ตอนที่แล้วสยบทุกสิ่งด้วยกำลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแข่งขันประจำปี

เข้าร่วมนิกาย


ตอนที่4 เข้าร่วมนิกาย

 

“ใช้พลังปราณเยอะจริงๆ”เทียนถางนั้นกล่าวออกมาเพราะว่าพลังปราณในร่างถูกดูดกลืนไปอย่างรวดเร็ว เทียนถางรีบเรียกขวดโอสถปราณเงินออกมาและเริ่มกลืนลงไปทันที มินานร่างกายพลังปราณที่ใช้ไปของเทียนถางก็กลับมาเป็นเช่นเดิม

 

หนึ่งวันผ่านไป

หลังจากผ่านไปหนึ่งวันเทียนถางก็สูญเสียขวดโอสถปราณเงินไปกว่าห้าสิบขวด ภายในวันนั้นมินานเทียนถางก็สามารถที่จะสร้างหอกน้ำแข็ง ขนาดห้านิ้วยาวห้าเมตร เทียนถางนั้นขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะว่าเทียนถางนั้นมิอาจจะสามารถที่จะขยายหอกน้ำแข็งได้อีกแล้ว มินานก็มีข้ารับใช้ของฉิงเทียนเดินเข้ามาเทียนถางจึงพยักหน้าและออกไป

 

“ไปเถอะหลานถาง”เมื่อเทียนถางมาถึงฉิงเทียนก็กล่าวออกมา เทียนถางพยักหน้าพร้อมกับที่ฉิงเทียนก็พาเทียนถางไปสมัครเข้าร่วมนี้กายเมื่อเทียนถางมาถึงใจกลางนิกายผู้คนมากมายก็จ้องมองมาที่มันอย่างดูถูกและรังเกียจเมื่อเห็นฉิงเทียนอยู่ด้านหน้าของเทียนถางคนเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความสับสนที่ผู้อาวุโสของนิกายแสงตะวันมาอยู่ในที่แห่งนี้

 

“ท่านฉิงเทียนเหตุใดท่านจึงมาที่นี้”หนึ่งในชายชราที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะสีแดงใจกลางนิกายก็กล่าวออกมา นั้นทำให้ผู้คนมากมายก็หันมาสนใจที่ฉิงเทียนและเทียนถาง

“ข้าพาหลานมาสมัครเข้าร่วมนิกาย”ฉิงเทียนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้ทุกคนจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยความอิจฉาบางคนก็เต็มไปด้วยความดูถูก ชายชราจ้องมองไปที่เทียนถางก่อนที่จะยิ้มให้ฉิงเทียนและคุยเริ่มรายระเอียดเกี่ยวกับการเข้านิกายและการทดสอบการเข้านิกาย ในการเข้านิกายการทดสอบสามอย่างคือหนึ่งการทดสอบพลังปราณต้องมากกว่าหรือเท่ากับระดับเดรัจฉานขั้นสี่ สองคือการความเร็วในการผ่านค่ายกลหยก สามคือการต่อสู้กับหนึ่งในผู้ทดสอบ เพียงรับการโจมตีให้ได้สามครั้งเท่านั้น

 

“เข้าไปเถอะ”ฉิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมกับที่พาเทียนถางเข้าไปที่พื้นที่การทดสอบ เมื่อเข้ามาถึงผู้คนมากมายก็จ้องมองมาที่ฉิงเทียนและเทียนถาง มีคนมากมายอยู่ที่นั้นบางคนมาคนเดียวบางคนมากับผู้อาวุโสประจำตระกูล เทียนถางนั้นมีได้สนใจมันทำเพียงเข็นรถตามฉิงเทียนไป

 

“ท่านฉิงเทียนท่านก็พาคนมาทดสอบด้วยหรือ”คนผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาฉิงเทียนและกล่าวถาม

“ใช้แล้วข้าพาหลานมาทดสอบเข้าร่วมนิกาย”ฉิงเทียนนั้นกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ชายคนนั้นตกตะลึงเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองมาที่เทียนถาง ซึ่งเมื่อได้เห็นหน้าตาอันอัปลักษณ์ของเทียนถางมันก็เต็มไปด้วยความสับสนมินานมันก็พูดคุยเล็กน้อยก่อนที่จะจากไป

 

“เทียนถางเจ้าชนะได้แน่นอน”ฉิงเทียนกล่าวออกมาอย่างจริงจังแววตาของมันเต็มไปด้วยความสุขสันต์ เทียนถางพยักหน้าและเข็นรถไปที่หยกทดสอบพลังเมื่อมือของเทียนถางว่างลงไปปรากฏตัวอักษรขึ้นมาว่า เดรัจฉานขั้นที่สี่ นั้นทำให้ทุกคนจ้องมองมาที่เทียนถางอย่างดูถูก เทียนถางไร้ซึ่งความสนใจมันมุ่งหน้าไปที่ลานทดสอบที่สอง

 

เมื่อมาถึงมีผู้ยืนอยู่หน้าประตูขนาดใหญ่เพื่อเข้าสู่ค่ายกลภาพมายาขนาดใหญ่ เทียนถางมีได้สนใจมันเข็นรถเข้าไปหาชายคนนั้น ชายคนนั้นจ้องมองที่เทียนถางอย่างรังเกียจก่อนที่จะเปิดประตูให้เทียนถาง เทียนถางมิได้สนใจมันเข็นรถเข้าไปในประตูมินานก็ปรากฏภาพมายาของการฆ่าฟันการสังหารคนผู้บริสุทธิ์มากมาย

 

“นี้....เป็นไปได้เช่นใด”มินานเกินสองชั่วโมงเทียนถางก็ออกมาจากประตูนั้นทำให้ผู้เฝ้าอยู่ตกตะลึงมันกล่าวออกมาอย่างมิอาจที่จะเชื่อได้และยังมีผู้อาวุโสจำนวนมากที่แอบดูอยู่คนเหล่านั้นต่างตกตะลึงแม้แต่ฉิงเทียนที่เข้ามาดูด้วยก็ยังตกตะลึงมากเช่นกันทุกคนจ้องมองไปที่ฉิงเทียนที่ได้กล่าวว่าเทียนถางคือหลานของมันนั้นทำให้เหล่าผู้อาวุโสอิจฉาที่มีเหล่าเช่นนี้

 

“เจ้าทำได้เช่นใดกันนั้นคือภาพมายาที่เจ้าควรจะหวาดกลัวมัน”ชายที่ยืนเฝ้าประตูกล่าวถามเสียงดัง เหล่าผู้อาวุโสมากมายที่เฝ้าดูอยู่ต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้เช่นกัน

“ข้ามิเคยหวาดกลัวสิใดแม้แต่ความตาย ข้าขอตัว”เทียนถางกล่าวออกมาสงบแววตาของมันเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย มันเข็นรถไปที่สนามทดสอบที่สามโดยที่มิได้สนใจใบหน้าที่ตกตะลึงของผู้ยืนเฝ้าประตูเลย ผู้อาวุโสมากมายเองก็ตกตะลึงเช่นกันมิมีผู้ใดคาดคิดว่าเด็กอายุราวสิบหกสิบเจ็ดจะกล่าวออกมาเช่นนี้ได้

 

“เจ้าคนพิการนี้ผ่านการทดสอบมาถึงที่ได้เช่นนั้นหรือ”เมื่อเทียนถางมาถึงก็มีเสียงของบางคนดังขึ้นเทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะจ้องมองไปที่ลานประลอง ชายสวมชุดคลุมสีดำมีสัญลักษณ์ของด้วยตะวันที่กำลังส่องแสงอยู่กลางอก เทียนถางจ้องมองมันอย่างดูถูกก่อนที่จะยกรถเข็นให้ลอยขึ้นไปบนลานประลองนั้นทำให้ทุกผู้คนตกตะลึงมากที่เทียนถางสามารถความคุมปราณได้ดีเช่นนี้

 

“ข้ามิมีเวลามาเสียกับคนเช่นเจ้าเข้ามาเถอะ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างมิแยแสและดูถูกเยาะหยัน นั้นทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่เตเมไปด้วยความเกรี้ยวกราดมันพุ่งเข้าใส่เทียนถางด้วยความเร็วสูงและเช่นเดิมเทียนถางเคาะนิ้วลงที่รถเข็นหนึ่งครั้ง

 

“ตูม ตูม ตูม”ร่างของชายหนุ่มถูกทับลงกับพื้นแต่มันยังคงมิยอมแพ้มันระเบิดพลังปราณออกมาอย่างรุนแรง ระดับของชายหนุ่มนั้นคือระดับมนุษย์ขั้นที่เจ็ดซึ่งต่างจากเทียนถางเป็นอย่างมากเสียงเคาะครั้งที่สองก็ดังขึ้น น้ำหนักพุ่งสูงขึ้นถึงหนึ่งตัน ชายหนุ่มจ้องมองที่เทียนถางด้วยความดูถูกก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง

 

“ตูม ฟุม”เมื่อเสียงเคาะครั้งที่สามดังขึ้นน้ำหนักก็พุ่งเข้าเป็นสองตันนั้นทำให้ความเร็วของชายหนุ่มก่อนหน้านี้ลดลงไปเกินครึ่งแต่มันก็ยังพุ่งตรงเข้าหาเทียนถาง นั้นทำให้เทียนถางยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะเรียกหอกน้ำแข็งออกมาหนึ่งเล่มและส่งมันพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มนั้นทำให้ทุกผู้คนที่อยู่โดยรอบตกตะลึงในความสามารถของเทียนถาง

 

“ซวก อ้ากกกกกก”เสียงของเนื้อที่ถูกฉีกออกดังขึ้นหอกน้ำแข็งแทงเข้าไปที่ไหล่ขวาของชายหนุ่มมันกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดนั้นทำให้ทุกผู้คนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่มิใช้แค่นั้นร่างกายของชายหนุ่มค่อยถูกหอกน้ำแข็งกลืนกินด้วยความเร็วสูง

 

“ฟุม ตูม”ปรากฏร่างเงาของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงเข้าทำลายหอกน้ำแข็งก่อนที่จะพยุงร่างของชายหนุ่มพร้อมกับนำโอสถบางอย่างให้ชายหนุ่มทาน เมื่อช่วยเหลือชายหนุ่มเสร็จมันก็ลุกขึ้นพร้อมกับระเบิดพลังระดับมังกรออกมา ก่อนที่จะจ้องมองมาที่เทียนถาง นั้นมิได้ทำให้เทียนถางหวาดกลัวเลยมันจ้องมองตอบราวกับมิมีสิ่งใดเลย

 

“เจ้าผ่านการทดสอบแต่เรื่องที่จะทำร้ายลูกชายข้ามีจบง่ายเช่นนี้แน่”แต่เมื่อชายวัยกลางคนสามารรถที่จะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของเหล่าผู้อาวุโสที่เฝ้าดูอยู่มันก็เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดก่อนที่จะกล่าวออกมา นั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน

 

“นี้คือชุดและตราประจำนิกายของเจ้า”ชายวัยกลางคนกล่าวออกมาและโยนชุดคลุมกับตราประจำนิกายลงไปบนพื้นก่อนที่จะอุ้มร่างของลูกชายก่อนที่จะพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง เทียนถางมิได้สนใจแม้แต่น้อยมันสะบัดมือดูดของทั้งสองมาและเก็บเข้าไปในแหวนมิติ นั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่าเทียนถางครอบครองแหวนมิติมันคือสิ่งที่มีราคาเป็นอย่างมาก

 

“ลุงเทียนข้าว่าเราควรกับได้แล้วนะขอรับ”เทียนถางเข็นรถลงมาจากลานประลองก่อนที่จะกล่าวออกมาฉิงเทียนประหลาดใจเล็กน้อยที่ถูกจับได้เช่นนี้ มันปรากฏตัวด้านข้างของเทียนถางและเข็นรถของเทียนถางออกจากพื้นที่การทดสอบเพื่อกลับไปที่บ้านพักของมัน

 

“หลานถางเจ้าจะต้องไปรับตำราทักษะที่ตำหนักทักษะวันไหนหรือ”ฉิงเทียนกล่าวถามด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก

“พรุ่งนี้ขอรับ ข้าต้องการหาทักษะเกี่ยวกับธาตุน้ำนะขอรับ”เทียนถางกล่าวตอบอย่างชัดเจนนั้นทำให้ฉิงเทียนประหลาดใจมากที่เทียนถางมีพลังปราณธาตุน้ำทั้งที่เป็นไปได้อย่างที่บุรุษเพศจะเกิดมาพร้อมธาตุน้ำในร่างเช่นนี้ทั้งยังมีหอกน้ำแข็งนั้นอีก ฉิงเทียนรับรู้ได้ว่ามีใช้ทักษะที่สร้างมันขึ้นมาแต่เป็นพลังปราณของเทียนถางเอง

 

“เจ้าพักเถอะพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่ตำหนักทักษะเอง”ฉิงเทียนมาส่งเทียนถางที่บ้านพักก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า เทียนถางพยักหน้าและยิ้มตอบ มินานฉิงเทียนก็จากไปเทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันและรีบขวดโอสถปราณเงินออกมาก่อนที่จะทานเอาไปถึงสิบเม็ดปราณในร่างกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าต้องหาทางที่จะช่วยให้ข้าเพิ่มพลังให้มากกว่านี้เพียงไม่นานพลังปราณในร่างก็หมดลง”เทียนถางพึมพำออกมาอย่างเจ็บใจเพราะว่าเทียนถางนั้นเพียงใช้พลังไปเพียงมินานเท่านั้นแต่พลังปราณในร่างกับหมดลงอย่างรวดเร็ว เทียนถางหลับตาลงเพ่งสมาธิลงไปที่ตันเถียนทั้งหมดคงสภาพเดิมมิมีสิ่งใดเติมโตขึ้นเลยนั้นทำให้เทียนถางหงุดหงิดเล็กน้อย

 

“มีบางสิ่งที่ข้าพลาดไปหรือ”เทียนถางพึมพำออกมาอีกครั้งก่อนที่จะค้นความทรงจำเกี่ยวกับการฝึกยุทธ ปรากฏภาพความทรงจำเกี่ยวกับการบีบอัดพลังภายในของร่างกายซึ่งจะทำให้พลังปราณในร่างเข้มจ้นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาล เทียนถางจึงได้ยิ้มและลองดูทันทีเทียนถางเพ่งสมาธิทั้งหมดลงไปที่เส้นชีพจรในร่างกายของมัน

 

ภายในเส้นชีพจรมีพลังปราณที่ราวกับหมอกอยู่นั้นทำให้เทียนถางเข้าในว่าการบีบอัดพลังนั้นคือการที่จะต้องทำให้หมอกเหล่านี้รวมเข้าด้วยกัน เทียนถางค่อยๆหลอมรวมปราณทั้งหมดทันทีหมอกทั้งหมดเริ่มจับกลุ่มกัน โดยที่ร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนไปร่ากายของเทียนถางเริ่มดูดซับพลังอำนาจของผืนฟ้าและผืนโลกด้วยความเร็วที่สูงขึ้นมาก

 

พลังปราณในร่างกายของเทียนถางที่เหมือนกับหมอกตอนนี้กลายเป็นของเหลวสีฟ้าเข้มนั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มเพราะว่าตอนนี้เทียนถางรู้สึกว่าพลังของมันแข็งแกร่งขึ้นรวดเร็วมาก มินานพลังปราณในร่างกายทั้งหมดของกลายเป็นของเหลวสีฟ้าเข็มและร่างกายภายนอกก็มีของเหลวสีดำไหลออกมาจำนวนมาก

 

เทียนถางมิได้สนใจมันเพ่งสมาธิลงไปที่ตันเถียนปรากฏว่าภายในตันเถียนนั้นต้นไม้ใหญ่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเช่นกัน ดอกไม้ที่อยู่ที่พื้นเกาะเติบโต้ขึ้นมากและปลดปล่อยไอเย็นออกมาจำนวนมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า เทียนถางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและได้ลืมตาขึ้นก่อนที่จะไปอาบน้ำนอนในเช้าวันรุ้งขึ้นฉิงเทียนก็เข้ามาหาเทียนถางที่บ้านพัก

 

ทั้งสองตรงไปที่ตำหนักทักษะตั้งแต่เช้าเลย ผู้อาวุโสที่ดูแลตำหนักตกตะลึงเล็ดน้อยที่ฉิงเทียนมากับเทียนถางฉิงเทียนพยักหน้าให้ผู้ดูแลเล็กน้อยก่อนที่จะเข็นเทียนถางไปที่ด้านใน เทียนถางจ้องมองไปที่รอบๆ ภายในตำหนักทักษะมีทั้งหมดสามชั้น ซึ่งเทียนถางที่ได้เป็นเพียงศิษย์สายนอกก็สามารถที่จะเลือกได้เพียงชั้นแรกเท่านั้น

 

“ลุงจะปล่อยให้เจ้าเลือกทักษะลุงจะนั่งรออยู่นี้นะ”ฉิงเทียนเข็นรถมาส่งก่อนที่จะกล่าวออกมาและชี้ไปที่โต๊ะที่อยู่ใกล้ เทียนถางพยักหน้าและเข็นรถเข้าไป

“ข้าต้องหาข้อมูลต่าง”เทียนถางพึมพำออกมาและเข็นรถเข้าไปด้านในสุดก่อนที่จะไล่อ่านตำราจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถในอดีตของโอดินจึงทำให้เทียนถางเรียนรู้สิ่งใดได้รวดเร็วมาซึ่งเมื่อมาอยู่ในร่างนี้ปัญญาของโอดินก็ยังคงอยู่ เทียนถางจำทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว

 

หนึ่งในตำราที่เทียนถางอ่านนั้นก็คือตำราเกี่ยวกับภูตพราย เทียนถางได้รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ใดตันเถียนของมันทั้งหมดเมื่ออ่านจบ ต้นไม้ใหญ่มีนามว่าต้นไม้แห่งชีวิตคือสิ่งที่จะเชื่อมต่อชีวิตกับต้นไม้ใหญ่และแสดงออกมาเป็นรูปลักษณ์ เมื่อกับที่เมื่อโรคปราณเผาผลาญกำเริบต้นไม้แห่งชีวิตได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงฉาน ดอกไม้สีน้ำเงินเหล่านั้นมีนามว่าดอกไม้แห่งอำนาจเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ที่ดูดซับพลังของผืนฟ้าและผืนโลกและเปลี่ยนมาเป็นพลังปราณนั้นเอง

 

สิ่งสุดท้ายที่เทียนถางคิดว่ามันจะได้ครอบครองก็คือบ่อน้ำใจกลางเกาะในตันเทียนของมัน เทียนถางคิดว่าเมื่อมันฝึกทักษะ ปราณจิตภูต จนสมบูรณ์มันจะได้ครอบครองสิ่งที่เรียกว่า บ่อน้ำแห่งราชาภูต ซึ่งในตำรามิได้เขียนบอกว่าทำสิ่งใดได้แต่เทียนถางคิดว่าจะต้องได้ครอบครองมันแน่ เทียนถางเข้ามานานมากพอแล้วมันคือได้เลือกตำราธาตุน้ำมาหนึ่งเล่มที่มีนามว่า มังกรสมุทรขย้ำ เป็นตำราระดับสามเท่านั้นชั้นแรกของตำหนักมีเพียงแค่ระดับสามเท่านั้นที่อยู่ในระดับสูงที่สุด เทียนถางมิพบตำราเกี่ยวกับร่างกายหรือดวงตาเลย

 

“หลานเลือกได้แล้วหรือ”ฉิงเทียนถามอย่างยินดีเมื่อเห็นว่าเทียนถางออกมาแล้ว

“ข้าเลือกได้แล้ว”เทียนถางกล่าวตอบก่อนที่จะยื่นตำราให้ฉิงเทียนนั้นทำให้ฉิงเทียนประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปที่ตำรามังกรสมุทรขย้ำและพยักหน้าตอบก่อนที่จะพาเทียนถางไปหาผู้ดูแลตำหนักทักษะผู้ดูแลตรวจสอบตำราเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าและนำตำรารายชื่อออกมาพร้อมกับที่ได้เรียกนามของเทียนถางและหมายเลขของตราประจำนิกายลงไป

 

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นฉิงเทียนก็ขอตัวไปทำธุระเทียนถางเองก็กลับไปที่บ้านพักก่อนที่จะเริ่มฝึกทักษะ มังกรสมุทรขย้ำ โดยที่ทักษะนี้จะมีอยู่สามบทที่ บทที่หนึ่งควบคุมน้ำได้ดั่งใจ บทที่สองเปลี่ยนรูปลักษณ์ของน้ำได้ดั่งใจ บทที่ สร้างมังกรสมุทรได้ตามจำนวนของปราณในร่าง เทียนถางเริ่มฝึกทักษะ มังกรสมุทรขย้ำ ทันที

 

เพียงมินานเทียนถางที่สามารถควบคุมวัตถุได้ดั่งใจก็สามารถที่จะบรรลุบทแรกได้อย่างง่ายดาย ปรากฏก้อนน้ำขนาดใหญ่ในสวนหน้าบ้านพักของเทียนถางจับกลุ่มกับเป็นก้อนลอยขึ้นจากพื้น เทียนถางมิได้หยุดมันเริ่มเปลี่ยนรูปร่างของก้อนน้ำทันที ซึ่งด้วยความสามารถของเทียนถางที่สามารถสร้างหอกน้ำแข็งได้อย่างง่ายดายนั้นมันจึงทำให้เปลี่ยนรูปร่างของก้อนน้ำได้อย่างง่ายดาย มินานร่างกายของเทียนถางก็รู้สึกถึงบางอย่าง

