เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (1)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 2 ตอนที่ 5 : วงกตแห่งวาฬขาว (1)
ด้านนอกหมู่บ้านฮารันเป็นพื้นที่การล่าที่เหล่าผู้เล่นมือใหม่ต่างใช้เวลาทั้งคืนออกหาเป้าหมายอย่างพวกหมาป่า
และ ณ ที่นี้ก็มีผู้เล่นคนใหม่ปรากฏกายเข้ามา
เป็นชายสูงอายุท่าทางแข็งแรงคนหนึ่ง มีหนวดเคราเล็กน้อยอายุประมาณสี่สิบปี ชื่อตัวละครว่า จัสติสแมน ชื่อผู้เล่นจริงก็คือจีวอนฮวารัง ชายผู้ซึ่งเคยทำอาชีพที่หาได้ยากยิ่งอย่างนักสืบเลือดร้อน
*ผู้แปล : จัสติสแมน แปลว่า ผู้ผดุงความยุติธรรม*
ปฏิกิริยาแรกของจัสติสแมนที่เผยออกมานั้นไม่ต่างจากคนอื่น เขาเผยความประหลาดใจขณะมองดูทัศนียภาพรอบตัวที่สมจริง อีกทั้งร่างของเขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยความที่มีผู้เล่นใหม่ปรากฏกายขึ้น ฮานเซ็นที่เดินเตร่ไปมาอย่างไม่มีอะไรให้ทำจึงเร่งร้อนเข้ามาเริ่มสนทนาด้วย จากนั้น เมื่อเขาแนะนำงานล่าหนูให้ จัสติสแมนจึงลูบหนวดของตนขณะกล่าวถาม “มันเป็นงานที่ยาก?”
“ไม่ ไม่ต้องกังวลไป ไม่ว่าใครก็ทำงานนี้ได้ ข้าเพียงแค่คอยแนะนำงานที่เหมาะสมกับคนต่างถิ่นเช่นเจ้าที่มา ณ ที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกและยังไม่รู้ว่าควรทำอะไร”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นสามารถเรียกผมได้ทุกเมื่อ”
จัสติสแมนพยักหน้ารับและกล่าวลาพร้อมออกไปจากหมู่บ้าน ตลอดทางนั้นเขาเดินด้วยขาที่กระแผลกข้างหนึ่ง
ด้วยความที่การเคลื่อนไหวของตัวละครในเกมเป็นผลมาจากการสแกนสมอง ในนิวเวิร์ลด์จึงไม่มีปัญหาเรื่องความทุพลภาพทางร่างกาย สำหรับผู้ที่ไม่อาจเคลื่อนไหวขาได้หรือกระทั่งตาบอด ย่อมสามารถที่จะเดินหรือมองเห็นสิ่งที่อยู่ในเกมได้ เป็นเพราะเหตุนี้ กระทั่งในโรงพยาบาล เกมเสมือนจริงจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่คอยบำบัดอาการทางจิตใจให้กับผู้ที่หมดทางรักษาแล้วได้
ทว่า มันก็มีหลายกรณีที่ร่างกายไม่ตอบสนองจนเกิดนิสัยที่แก้ได้ยาก กรณีนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับจัสติสแมน จะอย่างไรนี่ก็เป็นเวลาสองปีแล้วที่ขาของเขาถูกลืมเลือนสัมผัสการเดินตามปกติไป อย่างน้อย ขาของเขาก็ไม่ใช่อุปสรรคยามที่เล่นเกม
จัสติสแมนออกจากหมู่บ้านไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อข้ามผ่านทุ่งหญ้าไป ผู้เล่นทั้งหลายต่างกำลังไล่ล่าหมาป่า เช่นเดียวกัน พวกเขาต่างใช้ดาบหรือไม่ก็อาวุธระยะประชิดในการต่อสู้หาได้ใช้ปืน
นี่เป็นภาพที่เกินกว่าจินตนาการว่าจะได้พบเห็นในชีวิตจริง
จากนั้น เขาพลันได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวขึ้นจากทางด้านข้าง
“หวา ชะ-ช่วยด้วยค่ะ!”
ขณะที่เขาหันศีรษะไปจึงมองเห็นผู้เล่นสาวคนหนึ่งกำลังโดนโจมตีโดยพวกสุนัขป่าและกำลังมุ่งมาทางนี้
“หยุด!”
ขณะที่เขาถอดชุดคลุมออกและโยนไว้ด้านข้าง จัสติสแมนได้เข้าไปขวางทางสุนัขป่าเอาไว้
เมื่อมีศัตรูใหม่โผล่มา สุนัขป่าจึงเบนสายตามา ทว่าเมื่อพบว่าเป็นผู้เล่นใหม่ที่ไม่มีกระทั่งอาวุธใด สุนัขป่าจึงแทบจะหัวเราะออกมา สายตาฆ่าฟันพลันบังเกิดขึ้นในดวงตา จากนั้นมันจึงเริ่มหอนออกพร้อมแยกเขี้ยวออกจากปาก
สำหรับผู้ที่ยังใหม่ต่อเกมเสมือนจริงนี่สมควรตกใจ ทว่า แทนที่จะหวาดกลัว รอยยิ้มสดชื่นพลันปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของจัสติสแมน
‘ความรู้สึกแบบนี้ นี่มันก็นานแล้วสินะ ทำให้นึกถึงตอนที่ไปท่องเที่ยวในอเมริกาใต้เหมือนกัน’
กรร! กรร! กรร!
สุนัขป่าพลันพุ่งเข้าใส่ นัยน์ตาของจัสติสแมนจึงเคลื่อนไหวรวดเร็วขณะอ่านการเคลื่อนไหวของสุนัขป่า
‘มีช่องโหว่!’
ร่างของจัสติสแมนเคลื่อนมุ่งไป
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นดั่งสายน้ำ มันสมควรเรียกว่าเร็ว หาได้ใช่เชื่องช้า สายตาของเขาจ้องมองไปยังลำคอของสุนัขป่า ขณะที่หมุนร่างนั้น เขาพลันคว้าจับสุนัขป่าแล้วโยนข้ามศีรษะไป
ด้วยพละกำลังอันเหลือเชื่อ สุนัขป่าลอยลิ่วไปหลายเมตรก่อนจะร่วงหล่นลงกับพื้นพร้อมพลังชีวิตหายไปสี่ในสิบ
นี่เป็นท่าโยนข้ามไหล่ที่พบเห็นได้ในหนังสือสอนท่ายูโด!
ถูกต้องแล้ว ก่อนที่เขาจะเกษียณตัวเองออกมา จัสติสแมนเป็นหนึ่งในตำนานนักยูโดอันดับสูงในหมู่กรมตำรวจ
ในการแข่งขันยูโดของกรมตำรวจแห่งชาติ หลายครั้งที่เขาเป็นผู้มีความสามารถจนคว้าเอาที่หนึ่งหรือสองจากการแข่งขันมาได้ ทว่า ความสามารถแท้จริงของเขาไม่ได้ส่องประกายแค่ในเพียงการแข่งขัน
เขาเคยมีประสบการณ์การทำงานเป็นตำรวจพิเศษที่รับหน้าที่งานอาชญากรรม งานที่ต้องรับหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย กระทั่งถูกจ้างงานให้ไปยังอเมริกาใต้ในฐานะสารวัตรตัวแทนชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ คงไม่กล่าวเกินเลยหากจะพูดว่าจัสติสแมนคือบุคคลในตำนานแห่งสมรภูมิคนหนึ่ง
เพียงแค่กระบองของตำรวจ เขาก็สามารถใช้รับมือกับพวกกลุ่มที่ก่ออาชญากรรมที่มีทั้งปืนและมีดพกได้ และครั้งหนึ่งเขายังเคยใช้มือเปล่าขับไล่สุนัขป่าที่รุกล้ำหมู่บ้านในทวีปอเมริกาใต้ได้ จนถึงขนาดที่ว่าตำรวจในอเมริกาใต้ต่างเรียกเขาว่า จัสติสแมน สัตว์ประหลาดแห่งตะวันออก
ในสายตาคนอื่นอาจมองว่านี่เป็นงานที่อันตราย ทว่าจัสติสแมนกลับรู้สึกภาคภูมิในสายงานของตน
ความรู้สึกไม่พอใจหากไม่ทวงถามความยุติธรรมออกมานั้นไม่อาจเป็นจริงได้หากใช้ชีวิตธรรมดา แม้ว่าเขาจะอยู่ในสังคมสมัยใหม่ แต่จิตวิญญาณแห่งอัศวินยุคกลางของเขายังคงถ่ายทอดออกมาได้ด้วยศิลปะการต่อสู้และความยุติธรรมที่เหนือสิ่งอื่นใด
‘ไม่ได้ฝึกมาสักพักแล้วสินะ แต่ดูเหมือนความรู้สึกที่เคยมีจะยังไม่หายไปไหน’
จิตวิญญาณของเขาพังทลายไปตอนที่ได้รับบาดเจ็บและฟื้นตัวขึ้นมา
สำหรับเขาแล้ว สุนัขป่าพวกนี้ไม่ต่างอะไรไปจากลูกสุนัข
สุนัขป่ากระเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมเผยอุ้งตีนด้านหน้า ขณะเดียวกันลวดลายโลหิตหนาพลันพาดผ่านท้องของเขา จัสติสแมนนั้นสูญเสียพลังชีวิตไปครึ่งหนึ่ง ในเมื่อผู้เล่นเลเวล 1 หาญกล้าท้าทายสุนัขป่าเลเวล 4 นี่เป็นผลที่ปกติธรรมดามาก แต่แทนที่จะหวาดกลัว สิ่งที่จัสติสแมนรู้สึกกลับเป็นความตื่นเต้น
“ดีเลย คงไม่สนุกนักถ้าแกจะล้มลงแค่นั้น”
ร่างกายที่หนักอึ้งของจัสติสแมนก้มลงกับพื้นขณะที่เข้าไปใกล้ เขาคว้าเอาสุนัขป่าไว้ก่อนที่จะเหวี่ยงขาหน้าของมันให้บิด
หนึ่งในความแข็งแกร่งของเขาคือท่าล็อคแขน!
ขาหน้าของสุนัขป่าที่โดนคว้าจับเอาไว้ส่งเสียงกระดูกหักออกมา ทว่าสุนัขป่านั้นกลับไม่มีเวลาให้แม้กระทั่งส่งเสียงร้อง จัสติสแมนพลันบิดอีกครั้งและเปลี่ยนสลับข้าง พลังชีวิตของมันเริ่มลดลงทีละน้อยราวกับโดนสูบเอาออกไป
หลังจากที่สุนัขป่าโดนจัดการเรียบร้อย เด็กสาวจึงเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีลังเล
“ขะ-ขอบคุณค่ะ”
ดวงตาของจัสติสแมนพลันสั่น
เขาช่วยเหลือและได้รับคำขอบคุณ
มันเป็นความรู้สึกที่เขาลืมเลือนไปนานยิ่งแล้ว!
ขณะที่ทำงานในฐานะนักสืบ เขาต้องจับอาชญากรนับครั้งไม่ถ้วน นั่นเป็นความยุติธรรมอันแน่นอน แต่การจะได้รับคำขอบคุณหลังจัดการปัญหาเสร็จสิ้นแล้วนั้นหาพบได้ยากยิ่ง ในเมื่อเขาเป็นนักสืบ การจับผู้ร้ายย่อมเป็นงานที่สมควรกระทำ
ความเป็นจริงนั้น จัสติสแมนไม่ได้จับอาชญากรเพื่อทวงถามคำขอบคุณ แต่ผู้ที่ทำให้เป้าหมายของเขายากลำบากยิ่งขึ้นกลับไม่ใช่เหล่าอาชญากร
เมื่อผู้ร้ายถูกจับตัว เขาจะได้ยินคำก่นด่าสาปแช่งจากครอบครัวของพวกเขาเหล่านั้น นอกจากนี้ หากเกิดบาดแผลใดขึ้นกับคนร้ายขึ้นมา พวกนักสิทธิมนุษย์ชนหรือสื่อก็ต่างคอยจ้องที่จะเล่นงานโดยไม่ไว้หน้า กระทั่งเขาต้องนอนโรงพยาบาลเพราะได้รับบาดเจ็บที่ขา เสียงจากภายนอกส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นการก่นด่าเขาอย่างไม่คิดหยุดยั้ง เหล่านักข่าวกระทั่งใช้บันไดพาดขึ้นมาทางหน้าต่างเพื่อถ่ายรูปเขาไปลงด้วยซ้ำ
ผู้บังคับบัญชาทางสายงานโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้เขา
มันเป็นครั้งแรกที่จัสติสแมนรู้สึกสงสัยต่อหน้าที่การงาน
เขาเพียงแค่ต้องการเติมเต็มความยุติธรรมที่ได้รับการสอนมาจากสถาบันตำรวจ คนร้ายต้องได้รับการลงโทษ และผู้อ่อนแอต้องได้รับความช่วยเหลือ มันคือสิ่งที่เขาได้เรียนรู้และอยากกระทำตาม
แต่ความจริงนั้นไม่ง่าย เขารู้สึกราวกับตนได้กลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ที่พร้อมถูกโยนทิ้งขว้าง
‘แต่ไม่ใช่กับที่นี่!’
เขาที่ช่วยเหลือไปได้รับคำขอบคุณกลับมา ไม่มีใครที่กล่าวหาว่าเขาใช้กำลังเกินกว่าเหตุ เขาสามารถปล่อยให้ใจของตนนั้นไหลไปพร้อมกับศิลปะการต่อสู้ที่เขาทอดทิ้งเพราะไม่อาจใช้งานออกได้
‘ที่แห่งนี้ นี่คือที่ที่เราตามหา!’
ปณิธานอันแรงกล้าเริ่มพลุ่งพล่าน
นับจากนี้ จัสติสแมนได้กลายเป็นผู้โค่นล้มสุนัขป่าที่ออกตระเวนไปทั่วท้องทุ่ง ยามที่มีใครสักคนมีท่าทีคล้ายจะโดนสุนัขป่าเข้าจัดการ เขาจะยื่นมือออกไปช่วยเหลือ พวกสุนัขป่านับได้ว่าไม่มีปัญหา แต่บางครั้งเขาก็ตายไปเพราะเข้าช่วยเหลือผู้เล่นที่โดนเหล่าหมาป่ารุมล้อม ทว่าจัสติสแมนกลับไม่เคยกล่าวคำต่อว่าอันใด กลับกัน เขาได้หัวเราะออกราวกับได้ทำสิ่งที่สมควรทำไป
กระทั่งว่ามีผู้เล่นบางคนประทับใจและคิดพยายามตอบแทนเขา
“จัสติสแมนนิม นี่อาจเป็นขนมปังราคาถูก แต่โปรดรับไว้”
“ชุดของคุณขาดแล้วนี่? ถ้าคุณไม่รังเกียจชุดพลังป้องกัน 2 นี่ล่ะก็...”
จัสติสแมนส่ายศีรษะอย่างมั่นคง
“รับสิ่งตอบแทนขัดต่อหลักการของฉัน... ไม่ ความยุติธรรมไม่ต้องการรางวัล”
จากนั้น เขาจึงวิ่งออกตระเวนราวสายลมค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
ด้วยความที่สามารถล้มสุนัขป่าและหมาป่าได้ด้วยเลเวล 1 เลเวลของเขาจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่เคยชำเลืองมองหน้าต่างสถานะที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าจัสติสแมน เขาทุ่มเททุกสิ่งไปกับค่าพละกำลังและความอดทน
“ลูกผู้ชายย่อมต้องเลือกพละกำลังและความอดทน!”
ขณะที่เขาสู้ซ้ำไปมาหลายครั้งในศึกที่ยากลำบาก ทักษะใหม่และค่าสถานะใหม่จึงถูกสร้างขึ้น
=====
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่
=====
ยิวยิตสู (ขั้นต้น, มีผลต่อเนื่อง) : ท่านได้เรียนรู้ยิวยิตสู ที่ซึ่งเป็นพื้นฐานของรากฐานแห่งความยอดเยี่ยมทางกายภาพและการตอบสนอง
ยิวยิตสูเป็นทักษะที่ใช้แรงของศัตรูเข้าต้านทานและมอบความเสียหายกลับคืน มันเป็นเทคนิคการคว้าจับที่ผสมผสานเข้ากับแนวคิดของหยินและหยาง
ล็อคข้อต่อที่ใช้กับการเคลื่อนไหวของมนุษย์จะส่งผลให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวของศัตรูลดลงมหาศาล ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับศัตรูจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้การทุ่ม ล็อคคอ และล็อคข้อต่อ
*ยิวยิตสู เป็นรากฐาน ภายหลังได้ลดทอนความรุนแรงลงจนพัฒนาเป็น ยูโด*
=====
ค่าสถานะใหม่ถูกสร้างขึ้น
ความยุติธรรม (+5) : ความยุติธรรมเป็นค่าสถานะพิเศษที่จะมอบให้กับผู้ที่มีใจยุติธรรมคิดช่วยเหลือผู้อื่น
เมื่อผู้เล่นที่มีค่าสถานะความยุติธรรมเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเข้าช่วยเหลือ ทุกค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนของค่าความยุติธรรม ภูมิต้านทานความหวาดกลัว ความสับสน และเวทมนตร์เสน่ห์จะถูกสร้างขึ้นตามจำนวนของค่าความยุติธรรม
ทุกผู้คนในนิวเวิร์ลด์จะมีแนวคิดที่ดีต่อผู้ที่มีความยุติธรรม หลายผู้คนที่จดจำพรสวรรค์ของท่านจะร้องขอความช่วยเหลือจากท่าน และถ้าหากท่านช่วยเหลือพวกเขา ท่านจะสามารถได้รับค่าความสัมพันธ์ในอัตราที่สูงมาก ค่าสถานะพิเศษไม่สามารถเพิ่มได้โดยวิธีปกติ มันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อท่านเข้าช่วยเหลือผู้อื่น
=====
‘ยิวยิตสูนี่หมายถึงยูโด? กับค่าสถานะความยุติธรรมนี่ เราสามารถมองว่าเป็นความก้าวหน้าทางการงานได้สินะ’
ยิวยิตสูก็ดี แต่เขาดูจะชอบอกชอบใจกับค่าสถานะที่เรียกว่าความยุติธรรม ในโลกความเป็นจริง แม้จะช่วยเหลือผู้อื่นแต่สิ่งที่ได้ก็มีแค่ความพึงใจส่วนบุคคล กระทั่งโดนเพื่อนร่วมทีมชมเชย พวกเขาก็มักจะหลงลืมอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป แต่ ณ ที่แห่งนี้ ความยุติธรรมสามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้ เขาสามารถได้รับเป็นจำนวนโดยทันทีจากความพยายามของตนเอง ค่าสถานะความยุติธรรมนี้ยิ่งทำให้จัสติสแมนมีแนวทางที่แรงกล้ามากขึ้น
ความคิดเห็นของเหล่าผู้เล่นที่มีต่อจัสติสแมนเริ่มแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
“ไม่มีทางที่เขาจะเป็นผู้เล่น ไม่มีกระทั่งดาบสั้นให้ใช้ด้วยซ้ำ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะออกตระเวนไปทั่วโดยไร้ชุดเกราะป้องกันได้”
“ผู้เล่นอะไรกันที่จะยอมตายเพื่อผู้อื่น?”
“ไม่มีผู้เล่นคนไหนใช้ชื่อน่าอายอย่าง จัสติสแมน หรอกน่า”
“ฉันว่าเขาน่าจะเป็นเอ็นพีซีอีเวนท์ที่เป็นมิตรต่อผู้เล่นใหม่นะ”
“แต่บางครั้งเขาก็ถามเรื่องเลเวลกับค่าสถานะอยู่นะ? เอ็นพีซีคงไม่ถามงั้นหรอก”
จัสติสแมนเริ่มกลายเป็นความลึกลับแห่งหมู่บ้านฮารัน และนับแต่นั้น บ่อยครั้งที่เขาจะถูกเรียกว่า มาโซแมน แทนที่จะเป็น จัสติสแมน
*มาโซ หมายถึง ผู้ที่ชื่นชอบความเจ็บปวด หรือเจ็บตัว*
จัสติสแมนกลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นเสียยิ่งกว่าเอ็นพีซี
“เฮ้ มาโซแมนโดนพวกหมาป่าล้อมอยู่แน่ะ”
“ไปกัน ไปช่วยมาโซแมน!”
“แต่พลังชีวิตพวกเราเหลือไม่มากแล้วนะ...”
“แต่พวกเราก็ต้องช่วย พวกเราได้เขาช่วยเหลือเอาไว้เยอะ จะเมินเฉยเขาไม่ได้นะ”
“นายพูดก็ถูก ไปช่วยมาโซแมนกัน!”
เหล่าหมาป่าที่กำลังโจมตีใส่จิสติสแมนต่างตกตะลึง
เพียงแค่หมาป่าสามหรือสี่ตัวกลับโดนผู้เล่นกว่าสามสิบคนล้อมเอาไว้ ในหมู่พวกเขายังมีโรโค่ที่ยังคงติดแหงกอยู่ที่หมู่บ้านฮารันร่วมวงอยู่ด้วย
* * *