บทที่ 32 ลำแสง
บทที่ 32 ลำแสง
"อ่า ... ไม่ไม่ ลูลู่ อย่าพูดแบบนั้นหรอก การสนับสนุนคุณคือการให้ ถ้าเราสามารถกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้จริงฉันจะสนับสนุนคุณต่อไปเพราะคุณเป็นผู้ถ่ายทอดที่มีพรสวรรค์มาก "พังฮั่วตอบลูลู่
“ฉันมีพรสวรรค์มาก?”ลูลู่ไม่มั่นใจใน เสียงของเธอทำให้เธอสงสัยว่าเขาพูดถึงอะไร เมื่อเธออยู่ในบ้านของเธอในโลกแห่งความเป็นจริงในอินเตอร์เน็ตมีผู้คนจำนวนมากที่ชื่นชมเธอแต่ก็มีคนจำนวนมากเช่นกันที่ประนามเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบปะกับแฟนตัวยงแล้วได้พูดคุยกับแฟนคลับ
“คุณโดดเด่นจริงๆ! ครั้งแรกที่ผมดูคุณออกอากาศคุณเป็นสาวสวยที่เล่นเกมในตอนนั้นความประทับใจของผมที่มีต่อคุณยังไม่มากนักผมคิดว่าคุณสวยมากแต่นับตั้งแต่วันนั้น…….พังฮั่วเริ่มคิดถึงอดีต
“วันอะไรล่ะ?”ลูลู่มีความอยากรู้อยากเห็นจากสิ่งที่พังฮั่วเล่า
“มีวันหนึ่งระหว่างที่คุณกำลังออกอากาศคุณได้ร้องเพลง [See You Again] มันทำให้หัวใจของผมเต้นไปตามจังหวะที่คุณร้อง หลังจากช่วงเวลานั้นผมก็ไม่สามารถลืมคุณได้อีกเลยแล้วจากนั้นทุกคืนผมก็จะเฝ้ารอการออกอากาศของคุณ” พังฮั่วเผยสายตาหวานซึ้งรำลึกอดีตราวกับชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงของความรัก
“ฉันจำไม่ได้…”ลูลู่แสดงความเสียใจ เธอมีแฟนคลับมากเพราะเธอเป็นนักประกาศข่าวเกมส์หญิงแม้ว่าเธอจะเป็นโฆษกเธอก็สามารถร้องเพลงด้วยเสียงที่นุ่มนวลของเธอ ดังนั้นแม้ในระหว่างการออกอากาศบางทีเธอก็มักจะพูดคุยและร้องเพลงเล็กน้อย แน่นอนว่าเพลงที่เธอร้องนั้นเธอจำไม่ได้ว่าร้องเพลงอะไรไปบ้างขณะที่พังฮั่ว พูดถึงมัน
“ลูลู่คุณสามารถร้องเพลง[See You Again]อีกครั้งได้ไหม? พังฮั่ว ถามลูลู่
“ตอนนี้ฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะร้องเพลง…” ลูลู่ส่ายหัวกินได้ก็บอก ถ้าเธออยู่ในห้องออกอากาศในตอนนี้เธอยินดีที่จะให้ความบันเทิงกับแฟนเพลงของเธอแต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้มันไม่ใช่
พังฮั่วพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วไม่ได้พูดอะไรออกมาในภายหลัง ตอนนี้เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้อยู่กับลูลู่
“เจ้าอ้วนถ้าฉันไม่ได้กลับไปในคืนนี้หรือวันต่อต่อไปหรือแม้จะเป็นเดือนแฟนแฟนของฉันจะลืมฉันหรือเปล่า?”ลูลู ่ถามพังฮั่วเป็นความกังวลหลักของเธอว่าเหตุใดเธอจึงไม่มีอารมณ์ในตอนนี้
“แน่นอนว่าไม่ลืมพวกเราเป็นแฟนคลับของคุณ แม้คุณไม่อยู่สัก 2- 3 วันหรือกี่เดือนเราจะรอจนกว่าคุณกลับมา”พังฮั่วรีบบอกลูลู่ ในฐานะแฟนตัวยง
“เจ้าอ้วนคุณเป็นคนดีจริงๆ! ฉันไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่จนกว่าที่เราจะกลับออกไปได้…”ลูลู่พูดขณะที่เธอกำลังจะหลับอยู่บนเตียง ในเวลานี้น่าจะเป็นเวลาที่เธอกำลังออกอากาศแต่เมื่อเธอถูกขังอยู่ที่นี่แฟนคลับของเธอคงต้องผิดหวังจริงๆ
เธอรู้ดีว่าพังฮั่ว พยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะปลอบใจเธอ
“ไม่ต้องกังวลเราจะต้องหาทางออกจากที่นี่ได้”พังฮั่วรีบกล่าว
ลูลู่เริ่มเงียบเสียงลง นอนบนเตียงด้วยดวงตาที่ปิดสนิท ติดอยู่ในโลกใบนี้เธอไม่รู้สึกถึงความปลอดภัย ต้องระวังซอมบี้และตอนนี้เธอก็ต้องระวังตัวมากขึ้นถ้ารู้ว่ากฎหมายและระเบียบไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้ มนุษย์จะกลายเป็นเหมือนสัตว์ร้ายในโลกที่วุ่นวายนี้เพศหญิงไม่ได้รับการคุ้มครองท้ายสุดแล้วพวกเขาจะกลายเป็นของเล่นของผู้ชาย
ตั้งแต่ที่ลูลู่ เงียบๆ พังฮั่ว ก็เริ่มกรนอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้ว ลูลู่ รู้สึกประทับใจในความสามารถในการนอนหลับอย่างรวดเร็วในสถานการณ์นี้ของพังฮั่ว
ในขณะเดียวกันบนระเบียง….
หลิวกำนั่งอยู่ที่ระเบียง ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือโฟกัสการสนทนาระหว่างพังฮั่วและลูลู่ เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนราวกับว่าเขานั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขามั่นใจได้ว่าการได้ยินแล้ววิสัยทัศน์ของเขาดีขึ้นกว่าเดิม
หลังจากฟังบทสนทนาของพวกเขา หลิวกำ รู้ว่าการตัดสินใจของเขาเกี่ยวกับทั้ง 2 คนถูกต้องแล้ว พวกเขาทั้งสองยังคงมีจิตใจที่ดีแล้วก็ไม่ได้คิดวางแผนลอบทำร้ายดังนั้นการอยู่กับพวกเขาจะค่อนข้างปลอดภัยอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะซุ่มโจมตีในขณะที่เขากำลังหลับ
แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่าเขาจะหลับยามเฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้คุณไม่สามารถวางใจคนอื่นได้อย่างสมบูรณ์มีแต่ต้องเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น
ลมพัดแรงขึ้นลงที่ซอย ถนนด้านล่างมืดไร้การเคลื่อนไหว ลมกรรโชกแรงและพัดแรงมากถือว่าผู้เล่นที่โชคดีที่จะรอดชีวิตคงไม่มาเดินอยู่รอบรอบในเวลานี้หากไม่มีผู้เล่นเหล่านี้ซอมบี้จะไม่ตื่นตระหนกและจะไม่เคลื่อนไหว
ดูเหมือนว่าตอนนี้โลกจะเงียบยกเว้นเสียงลมที่พัดตามรอยร้าวของบ้านและสายฟ้าที่ร้องไกลออกไปราวกับว่าเสียงมันอยู่ใกล้ๆ
ที่ขอบฟ้าพายุฝนฟ้าคะนองค่อยๆกระหน่ำเสียงกระหึ่มของฟ้าผ่าทำให้เกิดเสียงสนั่นชั่วคราวต่อมาเสียงหยดฝนตกจากฟากฟ้าก็ลงสู่พื้นดิน
ด้วยแสงประกายของฟ้าแลบทำให้เห็นเงาของตึกระฟ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ในทิศทางห่างออกไปด้วยเงาทำให้เกิดภาพหลอนขนาดใหญ่มีแต่แสงสายฟ้าที่เด่นชัดด้านบนของตึกระฟ้า หลิวกำ ค่อนข้างคุ้นเคยกับแท่งทรงสูงนี้อยู่ในทางทิศเดียวกับลานกว้างพลาซ่าใกล้กับอาคารบริษัทซานซิงมีหอคอยสูงประมาณ 100 ชั้น
เมื่อความถี่ของฟ้าผ่าสูงขึ้นประกายแสงบนตึกระฟ้าทำให้ หลิวกำ สงสัยอย่างมากในตอนนี้ มันเหมือนกับว่ามีแสงไฟจากตึกระฟ้าได้ดึงฟ้าผ่าเข้ามาหรือว่ามันจะมีอุปกรณ์เกี่ยวกับสายล่อฟ้าหรือไม่? อาจมีการทดลอง ทำไมถึงมีอัตราการเกิดฟ้าผ่าสูง? 90% ของฟ้าผ่าทั้งหมดลงมาที่อาคารตึกระฟ้า
การคาดเดาเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีความหมาย เพราะ หลิวกำ ไม่สามารถที่จะรู้ได้
หลิวกำนั่งเก้าอี้ใกล้กับกำแพงในขณะที่มองไปข้างนอกเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เขาเฝ้าดูฝนตกอย่างช่วยไม่ได้เขาคิดถึงเวลาที่เขาถูกขังอยู่บนป้ายโฆษณา การคิดถึงคราวนี้มันเป็นการกระตุ้นความทรงจำที่ต้องอยู่คนเดียวในวิวล่าบนภูเขา ในวันที่เหงา….
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงดูเหมือนจะมาจากชีวิตที่แตกต่างกันช่วงที่เขาใช้ชีวิตผ่านมาหลังจากที่ถูกตัดแขนขาอย่างน้อย 1 ปี หลิวกำ รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นเพียงกระสอบเดินได้ กินแล้วนอนและนอนแล้วกิน ในขณะที่เขานอนหลับเขาจะฝันร้ายไม่มีที่สิ้นสุดและตื่นมาอีกครั้งเพื่อดูว่าแขนขาของเขาถูกตัดออกไปแล้วนั่นคือความจริงมันเป็นวงจรที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่เขามักจะพบตัวเองระหว่างฝันร้ายกับความจริง
เช่นเดียวกับตอนนี้ทั้งหมดอาจเป็นเพียงฝันก็ได้ เขามีแขนขาและเขาอยู่ที่โลกที่น่าสะพรึงกลัวนี้ เมื่อนาฬิกาของเขาแสดงความเมื่อยล้าเป็นสีแดงเข้ม หลิวกำ ก็กำลังใกล้ถึงขีดจำกัดของเขาเขาค่อยๆคลอนแคลนแต่เขาก็พยายามทำให้ดีที่สุด
ฝนพรมลงใบหน้าของเขาทำให้เขารู้สึกถึงสายลมและความเย็น หลิวกำ กลับมามีความรู้สึกของเขาแล้วเช็ดใบหน้าและสังเกตที่มือของเขา
ฝนยังคงปกติไม่ได้เป็นเหมือนโฆษณาของเกมที่มันแสดงเป็นฝนเลือด