ปราณปีศาจอันบ้าคลั่ง
ตอนที่22 ปราณปีศาจอันบ้าคลั่ง
เทียนถางมิได้เริ่มฝึกทักษะ ดรรชนีปราณกระบี่พิษ มันจ้องมองไปล้อมรอบและได้รับรู้ว่าพลังของพื้นที่ล้อมรอบกลับมาเป็นเช่นเดิมแล้ว เทียนถางจึงได้ลอยออกมาจากรถเข็นไปนั่งอยู่ที่หินใจกลางบ่อน้ำก้อนเดิมเทียนถางเพ่งสมาธิลงไปในร่างกายของมันและเริ่มโคจรพลังปราณปีศาจในร่างกายอย่างรวดเร็ว เทียนถางได้หยิบมณีบริสุทธิ์ที่จูหลินให้ออกมาทันที
“วิ้ง ฟุม”มณีบริสุทธิ์ส่องแสงสว่างออกมาจำนวนมากและเริ่มทำให้ปราณปีศาจในร่างกายของเทียนถางบริสุทธิ์ขึ้นและเข้มข้นขึ้นอย่างรวดเร็ว มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมาแต่มิใช้แค่พลังของมณีบ่อน้ำแห่งราชาภูตเริ่มทำงานมันดูดซับพลังจากพื้นที่ล้อมรอบตัวเทียนถางเข้าสู่ร่างกายของเทียนถางด้วยความเร็วอย่างมิน่าเชื่อ
เทียนถางปราณในร่างกายของเทียนถางเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนตอนนี้มันสามารถที่จะรับรู้ได้ว่าปราณปีศาจเพิ่มขึ้นมามากกว่าตอนแรกถึงสามเท่าเลย หลังจากผ่านไปได้ห้าวันเต็มเทียนถางก็สามารถที่จะรับรู้ได้ว่าตอนนี้พลังปราณปีศาจของมันถูกเติมเต็มแล้วและปราณปีศาจของมันยังถูกบีบอัดกันจนกลายเป็นปราณที่มีความแข็งแกร่งอย่างมิน่าเชื่อ
เทียนถางจึงได้เริ่มที่จะฝึกบทที่หกแห่งทักษะ โลหิตมารร้าย ต่อทันทีเทียนถางเริ่มส่งพลังปราณปีศาจจำนวนมหาศาลไปทั่วร่างกายของมันเข้าไปที่กระดูกและอวัยวะทั้งหมดในร่างกายของมันอย่างรวดเร็วพลังปราณปีศาจเริ่มกัดกินทั้งกระดูกและอวัยวะในร่างกายของเทียนถางอย่างบ้าคลั่งจนมิอาจที่จะควบคุมได้แล้วในตอนนี้
“พวกข้าคงต้องต้องขอบใจเจ้าที่ให้เราพักอยู่ที่นี้”หลังจากผ่านมานานถึงสิบวันเต็มไปนิกายมากมายก็เดินทางกลับไปยังนิกายของตนและจูหนิงกับจูหลินและนิกายมรกตเขียวขจีเองก็ต้องเดินทางกลับ จูหนิงกล่าวกับจุนซันและจุนซันจิงที่ออกมาส่งทุกคนกลับเช่นกัน จูหลินจ้องมองไปอย่างใจหายเพราะตลอกเวลานับตั้งแต่มอบของให้เทียนถางนางก็มิได้ไปหาเขาเลย
“เทียนถางยังฝึกอย่างหนักเขายังมิได้ออกมาหรอกนะ แต่เขาฝากนี้มาให้เจ้า”จุนซันขบขันเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มและยื่นกระดาษหนึ่งแผ่นให้กับจูหลินนางประหลาดใจมากและรับมาจากมือของจุนซัน นางลองอ่านดุและดวงตาของนางก็ต้องเบิกกว้างเพราะในนั้นคือทักษะระดับเจ็ด นามของมันคือ แสงประกายสว่างไสว มันทักษะต่อสู้ที่รวดเร็วและเหมาะสำหรรับผู้ที่ใช้ศาสตราวุธจำพวกกระบี่คู่เป็นอย่างมาก
“เจ้าปฏิเสธมันมิได้นะเพราะเขาต้องการให้เจ้าจริงๆ”จุนซันรู้ว่าจูหลินจะกล่าวปฏิเสธมันจึงได้รีบกล่าวออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้นางมิอาจที่จะกล่าวสิ่งใดได้เลย จูหนิงจ้องมองไปที่กระดาษเล็กน้อย เมื่อได้เห็นนางเองก็ตกตะลึงเช่นกันแต่ก็มิได้กล่าวสิ่งใดจากนั้นนิกายเขียวขจีก็ต้องเดินทางกลับจูหลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากชายใดเห็นนางในตอนนี้ก็ต้องรักนางอย่างหมดใจเป็นแน่
“มีสิ่งใดเขียนด้านหลังของกระดาษนะ”จูหนิงที่นั่งลอยอยู่บนอากาศด้านข้างนกสีฟ้าอ่อนที่จูหลินกำลังนั่งอยู่ก็กล่าวออกมาเพราะสังเกตให้บางอย่าง จูหลินรีบหันกระดาษเพื่อตรวจสอบทันทีแต่เมื่อเห็นข้อความหน้าของนางก็แดงขึ้นมาทันที และนางพึมพำออกมาว่า โรคจิต หื่นกาม หลงตัวเอง ซ้ำไปมาหลายสิบครั้งและนางของนางก็กลับมาแดงอีกครั้ง ข้อความนั้นคือ “ถ้าต้องการจะเป็นภรรยาข้าเจ้าต้องขยันให้มากนะ หลินน้อย” เมื่อจูหลินนึกถึงนางก็มิสามารถที่จะเก็บอาการเขินของนางได้อีกแล้ว
เทียนถางนั่งอยู่เช่นนั้นตลอดสิบวันเต็มตั้งแต่มาอยู่ในที่แห่งนี้ปราณปีศาจหลอมรวมเข้ากับกระดูกและอวัยวะทั้งหมดโดยสมบูรณแล้ว เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนเพราะว่าตอนนี้เทียนถางได้เข้าสู่ระดับแปดแห่งระดับอสูรแล้วแต่นั้นมิใช้สิ่งที่ทำให้มันตกตะลึง เทียนถางนั้นสัมผัสได้ว่าร่างกายของมันนั้นราวกับไร้ความรู้สึกเพราะว่าพลังปราณปีศาจได้ห่อหุ้มและกัดกินทั่วร่างกายของมันไปจำนวนมากแล้ว
“ข้าไร้ความรู้สึกแต่มันยังมิสมบูรณ์หรือ”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าดุร้ายเพราะว่ามันรับรู้ได้ว่าร่างกายของมันยังพอมีความรู้สึกในบางส่วนเทียนถางจึงได้คาดเดาว่าร่างกายของมันนั้นยังถูกปราณปีศาจกลืนกินได้ยังมิครบทุกส่วน เทียนถางจึงได้เริ่มฝึกบทที่เจ็ดแห่งทักษะ โลหิตมารร้าย ต่อทันที
พลังปราณปีศาจสีดำสนิทพุ่งเข้าสู่ร่างกายทั้งหมดและเริ่มกัดกินร่างกายด้วยความรวดเร็วมาก เทียนถางมิได้ทำเพียงเท่านั้นมันเริ่มส่งพลังปราณปีศาจเข้าไปที่ตันเถียนเพื่อเปลี่ยนแปลงตันเถียนของมันด้วยความรวดเร็วมาก ตันเถียนของเทียนถางเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“ฟุม กืก”ปรากฏรอยร้าวที่ปราณที่ห่อหุ้มเกาะตันเถียนนั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสับสนเพราะมันมิคิดว่าจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นแต่มินานพลังปราณจำนวนมากก็ค่อยๆไหลออกตามรอยร้าวจนรอยร้าวขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนแต่แล้วมันก็แตกออกมาและส่งปราณทั้งหมดหลั่งไหลออกไปจำนวนมาก
“นี้..”เทียนถางอุทานออกมาเสียงดังเพราะมันไม่คิดว่าร่างกายของมันจะขยายตัวขึ้นเพราะพลังปราณปีศาจที่หลั่งไหลออกมาจะทำให้เทียนถางแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้ และเทียนถางจ้องมองไปที่เกาะตันเถียนที่กำลังขยายขึ้นรวดเร็วมากและต้นไม้แห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยปราณปีศาจที่เพิ่มพูนขึ้นมากมายก็ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นี้หรือว่าข้า ข้ามขั้นพลังปราณหรือ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างสับสนเพราะเนื่องจากตอนนี้มันสัมผัสพลังยุทธได้ว่ามันได้อยู่ในระดับสิบครึ่งก้าวของระดับมังกรแล้ว เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนแต่สามารถที่จะค้นพบว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เทียนถางเริ่มดูดซับพลังจากพื้นที่รอบตัวเพื่อเต็มเติมพลังตันเถียนที่ถูกขยายพื้นที่ขึ้น
“ฟุม วิ้ง”พลังจากผืนฟ้า ผืนโลกและเหล่าสมุนไพรกับพลังของมณีบริสุทธิ์ ทั้งหมดถูกดูดซับเข้ามาในร่างกายเพื่อเติบเต็มกันอย่างรวดเร็ว มินานพลังปราณของเทียนถางก็ถูกเติมจนเต็มและเทียนถางก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับส่งกลิ่นอายที่แข็งออกมาอย่างมหาศาล เพราะว่าตอนนี้มันได้บรรลุทักษะ โลหิตมารร้าย แล้ว เทียนถางลอยขึ้นและกลับมานั่งที่รถเข็น
เทียนถางออกมาจากพื้นที่ไปด้านนอกเพื่อที่จะทดสอบพลังของมัน เทียนถางมุ่งหน้าออกมาจากนิกายไปที่ป่าด้านหลังของนิกาย มินานมันก็ลอยมาถึงใจกลางของป่าปรากฏกลุ่มของสัตว์อสูรจำนวนมากเทียนถางจึงได้เริ่มปกปิดกลิ่นอายของตนเองทันที และมุ่งหน้าไปที่กลุ่มของอสูรมัน สัตว์อสูรเหล่านี้คือ จระเข้เกราะกระดูก เทียนถางใช้ทักษะ ดรรชนีเบิกฟ้า ด้วยพลังปราณปีศาจแทนพลังปราณธาตุอสนี
“ตูม”เทียนถางพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะแทงนิ้วออกไปด้วยความรวดเร็ว จระเข้เกราะกระดูกถูกแทงทะลุหลายสิบครั้งอย่างรวดเร็วนั้นทำให้เทียนถางประหลายใจเพราะจระเข้เกราะกระดูกนั้นอยู่ในระดับสัตว์อสูรระดับสามเลยและพลังป้องกันของมันอยู่ในระดับสี่เลย เทียนถางจ้องมองไปที่นิ้วและพลังปราณในร่างกายของมันอย่างสับสน
เทียนถางเริ่มชำแหละเนื้อและร่างกายของจระเข้เกราะกระดูกด้วยความรวดเร็วด้วยการสะบักมือส่งกระบี่จักรพรรดิเยือกแข็ง ตัดผ่านร่างกายของจระเข้เกราะกระดูกอย่างรวดเร็วและเทียนถางก็หยุดมือเพื่อเก็บของและมันสังเกตเห็นกระบี่น้ำจักรพรรดิเยือกแข็งของมันเปลี่ยนแปลงสีดำสนิทนั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ข้าคงมิได้กลายเป้นปีศาจไปจริงๆใช้หรือไม่”เทียนถาพึมพำออกมาเพราะมิคิดว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายเช่นนี้แต่แล้วเทียนถางก็สัมผัสได้ถึงบางคนมันระเบิดพลังปราณที่ดุร้ายออกมาทันทีก่อนที่จะจ้องมองไปที่พวกมันด้วยสีหน้าเย็นชา ปรากฏกกลุ่มคนออกมาด้านหลังของเทียนถางคนเหลือนั้นคือกลุ่มจุนซันจิง
“พวกท่านต้องการสิ่งใดหรือ”เทียนถางกล่าวถามออกมาอย่างจริงจังและจ้องมองไปที่กลุ่มของจุนซันจิง แต่พวกมันมิได้ตอบและจ้องมองไปที่ซากของจระเข้เกราะด้วยสายตาประหลาดใจ เทียนถางและก็เข้าใจทันทีว่ากลุ่มของจุนซันจิงต้องการที่จะล่าเหล่าจระเข้เกราะกระดูกนั้นเอง
“เจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมกับเราหรือไม่”จุนซันจิงกล่าวออกด้วยสีหน้าจริงจังเทียนถางพยักหน้าตอบนั้นทำให้กลุ่มของเหล่าผู้ที่ติดตามจุนซันจิงเต็มไปด้วยความตกตะลึงถึงมันจะเคยรู้จักว่าเทียนถางเป็นใครแต่มิคิดว่าจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ และทุกคนก็ได้ออกมาเดินทางเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็วทันที
มินานหลังจากการเดินทางของเทียนถางและกลุ่มมาถึงที่ด้านหน้าของแม่น้ำขนาดใหญ่ใจกลางป่าและมีน้ำตกที่อยู่ทางขวามือของเทียนถางที่นั้นเต็มไปด้วยความสงบเป็นอย่างมาก เทียนถางปลดปล่อยประสาทสัมผัสออกไปจำนวนมากเพื่อที่ตรวจหาพื้นที่รอบและได้พบมาที่ใต้แม่น้ำเต็มไปด้วยจระเข้เกราะกระดูกจำนวนมหาศาลเลย
ชายหนุ่มผู้หนึ่งพยายามที่จะพุ่งออกไปแต่เทียนถางโบกมือบังเอาไว้นั้นทำให้ชายหนุ่มคนนั้นโกรธแค่แล้วก็ปรากฏจิตสังหารจำนวนมากพุ่งออกมาจากร่างกายของเทียนถาง ก่อนที่จะเริ่มเรียกกระบี่จักรพรรดิเยือกแข็งออกมาสิบเล่มและสะบัดมือส่งพวกมันลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้จุนซันจิงและกลุ่มเต็มไปด้วยความสับสน
มินานกลิ่นคาวโลหิตจำนวนมากพุ่งออกมาจากแม่น้ำโดยที่มีซากของจระเข้เกราะกระดูกจำนวนมาพุ่งออกมา ผู้คนที่อยู่ด้านข้างของเทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนและจ้องมองไปที่เทียนถางด้วยสีหน้าหวาดกลัวหลังจากนั้นเทียนถางก็ได้ตัดผ่านทุกอย่างก่อนที่จะเก็บซากศพและชิ้นส่วนของจระเข้เกราะกระดูกเข้าไปแหวนมิติ
“ข้าว่ารังของพวกมันคงอยู่ใต้น้ำตกนั้นเป็นแน่”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างดุร้ายเช่นเดิมนั้นทำให้กลุ่มคนที่ติดตามจุนซันจิงเต็มไปด้วยความสับสนและจ้องมองไปที่จุนซันจิง มันทำเพียงพยักหน้าเห็นด้วยและกลุ่มก็มุ่งหน้าเข้าไปใกล้น้ำตกอย่างรวดเร็ว
“โฮกกก”หลังจากที่กลุ่มมาถึงด้านข้างของน้ำตกก็ปรากฏกลุ่มของจระเข้เกราะกระดูกจำนวนมากพุ่งขึ้นมามันคำรามออกมาอย่างดุร้ายและด้านหลังกลุ่มเทียนถางก็ปรากฏจระเข้เกราะกระดูกจำนวนมากพุ่งออกมาอีกจำนวนมาก การต่อสู้จึงได้เริ่มขึ้นเทียนถางและจุนซันจิงสามารถที่จะจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
แต่กลุ่มที่มากับจุนซันจิงนั้นมีแต่ผู้ที่อยู่ในระดับอสูรจึงเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับฝูงของจระเข้เกราะกระดูกจำนวนมหาศาลเช่นนี้ เทียนถางเริ่มสะบัดมือปลดปล่อยกงจักรหยกสีรุ้งและโล่ดำไร้รูปลักษณ์ออกมา ก่อนที่จะสะบัดมือส่งกงจักรและกระบี่จักรพรรดิเยือกแข็งออกไปทันที
เทียนถางโคจรพลังปราณในร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มพลังทำลายภายในกระบี่จักรพรรดิเยือกแข็งและกงจักรหยกสีรุ้งก่อนที่จะส่งพวกมันออกไปสังหารเหล่าจระเข้เกราะกระดูกอย่างรวดเร็วจนทุกคนตกตะลึงเพราะว่ากลุ่มของจระเข้เกราะกระดูกได้ถูกสังหารจนหมดแล้ว
“เจ้านั้นเป็นสัตว์ประหลาดพันธุ์ไหนกัน”ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความสับสนเพราะว่ามิคิดว่าเทียนถางจะแข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ จุนซันจิงคือผู้ตกตะลึงมากที่สุกเพราะมันมิเคยคิดว่าเพียงแค่สิบวันเทียนถางจะเลื่อนระดับขึ้นสูงระดับอสูรขั้นที่สิบได้รวดเร็วเช่นนี้ มินานซากศพของจระเข้เกราะกระดูกก็นอนกองอยู่ที่พื้นและเทียนถางก็ดูดซับชิ้นส่วนทั้งหมดของจระเข้เกราะกระดูกเข้ามาในแหวนมิติของมันทันทีเหลือเพียงแค่ซากที่มันมิได้สังหาร
“มันกำลังมา”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อมันสัมผัสได้ถึงบางอย่างนั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความกังวลขึ้นมาทันทีและเตรียมตัวออกรับมือกับบางสิ่งทันที หลังจากนั้นมินานก็ปรากฏจิตสังหารจำนวนมากพุ่งออกมาจากใต้น้ำตกจุนซันจิงขมวดคิ้วทันทีเพราะมันสัมผัสได้ถึงพลังของศัตรูเทียบเท่ากันระดับผู้ยิ่งใหญ่เลย
“รีบหลบออกไป”จุนซันจิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทันทีและนั้นทำให้ศิษย์ทุกคนวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่ราวกับจระเข้เกราะกระดูกแต่มันมีขนาดใหญ่กว่าและมีเกราะกระดูกจำนวนมากกว่าสิบเท่าจากของเดินทั่วร่างกายของมัน
“โฮกกก”เทียนถางรับรู้ว่าจระเข้เกราะกระดูกอยู่ในระดับสี่ของเหล่าสัตว์อสูรและยังรู้จักว่ามันคือสิ่งใดมันคือราชาแห่งจระเข้เกราะกระดูกเทียงถางเรียกศาสตราวุธทั้งหมดของมันมาล้อมรอบร่างกายเอาไว้ จุนซันจิงเองก็รู้ว่าเทียนถางมิคิดที่จะหนีมันจึงมิได้ห้ามและกระโดดถอยออกไปเพื่อที่จะให้เทียนถางนั้นต่อสู้ด้วยตนเอง
จุนซันจิงรับรู้ว่าเทียนถางต้องการที่จะทดสอบพลังที่พึ่งได้มาใหม่นั้นเอง เทียนถางเริ่มต่อสู้ทันทีมันปลดปล่อยพลังปราณออกมาจำนวนมหาศาลและสะบัดมือส่งศาสตราวุธทั้งหมดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกายของราชาจระเข้เกราะกระดูกก็เปลี่ยนเป็นสีเงินและมันก็สะบัดหางฟาดศาสตราวุธทั้งหมดของเทียนถางจนกระเด็นกลับมา
“ไปเลย”เทียนถางเต็มไปด้วยความเย็นชามันปลดปล่อยอสรพิษดำทั้งสองออกมาอย่างรวดเร็วและกล่าวออกมา อสรพิษดำทั้งสองพุ่งเข้าใส่ราชาจระเข้เกราะกระดูก การต่อสู้จึงได้เริ่มขึ้นแต่เทียนถางกับเต็มไปด้วยความสับสนเพระว่าอสรพิษดำที่เต็มไปด้วยพิษที่รุนแรงและเพิ่มพลังมาขึ้นจากปราณปีศาจกับมิได้ส่งผลใดๆกับราชาจระเข้เกราะกระดูกเลย
“นี้หรือว่ามันมีสิ่งประหลาดใดเกิดขึ้น”เทียนถางพึมพำออกมาด้วยสีหน้าดุร้ายและจุนซันจิงก็พุ่งเข้ามาด้านข้างของมันอย่างรวดเร็ว
“เจ้าราชาจระเข้เกราะกระดูกนั้นได้กลายพันธุ์ไปแล้ว เมื่อสองวันก่อนพวกเราได้ข่าวว่าราชาจระเข้เกราะกระดูกได้ถูกกลุ่มคนผู้ที่มิหวังดีได้นำมันมาปลดที่นี้และนั้นทำให้เหล่าจระเข้เกราะกระดูกที่อยู่ที่นี้กลายเป็นทาสของมันไปและมันก็เริ่มโจมตีเหล่าศิษย์ของนิกาย”จุนซันจิงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เทียนถางเข้าใจได้ในทันทีราชาจระเข้เกราะกระดูกกลายพันธุ์เป็นสิ่งใหม่แล้วเพราะทั้งเกราะสีเงินนั้นและความสามารถในการป้องกันพิษนั้นประหลาดมาก
“ข้าจะลองดูอีกครั้ง”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังและเหล่าศิษย์ที่ยืนดูอยู่บนต้นไม้เต็มไปด้วยความตกตะลึงบางคนเต็มไปด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่หน้าของจุนซันจิงเพราะมันรู้ว่าเทียนถางจะมิยอมแพ้แน่มันจึงได้ถอยหลังออกมา เทียนถางระเบิดพลังปราณออกมาจำนวนมากอีกครั้งมันรวบรวมพลังปราณปีศาจทั้งหมดเข้าไปในนิ้วเดียวทันที
“ดรรชนีเบิกฟ้า”เมื่อมันพร้อมเทียนถางก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วอสรพิษดำทั้งสองรู้หน้าที่ของมัน พวกมันทั้งสองเข้ารัดตัวของราชาจระเข้เกราะกระดูก เทียนถางพุ่งเข้าไปที่ด้านหน้าของมันก่อนที่จะถูกมันงับเข้าผู้คนต่างตกตะลึงแต่นั้นเป็นเพียงแค่ร่างเงาของเทียนถางเท่านั้น ตัวจริงของมันตีลังกาขึ้นไปด้านบนเหนือหัวของราชาจระเข้เกราะกระดูกแล้ว
“ซวก ซวก ซวก”เทียนถางแทงนิ้วออกไปอย่างรวดเร็วคลื่นดรรชนีพุ่งเข้าไปที่จุดเดิมซ้ำถึงสามครั้งเพราะเทียนถางรู้ว่าร่างกายของราชาจระเข้เกราะกระดูกนั้นแข็งแกร่งและการที่จะสังหารมันจะต้องเจาะเกราะเข้าไปและการทำลายเกราะที่ได้ผลที่สุดที่ทำลายจุดเดิมซ้ำๆเท่านั้น
“โฮกกก”แต่นั้นกับทำให้ราชาจระเข้เกราะกระดูกก็มาเข้าไปอีกมันโกรธขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดและมันก็ได้หมุนตัวอย่างรวดเร็วอสรพิษดำทั้งสองของมันปลิวออกไปคนละทิศและราชาจระเข้เกราะกระดูกก็หันหลังพุ่งเข้าหาเทียนถางด้วยความรวดเร็วมาก
“กรอบ กุม”ราชาจระเข้เกราะกระดูกขย้ำร่างของเทียนถางทันทีนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงแม้แต่จุนซันจิงแต่แล้วเสียงก็ดังขึ้นนั้นคือเสียงฟันที่แข็งแกร่งของราชาจระเข้เกราะกระดูกได้หักลงเพราะตอนนี้ร่างกายของเทียนถางถูกห่อหุ้มด้วยโล่ดำไร้รูปลักษณ์ และมันแข็งแกร่งอย่างมหาศาลปรากฏรอยยิ้มที่หน้าของเทียนถางทันที
“ซวก ฟู่”เทียนถางรวบรวมพลังปราณปีศาจจำนวนมากไปไว้ที่นิ้วชี้อีกครั้งและครั้งนี้มันต้องการที่จะโจมตีระยะประชิดเลย เทียนถางห่อหุ้มร่างกายด้วยโล่ดำไร้รูปลักษณ์และแทงนิ้วไปที่ตาทั้งสองข้างของราชาจระเข้เกราะกระดูกในเวลาเดียวกันการขยับแขนของมันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วโลหิตมากมายหลั่งไหลออกมา
“โฮก ปัง”ราชาจระเข้เกราะกระดูกเจ็บปวดจนต้องเหวี่ยงเทียนถางไปกระแทกกับต้นไม้และมันก็คำรามออกมาอย่างเจ็บปวดร่างกายของมันสั่นเพราะความเกรี้ยวกราดได้เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดร่างกายที่เป็นสีเงินของมันจากหายไป ปรากฏรอยยิ้มบนหน้าของเทียนถางทันทีมันลอยออกมาจากต้นไม้อย่างเยือกเย็นเช่นเดิม