ตอนที่แล้วอาจารย์จุนซัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปปราณปีศาจอันบ้าคลั่ง

ประลองเพื่อทดสอบความสามารถ


ตอนที่21 ประลองเพื่อทดสอบความสามารถ

 

“หลงอู่เจ้าแข็งแกร่งขึ้นนะเอาเป็นว่าเมื่อข้าเข้าสู่ระดับมังกรเมื่อใดเราค่อยกลับบ้านเจ้ากัน”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและรอยยิ้มที่มิค่อยปรากฏต่อสายตาใครมากนัก ทุกคนเต็มไปด้วยความสับสนทุกคนที่รู้จักเทียนถาง นี้คงเป็นมิกี่ครั้งแน่ที่เทียนถางจะยิ้มกว้างเช่นนี้แม้แต่หลงอู่เองยังประหลาดใจเช่นกันมันยิ้มและรีบโค้งคำนับทันที

 

“ชายผู้นั้นเป็นใครข้ามิสามารถที่จะตรวจสอบพลังยุทธของเขาได้เลย”จูหนิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าจุนซันกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจังเพราะนางมิสามารถที่ตรวจสอบพลังยุทธของหลงอู่ได้เลย จุนซันส่ายหัวเช่นกันมันมิสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงพลังยุทธของหลงอู่เช่นกัน นั้นเพราะพลังยุทธของมันทั้งสามอยู่ในระดับเดียวกันนั้นเอง

 

“เริ่มงานเลี้ยงเถอะ”จุนซันรีบกล่าวออกมาทันนั้นทำให้ทุกคนในงานต่างเต็มไปด้วยความยินดีและกินดื่มกันอย่างมีความสุข เทียนถางเองก็ดื่มสุราเข้าไปจำนวนมากเช่นกันมากจนคนที่นั่งอยู่กับมันต้องตกตะลึงเพราะตอนนี้มันดื่มสุราไปมิต่ำกว่าสิบไหแล้ว แต่ด้วยระดับพลังยุทธของเทียนถางนั้นมิได้ทำให้มันเมาเลยแม้แต่น้อย

 

“จูหนิง ข้าว่าเรามาจัดการประลองทดสอบความสามารถของเหล่าศิษย์กันเถอะ”แต่หลังจากผ่านไปได้สักพักใหญ่จุนซันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้ทุกคนที่เป็นผู้นำของนิกายทั้งสาม ที่ต่างเต็มไปด้วยความสนุกสนานก็พยักหน้าตอบทันที จุนซันสะบัดมือส่งพลังปราณเข้าไปที่กลงห้องโถงปรากฏลานประลองขึ้นมาใจกลางพื้นที่

 

“ข้าขอส่งศิษย์ขึ้นไปเป็นคนแรกแล้วกัน”ผู้นำนิกายพิภพสะเทือนกล่าวออกมาทันทีก่อนที่จะหันไปจ้องมองที่หนึ่งในศิษย์และโบกมือให้ศิษย์ผู้นั้นขึ้นไปบนลานประลองและมันกระโดดขึ้นไปโดยมิลังเลเลย ชายหนุ่มผู้นั้นมีพลังยุทธระดับอสูรขั้นที่เจ็ดขึ้นมามีเส้นผมสีดำสนิทและมีดวงตาสีดำสนิทหน้าตาธรรมดา ผู้นำนิกายดาราส่องทางก็โบกมือเช่นกันมีร่างเงาหนึ่งกระโดดขึ้นไปเช่นกันชายผู้นั้นอยู่ในระดับอสูรขั้นที่แปดมีเส้นผมสีแดงสั้นและดวงตาสีแดงหน้าตาดุร้าย

 

“ข้ากินกังกระบี่ฟ้า/ข้ามิงเนียขวานสะบัดฟ้า”ทั้งสองกล่าวออกมาพร้อมกันและชายผมดำได้เรียกกระบี่สี่ฟ้าออกมาและชายผมแดงร่างใหญ่ได้เรียกขวานออกมา ศาสตราวุธทั้งสองอยู่ในระดับอสูรขั้นสูงทั้งคู่ เทียนถางจ้องมองไปด้วยสีหน้าเฉยชาไร้อารมณ์เช่นเดิมหลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กันซึ่งผู้ที่ดูจะได้เปรียบจะเป็นชายเส้นผมแดงที่มีนามว่ามิงเนีย

 

