อินเว่ย
ตอนที่27 อินเว่ย
“วิ้ง ฟุม ตูม”การต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงคลื่นปราณของเพลิงและเหมันพุ่งออกไปทั่วทั้งอาณาจักรที่กว่างใหญ่นี้ ทุกคนเต็มไปด้วยความสับสนเพราะว่ามิคิดว่าราชันย์สองคนจะมาต่อสู้กันเช่นนี้เลยด้วยพลังของทั้งสองจึงทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นจำนวนมาก
“องค์ราชาตอนนี้จักรพรรดิเหมันไร้รูป รินหลงจีกำลังปะทะกับจักรพรรดิเพลิงบริสุทธิ์ จอมทัพหลงไคของรับ”ข้ารับใช้ภายในพระราชวังวิงไปมาอย่างรวดเร็วและหนึ่งในนั้นวิ่งเข้ามาในห้องโถงขนาดใหญ่ใจกลางพระราชวัง มันคุกเข่าลงหน้าบัลลังก์ที่เต็มไปด้วยกระบี่จำนวนมากปักอยู่บนพื้นที่ล้อมรอบตัวของชายวัยกลางคนเส้นผมสีแดง ดวงตาสีแดงฉานยิ่งทำให้มันดูน่าเกรงขาม ข้ารับใช้กล่าวออกมาอย่างจริงจังแววตาของมันปรากฏความหวาดกลัว
“สร้างปัญหาให้ข้าอีกแล้วตระกูลหลงกับตระกูลรินสินะ”ราชาแห่งอาณาจักรกรงเล็บมังกรก็กล่าวออกมา มันลุกขึ้นและพุ่งออกมาไปอย่างรวดเร็วศาสตราวุธมากมายที่ปักอยู่ก็หายไปทันทีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วพุ่งกระชากอากาศพร้อมกับที่มุ่งหน้าไปหาหลงไคกับรินหลงจี
“หยุดพวกเจ้าจะทะเลาะกันเพื่อสิ่งใดกัน”มินานก็ปรากฏอยู่เหนือการต่อสู้มันคำรามออกมาอย่างดุร้ายเมื่อเสียงคำรามที่รุนแรงหลุดออกมาจากบ้าทั่วทั้งอาณาจักรก็สั่นสะเทือน เทียนถางรับรู้ได้ว่าชายที่อยู่เหนืออากาศนั้นอยู่ในระดับราชันย์ขั้นที่ห้า และยังมีความสามารถที่มากมายอีกด้วยเพราะเทียนถางรับรู้ได้ว่าชายผู้นั้นอายุเพียงแค่สามสิบปีเท่านั้น
“จักรพรรดิหมื่นศาสตราวุธ มิใช้สิราชาอินเว่ย”รินหลงจูกล่าวออกมาอย่างเย็นชาและการต่อสู้ก็หยุดลงทั้งสามลงมาที่พื้นและจ้องมองกันและกันอย่างเย็นชา เทียนถางยิ้มก่อนที่จะโบกมือหลงไคจึงได้กลับเข้ามาภายในบ้านนั้นทำให้รินหลงจีและอินเว่ยประหลาดใจมาก เพราะมิคิดว่าหลงไคจะทำตามที่เทียนถางได้กระทำเช่นนี้เลย
“ที่นี้คือพื้นที่ของตระกูลพวกท่านโปรดออกไปด้วยเพราะพวกท่านมิได้รับเชิญในงานเฉลิมฉลองนี้”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างมิแยแสนั้นทำให้ทั้งสองตกตะลึงเข้าไปอีก รินหลงจีพยายามที่จะเข้ามาจัดการเทียนถางแต่หลงไคก็มายืนอยู่ด้านหน้าของเทียนถางปลดปล่อยจิตสังหารออกมาทันที อินเว่ยประหลาดใจมากและสนใจในตัวของเทียนถางเป็นอย่างมาก
“รินหลงจีเจ้าและคนของเจ้ากกลับไปซะ”อินเว่ยกล่าวออกมาอย่างเย็นชาและจิตสังหารก็ถูกปลดปล่อยออกมาเช่นกันนั้นทำให้คนตระกูลรินตัดสินใจที่จะถอยออกไปก่อน และอินเว่ยก็เดินมาด้นหน้าของเทียนถางที่มีหลงไคขวางอยู่
“ท่านต้องการสิ่งใด”เทียนถางกล่าวถามออกมาอย่างจริงจังเพราะมันสัมผัสได้ว่าชายที่มีนามว่าอินเว่ยผู้นี้ประหลาด อินเว่ยจ้องมองไปที่เทียนถางก่อนที่จะจ้องมองไปที่กระบี่เพลิงผลาญสวรรค์ในมือของหลงไค มันเรียกกระบี่ออกมาและฟันเข้าใส่หลงไคด้วยพลังระเบิดราชันย์ขั้นที่สอง หลงไคฟันเข้าปะทะโดยมิลังเล
“เจ้าเป็นผู้สร้างมันเช่นนั้นสิ”เมื่อกระบี่ทั้งสองปะทะกันก็เกิดคลื่นพลังยุทธจำนวนมากพุ่งออกไปทั่วทิศพื้นที่ล้อมรอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและกระบี่ของอินเว่ยก็เกิดรอยร้าว อินเว่ยประหลาดใจมากมันหันไปกล่าวกับเทียนถางด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เทียนถางมิต้องและมิได้จ้องมองมันตอบแม้แต่น้อย แต่นั้นก็มิได้ทำให้อินเว่ยโกรธเลย
“พี่ไคท่านขายมันให้กับข้าได้หรือไม่”อินเว่ยหันไปกล่าวกับหลงไคด้วยรอยยิ้มแต่เทียนถางกับยิ้มออกมาอย่างขบขันเพราะมิคิดว่าอินเว่ยจะทำเช่นนี้ หลงไคเองก็สับสนแต่เทียนถางก็ส่ายหัวเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาราวกับเด็กของอินเว่ยเช่นนี้ หลงไคส่ายหัวตอบอินเว่ยเศร้าเล็กน้อยและจากไปทันที นั้นทำให้เทียนถางประหลาดใจ
“ราชาแห่งอาณาจักรกรงเล็บมังกรนี้ประหลาดนักตอนแรกเขาราวกับอสูรร้ายแต่เมื่อครู่เขาราวกับเด็กเล็กๆ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างขบขันและนั้นทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง มินานเทียนถางก็กับไปพัก
เช้าวันต่อมา
เทียนถางตื่นขึ้นในตอนเช้าเพราะว่ามีเสียงของการฝึกอย่างหนักอยู่หน้าบ้านพักของมัน เทียนถางจึงได้อาบน้ำก่อนที่จะออกไปดูเมื่อไปถึงปรากฏหลงอู่กำลังฝึกซ้อมกับหลงหนาน หลงหวิน ทั้งสามปะทะกันอย่างรุนแรงแต่หลงอู่ก็ยังออมแรงเอาไว้โดยที่มันใช้พลังระดับมังกรขั้นที่สิบแทน เทียนถางเองก็จ้องมองด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม
“พี่ไคข้าอยากได้กระบี่ผลาญสวรรค์โปรดขายให้ข้าเถอะ”ระหว่างฝึกเสียงของบางคนก็ดังขึ้นเทียนถางสนใจเล็กน้อย คนที่เดินมาก็คือหลงไคและอินเว่ยที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เทียนถางสนใจเล็กน้อยแต่ก็เลิกสนใจในเวลาเพียงพริบตา
“เด็กน้อยเจ้าข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะสร้างมันได้อีกหรือไม่ข้าอยากได้กระบี่ดีๆสักเล่ม กระบี่ที่ข้ามีอยู่ในระดับมังกรขั้นต่ำทั้งหมดข้าอยากได้กระบี่ระดับมังกรขั้นกลางหรือสูงกว่า”อินเว่ยสังเกตเห็นเทียนถางจึงได้พุ่งเข้ามาด้านหน้าและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง เทียนถางประหลาดใจเล็กน้อยที่อินเว่ยขอร้องมันเช่นนี้ทั้งที่อยู่ในระดับราชันย์ขั้นที่ห้า
“ถ้าท่านสามารถที่จะหาวัตถุระดับราชันย์มาให้ข้าได้ข้าสามารถที่จะสร้างศาสตราวุธระดับราชันย์ให้ข้าได้”เทียนถางกล่าวตอบอย่างเย็นชานั้นทำให้อินเว่ยตกตะลึงแม้แต่หลงไค หลงหนาน และหลงหวิน พวกมันทุกคนจ้องมองไปที่เทียนถางอย่างสับสน เทียนถางโบกมือให้หลงอู่และหลงอู่ก็เรียกดาบออกมาปลดปล่อยพลังของศาสตราวุธระดับครึ่งก้าวก่อนราชันย์ออกมา
“นี้คือดาบราชันย์อสรพิษคู่ ศาสตราวุธที่นายท่านได้มอบให้ข้า”หลงอู่กล่าวออกมาอย่างจริงจังและนั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความสับสนและตกตะลึง แต่อินเว่ยเต็มไปด้วยความสุขมันหันกลับมาพยักหน้ากับเทียนถางและสะบัดมือสร้างพลังปราณห่อหุ้มเทียนถางและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลงอู่และหลงไคพุ่งตามออกไปอย่างดุร้ายทันที
“ข้าจะพาเจ้าไปที่พระราชวังของข้าและข้าจะให้เจ้าได้เห็นสมบัติของข้า”อินเว่ยกล่าวออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเทียนถางที่ปลดปล่อยออกมา มินานก็มาถึงพระราชวังทุกคนต่างเต็มไปด้วยสีหน้าสับสนเมื่อได้เห็นอินเว่ยเข็นรถให้เทียนถางไปตามทางมุ่งหน้าไปที่คลังเก็บของ
“นายท่าน”หลงอู่และหลงไคลงมาที่พื้นและพยายามที่จะพุ่งตามไปแต่ก็มีทหารยามจำนวนมากเข้ามาหยุดพวกมันหลงอู่กล่าวออกมาอย่างดุร้ายจิตสังหารปดปล่อยออกมาจำนวนมาก อินเว่ยจึงได้โบกมือทหารยามทั้งหมดจึงได้เปิดทางให้ทั้งสองตามหลังไป มินานทั้งสี่ก็มาถึงครั้งสมบัติ
“เปิดประตู”อินเว่ยกล่าวออกมาอย่างเย็นชาทหารยามตัวใหญ่สองคนเปิดประตูออกมาอย่างช้าๆและมันช้ามาเกินไป เทียนถางสะบัดมือส่งพลังปราณพุ่งออกไปและประตูก็เปิดออกทันที ทหารทั้งสองอยู่ในระดับมังกรขั้นที่สองทั้งคู่และพวกมันต้องใช้พลังยุทธสูงมากเพื่อเปิดประตูนี้ แต่เทียนถางสามารถที่จะเปิดได้อย่างง่ายดาย
“ไปเถอะ”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาและอินเว่ยก็ยิ้มก่อนที่จะเข็นรถเข้าไปพร้อมกับหลงอู่และหลงไค มินานพวกมันทั้งสี่ก็เข้ามาปรากฏสมบัติจำนวนมากมายที่ถูกเรียงไว้เป็นระเบียบมีทั้งสมบัติวิเศษ เหรียญทอง และศาสตราวุธมากมาย รวมมูลค่ามิต่ำกว่าหลายหมื่นล้านเหรียญแน่นอน
“นี้คือหินเหล็กราชันย์ระดับราชันย์และนี้คือมณีอสนีทลาย ข้ารับรู้ได้ว่าการสร้างศาสตราวุธต้องใช้หินและมณีใช้ไหม ข้าเตรียมให้แล้วทั้งสองอยู่ในระดับราชันย์”อินเว่ยหายตัวไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลับมาพร้อมกับหินและสมบัติในมือของมัน อินเว่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจังเทียนถางตรวจสิบหินสีดำมันๆและมณีสีดำมีลวดลายสีทองทั้งสองอยู่ในระดับราชันย์และอาจจะอยู่ในระดับกลางขึ้นไปถึงระดับสูงอีกด้วย
“ข้าคงสร้างเสร็จในหนึ่งเดือนแต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอยู่ดี”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังก่อนที่จะสะบัดมือดึงของบางสิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ของในคลังพุ่งออกมาและเข้ามาในมือของเทียนถางนั้นคือ หินรูปร่างประหลาดที่มิได้ปลดปล่อยพลังออกมาเลย อินเว่ยประหลาดใจเพราะมันเองก็มิรู้ว่าหินประหลาดใจมือของเทียนถางคือสิ่งใดรู้เพียงมันเก็บอยู่เช่นนี้มานานมากแล้ว
“ข้าขอมันและข้าจะเริ่มสร้างศาสตราวุธให้ท่านมันคงจะเสร็จในหนึ่งเดือนเพราะข้าต้องการสร้างฐานตีก่อนด้วยเจ้านี้”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังอีกครั้งและนั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความเข้าใจในทันทีว่าเหตุใดเทียนถางจึงได้เอาสิ่งนี้ไป อินเว่ยพยักหน้าตอบและจากนั้นเทียนถางและหลงอู่กับหลงไคจากไปพร้อมกับที่ได้เอาหินทั้งสามไปด้วย
“หลงอู่ข้าจำเป็นต้องใช้เวลาราวหนึ่งเดือนในการจัดการสิ่งต่างๆห้ามใครเข้ามาหาข้าเด็ดขาด”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังเมื่อมุ่งหน้ากลับมาที่ตระกูลหลง ทุกคนพยักหน้าตอบทั้งหลงอู่และหลงไค หลังจากนั้นเทียนถางก็เข้าห้องและเริ่มวางพื้นที่การเล่นแร่แปรธาตุ เช่นนั้นมันจะทำให้เทียนถางมีเวลา สามร้อยวัน ในการสร้างฐานตีและศาสตราวุธของอินเว่ย
“อินเว่ยเจ้าคงจะเป็นอย่างที่ข้าคิดนะ”เทียนถางพึมพำออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะมันรับรู้ว่าเทียนถางเป็นคนเช่นใดถึงมันจะมิแน่ใจก็ตาม แต่มันรับรู้ได้ว่าอินเว่ยเป็นคนที่จะมิวันลืมบุญคุณถึงมันจะมีหินและมณีแต่มันก็มิสามารถที่จะสร้างศาสตราวุธได้ถ้ามิมีช่างตี และตอนนี้มันมีช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างศาสตราวุธให้มันได้แล้วและนี้จะเป็นบุญคุณครั้งใหญ่เลยละดูจากนิสัยที่มันต้องการซื้อกระบี่จากหลงไคแล้ว มันคงต่างการกระบี่มานานมากแล้ว
“มาเริ่มกันเถอะ”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะสะบัดมือส่งหินประหลาดออกไปและสะบัดมืออีกครั้งเรียกค้อนทั้งสี่ของมันออกมากระหน่ำตีลงไปที่หินประหลาดด้วยความเร็วสูงปรากฏประกายเพลิงที่ร้อนแรงพุ่งออกมานั้นทำให้เทียนถางยิ้มออกมาเพราะมันรู้ว่าหินนี้คือหินเพลิงเหล็กเหลว มันคือหินที่เหมาะสำหรับการสร้างเป็นฐานตีเหล็กเป็นอย่างมาก
“ยอดเยี่ยมข้าได้ฐานตีเหล็กสำหรับการสร้างสรรค์ศาสตราวุธชั้นยอดแล้ว”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างสนุกสนานเพราะว่าฐานตีอันใหญ่ของจุนซันนั้นมิเหมาะกับการตีเหล็กของเทียนถางเลยมันสร้างเพลิงได้น้อยและยังมิสามารถที่จะทำสิ่งใดได้มากนักแต่ ฐานตีที่สร้างจากหินเพลิงเหล็กเหลวนั้นเป็นฐานตีที่พิเศษมันสามารถสร้างเพลิงได้จำนวนมากและยังสามารถที่จะช่วยดูดซับพลังจากธรรมชาติเพื่อเพิ่มพลังของศาสตราวุธที่ตีได้อีกด้วย
ยี่สิบวันภายในห้องของเทียนถาง
“สมบูรณ์เสียที”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นฐานตีเหล็กสีดำที่มีลวดลายสีดำของเพลิงอยู่ล้อมรอบ เทียนถางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขก่อนที่จะเริ่มพักเพราะมันต้องการที่จะฟื้นฟูพลังยุทธและพลังกายก่อนเพื่อที่จะเริ่มสร้างกระบี่ให้กับอินเว่ย
“ข้าคงต้องเริ่มแล้วละนะ”เทียนถางลืมตาขึ้นหลังจากผ่านไปได้สามชั่วโมงมันกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และเรียกหินเหล็กราชันย์ออกมา เทียนถางกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะวางหินเหล็กราชันย์ลงไปที่ฐานตีและเริ่มตีอย่างรวดเร็วเพลิงที่รุนแรงพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งมินานเหล็กก็เริ่มเปลี่ยนรู้อย่างช้าๆ
สองร้อยห้าสิบวันต่อมา
“งดงาม”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อได้เห็นกระบี่สีดำสนิทที่อยู่ในมือของมันเทียนถางใช้เวลามากมายจนกว่าจะสามารถที่จะสร้างดาบสีดำอันงดงามออกมา กระบี่นี้เป็นกระบี่หนักรูปร่างราวกับฟันฉลามหกเคี้ยวมันดูทรงพลังมาก เทียนถางเรียกมณีอสนีทลายออกมาก่อนที่จะเริ่มหลอมมันเข้าไปที่กระบี่และมินานมันก็สมบูรณ์
เทียนถางจ้องมองไปที่ลวดลายของพยัคฆ์สีดำหลายร้อยต้นที่วิ่งอยู่ล้อมรอบกระบี่เทียนถางเริ่มส่งพลังปราณลงไปที่กระบี่พลังปราณของมันถูกสูบเข้าไปจำนวนมากมินานก็เติมเต็มครึ่งหนึ่ง เทียนถางพักเล็กน้อยและยิ้มออกมาเพราะตอนนี้มันรับรู้ได้ว่าพลังชีวิตของกระบี่นี้เพิ่มมามากกว่าเจ็ดในสิบส่วนนั้นทำให้เทียนถางมีความสุขมาก
“ข้ากำลังแข็งแกร่งขึ้น”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างมีความสุขและมันคิดว่าเมื่อมันเข้าถึงระดับราชันย์คงเป็นเรื่องง่ายดายในการสร้างชีวิตให้กับศาสตราวุธ เมื่อพลังปราณกลับมาเต็มเทียนถางก็ส่งพลังเข้าไปในกระบี่อีกครั้งมินานกระบี่ก็อยู่ในความสมบูรณ์อย่างแท้จริง เทียนถางยิ้มกับศาสตราวุธระดับราชันย์ขั้นสูงในมือของมัน
เทียนถางยังเหลือเวลาอีกสามสิบวันมันถึงจะครบเดือนในโลกภายนอกเทียนถางจึงได้ยิ้มและเริ่มใช้ศาสตราวุธระดับราชันย์ขั้นสูงเพื่อใช้ใดการดูดซับพลังยุทธจากผืนฟ้าและฟืนโลกทันที และด้วยศาสตราวุธระดับราชันย์นี้ก็ทำให้มันสามารถที่จะดูดซับพลังของทุกสิ่งใดรวดเร็วมากและด้วยพลังของบ่อน้ำแห่งราชาภูตจึงทำให้พลังของการดูดซับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สามสิบวันต่อมา
เทียนถางลืมตาขึ้นหลังจากที่ผ่านไปสามสิบวันเต็มไปตอนนี้พลังยุทธของเทียนถางเข้าสู่ระดับมังกรขั้นที่หกแล้วและมันก็ได้สะบัดมือสลายพลังของพื้นที่ทั้งหมดออกมาและออกไปด้านนอก แต่เมื่ออกมากับมิพบสิ่งใดเลยเทียนถางเข็นรถไปล้อมรอบแต่ก็มิพบผู้คนเลย มันเต็มไปด้วยความสับสนเพราะมิอาจที่จะสัมผัสได้ถึงผู้ใดเลย
“คุณชายตอนนี้นายท่านได้เข้าสู่พระราชวังพร้อมกับนายน้อยทั้งสาม นายท่านรับสั่งเมื่อท่านออกมาจากห้องให้พวกข้าพาท่านไปที่พระราชวังขอรับ”แต่แล้วก็ปรากฏกลุ่มของทหารพุ่งเข้ามาพร้อมศาสตราวุธครบมือเทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นเทียนถางพวกมันรีบเก็บศาสตราวุธและกล่าวออกมาอย่างจริงจังทันที
“เกิดสิ่งใดขึ้น”เทียนถางกล่าวถามออกมาอย่างจริงจังเพราะมันยังมิไว้ใจกับคนกลุ่มนี้ผู้นำกลลุ่มได้เล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือนให้กับเทียนถางฟังทั้งหมด เมื่อครึ่งเดือนก่อนปรากฏกลุ่มของสัตว์อสูรจำนวนมากได้บุกเข้าโจมตีอาณาจักรพวกมันทั้งหมดอยู่ในระดับสี่เป็นอย่างต่ำ เทียนถางประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเทียนถางจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปกับกลุ่มของทหารทันทีมินานก็มาถึงยังพระราชวังซึ่งด้านในวุ่นวายมาก
“พาข้าไปหาราชาอินเว่ย”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังเหล่าทหารทั้งหมดทำตามทันทีเทียนถางและกลุ่มมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็วและมาถึงยังห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีคนอยู่มากมายภายในนั้น มีทั้งตระกูลหลง ตระกูลริน ตระกูลอิน สามตระกูลหลักของอาณาจักรกรงเล็บมังกร เทียนถางมิได้สนใจผู้ใดมันโบกมือให้ทหารจากไปและมุ่งหน้าไปหาอินเว่ย
“น้องถางเจ้ามาแล้ว”เมื่อเห็นเทียนถางเข้ามาใกล้อินเว่ยที่กำลังขมวดคิ้วเข้าหากันจ้องมองแผนที่อยู่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มและกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรทุกคนตกตะลึงทันที เทียนถางยิ้มตอบก่อนที่จะได้สะบัดมือเรียกกระบี่ออกมา เมื่อกระบี่ปรากฏกลิ่นอายที่รุนแรงก็พวยพุ่งออกมาอย่างน่าเกรงขามทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“ยอดเยี่ยม ขอบใจเจ้ามาโอกาสที่พวกเราจะชนะมันเพิ่มมากขึ้นแล้ว”อินเว่ยเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจมันกล่าวออกมาอย่างมีความสุขและเทียนถางก็ยื่นให้กับมันอินเว่ยรับกระบี่มันและพลังยุทธที่รุนแรงก็ระเบิดออกมารุนแรงกว่าเทียนถางเป็นอย่างมาก อินเว่ยเต็มไปด้วยความสุขแต่คนอื่นนอกจากเทียนถางเต็มไปด้วยความหวั่นเกรง
“มันมีนามว่ากระบี่เคี้ยวราชันย์อสูรศาสตราวุธระดับราชันย์ขั้นสูง”เทียนถางกล่าวออกมาอีกครั้งอย่างจริงจังเมื่อทุกคนที่อยุ่ในห้องประชุมได้ยินก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงแต่ก็มิสามารถที่จะทำสิ่งใดได้เพราะสิ่งที่อยู่ต่อหน้าพวกมันนั้นราวกับตำนานที่เกือบจะเป็นไปมิได้เลย
“กระบี่เคี้ยวราชันย์อสูรกระบี่ของข้า”อินเว่ยกล่าวถ้วนนามของกระบี่อีกครั้งพร้อมกับที่สีหน้ามันเปลี่ยนสียิ้มแย้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข นั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความอิจฉาและเทียนถางเองก็ขบขันในปฏิกิริยาของอินเว่ยมาก
“ท่านรู้หรือไม่เหล่าสัตว์อสูรมันมากันจากที่ใด”แต่เทียนถางก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นและกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทันทีและนั้นทำให้อินเว่ยเปลี่ยนสีหน้าไปเช่นกัน มันวางรูปแบบการเคลื่อนไหวของเหล่าอสูรบนแผนที่อย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความจริงจังจ้องมองไปที่แผนทีอย่างใจเย็นเพราะพวกมันได้เห็นรูปแบบที่ราวกับการเคลื่อนทัพของมนุษย์จากเหล่าอสูร