำไปปล่อยกู้ต่ำไป
ด้วยวิธีดังกล่าว เมืองหงส์สาบสูญและเมืองซุ่นหลงก็สามารถยืมเงิน เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาดินแดนของพวกเขาได้ สิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายก็คือ ธนาคาร 4 สมุทรจะค่อยๆควบคุมความสามารถทางเศรษฐกิจของพวกเขา
หลังจากที่ส่งผู้เล่นคนสุดท้าย โอหยางโชวก็มายืนข้างๆเธอ น่าแปลกใจที่เธอไม่ได้ดูเศร้า แต่ดูเหมือนกับว่าเธอจะโล่งอก และรู้สึกได้ถึงอิสระภาพ
หลังจากที่มองไปที่พระอาทิตย์ เธอก็หันกลับมาและยิ้มอย่างสดใสให้กับโอหยางโชว รอยยิ้มนี้แสดงให้เห็นถึงหญิงสาวที่ได้รับการปลดปล่อยและได้รับชีวิตใหม่
ในชั่วพริบตา ราวกับว่าโอหยางโชวได้เห็นหงส์ยักษ์ตื่นขึ้นมากจากกองเถ้าถ่าน ราวกับว่ามันได้รับการกำเนิดใหม่จากนิพพาน
ในที่สุด เขาก็รีบถอนหาย
“เอ่อ ทำไมข้ารู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกใช้กันน้า?” โอหยางโชวแสร้งทำว่าไม่มีความสุข
เฟิงฉิวฮวงหันไปรอบๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านเป็นบุรุษ ฉะนั้น อย่าได้คิดเล็กคิดน้อยเลย เดี๋ยวข้าจะตอบแทนท่านเอง”
“เจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”
“ข้าจะมอบตัวข้าให้ท่านเป็นอย่างไร?”
“แค่ก แค่ก” โอหยางโชวสำลัก และกล่าวอย่างลำบากใจว่า “พี่สาว โปรดอย่าได้กล่าวเป็นเรื่องตลกเช่นนี้ เจ้าจะทำให้ผู้คนตกใจตายได้”
“ทำไม? ท่านรู้สึกผิดหรือ? สบายใจได้ ข้าจะไม่บอกซ่งเจี๋ยหรอก” เฟิงฉิวฮวงหัวเราะ
โอหยางโชวส่ายหัว “พอเถอะ เราจะเป็นเพื่อนกันต่อไปได้อย่างไร ถ้าเจ้าทำเช่นนั้น?”
“อ๊า! ข้าไม่มีเสน่ห์เลยหรือ?” เฟิงฉิวฮวงแค่ต้องการล้อเล่น แต่ความภาคภูมิใจของเธอ ก็เหมือนจะถูกทำลายด้วยปฏิกิริยาของเขา ในเรื่องนี้ สาวๆจะอ่อนไหวมาก
โอหยางโชวยกมือขึ้นทำท่ายอมจำนน “แฟนๆของท่านคงจะฆ่าข้าแน่ ถ้าข้าบอกว่าสาวงามชั้นนำของภูมิภาคจีนไม่มีเสน่ห์”
โอหยางโชวกล่าวเช่นนี้ เพราะเมื่อไม่นานมากนี้ สีดเดอร์บอร์ดสาวงาม 10 อันดับแรกของภูมิภาคจีน ได้รับการเผยแพร่แล้ว และมันก็เป็นที่ยอมรับอย่างมาก
เธอหัวเราะคิกคัก “ดีแล้วที่ท่านรู้”
เมื่อโอหยางโชวกำลังจะจากไป เฟิงฉิวฮวงก็ตะโกนตามหลังเขาว่า “หวู่ยี่! ขอบคุณนะ!” โอหยางโชวไม่ได้หันกลับมา เขาเพียงโบกมือของเขา และกลายเป็นแสงสีขาว หายไปในประตูเทเลพอร์ต
“พี่สาว สุดท้าย ฉีเยว่หวู่ยี่ก็เป็นแค่คนโง่ เขาไม่สนใจเสน่ห์ของท่านเลย” ฉิงหลวนสู้เพื่อพี่สาวของเธอ ขณะที่ทั้ง 2 กำลังยืนคุยกันอยู่ข้างๆ
เฟิงฉิวฮวงส่ายหัว “ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนซื่อสัตย์ เจ้าไม่ได้เข้าร่วมสงครามมู่เย่ในครั้งนี้ เพราะงั้น เจ้าถึงไม่ได้เห็นคนรักของเขา ซ่งเจี๋ย นางนับได้ว่าเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก” มีความรู้สึกเหงาปนอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
…………………………………………………………………………..
ณ เมืองหานตาน
“ท่านปู่ ข้าไม่เข้าใจ”
“เจ้าไม่เข้าใจอะไร?”
“ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใด เราถึงได้ปล่อยเมืองหงส์สูญออกไปง่ายๆเช่นนี้ เราไม่สามารถรีดไถเพิ่มเติมจากเมืองซานไห่ได้อีกแล้วหรือ?”
“เจ้าคิดว่ามันยังไม่พออีกหรือ?”
“แน่นอนว่ามันยังไม่เพียงพอ พวกเขาให้เงิน 20,000 เหรียญทอง และกับเหรียญการสร้างหมู่บ้านระดับเงิน ที่ได้ก่อตั้งดินแดนมาแล้วเกินครึ่งปี ดังนั้น มันจึงคุ้มค่าสำหรับเขา วิธีการเช่นนี้ทำให้พวกเขาย่อยยับได้หรือ?”
“อา เจ้ามองแค่ผิวเผินเท่านั้น เจ้าไม่เห็นหรือว่าราคาของธัญพืชในตลาดกำลังทะยานขึ้น ในขณะที่ธัญพืชในยุ้งฉางกำลังจะหมดลง” ปู่ของตี่เฉินมองเขาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“ท่านปู่ ความหมายของท่านคืออะไร?”
“เงิน 20,000 เหรียญทอง ไม่ใช่เงินก้อนเล็กๆ แม้ว่าเมืองซานไห่จะมีเงินจำนวนมาก แต่เงินที่เขาใช้จ่ายในครั้งนี้ คงจะเป็นเงินทั้งหมดที่พวกเขาสามารถใช้จ่ายได้ในตอนนี้ ประชากรของพวกเขาสูงที่สุดในภูมิภาคจีน ดังนั้น พวกเขาจึงต้องใช้ธัญพืชเป็นจำนวนมากที่สุดเช่นกัน เมื่อราคาธัญพืชเพิ่มสูงขึ้น และพวกเขาไม่มีเงินมากพอ แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้กันล่ะ?”
ตี่เฉินเข้าใจที่ในสุด ก่อนจะกล่าวชมปู่ของเขา “ท่านเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ!”
…………………………………………………………………………..
หลังจากที่โอหยางโชวกลับมาถึงดินแดน เขาก็เรียกประชุมทางทหาร
เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “หลังจากที่ดินแดนอัพเกรด มันทำให้เราสามารถขยายกองทัพได้อีกครั้ง”
สำหรับการขยายกองทัพ นายทหารต่างไม่ได้มีปัญหา การขยายกองทัพครั้งล่าสุดของเมืองซานไห่ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือ หลังจากที่ดินแดนอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 1 ในขณะที่ดินแดนเป็นเมืองขนาดกลางระดับ 2 มันไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ใดๆ ดังนั้น ตอนนี้ ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่จะขยายกองทัพ
จากเหตุผลของเขา เขาต้องการที่จะจัดการโครงสร้างทางทหารใหม่ นี่ก็เพื่อให้โครงสร้างทางทหารมั่นคง ซึ่งมันจะส่งผลดีต่อความแข็งแกร่ง และขวัญกำลังใจในการสู้รบ
โอหยางโชวกวาดสายตามองรอบห้อง แล้วกล่าวว่า “ข้าตัดสินใจแล้วว่า จะสร้างกองพบทหารที่ 1 อย่างเป็นทางการ โดยมันจะประกอบด้วย 5 กรมทหาร และ 2 กองพันทหาร อยู่ภายใต้มัน ฉะนั้น กองพลทหารนี้จะมีทหารทั้งสิ้น 13,500 นาย”
พวกเขาตกใจมาก พวกเขาไม่ได้คิดเลยว่า ลอร์ดของพวกเขาจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ ประการแรก ต้องรู้ก่อนว่าในตอนนี้ เมืองซานไห่มีเพียงกรมทหารผสม มันเป็นจะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ หากเพิ่มกรมทหารถึง 4 กรม และอีก 2 กองพัน
เจ้ากรมกิจการทหาร เก่อหงเหลียงขบคิด ก่อนจะกล่าวว่า “นายท่าน จากจำนวนประชากรของเมืองซานไห่ในตอนนี้ มันยังคงไม่เพียงพอที่จะสร้างกองพลทหารได้ เหตุใดเราไม่สร้างกรมทหาร 1-2 กรมก่อน และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ค่อยสร้างกองพล ไม่ดีกว่าหรือ?”
โอหยางโชวส่ายหัว “เจ้ากรมเก่อผ่อนคลายไว้ เราไม่จำเป็นต้องสร้างกองพลให้เสร็จสมบูรณ์ในทันที หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะสามารถสร้างกองพลที่ 1 ได้ในเวทีเมืองขนาดกลางนี้”
คำกล่าวของโอหยางโชวทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย เมืองขนาดกลางระดับ 3 มีขีดจำกัดประชากรที่ 100,000 คน ถ้าหากเพิ่มเมืองสาขาของดินแดนเข้ามา มันก็งจะเพียงพอ
หลังจากที่ปล่อยให้พวกเขาทำความเข้าใจแล้ว โอหยางโชวก็ประกาศการจัดระเบียบทางทหาร “กรมทหารผสมที่ค่ายทิศตะวันตก จะเป็นกรมทหารที่ 1 ของกองพล และขุนพลซียังคงเป็นผู้บัญชาการ กองพันแนวหน้าในค่ายทิศเหนือ จะเพิ่มกองพันทหารม้าอีก 2 กองพัน เป็นกรมทหารม้าที่ 2”
“หลินยี่!”
“นายท่าน!” หลินยี่ก้าวออกมา
“ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นผู้บัญชาการกรมทหารที่ 2 และเจ้าจะเป็นผู้ดูแลการจัดตั้งมัน”
แม้ว่าเขาคิดอยู่แล้วว่าตัวเองจะถูกเลือก หลินยี่ก็ยังคงตื่นเต้นมาก หลังจากที่โอหยางโชวแต่งตั้งเขาเป็นผู้การ “ขอบคุณนายท่าน ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” ผู้การต้องใช้นายทหารขั้นกลาง ฉะนั้น หลินยี่จึงเหมาะสมกับตำแหน่งนี้
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวต่อว่า “ทางด้านตะวันออกของเมืองฉิวซุ่ย เราจะตั้งค่ายทิศตะวันออก โดยพวกเขาจะรับผิดชอบการป้องกันพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของดินแดน เช่นเดียวกัน ค่ายทิศตะวันออกจะจัดตั้งกรมทหารที่ 3 โดยโครงสร้างจะเหมือนกับกรมทหารที่ 1 ที่อยู่ค่ายทิศตะวันตก พวกเขาจะมีกอวพันทหารราบเกราะหนัก 2 กองพัน, กองพันทหารม้า 1 กองพัน, กองพันทหารหอก 1 กองพัน และกองพันทหารธนู 1 กองพัน โดยกองพันทหาทม้าเดิมของเมืองฉิวซุ่ยจะเป็นกองพันที่ 3 ของกรมทหารที่ 3”
ในความเป็นจริง เมื่อครั้งที่เขาจัดตั้งกองพันทหารม้าเมืองฉิวซุ่ย เขาก็คิดไว้แล้วว่า จะเตรียมมันไว้เป็นรากฐานสำหรับค่ายทิศตะวันออก ดังนั้น เขาจึงได้แยกกองพันทหารม้าออกจากกองพันป้องกันเมืองตั้งแต่แรก
โอหยางโชวหันกลับไปมองเอ้อหลาย ซึ่งเข้าร่วมการประชุมเป็นครั้งแรก โอหยางโชวยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ขุนพลเอ้อหลาย ท่านจะเป็นผู้บัญชาการของกรมทหารที่ 3 และเป็นผู้บัญชาการค่ายทิศตะวันออก”
“ขอรับนายท่าน!” เอ้อหลายก้าวออกมา แล้วโค้งคำนับเขา
ไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขา ชื่อเสียงของขุนพลผู้นี้เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน
“เนื่องจากลักษณะเฉพาะของทหารราบเกราะหนัก เราต้องเลือกทหารจากนักรบคนเถื่อนภูเขา ดังนั้น กรมทหารที่ 3 สามารถเลือกทหารสำรองไปเป็นกองพันทหารหอกและกองพันทหารธนูได้ ส่วนกองพันทหารราบเกราะหนักจะถูกพักไว้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พวกเขาจึงจะถูกจัดตั้งขึ้น” เอ้อหลายเพิ่งเข้ามาในเมืองซานไห่ ฉะนั้น เขาจึงไม่เข้าใจสถานการณ์มากนัก โอหยางโชวรู้สึกได้ว่าเขาต้องการคำอธิบาย
เอ้อหลายพยักหน้าเพื่อแสดงออกว่าเขาเข้าใจ
“สำหรับกรมทหารที่ 4 และ 5 พวกมันจะถูกพักไว้ชั่วคราว และคงจะยังไม่จัดตั้งขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้” โอหยางโชวกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ การขาดนายทหารขั้นกลาง ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่านี้ได้ เขามองไปรอบๆ และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้ ข้ามีบางอย่างจะสัญญากับทุกคน คือ นายทหารคนใดที่สามารถเลื่อนเป็นนายทหารขั้นกลางได้ จะได้รับตำแหน่งผู้การ ข้าขอให้ทุกคนพยายามอย่างหนัก อย่าได้ทำให้ข้าผิดหวัง”
เจ้าซีฮูและคนอื่นๆได้แสดงความอัปยศบนใบหน้าของพวกเขา เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถช่วยงานลอร์ดของพวกเขาได้ในครั้งนี้
โอหยางโชวกล่าวต่อว่า “ข้าจะรับตำแหน่งผู้บัญชาการชั่วคราว ส่วนทหารองครักษ์ของลอร์ด จะอัพเกรดเป็นกองพันทหารองครักษ์ และหวังเฟิงจะเป็นนายพันของพวกเขา” โอหยางโชวมองไปที่แล้ว แล้วกล่าวว่า “หวังเฟิง!”
“นายท่าน!”
“แม้ว่ากองพันทหารองครักษ์จะขยายเพิ่มขึ้น มาตรฐานจะต้องไม่ลดลง ข้าไม่คาดหวังว่าเจ้าจะทำได้ในทันที แต่พยายามคัดเลือกทหารชั้นสูงมาให้เร็วที่สุด เจ้าเข้าใจหรือไม่?”โอหยางโชวไม่ต้องการให้ไพ่ในมือของเขาอ่อนแอลง เนื่องจากการขยายเพิ่ม
“เข้าใจแล้วขอรับ!” หวังเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง
แฟนเพจ : TWOแปลไทย