“เจ้าว่าผู้ใดจะชนะ ข้าว่ามิงเนียขวานสะบัดฟ้าเป็นแน่ ข้าเคยได้ยินว่าเขาได้สังหารอสูรระดับสามโดยใช้เพียงมือเปล่าเท่านั้น และข้าเคยได้ยินว่าเข้าเป็นหนึ่งในสิบศิษย์ชั้นนอกที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายดาราส่องทาง”เนียจิงที่นั่งอยู่ด้านข้างเทียนถางก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้ทุกคนจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยความสนใจ เพราะพวกมันอย่างจะรู้ความเห็นของเทียนถาง

 

“มิใช้แน่นอน ชายที่มีนานว่ากินกังนั้นมิได้แสดงอาการหวาดกลัวหรือสิ่งใดออกมาเลยและพวกเจ้าดูสิเขาพยายามที่จะให้เจ้ามิงกังนั้นใช้พลังปราณในร่างกายของตนให้หมดและมันจะได้สวนกลับ ชายผู้นั้นสังเกตการณ์เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติพวกเจ้าลองมองไปที่ดวงตาของเขาสิขยับมิหยุดเลย”เทียนถางที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก็กล่าวออกมาอย่างละเอียดที่คำที่มันกล่าวทุกคนก็จ้องมองไปตามทันทีและสิ่งที่เทียนถางกล่าวก็เป็นจริงทันหมดแต่ก็ยังมีหลายคนที่มิอาจที่จะเชื่อได้ว่าชายที่อยู่ในระดับแปดจะแพ้ชายอยู่ที่ในระดับเจ็ดของระดับเดียวกับเช่นนี้

 

“เรามาพนันกันไหม”แต่แล้วเสียงที่ดังอยู่ที่โต๊ะที่ห่างออกไปนั้นคือนาง จูหลิน นั้นเองนางยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงเพราะทุกคนได้ยินที่เทียนถางกล่าวทั้งหมดและหลายคนมิอาจเชื่อ เทียนถางจ้องมองไปที่นางด้วยสีหน้าเฉยชาและดุร้ายจนน่าหวาดหวั่นและพยักหน้าตอบเล็กน้อยเท่านั้นผู้คนต่างประหลาดใจ

 

“นี้คือชุดเข็มทองคำเป็นหนึ่งในชุดเครื่องของหนึ่งในสิบนักปรุงโอสถที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้ เจ้ามีสิ่งใดจะมาพนันกับข้าละ”จูหลินโบกมือปรากฏกล่องสีทองลวดลายสีทองสวางไสวอยู่ที่มือของนางและนางก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง เทียนถางรับรู้ได้ทันทีว่านางต้องการที่จะทำให้มันขายหน้าปรากฏรอยยิ้มเล็กๆที่หน้าของเทียนถาง

 

“ข้าจะขอพนันด้วยชีวิตของข้า ถ้าเขาแพ้เจ้าสามารถที่จะใช้กระบี่ที่เอวเจ้าแทงทะลุตรงนี้ได้เลย”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าสงบเช่นเดิมนั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงและจ้องมองไปที่นิ้วที่ชี้ไปที่หัวใจของเทียนถาง แม้แต่จูหลิน จูหนนิงและจุนซันเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมิมีใครคิดว่าเทียนถางจะรับคำท้าและยังจะพนันด้วยชีวิตตนเช่นนี้

 

“ข้ามิมีสมบัติที่จะนำไปเปรียบเทียบกับของที่เจ้าพึ่งนำออกมาเพราะเช่นนั้นชีวิตข้าเหมาะสมที่สุดและมิต้องกลัวข้าจะหนีเพราะข้ามิอาจจะเดินได้”เทียนถางกล่าวออกมาอีกครั้งเพื่อกลบความสงสัยของผู้คน เมื่อได้ยินคำกล่าวอีกครั้งของเทียนถางผู้คนต่างเข้าใจแต่มิมีใครคิดว่าเด็กหนุ่มอายุสิบหกปีจะกล้าทำเช่นนี้

 

“เหตุใดเจ้าจึงเชื่อว่าข้าจะชนะ”ชายกินกังกล่าวถามออกมาและอย่างจริงจังเมื่อมันเข้ามาที่ขอบลานประลองด้านหน้าของเทียนถาง และนั้นทำให้ทุกคนจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยสีหน้าสนใจเช่นกันเทียนถางชี้ไปที่ด้านหลังของกันกิงซึ่งมันได้ก้มลงเพื่อหลบขวานของมิงเนียทันทีก่อนที่จะพุ่งหลบออกไปด้วยความเร็วสูง

 

“เหตุผลหรือมันง่ายดายมากเพราะข้ารู้ว่าเจ้ากำลังซ่อนความสามารถอยู่”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างดุร้ายเช่นเดินนั้นทำให้ทุกคนจ้องมองไปที่กันกิงที่ยืนอยู่อย่างสงบปรากฏรอยยิ้มที่ด้านหน้าของมันก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่มิงเนียด้วยความเร็วสูงจนทุกคนตกตะลึงมิงเนียมิอาจที่จะตอบสนองทันกระบี่สีฟ้าแทงทะลุไหล่ทั้งสองของมันด้วยความเร็วที่มิน่าเชื่อ

 

“ข้ากินกังยอมรับเจ้าว่าเป็นผู้ฝึกยุทธที่ตาแหลมเสียจริง”ทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงจนมิมีใครสนใจเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของมิงเนียที่นอนกองอยู่ที่พื้น กินกังประสานมือให้เทียนถางก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เทียนถางประสานมือตอบเล็กน้อย

 

“สิ่งนี้เป้นของเจ้าแล้ว”หลังจากทุกอย่างจบลงจูหลินก็สะบัดมือส่งกองสีแดงเข้ามาที่เทียนถางและเทียนถางก็รับได้ก่อนที่นางจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย เทียนถางจ้องมองไปที่ของในมือของมันซึ่งมันมิได้ต้องการจึงได้โยนไปด้านหลังทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงหลงอู่รับและเก็บให้เทียนถางจูหลินเองก็ตกตะลึงเช่นกันและตอนนี้นางเต็มไปด้วยความโกรธแทน

 

“เอาล่ะเริ่มคู่ต้องไปเถอะ”จุนซันรีบกล่าวออกมาเพื่อเปลี่ยนแปลงบรรยากาศที่รุนแรงนี้ทันทีหลังจากนั้นหญิงสาวจากนิกายมรกตเขียวขจีกระโดดขึ้นมาทันทีและนั้นคือ จูหลินนางจ้องมองมาที่เทียนถางด้วยสีหน้าเย็นชาแต่เทียนถางกับมิแม้แต่จะสนใจนางเลย เทียนถางกล่าวคุยกับเนียจิงอย่างสนุกสนานถึงมันจะมิแสดงออกมาทางสีหน้าก็ตามนั้นยิ่งทำให้จูหลินโกรธมากขึ้น

 

“มิต้องห่าวงข้ารินเจียงจะเป็นผู้ประลองกับท่านเอง”ปรากฏเสียงกังขึ้นพร้อมกับที่ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาเส้นผมสีม่วงอ่อนและดวงตาสีม่วงเข้ม มันมาจากนิกายพิภพสะเทือนนั้นเองและยังอยู่ในระดับมังกรขั้นที่หนึ่งเช่นเดียวกับจูหลินที่อยู่ในระดับมังกรเช่นกันจูหลินที่พยายามที่จะกล่าวบางอย่างกับเทียนถางยิ่งโกรธเข้าไปอีกเมื่อถูกขัด

 

“ข้าจะฉีกเข้าเป็นหมื่นชิ้นเพื่อระบายความโกรธนี้”จูหลินกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราดและนั้นทำให้หลายคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของนาง แต่เทียนถางมิแม้แต่จะรู้สึกรู้สามันกล่าวทุกและทานอาหารต่อโดยที่มิได้คิดสิ่งใดอีก จูหลินที่หันไปจ้องมองเล็กน้อยก็โกรธแค้นเป้นอย่างมากนางดึงกระบี่ทั้งสองเล่มออกมาจากเอวและพุ่งเข้าหาชายผู้ที่มีนามว่ารินเจียนทันที

 

“กระบี่มรกตเกรี้ยวกราด”จูหลินกล่าวออกมาอย่างดุร้ายและฟันเข้าใส่รินเจียงซึ่งนั้นทำให้รินเจียงยิ้มปรากฏทวนสีเงินในมือของมันแทงเข้าใส่จูหลินอย่างรวดเร็ว นางขยับหลบอย่างรวดเร็ดกระบี่ทั้งสองพุ่งเข้าหาคอของรินเจียงอย่างรวดเร็ว แต่รินเจียงกับมิได้ลบรอยยิ้มบนใบหน้ามันเลย มันสะบัดทวนฟันเข้าใส่เอวของจูหลินจนนางปลิวออกไป

 

เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะมันมิคิดว่ารินเจียงจะโจมตีเข้าใส่จูหลินเต็มแรงเช่นนี้ราวกับว่ามันมิใช้บุรุษและเทียนถางก็เข้าใจทันทีว่ารินเจียงผู้นี้เกิดมามีร่างกายของบุรุษแต่มีจิตใจของสตรี เทียนถางจึงได้ส่ายหัวอย่างมิอาจที่จะทำสิ่งใดได้เพราะมันรู้ว่ารินเจียงนั้นแข็งแกร่งกว่าจูหลินเพราะดูจากร่างกายของรินเจียงแล้วคงมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าจูหลินเป็นแน่

 

“ยอมแพ้เถอะเข้ามิอาจที่จะชนะเขาได้”เทียนถางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและนั้นทำให้ทุกคนเชื่อได้ทันทีว่าชายที่เทียนถางกล่าวรินเจียงนั้นแข็งแกร่งกว่าจูหลินเป็นแน่  แต่นั้นกับทำให้นางโกรธแค้นเข้าไปอีกนางกระอักโลหิตออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นเตรียมเข้าจู่โจมรินเจียงต่อ แต่นั้นยิ่งทำให้รินเจียงสนุกขึ้นมันเตรียมตัวพุ่งเข้าใส่จูหลินทันที

 

เทียนถางจ้องมองดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าดุร้ายผู้คนมากมายก็จ้องมองไปที่การ่อสู่ที่เริ่มขึ้นและรุนแรงขึ้นเช่นกันจูหลินถึงนางจะเสียเปรียบแต่นางมิคิดจะยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย และผู้คนต่างรับรู้ว่านางมิสามารถที่จะชนะรินเจียงที่ไล่ล่านางเช่นนี้ได้แน่ จูหนิงและคนของนิกายมรกตเขียวขจีเต็มไปด้วยความกังวลแม้แต่จุนซันยังประหลาดใจในความสามารถของทั้งสองที่อยู่บนลานประลองทั้งสองคนแข็งแกร่งมาก

 

“กระบี่แสงศักดิ์สิทธิ์”จูหลินคำรามออกมาอย่างดุร้ายกระบี่ทั้งสองของนางส่องแสงออกมาจำนวนมากและฟันเข้าใส่รินเจียง นั้นทำให้ผู้คนประหลาดใจที่เห็นนางใช้ปราณถึงสองธาตุหนึ่งคือธาตุมรกต(จำพวกอัญมณี เพรช มณี มกรต คริสตัล) และสองคือธาตุแสง

 

“ทวนกวาดมังกรสะบัดหาง”รินเจียงกล่าวออกมาอย่างดุร้ายและฟาดทวนเข้าปะทะกับกระบี่ทั้งสองของจูหลินเมื่อปะทะกับก็เกิดคลื่นปราณกระชากระเบิดขึ้น ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึงในความสามารถของอทั้งสองที่กำลังประลองกันอยู่ เทียนถางเองก็ประหลาดใจเช่นกันแต่แล้วกระบี่สองเล่มก็ปลิวมาปักที่ด้านหน้าของเทียนถางและร่างของจูหลินก็ล้มลงมาด้านหลังแต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็คือรินเจียงยกทวนขึ้นและเตรียมที่จะตีเข้าใส่นาง

 

“หยุด”ทวนถูกฟาดลงมากอย่างรวดเร็วจุนซันและจูหนิงคิดจะพุ่งเข้าไปหยุดแต่ก็มีเสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้นและแรงกดดันมหาศาลก็ห่อหุ้มทั่วทั้งพื้นที่ทันที ทุกคนจ้องมองไปที่ต้นเสียงปรากฏเทียนถางนั้นเองที่เป็นคนกล่าวจิตสังหารที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของเทียนถางดวงตาที่เขียวอ่อนของเทียนถางเต็มไปด้วยความดุร้ายราวกับสัตว์ร้ายจะกลืนกินทุกสรรพสิ่งที่คิดจะเป็นศัตรูของมัน รินเจียงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและนี้เป้นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นเทียนถางโกรธเช่นนี้เพราะตอนที่เทียนถางโกรธเราแขนของเทียนโจก้มิได้โกรธเช่นนี้

 

“ออกไปจากนาง”เทียนถางคำรามออกมาอีกครั้งและพลังปราณอันบ้าคลั่งราวกับปีศาจร้ายก็ระเบิดขึ้นส่งร่างกายของรินเจียงปลิวไปกระแทกกับกำแพงของห้องโถงจนทะลุออกมาด้านนอกผมคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแม้แต่ จุนซัน จูหนิงและหลงอู่ก็มิได้ต่างกันเมื่อสัมผัสถึงจิตสังหารอันรุนแรงของเทียนถาง เพราะว่าปราณปีศาจในร่างกายของเทียนถางได้ตื่นขึ้นอย่างแท้จริงเมื่อเห็นคนที่มีหน้าตาราวกับคนรักของมันดำลังจะถูกสังหารตรงหน้ามันเช่นนี้

 

“ท่านจูหนิงเชิญ”เทียนถางลดพลังที่รุนแรงลงจนมันสลายหายไปก่อนที่จะกล่าวออกมา จูหนิงเองก็ได้สตินางรีบพุ่งออกไปดูบุตรสาวของนางทันทีเทียนถางเลิกสนใจสิ่งใดทันทีมันต้องการตรวจสอบพลังปราณปีศาจในร่างกายของมันจึงได้โบกมือให้หลงอู่เข็นมันออกไปทันทีและก็มิมีผู้ใดคิดจะห้ามันแน่นอน เมียงโจ ช่างเว่ย เนียจิงและหมิงจูก็เต็มไปด้วยความสับสนเช่นกันเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ฉิงเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

 

“หลงอู่เจารอข้าที่บ้านพักตระกูลฉิงเมื่อข้าพร้อมข้าจะไปหาเจ้าเอง”เมื่อมาถึงยังทางเข้าบ้านพักตะวันฉายแสง เทียนถางก็โบกมือและกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจังทันที หลงอู่โค้งคำนับก่อนที่จะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วและเทียนถางก็กลับเข้าไปที่บ้านพักของมันทันทีเมื่อมันเข้ามาถึงยังห้องของมันเทียนถางหลับตาลงเพ่งสมาธิเข้าไปที่ตันเถียงของมันทันที

 

“นี้ข้าบรรลุบทที่ห้าแห่งทักษะ โลหิตมารร้าย แล้วหรือ”เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนเพราะมิใช้แค่เพียงภายในตันเถียนที่เต็มไปด้วยปราณสีดำสนิทแล้วทั่วทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยปราณสีดำสนิทอีกด้วย มันกล่าวออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึงเมื่อลืมตาขึ้น เทียนถางยิ้มออกมาแต่สิ่งที่เข้มาในหัวกับเป็นภาพที่จูหลินเกือบจะถูกสังหารมันเป็นภาพซ้อนทับเมื่อมันได้เห็นคนรักของมันถูกสังหารเมื่อมันยังเป็นโอดิน

 

วันรุ่งขึ้น

เทียนถางได้เพิ่มจำนวนพลังปราณปีศาจที่แท้จริงทั้งคืนและมันเพิ่มขึ้นมาเพียงน้อยนิดเท่านั้นและนั้นทำให้เทียนถางเต็มไปด้วยความดุร้ายเพราะมันมิสามารถที่จะเพิ่มพูนพลังปราณได้เลย มันจำเป็นต้องมีสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นราวกับปราณพิษที่จำเป็นต้องใช้พิษเพื่อเพิ่มพลังของมัน เทียนถางลืมตาขึ้นเพราะมันสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงคนหลายคนที่อยู่นอกห้อง

 

“พวกท่านต้องการสิ่ง”เทียนถางเข็นรถออกมาจากห้องและกล่าวออกมาอย่างดุร้ายเช่นเดิมผู้ที่อยู่ด้านหน้าห้องคือ จุนซัน จูหนิง จูหลิน ทั้งสามประหลาดใจเล็กน้อยที่เทียนถางสามารถที่จะรับรู้ได้ว่าทั้งสามมารอที่ด้านหน้าห้องเช่นนี้

 

“ข้าจะมาขอขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือข้า”จูหลินเดินออกมาด้านหน้าและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง เทียนถางพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น จูหลินตื่นในตอนเช่นและจูหนิงได้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟันและนั้นทำให้นางเต็มไปด้วยความตกตะลึงที่ได้รู้ว่าเทียนถางโกรธเช่นนั้น ขณะ ที่นางเอาแต่จะทำร้ายและทำลายเทียนถาง แต่เทียนถางกับโกรธมากและปกป้องนาง

 

“เราไปทานอาหารกันเถอะ”จุนซันรีบกล่าวออกมาทันทีและทุกคนจ้องมองมาที่เทียนถาง และมันก็พยักหน้าตอบเท่านั้นหลังจากนั้นทั้งสี่ก็เดินทางไปที่ห้องโถงเพื่อรับประทานอาหาร และเมื่ออาหารถูกนำมาเสิร์ฟ เทียนถางก็นั่งทานไปเงียบๆโดยที่มิได้กล่าวสิ่งใดแต่จูหลินจ้องมองที่เทียนถางด้วยสีหน้าประหลาด

 

“เทียนถาง ชายที่อยู่กับเจ้าคือผู้ใดหรือ”จูหนิงที่นั่งอยู่ด้านข้างของจูหลินกล่าวถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง นั้นทำให้เทียนถางและจุนซันประหลาดใจเล็กน้อย

“ข้ารับใช้ของข้าเองขอรับ”เทียนถางกล่าวตอบโดยมิลังเลแม้แต่น้อยนั้นทำให้จูหนิงและจุนซันเต็มไปด้วยความตกตะลึงเพราะว่ามันคิดว่าหลงอู่นั้นเป็นญาติของเทียนถางหรือผู้อาวุโสที่มีความแข็งแกร่งอย่างมหาศาลเป็นแน่ แต่นี้เทียนถางกับกล่าวว่านั้นคือชายผู้นั้นคือข้ารับใช้เท่านั้น

 

“ข้าอิ่มแล้วงั้นข้าขอตัวไปฝึกก่อนนะ”มินานเทียนถางก็กล่าวออกมาด้วยสีหน้าดุร้ายและเข็นรถออกไปทันที และจูหลินก็รีบลุกขึ้นเดินตามไปทันทีจูหนิงและจุนซันจ้องมองหน้ากันและยิ้มออกมา เทียนถางมุ่งหน้าไปที่ฝึกด้านหลังบ้านพักเมื่อถึงมันก็หมุนรถเข็นกลับมาไปจ้องมองทีจูหลินที่เดินตามมันมา

 

“เจ้าต้องการสิ่งใดหรือ”เทียนถางกล่าวถามออกมาและนั้นทำให้จูหลินเต็มไปด้วยความสับสนและนางก็เรียกบางสิ่งออกมาจากแหวนมิติ ปรากฏมณีสีดำและตำราสีแดงเล่มหนึ่งในมือของนาง เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะมันมิต้องการสิ่งใดตอบแทนแม้แต่น้อยแต่แล้วเมื่อมันจ้องมองไปที่จูหลินภาพซ้อนทับก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

“ฟริกกา”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างสับสนแววตาของมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้าและพยายามที่จะโอบกอดจูหลินแต่นั้นทำให้นางตกตะลึงและถอยหลังออกไปภาพที่ซ้อนทับจึงสลายหายไป เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะมันมิคิดว่าจิตวิญญาณโอดินจะมีผลกับจิตวิญญาณของมันในปัจจุบันของมันเช่นนี้

 

“เจ้าเป้นสิ่งใดหรือไม่”จูหลินกล่าวถามเมื่อเห็นเทียนถางนิ่งไปและเทียนถางก็สะบัดหัวเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าตอบและนางก็ยื่นมณีกับตำราสีแดงให้กับเทียนถาง แต่นั้นมิแม้แต่จะสนใจแม้แต่นอน แต่นางกับยัดลงมาที่ตักของเทียนถาง นั้นทำให้เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนและนางก็ยิ้มและวิ่งออกไปทันที

 

เทียนถางถอนหายใจออกมาและได้เริ่มตรวจสอบของทั้งสองสิ่ง มันพบว่ามณีมีธาตุของปราณบริสุทธิ์ซึ่งมันเข้าได้กับทุกธาตุ และตำราสีแดงที่จูหลินให้มาเป็นตำราธาตุพิษและมันเหมาะกับทักษะดรรชนีเบิกฟ้า เพราะทักษะนี้คือทักษะดรรชนีประสานกับทักษะธาตุพิษที่แข็งแกร่งและทักษะนี้ยังเป็นทักษะระดับหกอีกด้วยนามของมันคือทักษะ ดรรชนีปราณกระบี่พิษ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด