ตอนที่แล้วบทที่ 31: ระฆังเหล็กดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33: สำรวจถ้ำ

บทที่ 32: ระยะปลอดภัย


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 32: ระยะปลอดภัย

เขาหันหน้าไปหาหานหลิงเฟิง แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการพูดความจริงเรื่องมิติลึกลับ แม้ว่าเขาจะต้องตายก็จะไม่มีวันพูดมันออกมา ดังนั้นเขาจึงตอบออกมาแบบสั้น ๆ “ในตอนนั้นข้าเพียงใช้คาถามันจึงเป็นสีทองแดงสดใส แต่ในครานี้ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นมันจึงกลับคืนสู่สภาพเดิม”

“โอ้ มันเป็นเช่นนี้นี่เอง!” หานหลิงเฟิงกล่าวตอบแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เจ้าอ้วนเกรงว่านางจะมีคำถามต่ออีก เขารีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องนั้น สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือหนี!”

หลังจากกล่าวจบ เขาจับมือหานหลิงเฟิงพร้อมเรียกเจ้าลิง พวกเขาทั้งหมดวิ่งไปยังน้ำตกใหญ่ภายใต้การคุ้มครองของระฆังเหล็กดำ แม้ว่าระฆังเหล็กดำจะครอบศีรษะพวกเขาไว้ยังคงมีเหล่าอีกาโลหิตที่พอมีมันสมองอยู่บ้างโจมตีเข้ามาด้านล่างของระฆัง แต่ก็เป็นเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นทำให้ง่ายต่อการจัดการพวกมัน พวกเขาเพียงแค่แกว่งดาบไปมาไม่ได้ลำบากยากเย็นอันใด

ตอนนี้สถานการณ์กำลังดีขึ้น อารมณ์ของทั้งสามคนผ่อนคลายขึ้นมาก หานหลิงเฟิงถามออกมาอย่างอดกลั้นอีกครั้ง “เจ้าอ้วน เนื่องจากเจ้านั้นมีอุปกรณ์วิเศษสำหรับการป้องกันชั้นเลิศ เหตุใดเราจึงไม่บินกลับออกไปจากที่นี่เสีย ? เหตุใดต้องมาซ่อนตัวในถ้ำกันเล่า ?”

“ข้าอยากอาเจียนเป็นเลือด!” เจ้าอ้วนตอบออกไปโดยไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะก่อนดี “เจ้าคิดว่าข้าเป็นเทพเจ้างั้นหรือ? ที่จะสามารถใช้เจ้าสิ่งนี้พร้อมบินกลับระยะหนึ่งหมื่นลี้? ข้าจะบอกอะไรให้ เจ้าระฆังเหล็กดำใช้ปราณจิตวิญญาณของข้ามากกว่าดาบบินเสียอีก ข้าสามารถควบคุมมันได้เช่นนี้เพียงชั่วโมงหรือครึ่งหนึ่งเท่านั้น และด้วยระยะเวลาเพียงแค่นั้น มันไม่เพียงพอสำหรับการบินออกจากเทือกเขาโลหิตแห่งนี้”

“โอ้ เจ้าอุปกรณ์นี้ต้องการปราณจิตวิญญาณอย่างมากงั้นสินะ!” หานหลิงเฟิงตอบกลับด้วยความตกใจ “ท่าทางของมันดูคล้ายว่าจะแข็งแกร่งมาก การขยายตัวของมันดูราวกับไร้ขีดจำกัด แน่ใจงั้นหรือว่านี่คือเหล็กสีดำจริง ๆ ?”

“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องสนใจเรื่องนั้นถูกต้องหรือไม่?” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างขื่นขมในขณะที่มือก็แกว่งดาบฆ่าพวกอีกาโลหิต เขากล่าวเสริม “สิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญในตอนนี้ ข้าได้ยินเสียงพวกอีกามากขึ้นกว่าเดิมราวกับว่าจำนวนของมันกำลังเพิ่มมากขึ้น”

เช่นเดียวกันเขารู้สึกได้ว่าระฆังของเขาเริ่มลอยต่ำลงเรื่อย ๆ ทำให้แน่ใจได้ว่าเหล่าอีกาพวกนั้นเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทำให้น้ำหนักของพวกมันกดทับลงมามากกว่าเดิม สิ่งนั้นสร้างปัญหาให้กับเจ้าอ้วนเพราะเขาเริ่มหายใจไม่คล่องแล้ว หลังจากใช้ระฆังที่ต้องการปราณจิตวิญญาณเพื่อลอยในอากาศ ตอนนี้ความกดดันเพิ่มมากขึ้นทำให้ระฆังต้องการปราณจิตวิญญาณเพิ่มอีก

เมื่อได้รับแรงกดที่เพิ่มขึ้น สีหน้าของเจ้าอ้วนบิดเบี้ยวไปเล็กน้อยแม้ว่าลูกบอลสายฟ้าที่เขาถือนั้นมิได้หามาอย่างง่ายดาย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ในเวลาเช่นนี้ เขารีบร่ายคาถาพร้อมกับโยนไข่มุกโปร่งใสออกไปที่ด้านบนของระฆัง

เกิดเสียงดังสนั่น เหล่าอีกาที่เกาะอยู่บนระฆังต่างกระเด็นหลุดลอยออกไป แม้ว่าการระเบิดนั้นจะมีแรงกระแทกส่งมายังระฆังเหล็กดำ แต่เจ้าอ้วนได้ทำการควบคุมรัศมีการระเบิดไว้ที่ขอบของระฆัง จึงทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบอันใดมากมายนัก

หลังจากที่พวกอีกาโลหิตตายไปจำนวนมาก ความกดดันของระฆังเหล็กดำก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ความเร็วของพวกเขาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ปริมาณของเหล่าอีกานั้นมากมายเกินไป พวกที่ถูกระเบิดของเจ้าอ้วนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สถานการณ์กลับมาเป็นเช่นเดิมอย่างรวดเร็ว เหล่าอีกาโลหิตเพิ่มจำนวนขึ้นพร้อมโจมตีจากทั้งด้านบนและด้านล่างด้วยความเกรี้ยวกราด พวกมันมอบกรงเล็บอันแหลมคมถาโถมใส่พวกเขาทั้งสาม

ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาทั้งสามทำได้แค่เดิมพันชีวิตของตน อสนีวารีขั้วลบถูกโยนออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องหานหลิงเฟิง เจ้าอ้วนและเจ้าลิงจงใจให้นางอยู่ตรงกลาง โดยเฉพาะเจ้าอ้วนที่หลายต่อหลายครั้งเขาต้องใช้แขนของตนเองเพื่อปกป้องนางจากเหล่าอีกาโลหิต แม้ว่าผิวหนังของเขาจะหนาและไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่มันก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด หากเพียงไม่กี่ครั้งคงไม่มีปัญหาใด หากแต่ว่าทุกครั้งของการโจมตีนั้นมิใช่เพียงแค่พวกมันจำนวนนับสิบ แต่ทว่าเป็นเหล่าอีกานับร้อย เจ้าอ้วนจึงต้องหลั่งเหงื่อออกมาเพราะความเจ็บปวดเหล่านั้น

ชะตากรรมของเจ้าลิงนับได้ว่าเลวร้ายที่สุด สภาพของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั้งร่างกาย ผิวหนังบนร่างกายของเขาหลายแห่งมีชิ้นเนื้อหลุดออกไป ร่างกายของเขาในตอนนี้คล้ายกับอสูรกายกระหายเลือด ภายใต้การปกป้องของบุรุษทั้งสอง หานหลิงเฟิงไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าใดนัก อย่างไรก็ตามนางสามารถรับการโจมตีได้ในบางครั้งเท่านั้น เสื้อผ้าของนางก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเช่นกัน

ในขณะที่ทั้งสามคนไม่อาจรับมือได้ไหวอีกต่อไป น้ำตกก็พลันปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า พละกำลังและความกล้าหาญของพวกเขาฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเริ่มสังหารเหล่าอีกาด้วยกำลังใจที่เปี่ยมล้น พร้อมกันนั้นจึงกระโดดลงน้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เหล่าอีกาโลหิตจึงไม่สามารถเข้าโจมตีได้อีกต่อไป พวกมันไม่อาจลงน้ำได้ อีกทั้งยังมีระฆังเหล็กดำอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทั้งสามคนปลอดภัย

อย่างไรก็ตามความปลอดภัยนี้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากปราณจิตวิญญาณของเจ้าอ้วนนั้นมีขีดจำกัด และเขาไม่สามารถคงสภาพระฆังเหล็กดำนี้ไว้ได้นาน พวกเขาจึงไม่สามารถรีรอและรีบพุ่งไปยังด้านหลังของน้ำตกทันที

น้ำตกมีขนาดใหญ่มาก มันสูงเจ็ดสิบถึงแปดสิบฟุตและกว้างกว่าร้อยฟุต ปล่องภูเขาไฟภายในก็ใหญ่โตขนาดเทียบเท่ากับผู้ใหญ่หนึ่งคน ความโชคดีของทั้งสามคือพวกเขาคือผู้ฝึกตนจึงทำให้สามารถเดินบนผิวน้ำได้ นี่เป็นคาถาพื้นฐานที่เหล่าผู้ฝึกตนทุกคนจะต้องเรียนรู้ มันสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย เจ้าอ้วนและเจ้าลิงมิได้ฝึกฝนมันเท่าไหร่นัก ดังนั้นเมื่อพวกเขาต้องการจะใช้มันจึงกลายเป็นเพียงครึ่งบนของร่างกายเท่านั้นที่พ้นผิวน้ำ แต่สำหรับผู้ฝึกตนแบบคู่เช่นหานหลิงเฟิง นางเข้าใจมันอย่างถ่องแท้จึงเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับนาง จึงทำให้ภาพที่ออกมาราวกับนางฟ้าเดินอยู่บนผิวน้ำ แน่นอนว่าคงเป็นเช่นนั้นหากเสื้อผ้าของนางมิได้เต็มไปด้วยคราบเลือด

ระฆังที่ปกป้องพวกเขาจากด้านบนทำให้น้ำตกไม่ได้ส่งผลกระทบอันใดมากนัก พวกเขาเดินผ่านน้ำตกมาอย่างง่ายดายพร้อมกับหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขที่จะได้พบถ้ำอยู่ด้านหลัง

“สวรรค์มิได้บดบังเส้นทางของผู้เดินดิน!” เจ้าอ้วนตรงปรี่ไปช่วยเจ้าลิงทันที เขาเก็บระฆังเหล็กดำพร้อมกับเริ่มใช้ยากับเจ้าลิง

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าลิงจะดูรุนแรงมากเพราะเขาผ่านการถูกกัดมานับหมื่นครั้ง เขาสูญเสียเนื้อในร่างกายไปสองจิน หลังจากที่เจ้าอ้วนใช้ยาคุณภาพสูง อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็คลี่คลาย ความเร็วในการฟื้นตัวสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขากลับมามีชีวิตชีวาอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าเกรดของยานั้นมีราคาที่ทำให้ใครหลายคนอกสั่นขวัญหาย ยาที่ต้องใช้จำนวนมากในการรักษาเจ้าลิงมันมีค่าทัดเทียมได้กับหินจิตวิญญาณหลายพันก้อน แต่เจ้าอ้วนยินดีจะจ่ายมันออกไปเพื่อพี่น้องของเขา หากเป็นศิษย์คนอื่น ๆ คงไม่ได้รับยาดีเช่นนี้ อันที่จริงเหล่ายาสามัญก็สามารถทำให้ฟื้นตัวได้ภายในสองหรือสามเดือนเพราะว่าเส้นเอ็นและกระดูกไม่ได้ถูกทำลายแต่อย่างใด

เจ้าลิงเองก็ทราบดี แม้ไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนจ่ายไปมากมายเพียงใด แต่ก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “พี่น้องอ้วน เพียงแค่ใช้ยาปกติสามัญก็เกินพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาระดับสูงเช่นนี้”

“มันจะน่าเกลียดอย่างมากหากมีรอยแผลเป็นมิใช่หรือ? แต่เดิมเจ้าก็น่าเกลียดอยู่แล้ว และหากมีรอยแผลที่น่าเกลียดเหล่านี้เพิ่มอีก ในอนาคตเจ้าจะพบเจอเจ้าสาวของเจ้าได้อย่างไรกัน?” เจ้าอ้วนแกล้งแหย่เจ้าลิงอย่างโล่งใจ

แม้ว่าเจ้าอ้วนจะพูดจาล้อเล่น เจ้าลิงก็ยังรู้สึกได้ถึงความกังวลในน้ำเสียงของเขา ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ยอมใช้ยาราคาแพงเหล่านี้ เขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใดพร้อมหัวเราะออกมาด้วยความขมขื่น “รอยแผลเป็นของบุรุษนั้นหมายถึงสิ่งใด? นอกจากนี้ข้าคือนักบวชลัทธิเต๋า อีกทั้งยังไม่ต้องการคู่ฝึกฝน!”

“เฮ้ เจ้าเด็กน้อย เจ้าหาใช่ขันทีไม่แต่กลับอยากใช้ชีวิตเช่นขันทีงั้นหรือ เจ้าอยากให้ข้ากล่าวอันใดกัน?” เจ้าอ้วนส่ายหัวพร้อมกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้

เจ้าลิงก็ไร้คำพูดใด ๆ เพียงแค่จ้องมองไปที่เจ้าอ้วนด้วยสายตาขื่นขม

หานหลิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป จึงตำหนิเจ้าอ้วนในขณะที่หัวเราะไปด้วย “เจ้าอ้วน คำพูดของเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก!”

“ฮี่ฮี่ พวกเราเองก็ด้วย!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาขณะที่เขากำลังหายาให้กับหานหลิงเฟิง

อาการบาดเจ็บภายนอกของหานหลิงเฟิงฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้สถานที่ปักหลักกันเรียบร้อย หานหลิงเฟิงถามออกมาด้วยความอยากรู้ “เจ้าอ้วน เหตุใดร่างกายของเจ้าจึงไม่มีเลือด เจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของเหล่าอีกาโลหิตงั้นหรือ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเป็นผู้ฝึกฝนร่างกาย? หรือมันผิดพลาด? ในตอนนี้เจ้าสามารถใช้คาถาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เจ้าก็ควรเป็นผู้ฝึกตนเวทมนตร์สายฟ้า นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นมิใช่หรือ?”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด