อาจารย์จุนซัน
ตอนที่20 อาจารย์จุนซัน
“นี้คือตราของศิษย์และข้าต้องการที่จะมอบให้เจ้า เจ้าต้องการจะเป็นศิษย์ของข้าหรือไม่”ผู้นำนิกายแสงตะวันกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เทียนถางประหลาดใจเล็กน้อยแต่มันมิต้องการอาจารย์มันต้องการที่จะกล่าวปฏิเสธ
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะปฏิเสธข้าแต่ข้าต้องการรับศิษย์ซึ่งเจ้าเหมาะสมที่สุดและข้ามีสิ่งตอบแทนเป็นแน่”ผู้อาวุโสกล่าวออกมาอีกครั้งก่อนที่เทียนถางจะได้กล่าวสิ่งใด นั้นทำให้เทียนถางครุ่นคิดและพยักหน้าตอบถึงมันจะมิต้องการอาจารย์แต่สิ่งที่มันต้องการคือสมบัติและทักษะความสามารถที่เพิ่มความสามารถของมันให้มากกว่านี้
“ข้ายังมิได้แนะนำตัวข้าคือผู้นำนิกายแสงตะวัน จุนซันและคนที่เดินพาเจ้าเข้ามาคือน้องชายแท้ๆของข้า จุนซังจิง”จุนซันกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และได้เดินนำทางของเทียนถางเข้าไปด้านในต้นไผ่ทั้งหมดแยกออกจากกันจนเป็นทางและได้เดินเข้าไปเทียนถางก็เดินตามไปโดยมิลังเลหลังจากผ่านไปมินานก็มาถึงบ้านพักหลังใหญ่มาก
“มาเถอะ”จุนซันกล่าวออกมาและสะบัดมือเปิดประตูของบ้านพักเทียนถางเข็นรถตามไปโดยมิได้สนใจสิ่งใดหลังจากเข้ามาปรากฏพื้นและสมุนไพรจำนวนมหาศาลอีกเช่นกัน เทียนถางจ้องมองไปล้อมรอบด้วยความสนใจหลังจากตามจุนซันมากจนถึงทางเข้าบ้านจุนซันก็หันมาจ้องมองไปที่เทียนถางด้วยรอยยิ้ม
“ใช้ตราสิ”จุนซันกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเทียนถางสะบัดมือเรียกตราศิษย์ออกมาจากแหวนมิติและเมื่อส่งพลังปราณลงไปประตูก็เปิดออก จุนซันยิ้มและเดินนำเข้าไปอีกครั้งเทียนถางก็มิได้สนใจสักนิดมันเข็นรถตามเข้าไปเมื่อเข้ามาด้านในภายนอกราวกับบ้านพักธรรมดาแต่ภายในราวกับพระราชวังขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก
“เจ้าสามารถที่จะไปได้ทุกที แต่ห้ามเข้าห้องนั้น”จุนซันกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทุกคำกล่าวของมันและชี้ไปที่ประตูขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางบันได เทียนถางพยักหน้าตอบเท่านั้นหลังจากนั้นจุนซันก็พาเดินชมพื้นที่ล้อมรอบและกล่าวถึงพื้นที่ต่างๆว่าพื้นที่นั้นคือที่ใดบาง
“ในตอนนี้ข้ายังสอนสิ่งใดเจ้ามิได้จนกว่าเจ้าจะเข้าสู่ระดับมังกร”หลังจากที่เดินไปทั่วทั้งบ้านพักจุนซันก็กล่าวออกมาอย่างจริงจังเมื่อมันได้เดินนำทางเทียนถางมาที่บ้านพักของมัน เทียนถางจึงได้พยักหน้าตอบหลังจากนั้นจุนซันก็จากไปเพื่อฝึกต่อ เทียนถางจึงได้มุ่งหน้าไปที่ห้องตำราเพื่อหาทักษะที่มันต้องการ
เทียนถางเมื่อเข้ามามันได้พบว่าห้องตำราภายในบ้านพักนี้มีขนาดที่ใหญ่เป็นอย่างมาก แต่เทียนถางมิได้สนใจและได้เริ่มอ่านตำราทุกอย่างในทันทีหลังจากผ่านไปได้ราวสามชั่วโมงเทียนถางก็อ่านตำราไปเกือบหนึ่งร้อยเล่มแล้ว ซึ่งมิมีความรู้สึกเหนื่อยล้าเลยเทียนถางได้รับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับภาษาโบราณมาจำนวนมาก
หนึ่งเดือนต่อมา
เวลาภายไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ก็หนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เทียนถางได้เข้ามาผ่านในบ้านพักของจุนซัน เทียนถางได้อ่านตำราไปจำนวนมหาศาลแต่ถึงเช่นนั้นเทียนถางก็อ่านมาได้เพียงแค่สองในสามของห้องตำรานี้เท่านั้น เทียนถางมิได้หยุดมันอ่านตำราเหล่านี้เพื่อที่จะได้ทำการอ่านตำราทักษะ โลหิตมารร้าย ให้ได้
“นี้มัน”เทียนถางอุทานออกมาเมื่อหยิบตำราเล่มหนึ่งมาอ่านปรากฏอักขระที่เป็นเช่นเดียวกับอักขระในตำราทักษะ โลหิตมารร้าย เทียนถางอ่านมันอย่างช้าโดยที่มิได้สนใจสิ่งใดเลย มันรับรู้วิธีการอ่านอย่างช้าๆมินานหลังจากที่ผ่านไปได้ราวสองชั่วโมง เทียนถางก็สามารถที่จะอ่านภาษานี้ได้แล้ว และมันรับรู้ได้ว่าภาษานี้คือภาษาของมังกร
“น่าสนใจ”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะว่าตอนนี้เทียนถางสามารถที่จะอ่านภาษามังกรได้แล้วและยังสามารถที่จะอ่านทักษะตำราทักษะนี้ได้แล้ว เทียนถางเริ่มอ่านมันทันทีและมินานเทียนถางก็สามารถที่จะอ่านตำราทักษะ โลหิตมารร้าย นั้นได้ทั้งหมด
ทักษะ โลหิตมารร้าย นั้นมีทั้งหมด เจ็ดบท บทที่หนึ่ง เปลี่ยนโลหิตในร่างกาย บทที่สอง สร้างปีศาจขนาดเล็กภายในร่างกาย บทที่สาม ทำลายปีศาจทั้งหมดและดูดซับโลหิตของพวกมัน บทที่สี่ ส่งโลหิตไปที่ตันเถียน บทที่ห้า ก่อกำเนิดปราณของปีศาจภายในร่างกาย บทที่หก หลอมรวมปราณปีศาจเข้ากับกระดูกและอวัยวะภายในทั้งหมด บทที่เจ็ด เปลี่ยนร่างกายและตันเถียนในร่างกายให้เป็นปราณปีศาจโดยสมบูรณ์
“ปราณปีศาจหรือ”เทียนถางพึมพำออกมาเพราะว่ามันรับรู้ได้ว่าพลังปราณปีศาจนี้คือพลังปราณที่อยู่ในระดับสูงมาก โดยที่ระดับของปราณจะถูกแบ่งเป็น ปราณระดับต่ำ ควบคุม เสริมร่างกาย ปราณระดับกลาง วารี วายุ พิภพ เพลิง อสนี พิษ พฤกษา ปราณระดับสูง ปีศาจ เทพ ราชันย์ จักรพรรดิ อสูร
เทียนถางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปที่ห้องของมันและเริ่มฝึกฝนปราณของมันในทันที มินานพลังปราณในร่างกายของมันก็เปลี่ยนไปเป็นสีดำแทนทีปราณสีฟ้าอ่อนของมัน เทียนถางเริ่มโคจรพลังด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นโนที่มันได้ดูดซับพลังของผืนฟ้าและผืนโลกเข้ามาในร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มพลังปราณของมันให้เพิ่มสูงขึ้น
แต่มันมีใช้แค่นั้นพลังปราณของสมุนไพรที่อยู่ภายนอกไหลเข้ามาภายในห้องและทำให้พลังปราณในร่างกายของเทียนถางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากผ่านไปได้ราวสามชั่วโมงเทียนถางก็สามารถที่จะเปลี่ยนปราณในร่างกายของมันให้เป็นปราณปีศาจไปได้แล้วครึ่งหนึ่ง
“พื้นที่นี้มีปราณมิพอที่จะทำให้ข้าเปลี่ยนปราณได้สมบูรณ์”เทียนถางลืมตาขึ้นเพราะว่าการเปลี่ยนพลังปราณภายในร่างกายของมันเริ่มช้าลงเป้นอย่างมาก มันจึงได้พึมพำออกมาก่อนที่จะเข็นรถออกจากห้องมุ่งหน้าออกไปด้านนอกเมื่อออกมา พลังของพื้นฟ้าผืนโลกและสนุมไพรมากมายต่างมีความหน้าแน่นสูงมาที่ด้านหลังของบ้านพัก
“ที่นี้คือศูนย์รวมของพลังทั้งหมดสินะ”เทียนถางเข็นรถมาตามทางมายังพื้นที่ที่เป็นบ่อน้ำและที่ใจกลางของบ่อน้ำนั้นคือก้อนหินที่ลอยอยู่ใจกลางน้ำ เทียนถางจึงได้พึมพำออกมาด้วยสีหน้าจริงจังก่อนที่จะลอยออกไปและนั่งลงที่ก้อนหินพลังของทั้งผืนฟ้าผืนโลกและพลังของสมุนไพรมากมายไหลเป็นกระแสเข้าสู่รางกายของเทียนถางอย่างรวดเร็ว
เทียนถางหลับตาลงและเริ่มดูดซับพลังปราณด้วยความเร็วที่มากขึ้น และเปลี่ยนปราณในร่างกายเป็นปราณปีศาจอย่างรวดเร็วในทันที เทียนถางเพ่งสมาธิลงไปที่ภายในตันเถียนของมันที่ต้นไม้แห่งชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นสีดำเพราะว่ามันเริ่มดูดซับพลังปราณของปีศาจเข้าไปจำนวนมหาศาล มินานพลังของบ่อน้ำแห่งราชาภูตเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็วขึ้น
ครึ่งวันต่อมา
พลังปราณของเทียนถางเปลี่ยนด้วยความเร็วที่สูงขึ้นอย่างมหาศาลมินานพลังปราณของเทียนถางก็เปลี่ยนไปจนสมบูรณ์ พลังปราณของเทียนถางกลายเป็นสีดำสนิทและต้นไม้แห่งชีวิตก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเช่นกันเทียนถางในตอนนี้ได้เลื่อนเข้าสู่ระดับอสูรขั้นที่หกแล้วเช่นกัน
เทียนถางเริ่มฝึกบทที่สองต่อเลยในทันทีมันเริ่มสร้างปีศาจเล็กๆภายในร่างกายของมันและพวกมันเริ่มกลืนกินพลังปราณในร่างกายของมันด้วยความเร็วสูง และหลังจากผ่านไปราวสองวันปีศาจมากมายปรากฏขึ้นมาภายในตันเถียนและร่างกายของมันจำนวนมหาศาลหลายร้อยล้านตัวเลย เทียนถางมิแน่ใจว่าพอหรือไม่แต่ที่มันรู้ตอนนี้มันเจ็บปวดอย่างมหาศาล
แต่เมื่อผ่านไปได้ครึ่งวันเทียนถางก็มิอาจที่จะทนไหวแล้วมันจึงได้เริ่มโคจรพลังปราณอีกครั้งเพื่อทำลายเหล่าปีศาจทั้งหมดด้วยความเร็วสูง หลังจากผ่านไปได้สิบลมหายใจความเจ็บปวดทั้งหมดก็สลายหายไปและเทียนถางก็ได้เริ่มดูดซับโลหิตสีดำทั้งหมดที่คงอยู่ภายในร่างกายของมันอย่างรวดเร็วในทันทีร่างกายของมันด้วยความรวดเร็วที่สูงมาก
หลังจากผ่านไปได้มินานพลังกายและร่างกายของเทียนถางก็เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูง เทียนถางรับรู้ได้ว่าร่างกายของมันแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมันรู้ได้ว่าร่างกายของมันขยายขึ้นเร็วมาก หลังจากผ่านไปได้สามวันร่างกายของเทียนถางก็ปรับปรุงและถูกปรับแต่งจนสมบูรณ์ แต่ก็ยังเหลือโลหิตปีศาจจำนวนมหาศาลเช่นกัน
เทียนถางได้บรรลุบทที่สามของทักษะ โลหิตมาร้าย แล้วมันจึงคิดจะฝึกบทที่สี่ต่อแต่มันรับรู้ได้ว่าพลังของโลหิตของปีศาจนี้อาจจะมิเพียงพอมันจึงได้เริ่มสร้างปีศาจอีกครั้ง เพื่อที่จะสร้างโลหิตของปีศาจอีกครั้ง หลังจากผ่านไปได้ครึ่งวันเทียนถางก็สามารถที่จะสร้างปีศาจได้จำนวนมหาศาลเพราะว่าปราณปีศาจในร่างกายของมันทำให้สร้างปีศาจได้จำนวนมหาศาลเลย
เทียนถางเริ่มโคจรพลังปราณในร่างกายเพื่อทำลายปีศาจสร้างโลหิตปีศาจมาและด้วยพลังปราณปีศาจของมันมินานก็สามารถที่จะทำลายปีศาจได้ทั้งหมดและเริ่มฝึก บทที่สี่แห่งทักษะ โลหิตมารร้าย ต่อทันทีเทียนถางส่งพลังโลหิตปีศาจทั้งหมดเข้าไปที่ตันเถียนเพื่อหลอมรวม และเมื่อมันเข้ามาด้านในตันเถียนต้นไม้แห่งชีวิตและย่อน้ำแห่งราชาภูตก็ทำงานอย่างรวดเร็ว
โลหิตปีศาจมากมายเริ่มหลอมรวมเข้ากับต้นไม้แห่งชีวิตและบ่อน้ำราชาภูต เทียนถางที่จ้องมองดูด้วยร่างวิญญาณแห่งโอดินก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจในการเติบโตของมันเพราะตอนนี้เพียงดูดซับโลหิตปีศาจไปได้ครึ่งหนึ่งพลังยุทธของมันก็อยู่ในระดับอสูรขั้นที่เจ็ดได้อย่างมิยากนัก แต่นั้นก็มิได้ทำให้เทียนถางรู้สึกยินดีเพราะมันต้องเข้าสู่ระดับมังกรให้เร็วที่สุด
สิบวันต่อมา
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มเทียนถางรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้ร่างกายและตันเถียนของมันเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ร่างกายของมันใหญ่โตขึ้นและภายในเกาะตันเถียนกลายเป็นสีดำทั้งหมดทั้งต้นไม้แห่งชีวิตทั้งบ่อน้ำราชาภูตแม้กระทั้งท้องฟ้าที่อยู่ภายในเกาะตันเถียนยังถูกปกคุมด้วยเมฆสีดำจำนวนมากแต่นั้นมิได้ทำให้เทียนถางยินดีเท่ากับตอนนี้มันเหลือเพียงก้าวเดียวมันจะเข้าสู่อสูรระดับแปดแล้วและเทียนถางสามารถที่จะบรรลุบทที่สี่แล้ว
เทียนถางต้องการที่จะฝึกบทที่ห้าต่อแต่ตอนนี้มันจำเป็นต้องพักก่อนเพราะว่าถึงร่างกายของมันจะแข็งแกร่งขึ้น แต่มันยังมิสามารถที่จะปรับปรุงพลังปราณให้สมดุลได้เลยมันจำเป็นต้องปรับปราณของมันให้สมบูรณ์ยิ่งกว่านี้ เทียนถางจึงได้ลืมตาขึ้นและจ้องมองไปล้อมรอบปรากฏว่าสมุนไพรและพลังที่อยู่ล้อมรอบจางหายไปอย่างมหาศาลเลย
“นี้ข้าใช้พลังของผืนฟ้าผืนโลกและสมุนไพรเข้านี้ไปมากจริงๆ”เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันและพึมพำออกมาเพราะมันมิคิดว่ามันจะใช้พลังของทุกสิ่งไปจำนวนมหาศาลเช่นนี้เลย เทียนถางจึงได้เลิกที่จะคิดที่จะดูดซับพลังจากพื้นที่นี้อีกจนกว่ามันจึงฟื้นฟูกลับมามิเช่นนั้นมันได้ทำลายพื้นที่นี้เป็นแน่ เทียนถางกลับไปที่ห้องตำราเพื่ออ่านตำราต่างๆเพิ่มเติมทันที
หลังจากที่เทียนถางอ่านตำราจนหมดสิ้นเวลาก็ผ่านไปถึงครึ่งและรวมกับเวลาที่เทียนถางมาอยู่ที่นี้ก็ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว เทียนถางเมื่อพลังปราณในร่างกายกลับมาสมดุลและสมบูรณ์มันก็คิดจะไปฝึกต่อแต่ในเวลานั้นจุซันก็เดินทางเข้ามาที่ห้องและเคาะประตูของเทียนถาง
“ไปเถอะวันนี้มีงานเลี้ยงประจำนิกาย โอ้วันนี้วันเกิดอาจารย์เจ้านะ”จุนซันกล่าวออกมาและเดินนำไปเทียนถางเองก็มิได้คิดจะปฏิเสธมันจึงตามไปอย่างง่ายดายแต่เมื่อมาถึงที่งานก่อนที่จะเข้าไปจุนซันก็นึกถึงบางอย่างมักล่าวออกมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม เทียนถางจึงจ้องมองไปที่มันที่กำลังเดินจากไปและเอียงคอเล็กน้อยเพราะมันมิเข้าใจว่าจุนซันต้องการสิ่งใดจากมันกันแน่
“มาเถอะศิษย์ข้า”เมื่อเทียนถางเข็นรถเข้ามาจุนซันก็รออยู่ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง หลังจากที่จุนซันและเทียนถางเข้ามาเหล่าศิษย์และผู้ที่เข้ามาร่วมงานเต็มไปด้วยความสับสนเมื่อได้ยินว่าจุนซันได้รับศิษย์ตั้งแต่เมื่อใดและศิษย์ของจุนซันยังเป็นคนพิการอีกด้วย เทียนถางเข็นรถตามจุฯซันไปอย่างเฉยชาเช่นเดิม
“มิได้พบกันนานนะจุนซัน จุนซันจิง”หลังจากผ่านไปมินานกลุ่มของสตรีมากมายก็เดินเข้ามาในตำหนักหลักภายในห้องโถงของนิกายแสงตะวัน พวกมันทั้งหมดสวมชุดสีเขียวอ่อนและชุดคลุมสีเขียวเข้ม ทุกคนหันไปจ้องมองที่พวกนางด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์หื่นกามแต่เทียนถางมิแม้แต่จะสนใจมันจ้องมองออกไปที่ภาพวาดประดับกำแพงของห้องโถง
“ขออภัยที่มาช้าท่านแม่”หลังจากผ่านไปได้มินานกลุ่มสตรีก็พุ่งเข้ามาอีกกลุ่มหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าสุดนางสวมชุดคลุ่มสีเขียวเข้มแต่นางมิได้ใส่ชุดภายในนางใช้ผ้าพันเอาไว้ เทียนถางที่จ้องมองอยู่ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเพราะใบหน้าของนางราวกับภรรยาของมันแต่เมื่อมันส่ายหัวอย่างแรงและกลับมาจ้องมองอีกครั้งภาพซ้อนทับนั้นก็สลายหายไป นางมีเส้นผมสีเขียวมรกตมีดวงตาสีเขียวอ่อนและนางยังมีกระบี่สองเล่มที่เอว เมื่อนางมาถึงนางก็กล่าวออกมาทันที
“มิต้องคิดมาก ลูกหลินทักทาย ลุงของเจ้าสิ”หญิงสาวผู้นำกลุ่มสตรีนางมีเส้นผมสีเชียวมรกตเช่นกันแต่ดวงตาของนางมีสีเขียวเข้มและนางได้กล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทันที
“คาราวะ ท่านลุงทั้งสอง”เมื่อได้ยินสิ่งที่มารดากล่าวนางก็ทำตามอย่างมิเต็มใจนักเทียนถางสังเกตเห็นและคิดว่านิกายของนางคงจะมิถูกกับบุรุษเป็นแน่ และนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มายังโลกใบนี้ที่เทียนถางใดสนใจสิ่งใดจุนซันพยักหน้าตอบและสังเกตเห็นเทียนถางยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยมันจึงยิ้มออกมากทันที
“นี้คือศิษย์ของข้าเทียนถาง เขามีความสามารถและพรสวรรค์ที่มากมายกว่าบุตรเจ้านะจูหนิง เขามีปราณธาตุถึงสามธาตุซึ่งมากกว่าบุตรของเจ้าถึงหนึ่งธาตุ”จุนซันเริ่มกล่าวออกมาอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจเทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินและทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อได้ยิน จูหลินจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยสายตาดุร้ายแต่เทียนถางกับต่างออกมาเพราะตอนนี้มันเริ่มแข็งแกร่งมากแล้วเลยมิคิดจะปิดปังมันจึงได้เอนหลังลงไปเท่านั้น
“จะเป็นไปได้เช่นใดกันผู้ที่ครอบครองปราณถึงสามธาตุเช่นนั้น เพียงแค่สองก็นับว่าปาฏิหาริย์และที่เด็กผู้หนึ่งจะเกิดมาพร้อมกับมัน”จูหนิงกล่าวออกมาอย่างขบขันราวกับว่านางมิเช่นในสิ่งที่จุนซันกล่าวออกมาเลยแม้แต่น้อย จุนซันขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มและจ้องมองมาที่เทียนถาง ซึ่งแน่นอนเทียนถางรู้หน้าที่มันระเบิดปราณออกมาจำนวนมหาศาลทันที
“นี้มัน”เหล่าสตรีทั้งหลายถูกผลักให้ถอยออกไปมีเพียงแค่จูหนิงที่ยังอยู่ที่เดิมนางกล่าวออกมาอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นปราณ พิษ อสนี เหมัน พุ่งออกมาจำนวนมหาศาลลี่จุนซันสังเกตเห็นเพียงผู้เดียวก็คือการเปลี่ยนแปลงของปราณที่เทียนถางได้ปลดปล่อยออกมามันรุนแรงและน่าเกรงขามขึ้นอย่างมหาศาลรวมทั้งอย่างดูราวกับสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมอำมหิตเป็นผู้ปลดปล่อยมันออกมาเลยแต่ที่อยู่ตรงหน้าของมันคือเทียนถางเด็กหนุ่มอายุสิบหกปีเท่านั้น
“ข้าก็กล่าวกับเจ้าแล้วเอาเถอะข้ามิอย่าที่เสียเวลาข้าขอขอบคุณในความมีน้ำใจที่พวกเจ้าทั้งสามนิกายมาเยี่ยมเยียนข้า นิกายมณีมรกตเขียวขจี นิกายพิภพสะเทือน นิกายดาราส่องทาง”จุนซันไล่ความคิดไร้สาระทั้งหมดออกมาจากหัวก่อนที่จะพยักหน้าให้เทียนถางหยุดและเมื่อพลังปราณทั้งหมดสลายหายไป จุนซันก็กล่าวออกมาอย่างขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าของมันแสดงถึงความสุขที่มากมายมิใช้การมาเยี่ยมเยียนของนิกายอื่นแต่เป็นการได้อวดอ้างศิษย์ตน
“เชิญดื่มและเฉลิมฉลองในวันเกิดของข้าให้เต็มที่เถอะ”แต่ผู้คนในงานกับเต็มไปด้วยความตกตะลึงเป้นอย่างมากจนมิมีผู้ใดขยับไปไหนจุนซันจงได้กล่าวออกมาอย่างจริงจัง และนั้นทำให้เทียนถางขยับออกไปเป็นคนแรงมันมุ่งหน้าไปหากลุ่มของเมียงโจและตระกูลฉิงที่กำลังนั่งอยู่โต๊ะด้านข้างกันเทียนถางมุ่งด้านมานั่งที่โต๊ะกลุ่มจักรพรรดิฟ้าและด้านหลังของมันคือโต๊ะตระกูลฉิงและนั้นทำให้ทุกคนเริ่มได้สติ
“เจ้าแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วยิ่งนักหลานข้า เพียงครึ่งมิจากไร้ซึ่งปราณในร่างกายตอนนี้อยู่ในระดับอสูรขั้นที่เจ็ดครึ่งก้าวก่อนขั้นที่แปดแล้ว พรสวรรค์นี้มิอาจเทียบได้เลย”ฉิงเทียนที่นั่งอยู่ด้านหลังของเทียนถางก็ขยับเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างยินดีและอิจฉาเล็กน้อย นั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงทั้งคนของตระกูลฉิงและกลุ่มจักรพรรดิฟ้า นี้เป็นครั้งแรกที่พวกมันทั้งหมดได้รู้เวลาในการฝึกยุทธอย่างแท้จริงของเทียนถาง
แต่มิใช้แค่มันทั้งสองกลุ่มแต่จูหนิงและจุนซันที่อยู่ในระดับราชันย์ทั้งสองก็ได้ยินเช่นกันพวกมันทั้งสองเองก็พึ่งจะรู้เวลาในการฝึกยุทธของเทียนถางเช่นกัน และนั้นคือสิ่งที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก หลงอู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างของฉิงเทียนก็ลุกขึ้นมายืนด้านข้างของเทียนถาง และเทียนถางสามารถที่จะรับรู้ได้ว่าตลอดเวลาที่มันมิอยู่หลงอู่ได้เข้าสู่ระดับราชันย์แล้วเช่นกัน