 

เทียนถางหลับตาลงเพ่งสมาธิลงไปที่ตันเถียนปรากฏว่าดอกไม้แห่งอำนาจของเทียนถางเติบโตขึ้นรวดเร็วมาก ดอกไม้แห่งอำนาจนั้นดูดกลืนพลังปราณในร่างของเทียนถางรวดเร็วขึ้นมหาศาลนั้นทำให้เทียนถางตกตะลึงมันลืมตาขึ้นก่อนที่จะลดมือลงก้อนน้ำแตกออกมันรีบหยิบโอสถปราณฟ้าและโยนเข้าไปในปากก่อนที่จะเพ่งสมาธิไปที่ตันเถียนอีกครั้ง

 

เกิดพายุน้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้นในตันเถียนเทียนถางรับรู้ได้ว่าพายุน้ำแข็งที่รุนแรงนี้เกิดจากดอกไม้แห่งอำนาจ ต้นไม้แห่งชีวิตเองก็ดูดซับพลังของพายุน้ำแข็งด้วยความเร็วสูงมันขยายตัวขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มินานก็ปรากฏบ่อน้ำสีดำที่ใจกลางเกาะมันเล็กมากแต่ก็ค่อยๆขยายขึ้นเรื่อยๆ ลากของดอกไม่แห่งอำนาจไหลไปตามพื้นมุ่งตรงไปที่บ่อน้ำแห่งราชาภูตมินานบ่อน้ำก็ขยายจนใหญ่ สิบเมตรคูณสิบเมตร เทียนถางจ้องมองลงไปที่บ่อมันรับรู้ได้ว่าตอนนี้มันได้เลื่อนเข้าสู่ระดับเดรัจฉานขั้นที่ห้าแล้ว

 

เมื่อเทียนถางลืมตาขึ้นมันก็รู้สึกว่าร่างกายของมันดีขึ้นแข็งแกร่งขึ้นและมีบางอย่างเกิดขึ้นที่หน้าของมัน เทียนถางเข็นรถไปที่กระจกปรากฏว่าหน้าตาของมันเปลี่ยนไปมากตอนนี้แผลเป็นทั้งหมดบนหน้าได้หายไปเหลือเพียงด้วยตาขวาที่ปิดอยู่และขาที่ยังใช้งานมิได้เท่านั้น ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของเทียนถางเล็กน้อย

 

“คุณชายเทียนถางเกิดสิ่งใดขึ้นกับท่าน”หญิงรับใช้ที่นำอาหารเข้ามาให้ตกตะลึงมากเมื่อเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของเทียนถาง เทียนถางในตอนนี้หล่อเหลามากร่างกายก็กลับมาสมบรูณ์และยังมีสีของเส้นผมที่เปลี่ยนไปเป็นสีฟ้าอ่อนและดวงตาที่สีเขียวอ่อนงดงามกลายเป็นสีเขียวเข้มสว่างไสวและยังงดงามยิ่งกว่าก่อนหน้า

 

“มิมีสิ่งใดข้าเพียงแค่พึ่งจะสำเร็จการฝึกเท่านั้น”เทียนถางกล่าวตอบโดยมิได้โกหกและยังเข็นรถไปรับอาหารจากมือของสาวใช้ก่อนที่จะเข็นกลับมาทานที่โต๊ะ หญิงรับใช้รีบโค้งคำนับและจากไปนางรีบนำสิ่งที่นางเห็นไปกล่าวกับฉิงเทียนมินานฉิงเทียนก็มาหาเทียนถาง

 

“หลานถางใบหน้าเจ้า”ฉิงเทียนในตอนแรกมิอาจเชื่อสิ่งที่หญิงรับใช้กล่าวแต่เมื่อมันได้มาเห็นกับตามันก็ตกตะลึงมากและกล่าวถามอย่างสับสน

“ข้าสำเร็จทักษะบางอย่างจึงทำให้ใบหน้าของข้าได้รับการรักษาขอรับ”เทียนถางกล่าวตอบไปตามความจริงนั้นทำให้ฉิงเทียนที่ตกตะลึงอยู่เต็มไปด้วยความสับสนก่อนที่จะยิ้มออกมา ถึงเส้นผมจะกลายเป็นสีฟ้าอ่อนแต่ใบหน้านั้นยังคงเดิมเหมือนกับตอนยังเด็กและเติบโตขึ้นเท่านั้น

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด