วิหารเทพสมุทร

ตอนที่55 วิหารเทพสมุทร

 

“ฟุมมม”เทียนถางมิได้กล่าวตอบแต่มันปลดปล่อยพลังอำที่รุนแรงออกมากดทับร่างกายของครึ่งอสนีพิษทั้งสองจนร่างกายของมันถูกกดลงไป ครึ่งอสรพิษทั้งสองมิได้สนใจมันปลดปล่อยพลังที่รุนแรงออกมาและพุ่งเข้าหาเทียนถางด้วยความเร็วสูง

 

“โฮกกก”เทียนถางสะบัดมือปลดปล่อยอสรพิษสีดำสองตัวออกไปอย่างรวดเร็วและสีของร่างกายของมันยังเป็นสีดำลวดลายสีทอง และเข้าปะทะกับครึ่งอสรพิษทั้งสองแต่ด้วยศาสตราวุธ เช่นหอกพุ่งเข้าใส่อสรพิษสีดำของเทียนถางด้วยความเร็วสูง

 

เทียนถางมิได้สนใจและหมุนตัวอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงหอกเมฆดำตะวันแดงออกไปอย่างรวดเร็ว แต่หอกของเทียนถางก็ถูกปัดกระเด็นออกมาอย่างรวดเร็วครึ่งอสรพิษทั้งสองจัดการอสรพิษสีดำของเทียนถางได้อย่างง่ายดายโดยจับหัวกระแทกลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ครึ่งอสรพิษทั้งสองมิได้มีระดับพลังที่สูงแต่ร่างกายของพวกมันแข็งแกร่งมาก

 

“ฟุมม”เทียนถางปลดปล่อยพลังปราณอัคคีออกมาจากขาทั้งสองข้างด้วยทักษะ ท่าเท้าเพลิงเผาผลาญ และปรากฏหอกเมฆดำตะวันแดงที่เต็มไปด้วยปราณเหมันในมือทั้งสองข้างของมัน เทียนถางพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทันที

 

เทียนถางหมุนตัวอย่างรวดเร็วฟันหอกเข้าในครึ่งอสรพิษเกล็ดขาวและเตะเข้าใส่อสรพิษเกล็ดดำ ทั้งสองเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นเทียนถางปลดปล่อยพลังระเบิดเหนือราชันย์ขั้นสูงออกมาและยังใช้พลังปราณได้ถึงสองธาตุ ร่างกายของอสรพิษเกล็ดขาวปลิวออกไปกระแทกกำแพงและอสรพิษเกล็ดดำถูกเตะปลิวออกไป

 

“มนุษย์นี้แข็งแกร่ง”ครึ่งอสรพิษทั้งสองกล่าวออกมาอย่างดุร้ายมันปลดปล่อยพลังปราณธาตุแสงและความมืดออกมาอย่างรุนแรง เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะมันพึ่งจะเคยเจอกับปราณธาตุความมืดและแสงพริ้มกับเช่นนี้ ธาตุมืดมันเจอกับราชันย์ปีศาจอมตะและธาตุแสงมันเจอมาจากซุนเทียนยี่

 

“โฮกกก”ครึ่งอสรพิษทั้งสองคำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่เทียนถางอีกครั้งแต่มันสามารถที่จะพุ่งหลบไปมาอย่างรวดเร็วได้ ครึ่งอสรพิษตกตะลึงมากที่เทียนถางหายไปจากสายตาของพวกมันและพวกมันก็สัมผัสได้ถึงเทียนถางว่าอยู่ด้านบน ตอนนี้เทียนถางยืนจ้องมองมาที่พวกมันโดยที่มันได้ยืนอยู่บนเพดาน

 

“อสนีบาตฟาดพิภพ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างดุร้ายและสะบัดมือปลดปล่อยปราณอสนีบาตออกมาและฟาดลงไปที่ครึ่งอสรพิษทั้งสองจนเกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นทั้งสองพุ่งหลบได้อย่างรวดเร็ว เทียนถางพุ่งลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็วพื้นระเบิดออกมาอย่างรุนแรงปรากฏอาณาเขตเหมันพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทันที ด้วยทักษะ อาณาเขตเยือกแข็งสวรรค์ ของเทียนถาง

 

“ตูมมมม”ครึ่งอสรพิษทั้งสองเหวี่ยงหอกเข้าใส่อาณาเขตเหมันของเทียนถางจนระเบิดออกมากระจายไปทั่ว เทียนถางจ้องมองไปที่ครึ่งอสรพิษทั้งสองด้วยสีหน้าดุร้ายมันปลดปล่อยปราณที่รุนแรงออกมาเพื่อที่จะจัดการกับทั้งสอง

 

“ปราณแสงหอกสะบั้น/หอกเงามืดตัดแสง”ครึ่งอสรพิษทั้งสองคำรามออกมาอย่างดุร้ายและแทงหอกหับฟาดหอกเข้าใส่เทียนถางด้วยความเร็วสูงแต่เทียนถางก็มิได้สนใจมันพยายามที่จะพุ่งหลบออกไปอย่างรวดเร็วแต่หอกที่ถูกสร้างจากปราณแสงและเงาพุ่งไล่ตามมันอย่างรวดเร็ว แต่เทียนถางก็สามารถที่จะพุ่งหนีไปมาได้อย่างรวดเร็ว

 

เทียนถางครุ่นคิดแผนการต่อสู้ทุกอย่างด้วยความเร็วสูงและพุ่งออกไปที่พื้นด้านหน้าของครึ่งอสรพิษทั้งสองก่อนที่จะเหวี่ยงหอกออกไปอย่างรวดเร็วและฟันเข้าใส่หนึ่งในครึ่งอสรพิษ อสรพิษเกล็ดดำ และพลังของหอกทั้งสองก็พุ่งตามมาด้านหลังของเทียนถางอย่างรวดเร็ว

 

“ติ้ง ฟุม”อสรพิษเกล็ดดำสลายพลังของหอกและเหวี่ยงหอกเข้าปะทะกับเทียนถางจนเกิดระเบิดขึ้นและหอกสีขาวก็พุ่งตามเทียนถางมาอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าใส่หลังของเทียนถาง และมันสามารถที่จะหลบได้ด้วยความเร็วสูงและเหวี่ยงหอกเข้าใส่พลังจากหอกของอสรพิษเกล็ดขาว

 

“ฟุมมม”เมื่อพลังของหอกเมฆดำตะวันแดงพุ่งเข้าปะทะกับหอกแห่งแสงมันก็ระเบิดขึ้นส่งร่างกายของเทียนถางออกไปด้านหลังและมันก็หมุนตัวเตะเข้าใส่หัวของอสรพิษเกล็ดดำจนมันปลิวออกไปกระแทกพื้น อสรพิษเกล็ดขาวตกตะลึงมากและพุ่งเข้าใส่เทียนถางด้วยความเร็วสูง

 

“หอกแสงสังหารพันอสูร”อสรพิษเกล็ดขาวคำรามออกมาอย่างดุร้ายและแทงหอกของมันเข้าใส่เทียนถางด้วยความเร็วสูงเพียงพริบตามันก็แทงหอกออกมานับพันครึ่ง เทียนถางแทงหอกส่วนออกไปด้วยทักษะ หอกเหมันทะลวงจิต ด้วยระดับพลังของเทียนถางตอนนี้มันแทงหอกออกไปนับหมื่นครั้งในพริบตา

 

ด้วยพลังของเทียนถางและอสรพิษเกล็ดขาวเมื่อปะทะกันก็เกิดระเบิดที่รุนแรงขึ้นสั่นสะเทือนทั่วทั้งพื้นที่จนสั่นสะเทือนออกไปถึงด้านนอกบางคนพยายามที่จะตามเข้ามาแต่ก็ถูกห้ามเอาไว้โดยฮวางไห่เพราะมันเชื่อว่าเทียนถางมิได้ต้องการให้ใครเข้าไปรบกวน ทุกคนจึงได้แต่มองออกไปที่เศษซากปรักหักพัง

 

เทียนถางตอนนี้เต็มไปด้วยความดุร้ายเพราะตอนนี้ครึ่งอสรพิษทั้งสองได้ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับมัน และมันแข็งแกร่งมากจนเทียนถางจะต้องใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่มันมิไปจำนวนมาก พร้อมกับที่ได้ดูดซับพลังทั้งหมดเข้ามาในร่างกายเพื่อฟื้นฟูพลังปราณที่ใช้ไป

 

“พวกเจ้าทั้งสองแข็งแกร่งมากต้องการที่จะมาเป็นข้ารับใช้ของข้าหรือไม่”เทียนถางกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง ครึ่งอสรพิษทั้งสองจ้องมองหน้ากันและจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยสีหน้าดุร้ายมันมิได้สนใจคำกล่าวของเทียนถางเลยแม้แต่น้อย

 

“ข้าคงต้องสังหารพวกเจ้าละนะ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างดุร้ายและสะบัดมือเก็บหอกเมฆดำตะวันแดงเข้าไปและเรียกพัดจักรพรรดิเหมันออกมา เทียนถางโบกพัดอย่างเบามืออีกครั้งพายุเหมันที่รุนแรงกระแทกร่างของครึ่งอสรพิษทั้งสองอย่างรวดเร็วจนทะลุประตูขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของพวกมันเข้าไปด้านใน

 

“ที่นี้ที่ไหนกัน”เทียนถางเดินผ่านพื้นที่ทั้งหมดที่กลายเป็นก้อนน้ำแข็งเข้าไปภายในประตูเมื่อเข้ามาปรากฏพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและมันราวกับวิหารที่งดงามปรากฏรูปปั้นครึ่งอสรพิษจำนวนมากอยู่ทั่วไปหมด มันพึมพำออกมาด้วยสีหน้าเย็ชาและจ้องมองไปล้อมรอบด้วยดวงตาราชันย์ปีศาจทันที

 

“นี้หรือว่า”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะมันได้พบกับรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างจากก้อนน้ำแข็งที่กับเต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณ พร้อมกับที่มันได้ถือหอกสีทองขนาดใหญ่ที่มีลวดลายของอสรพิษสีดำที่งดงาม เทียนถางรู้ว่ามันคือสิ่งใดในเวลาสองเดือนที่ผ่านมามันได้อ่านสิ่งต่างๆมากมายและสิ่งนี้คือ รูปปั้นเทพสมุทร นั้นเอง

 

เทียนถางเริ่มสอบพลังจากรูปปั้นและพบว่ามันทรงพลังมากและพลังทั้งหมดถูกส่งออกมาจากหอกสีทองนั้น แต่ก่อนที่เทียนถางจะไปเข้าไปตรวจสอบมันใกล้ๆปรากฏหอกปราณแสงและเงาพุ่งเข้าใส่มันจากด้านข้างทั้งสองฝั่งอย่างรวดเร็ว เทียนถางสามารถที่จะพุ่งหลบไปมาได้อย่างง่ายดายและพุ่งออกมาด้านหลัง

 

“พวกเจ้าคือผู้พิทักษ์วิหารเทพสมุทรหรือ”เทียนถางกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้งครึ่งอสรพิษทั้งสองเต็มไปด้วยสีหน้าตกตะลึง พวกมันจ้องมองหน้ากันและกันด้วยสีหน้าสับสนและเริ่มปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาจำนวนมาก

 

“ถูกต้องข้าคุโระนี้และนั้นชิโระ”อสรพิษเกล็ดดำกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเย็นชาและกล่าวแนะนำตัวให้กับอสรพิษเกล็ดขาวอีกด้วย อสรพิษเกล็ดขาวมินามว่าชิโระและอสรพิษเกล็ดดำมีนามว่าคุโระ เทียนถางประหลาดใจเล็กน้อยที่มันกล่าวตอบอย่างง่ายดายทั้งที่ปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงเช่นนี้ออกมา

 

“พวกเจจ้าทั้งสองมีหน้าที่ในการหาผู้ครอบครองศาสตราวุธพัฒนาจริงหรือไม่”เทียนถางเคยอ่านในตำราเกี่ยวกับวิหารเทพสมุทรและเกี่ยวกับผู้พิทักษ์และมันยังเคยอ่านและพบข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้พิทักษ์ต้องทำคือหาผู้ครอบครองศาสตราวุธของเทพสมุทรเจ้าของวิหารเทพสมุทรนี้ และศาสตราวุธในอยู่ในระดับพัฒนา ซึ่งมันแตกต่างจาดศาสตราวุธประเภทอื่น

 

ศาสตราวุธจะถูกแบ่งเอาไว้สองสามประเภท หนึ่งศาสตราวุธไร้ชีวิตคือศาสตราวุธที่ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ สองประเภทมีชีวิตซึ่งหอกเมฆดำตะวันแดงและพัดจักรพรรดิก็อยู่ในประเภทนี้ สามประเภทพัฒนา ศาสตราวุธในประเภทนี้จะมิได้อยู่ในระดับไหนเลย แต่มันจะแข็งแกร่งเท่ากับผู้ทำพันธสัญญาหรือก็คือถ้าผู้ทำพันธสัญญาอยู่ในระดับราชันย์ขั้นสิบ ศาสตราวุธก็จะอยู่ในระดับราชันย์ขั้นสิบแต่ถ้าผู้ทำพันธสัญญาเลื่อนระดับศาสตราวุธก็เลื่อนระดับด้วย

 

ซึ่งมันเหมาะกับเทียนถางมากเพื่อเทียนถางต้องการศาสตราวุธที่แข็งแกร่งและพัฒนาไปพร้อมกับมันได้ และตอนนี้หอกเทพสมุทรที่อยู่ตรงหน้าของมนก็เป็นศาสตราวุธที่ยอดเยี่ยมเช่นกันมันต้องการศาสตราวุธชิ้นนี้มาก และเทียนถางมิวิธีที่จะเอามันไป

 

“ผู้พิทักษ์แห่งวิหารเทพสมุทรทั้งสองเอ๋ย ข้าถางสกุลเทียน จะขอทดสอบความสามารถในฐานะเจ้าชายคนหนึ่ง”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะเงื่อนไขเพื่อเข้าร่วมการทดสอบคือการที่จะต้องมีฐานะสูงเทียบเท่ากับราชาหรือเจ้าชายเป็นอย่างต่ำ คุโระจ้องมองมาที่แหวนในมือของเทียนถางที่ได้มาจากเทียนโจก็รู้ว่าเทียนถางมิได้กล่าวเท็จแต่อย่างใด

 

“ได้”คุโกล่าวออมกาอย่างเย็นชาชิโระเต็มไปด้วยความดุร้าย แต่ถึงเช่นนั้นต่อให้อีกฝ่ายคือศัตรูแต่นี้ก็ยังเป็นหน้าที่ของพวกมัน ทั้งสองสะบัดมือส่งพลังปราณเข้าไปที่รูปปั้นเทพสมุทรและรูปปั้นก็ส่องแสงออกมามันเต็มไปด้วยความงดงามแต่ก็เต็มไปด้วยความทรงพลัง

 

“เจ้าต้องยืนอยู่ตรงนั้นและเดินเข้าไปหยิบหอกเทพสมุทรออกมาให้ได้”คุโระกล่าวออกมาอีกครั้งและชี้ไปที่หน้าประตูทางเข้าวิหาร เทียนถางพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วมินานพลังที่รุนแรงก็พุ่งเข้าใส่มันเมื่อเดินกลับเข้ามาในวิหารอีกครั้ง

 

“ข้าอยากจะรู้ว่าเพียงมนุษย์ธรรมดาจะทำสิ่งใดได้”ชิโระกล่าวออกมาอย่างดูถูกพวกมันทั้งสองเต็มไปด้วยความดูถูกและต้องการที่จะสังหารเทียนถาง ถ้าเทียนถางทำพลาดละก็พวกมันคงสังหารเทียนถางโดยมิลังเลเลย

 

เทียนถางค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆพลังที่รุนแรงกดทับมันจนพื้นที่มันเหยียบลงไปแตกออกเป็นชิ้น เทียนถางเต็มไปด้วยความเย็นชามันเดินไปและหลับตาลงโคจรพลังจากทะเลเพลิงปีศาจเพื่อดูดซับพลังจากรูปปั้นเทพสมุทรเข้าไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกระแสของพลัง

 

“เจ้ามนุษย์นั้นพยายามที่จะดูดซับพลังจากรูปปั้นเทพสมุทร”คุโระกล่าวออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึงเพราะมันเป็นเรื่องยากมาที่จะตั้งสมาธิดูดซับพลังทั้งที่ร่างกายเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ แต่ถ้าทำได้มันจะเป็นการเพื่อพลังที่รวดเร็วมาตอนนี้ภายในลูกแก้วพลังของเทียนถางเต็มไปด้วยพลังที่เข้มข้นจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าไป

 

“ตูมมมม”พลังของเทียนถางใกล้จะเลื่อนเข้าสู้ระดับราชันย์จักรพรรดิขั้นต่ำเต็มที่แล้ว แต่เมื่อก้าวมาได้ครึ่งทางก่อนที่จะถึงรูปปั้นพลังที่กดทับร่างของเทียนถางอยู่ก็เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่านั้นที่ตอนนี้เกิดระเบิดที่รุนแรงขึ้นและมันมาจากพื้นที่เทียนถางเหยียบอยู่

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เทียนถางหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งคุโระและชิโระเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นเช่นนี้ เทียนถางตอนนี้มันต้องการพลังจำนวนมากเพื่อเลื่อนระดับเพราะมันมิต้องการที่จะใช้โอสถ เทียนถางรู้ว่าการใช้โอสถจะมิส่งผลดีกับมันในอนาคต มันใช้โอสถไปจำนวนมหาศาลแล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ และตอนนี้รูปปั้นเทพสมุทรได้ส่งพลังจำนวนมหาศาลเข้ามาหามันโดยตรงเลย

 

“ฟุมมมม”เทียนถางเดินเข้าไปอีกและดูดซับพลังจำนวนมหาศาลเข้ามาในร่างกายราวกับหลุมดำขนาดใหญ่ตอนนี้พลังทั่วทั้งวิหารเปลี่ยนกลายเป็นกระแสพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเทียนถาง ผู้พิทักษ์วิหารทั้งสองเต็มไปด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นเช่นนี้พวกมันรีบถอยออกไปจากระยะการดูดซับพลังของเทียนถางทันทีเลย

 

“ตูมม”พลังที่รุนแงระเบิดออกมาจากร่างกายของเทียนถางตอนนี้มันได้เลื่อนเข้าสู้ระดับราชันย์จักรพรรดิแล้วปรากฏร่างเงาของยักษ์ขนาดใหญ่ออกมาอีกครั้งและครั้งนี้มันอ้าปากจำนวนมากของมันและดูดกลืนพลังจากรูปปั้นเทพสมุทรเข้าไปจำนวนมหาศาลเพื่อเพิ่มพลังให้กับเทียนถาง

 

ณ ตอนนี้เกาะตันเถียนของเทียนถางขยายขึ้นมากกว่าเดิมหลายสิบเท่าและลูกแก้วพลังก็ขยายขั้นไปอีกห้าสิบเท่าเลยมันมีขนาดใหญ่ราวกับดวงจันทร์ภายในเกาะตันเถียนของเทียนถางเลย และยักษ์แห่งชีวิตของเทียนถางตอนนี้ได้ขยายตัวขึ้นเช่นกันปรากฏเขาหนึ่งคู่บนหัวของมัน ภายในมือซ้ายของมันดวงดาวบางอย่างในมือที่เทียนถางได้มานั้นก็เริ่มขยายตัวขึ้นเล็กน้อย

 

เทียนถางมิได้สนใจมันเดินเข้าไปอีกอย่างช้าๆร่างเงายักษ์ก็มิได้หายไปและร่างกายของเทียนถางก็เริ่มดูดซับพลังได้เร็วขึ้นอย่างมหาศาลเลย พลังภายในลูปแก้วพลังตอนนี้มาขนาดหนึ่งในร้อยของขนาดลูกแก้วพลังแล้ว

 

แต่มินานมันก็หยุดเพราะว่าตอนนี้พลังทั้งหมดหายไปแล้ว เทียนถางจึงได้ลืมตาขึ้นปรากฏว่าตอนนี้มันอยู่ที่ด้านหน้าหอกเทพสมุทรแล้ว เทียนถางจบไปที่หอกเทพสมุทรอย่างช้าๆปรากฏพลังที่รุนแรงระเบิดออกมาอย่างรวดเร็วและพลังเหล่านั้นหลั่งไหลไปที่ลูปแก้วพลังตอนนี้เทียนถางมีปริมานพลังอยู่ถึงสองในสิบของลูกแก้วพลังแล้ว

 

หอกเทพสมุทรมีขนาดเล็กลงพอดีมือของเทียนถางและมันเหวี่ยงไปมากอย่างง่ายดายระเบิดพลังของเทียนถางและหอกเทพสมุทรตอนนี้อยู่ที่ระดับราชันย์จักรพรรดิขั้นต่ำ เทียนถางเต็มไปด้วยความสุขและมันได้จองมองไปที่ผู้พิทักษ์วิหารทั้งสองที่แสดงอาการตกตะลึงอ้าปากค้างมิได้ขยับตัวเลย เทียนถางคิดว่ามันคงมิได้หายใจด้วย

 

“ข้าคุโระผู้พิทักษ์แห่งวิหารเทพสมุทรขอถวายตัวรับใช้ท่าน/ข้าชิโระผู้พิทักษ์แห่งวิหารเทพสมุทรขอถวายตัวรับใช้ท่าน”เทียนถางเคาะหอกเทพสมุทรลงไปที่พื้นอย่างแรงเสียงดังขึ้นมันจึงได้สติและพุ่งเข้ามาด้านหน้าของเทียนถางและกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทั้งสองก้มลงไปที่จนหัวของพวกมันติดพื้น

 

เทียนถางรูอยู่แล้วว่าพวกมันทั้งสองต้องทำเช่นนี้เพราะว่าผู้ทดสอบผ่านจะมีสิทธิ์เลือกผู้พิทักษ์ของวิหารไปกับมันได้ และตอนนี้ผู้พิทักษ์วิหารทั้งสองต้องการมาเป็นข้ารับใช้เทียนถางด้วยตัวของมันเองเลย เทียนถางเต็มไปด้วยความยินดีมันสะบัดมือดึงร่างกายของทั้งสองขึ้นจากพื้น

 

“ข้ามิคิดว่าวิหารเทพสมุทรจะมีพื้นที่แค่นี้นะมันเกิดสิ่งใดขึ้นก่อนที่ข้าจะมาถึง”เทียนถางกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะเศษซากทั้งหมดนี้เป็นของวิหารเทพสมุทรอย่างแน่นอน แต่เหตุใดมันจึงถูกทำลายเช่นนี้

 

“วิหารถูกทำลายเมื่อสามร้อยปีก่อนขอรับ หนึ่งในผู้ที่มากจากพื้นที่สีดำได้เข้าทำลายถูกอย่างเพื่อหอกเทพสมุทรแต่เทพสมุทรของพวกเราก็เข้าต่อกรจนสามารถที่จะชนะได้แต่เหล่าเพียงเราสองคนที่ยังเด็กที่รอดชีวิต ท่านเทพสมุทรจึงได้มอบหน้าที่ทั้งหมดให้พวกเราท่านได้สร้างที่นี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินลึกเข้าไปและมิกลับออกมาอีกเลย”คุโระและชิโระแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาคุโระกล่าวออกมาอย่างจริงจังโดยที่มิปิดบังเลย

 

“คนจากพื้นที่สีดำหรือ”เทียนถางพึมพำออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึงและมันก็จ้องมองเข้าไปยังทางยางเพียงเส้นเดียวของวิหารเทพสมุทรนี้ มันเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วคุโระและชิโระตกตะลึงมากแต่มันก็มิได้กล่าวสิ่งใดและเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว เทียนถางจ้องมองไปรอบๆด้วยดวงตาราชันย์ปีศาจและดวงตาแห่งธรรมชาติมันมิพบสิ่งใดเลย มินานก็มาถึงสุดทางเดินปรากฏแสงส่องสว่างขึ้น เทียนถางจ้องมองไปที่ต้นแสงอย่างรวดเร็ว