ตอนที่แล้วกายาพิษที่สมบูรณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแผนการที่เยือกเย็นและเด็ดขาด

จ้าวแห่งพิษ


ตอนที่17 จ้าวแห่งพิษ

 

เทียนถางเริ่มโคจรพลังปราณพิษในร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างก้อนพิษที่สมบูรณ์ขึ้นนั้นทำให้ปราณในร่างกายของมันเหือดแห้งลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่ทำให้ร่างกายของเทียนถางอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วนั้นทำให้ เทียนถางหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าอย่างมหาศาล

 

แต่ด้วยพลังของบ่อน้ำแห่งราชาภูต มินานพลังปราณทั้งหมดของมันก็ถูกเติมเต็มพร้อมกับที่มันได้รับรู้ว่าก้อนพิษที่อยู่ด้านหน้าของมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทำให้เทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนเพราะว่าก้อนพิษมีสีดำสนิทและปราณมากมายพุ่งเข้ามาในร่างกายของเทียนถาง นั้นทำให้เทียนถางรับรู้ว่ามันได้บรรลุบทแรกแห่งทักษะ พิษอสรพิษดำ

 

เทียนถางยิ้มก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนทักษะ พิษอสรพิษดำ บทที่สองต่อทันทีเทียนถางเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆของก้อนพิษสีดำ รูปร่างของมันเปลี่ยนไปเป็นอสรพิษขนาดใหญ่สีดำนั้นทำให้เทียนถางประหลาดใจเพราะว่ามันง่ายดายมากในการควบคุมพิษ เพราะว่าเทียนถางสามารถที่จะควบคุมน้ำแข็ง อสนีบาตและพิษได้ดั่งใจเลย

 

“ฟุมมม”เทียนถางจ้องมองไปที่อสรพิษสีดำขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าของมันปรากฏปรากฏของมันกำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วตอนนี้เทียนถางสามารถที่จะรู้ได้ว่าการควบคุมและการสร้างสรรค์ปราณที่มันต้องการนั้นมันสามารถที่จะทำได้ดั่งใจเลย เทียนถางนั้นเต็มไปด้วยความยินดีเพราะตอนนี้มันบรรลุบทที่สองแห่งทักษะ พิษอสรพิษดำ แล้ว

 

“ช่างง่ายดาย”เทียนถางกล่างออกมาเพราะมันทำให้ฝึกสองบทแห่งทักษะ พิษอสรพิษดำสำเร็จได้เพียงแค่สามสิบนาทีเท่านั้น แต่ตอนนี้คือการฝึกบทที่สามก็คือการสร้างปราณแก่นแท้ภายในอสรพิษดำที่อยู่ด้านหน้าของมันเอง เทียนถางจึงยิ้มก่อนที่จะโคจรพลังของแก่นแท้แห่งปราณพิษภายในหัวใจของมันทันที มินานก็ปรากฏก้อนของปราณภายในหัวของอสรพิษดำ

 

สิบวันต่อมา

“ฟ่อ ซุม”เทียนถางในเวลาสิบวันมานี้มันให้เวลาพักเพ่งเล็กน้อยและเพ่งสมาธิทั้งหมดลงไปที่การสร้างปราณแก่นแท้ที่หัวของอสรพิษดำและหลังจากผ่านไปสิบวันตอนนี้อสรพิษตัวใหญ่เกิดสิบนิ้วและยาวถึงห้าสิบเมตร นั้นทำให้เทียนถางเต็มไปด้วยความสนใจมากเพราะว่าตอนนี้ปราณแก่นแท้ที่หัวของอสรพิษใหญ่เป็นสิบเท่าจากเมื่อสิบวันก่อน

 

เทียนถางเมื่อเทียนถางคิดว่ามันน่าจะพอแล้วเทียนถางจึงได้เรียกอสรพิษมาที่ด้านหน้าของมันและใช้ฝ่ามือสัมผัสไปที่หัวของอสรพิษปรากฏแสงสีเขียวส่องสว่างขึ้นแก่นแท้แห่งปราณพิษที่อยู่ภายใต้หัวใจของเทียนถางส่องแสงออกมาจำนวนมากและได้เปลี่ยนแปลงปราณแก่นแท้ที่อยู่ในหัวของอสรพิษดำไปเป็นสีเขียวเข้มและราวกับว่าเทียนถางได้รับรู้ถึงตัวตนของมันจากอสรพิษดำ นั้นทำให้มันรับรู้ได้แล้วว่าตอนนี้มันได้บรรลุทักษะ พิษอสรพิษดำ

 

“ระเบิดปราณพิษ”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างดุร้ายอีกครั้งเพราะว่าตอนนี้มันต้องการที่จะใช้ทักษะเกี่ยวกับพิษดู อสรพิษดำนั้นเลื่อยวนล้อมรอบร่างกายของเทียนถางเอาไว้และระเบิดพิษที่รุนแรงออกมาจากล้อมรอบตัวของมันนั้นทำให้เทียนถางยิ้มออกมาตอนนี้มันบรรลุทักษะ พิษอสรพิษดำได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

 

หลงอู่ที่นั่งอยู่บนหลังคาค่อยดุการฝึกของเทียนถางก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็นแต่มิใช้แค่นั้นพิษที่รุนแรงเมื่อครู่นี้เริ่มหลอมละลายอาณาเขตป้องกันของมันราวกับพิษของอสรพิษแสนพิษเสียจริง เทียนถางสะบัดมือสลายพิษทั้งหมดออกไปและเก็บอสรพิษดำเข้าไปที่แก่นแท้แห่ปราณพิษที่อยู่ในหัวใจของมัน

 

“มันสามารถี่จะเติบโตได้เมื่ออยู่ด้านในหรือ”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อเพ่งสมาธิลงไปที่แก่นแท้แห่งปราณพิษของมัน เมื่อเข้ามาด้านในอสรพิษดำนั้นนอนหลับอยู่แต่ร่างกายของมันกับดูดซับปราณด้านในอย่างรุนแรงและรวดเร็วซึ่งภายในแก่นแท้แห่งปราณพิษนี้มีความหนาแน่นของปราณมากกว่าด้านนอกถึงร้อยเท่านั้นทำให้มันเติบโตได้อย่างรวดเร็วเป้นอย่างมาก

 

“หลานถาง”เทียนถางจึงได้ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกล่าวของบางคนเมื่อมันจ้องมองออกไปปรากฏฉิงเทียนที่กำลังเดินเข้ามา ปรากฏชายชราและกลุ่มของชายชราอีกหลายคนเดินตามหลังมานั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันและครุ่นคิดถึงบางอย่าง เมื่อมันลืมตาขึ้นความคิดเกี่ยวกับเทียนโจและน้องชายทั้งสองก็เข้ามาในหัวของมัน

 

“เกิดสิ่งใดขึ้นกับครองครัวข้า”เทียนถางกล่าวถามออกมาอย่างร้อนใจแววตาของมันเต็มไปด้วยความสับสนแต่ฉิงเทียนและกลุ่มชายชราเต็มไปด้วยความตกตะลึงและจ้องมองหน้ากัน ฉิงเทียนลืมตาลงและถอนหายใจก่อนจะลืมตาขึ้นจ้องมองมาที่เทียนถาง

 

“ตอนนี้พวกเขาทั้งสามถูกทำลายจนบาดเจ็บสาหัสตอนนี้บิดาของเจ้าได้เสียแขนไปแล้ว”ฉิงเทียนกล่าวออกมาอย่างเศร้าโศกด้วยตาของมันเต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน เทียนถางเมื่อได้ยินความทรงจำมากมายของเทียนถางคนก่อนถาโถมเข้าใส่มันดวงตาของมันปรากฏน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับที่เปลี่ยนสีหนน้าเป็นโศกเศร้า

 

“ท่านพ่อ เทียนหยาง เทียนหยิน”เทียนถางกล่าวนามของทั้งสามออกมาก่อนที่จะจ้องมองออกไปยังท้องฟ้าที่ด้วยตะวันกำลังจะตกดิน เทียนถางในตอนนี้ไร้ซึ่งสิ่งใดในหัวในตอนนี้ที่มันเป็นโอดินมันนั้นไร้ซึ่งความรู้สึกที่ว่างเปล่าเช่นนี้แต่ตอนนี้มันได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเทียนถาง บุตรแห่งเทียนโจผู้ที่เสียแขนเพื่อปกป้องนั้นทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดอย่างมหาศาล

 

“อ้ากกกกก”เทียนถางคำรามออกมาอย่างเจ็บปวดทั่วทั้งนิกายสั่นสะเทือนอย่างน่าหวั่นใจแม้แต่ผู้นำนิกายแสงตะวันที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ภายในห้องฝึกยุทธยังต้องลืมตาขึ้น ผู้คนมากมายต่างตกตะลึงแต่คนของกลุ่มจักรพรรดิฟ้าที่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อนรู้ทันทีว่านี้คือเสียงของเทียนถาง เมียงโจ ช่างเว่ย เนียจิง หมิงจู พวกมันพุ่งมาที่บ้านพักของผู้อาวุโสฉิงเทียนด้วยความเร็วสูง

 

“ฟุมมม”เมื่อพวกมันทั้งสี่มาถึงก็ได้พบกับพลังปราณสีเขียวน้ำเงินและทองระเบิดออกมาจากร่างกายของเทียนถาง อสนี น้ำแข็ง และพิษ ปราณของทั้งสามธาตุระเบิดออกมาอย่างน่าหวั่นใจแต่หลงอู่ก็ได้โอบล้อมมันไว้มิให้ส่งออกไปจากบริเวณบ้านพักของฉิงเทียน เทียนถางลืมตาลงอีกก่อนที่จะล่มตาขึ้นและเอียงคอไปที่กลุ่มของฉิงเทียนแววตาของมันเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างรุนแรงจนผู้ที่เห็นจะต้องหวาดกลัว

 

“เมียงโจ ข้าต้องการให้กลุ่มจักรพรรดิฟ้าไปกับข้าตอนนี้เลย”เทียนถางหันไปมองที่เมียงโจและกล่าวออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้เมียงโจที่ตกตะลึงได้สติกลับมาพร้อมกับกล่าวออกมาอย่างจริงจังและพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง หลงอู่พุ่งลงมาเข็นรถของผมมาที่ด้านหน้าของฉิงเทียนทันทีเทียนถางจ้องมองไปที่ดวงตาของฉิงเทียนอย่างจริงจัง

 

“ท่านลุงนี้คือสิ่งที่ข้าจะขอจากท่านเป็นครั้งสุดท้ายโปรดช่วยข้าทำลายล้างนิกายกระจ่างฟ้า”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงแต่ฉิงเทียนยังคงสงบดวงตาของมันจ้องมองเข้าไปที่ภายในดวงตาของเทียนถางก่อนที่จะพยักหน้าตอบอย่างจริงจัง เหล่าชาชราพยายามที่จะกล่าวบางอย่างแต่ก็มิมีผู้ที่จะกล้ากล่าวสิใดเมื่อได้เห็นดวงตาที่เย็นชาของเทียนถาง

 

“เราจะออกมาเดินทางกันทันที ไปได้”ฉิงเทียนกล่าวออกมาอย่างจริงจังทันทีนั้นทำให้เหล่าชายชราตกตะลึงแต่พวกมันก็ทำตามที่ฉิงเทียนกล่าวโดยมิได้กล่าวถามสิ่งใดเทียนถางเต็มไปด้วยความดุร้าย มินานกลุ่มของตระกูลฉิงที่อยู่ในนิกายแสงตะวันก็มาร่วมกันจนครบและคนของกลุ่มจักรพรรดิฟ้าก็มาร่วมตัวกันรออยู่ที่ด้านนอกที่พัก

 

“ข้าเทียนถางต้องรบกวนพวกเจ้าแล้วแต่ข้าสัญญา ข้าจะทำให้พวกเราเป็นที่หนึ่งของนิกายเมื่อพวกเรากลับมาแล้ว”เทียนถางกล่าวออกมาพร้อมกับประสานมือนั้นทำให้กลุ่มจักรพรรดิฟ้าที่มิเต็มใจที่จะมานักก็เปลี่ยนไปในทันทีถึงบางคนจะยังมิเชื่อแต่หลายคนกับเชื่อมันในคำกล่าวของเทียนถางจากใจจริงเลยเพราะพวกมันพึ่งเคยเห็นเมียงโจเกรี้ยวกราดเช่นนี้เป็นครั้งแรก

 

“เราออกเดินทางกันเถอะ ท่านลุงเทียน”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อเห็นฉิงเทียนเดินออกมาพร้อมกับกลุ่มชายชราด้านหลังของมัน แงเทียนพยักหน้าพร้อมกับที่สั่งทุกคนออกเดินทางกลับอาณาจักรเขี้ยวมังกรในทันที เทียนถางมิได้กล่าวสิ่งใดเลยตลอดการเดินทางเนียจิงก็พยายามที่จะเรามากล่าวบางอย่างแต่ก็ถูกห้ามโดยเมียงโจ นั้นทำให้เนียจิงรู้สึกกังวลมาก

 

“เราต้องใช้เวลานานเพียงใดกล่าวจะถึงอาณาเขี้ยวมังกรหรือ”ชายหนุ่มผู้หนึ่งจากกลุ่มจักรพรรดิฟ้ากล่าวถามกับคนของตระกูลฉิง

“สิบห้าวัน”ชายหนุ่มตระกูลฉิงกล่าวตอบอย่างสงบนั้นทำให้ชายหนุ่มจากกลุ่มจักรพรรดิฟ้าพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม หลังจกนั้นมินานก็ถึงยามค่ำคืนทุกคนออกมาก่อตั้งก่อเพลิงเพื่อพักทานอาหารแต่มีเพียงแค่เทียนถางและหลงอู่ที่กำลังจ้องมองไปที่ทิศของอาณาจักรเขี้ยวมังกร

 

“ข้าอย่างจะรู้มันเกิดสิ่งใดขึ้นเช่นนั้นหรือ”ชายหนุ่มจากกลุ่มจักรพรรดิฟ้าคนเดิมกล่าวถามออกมาอีกครั้งเมื่อทุกคนนั่งอยู่ล้อมรอบกองเพลิงนั้นทำให้ทุกคนสนใจจ้องมองไปที่ฉิงเทียนที่กำลังนั่งทานอาหารอย่างเงียบ

“เทียนถางถูกสัตว์ทำร้ายจนบาดเจ็บนั้นทำให้เขาอ่อนแอแต่แล้ววันหนึ่งเป็นวันที่ทำให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นก็คือวันเฉลิมฉลองประจำตระกูลเทียนและทุกคนและวันนั้นเทียนถาง ผู้เป็นองค์ชายคนโตแห่งอาณาจักรเขี้ยวมังกรได้เข้าร่วมด้วย ในตอนนี้ที่เขาอยู่เพียงระดับเดรัจฉานขั้นที่สี่เขาสามารถที่จะจัดการกับชายสองคนจากนิกายกระจ่างฟ้าที่อยู่ในระดับมนุษย์ขั้นที่สามและสี่ได้อย่างง่ายดาย และนั้นทำให้พวกมันแค้นส่งคนไปทำลายราชาแห่งอาณาจักรเขี้ยวมังกร ท่านเทียนโจ บิดาของเทียนถางจนแขนขาดเช่นนั้นไง”ชายหนุ่มจาดตระกูลฉิงกล่าวออกมาอย่างละเอียดนั้นทำให้ทุกคนที่ได้ฟังตกตะลึงและจ้องมองไปที่เทียนถางด้วยสายตาแปลกๆ

 

“นั้นคือเหตุผลที่ทำให้เทียนถางที่เยือกเย็นคลั่งสินะ”เมียงโจจ้องมองไปที่เทียนถางและกล่าวออกมาอย่างจริงจังแววตาของมันเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเมื่อเห็นน้องชายของตนเป็นเช่นนั้น

“นี้หรือคนของนิกายกระจ่างฟ้า พ่ายแพ้แล้วก็กลับมาแก้แค้นอย่างหน้าตัวเมียเช่นนี้”ช่างเว่ยกล่าวออกมาอย่างดุร้ายแววตาของมันเต็มไปด้วยความเกลียดซังปราณที่ดุร้ายพุ่งออกมาและมันยังอยู่ในระดับอสูรแล้วด้วย นั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มจักรพรรดิต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึงซึ่งเทียนถางมิแม้แต่จะสนใจแววตาของมันเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

 

“หลานถาง ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังโกรธแต่ตอนนี้เจ้าต้องทานบางอย่างนะ”ฉิงเทียนเดินเข้ามาหามันพร้อมกับที่กล่าวออกมาอย่างจริงจังเทียนถางจ้องมองไปที่จานอาหารที่ว่างอยู่ในมือของมันและตักเนื้อต้มเข้าปากพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้งแต่มันก็ยังทานต่อมินานก็หมดลง ดวงตาของมันเปลี่ยนกลับมาเป็นจริงจังและได้เช็ดน้ำตาออกมาจากแก้มของมัน

 

“เจ้ามีปราณถึงสามธาตุเช่นนั้นหรือ”ฉิงเทียนกล่าวถามออกมาอีกครั้งเพราะว่ามันสามารถรับรู้ได้จากสีของปราณทั้งสามได้ เทียนถางพยักหน้าตอบโดยมิได้ลังเลนั้นทำให้ฉิงเทียนที่เป็นคนถามตกตะลึงแต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มและเรียกบางสิ่งออกมาจากแหวนมิติของมัน และได้ยื่นให้กับเทียนถาง นั้นทำให้เทียนถางสนใจก่อนที่จะจ้องมองไปที่ตำราในมือของฉิงเทียน

 

“นี้คือตำราทักษะระดับเจ็ดมันมีนามว่า จ้าวแห่งพิษ ข้ารู้ว่าปราณสีเขียวมรกตนั้นคือปราณแห่งพิษใช้หรือไม่ ถ้าใช้เจ้าก็จงรับมันและฝึกมันเถอะ”ฉิงเทียนกล่าวออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้เทียนถางและหลงอู่ตกตะลึง เพราะว่าทักษะระดับเจ็ดนั้นมิได้หากันง่ายดายเช่นหลงอู่ที่อยู่ในระดับผู้ยิ่งใหญ่ขั้นที่สิบยังมีทักษะระดับเจ็ดเพียงแค่สองทักษะเท่านั้น

 

“ท่านลุง”เทียนถางพยายามที่จะกล่าวบางอย่างแต่ฉิงเทียนก็ส่ายหัวและได้ยื่นตำราทักษะเข้ามาในมือของเทียนถางและได้เดินจากไป นั้นทำให้เทียนถางเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและได้ยิ้มออกมาอารมณ์ของมันจากความเศร้าโศกตอนนี้เปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นอย่างจริงจังพร้อมกับที่มันได้เริ่มอ่านตำราทักษะ จ้าวแห่งพิษ ทันที

 

ทักษะ จ้าวแห่งพิษ ที่ทั้งหมดห้าบท บทที่หนึ่ง ประสานพิษเข้ากับร่างกายและจิตวิญญาณ บทที่สอง สร้างแก่นแท้แห่งธาตุปราณพิษภายในร่างกาย บทที่สาม ควบคุมพลังปราณพิษในแก่นแท้แห่งปราณพิษในร่างกาย บทที่สี่ สร้างพิษที่แท้จริงภายในแก่นแท้แห่งพิษ บทที่ห้า ควบคุมพิษที่แท้จริงให้ได้ดั่งใจ

 

“นี้มัน”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างตกตะลึงเพราะว่าบทที่หนึ่งและสองนั้นราวกับว่ามันมิต้องทำสิ่งใดเลยมันสามารถที่จะทำได้อย่างง่ายดายเป็นแน่ มันจงได้ปลดปล่อยปราณออกมาจากมือและเรียกพิษออกมาก้อนหนึ่งก่อนที่จะรู้ถึงปราณพุ่งเข้าสู่ร่างกายของมันและได้เริ่มปลดปล่อยพลังปราณภายใยแก่นแท้แห่งปราณพิษออกมาที่ก้อนพิษที่อยู่ในมือ

 

เทียนถางรับรู้ทั้งที่ว่าตอนนี้มันสามารถที่จะบรรลุทบที่สองได้อย่างง่ายดายแล้วและได้เริ่มบทที่สามต่อในทันที เทียนถางได้ทำการโคจรปราณที่อยู่ในแก่นแท้แห่งปราณพิษไปทั่วทั้งร่างกายด้วยความเร็วสูงมันรู้สึกทันทีว่าสร่างกายของมันแข็งแกร่งขึ้น เพราะว่าร่างกายของมันถูกสร้างขึ้นมาจากพิษและหลอมรวมเข้ากับพิษ

 

“เทียนถางเติบโตขึ้นอีกแล้ว”เมียงโจกับฉิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมกันนั้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความสนใจเพราะว่าตอนนี้เทียนถางได้เข้าสู่ระดับอสูรขั้นที่สามได้แล้ว และยังได้บรรลุบทที่สามแห่งทักษะ จ้าวแห่งพิษ แล้วซึ่งมันใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้นในการทำเช่นนี้ เมื่อเช้าเทียนถางก็ลืมตาขึ้นและกลับขึ้นไปบนรถม้าเพื่ออกมาเดินทางอีกครั้ง

 

เทียนถางตอนนี้มิได้สนใจใครเลยมันเพ่งสมาธิทั้งหมดลงไปที่ทักษะจ้าวแห่งพิษเท่านั้น เทียนถางได้ทำการโคจรพลังปราณไปที่แก่นแท้แห่งพิษเพื่อที่มันจะได้ สร้างพิษที่แท้จริงตามบทที่สี่แห่งทักษะ จ้าวแห่งพิษ หลังจากผ่านไปห้าวันที่เทียนถางเอาแต่นั่งเพ่งสมาธิทั้งหมดโคจรพลังปราณทั้งหมดในร่างกายไปที่แก่นแท้แห่งปราณพิษ

 

หลังจากที่ผ่านไปห้าวันภายในแก่นแท้แห่งปราณพิษ ปรากฏหมอกปราณสีเขียวเป็นของเหลวสีเขียวจำนวนมหาศาลและนั้นทำให้เทียนถางรับรู้ได้เลยว่าการสร้างปราณพิษที่แท้จริงนั้นราวกับการบีบอัดพลังปราณนั้นทำให้เทียนถางรู้สึกคุ้นเคยมาก เทียนถางจึงได้เริ่มปลดปล่อยปราณพิษที่แท้จริงไปทั่วทั้งร่างกายทันที

 

“ฟุมมม”ปราณพิษที่แม้จริงในร่างกายของเทียนถางเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะว่าปราณพิษที่แท้จริงนั้นทำให้ต้นไม้แห่งชีวิตและเกาะตันเถียนกับก้อนพลังแห่งโอดินขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนหน้าตกตะลึงเลย แม้แต่ตัวของเทียนถางเองยังประหลาดใจกับการเติบโตที่รวดเร็วของมัน แต่ถึงจะเติบโตรวดเร็วและทำให้มันแข็งแกร่งรวดเร็วขึ้นมันก็ยังมิคิดจะหยุด

 

สิบวันต่อมา

“ที่นี้หรืออาณาจักรเขี้ยวมังกร”หลังจากที่เวลาผ่านไปสิบวันในที่สุดเทียนถางและกลุ่มก็มาถึงยังอาณาจักรเขี้ยวมังกร เมียงโจกล่าวออกมาเมื่อมันจ้องมองไปที่ประตูอาณาจักรเขี้ยวมังกร เทียนถางในตอนนี้อยู่ในระดับอสูรขั้นที่สี่และยังบรรลุทักษะ จ้าวแห่งพิษ โดยสมบูรณ์เพราะการควบคุมปราณพิษที่แท้จริงของมัน เทียนถางใช้เวลาเพียงมินานก็ทำได้ดั่งใจมันต้องการแล้ว

 

“หยุดแสดงตัวตนของพวกเจ้าซะ”ทหารยามเมื่อเห็นขบวนของเทียนถางเดินทางมาถึงมันก็ตะโกนออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้ขบวนเดินทางหยุดลง และฉิงเทียนก็เดินออกมาพร้อมกับแสดงตราของตระกูลฉิงนั้นทำให้ทหารยามรีบเปิดประตูออกในทันที

 

“เชิญท่านผู้นำตระกูลฉิง”ทหารยามโค้งคำนับขบวนเดินทางของเทียนถาง มินานกลุ่มของตระกูลฉิงก็แยกออกไปที่ตระกูลมีเพียงฉิงเทียนที่ตามกลุ่มของเทียนถางและจักรพรรดิฟ้าไปที่พระราชวัง มินานเมื่อมาถึงยังประตูทางเข้าวังก็ปรากฏทหารยามหลายร้อยวิ่งออกมาปิดประตูเอาไว้ พวกมันยกหอกอันแหลมคมชี้มาที่กลุ่มของเทียนถาง

 

“ห้ามผู้ใดเข้าพระราชวังแม้แต่ท่านผู้นำตระกูลฉิง”ทหารยามคำรามออกมาอย่างดุร้ายนั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะมันคิดว่าภายในวังจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเป็นแน่

“ข้าเทียนถาง องค์ชายลำนับที่หนึ่งแห่งอาณาเขี้ยวมังกรนี้พวกทั้งหมดหลบไป”เทียนถางในตอนนี้มิอาจที่จะเก็บความร้อนใจเอาไว้ได้เทียนถางคำรามออกมาอย่างดุร้ายคลื่นพลังปราณกระแทกร่างของทหารทั้งหมดจนปลิวออกไปด้านหลังนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงแม้แต่ฉิงเทียนเองก็ตาม มันมิคิดว่าเทียนถางจะเกรี้ยวกราดเช่นนี้

 

“หลงอู่รีบพาข้าเข้าไป”เทียนถางรีบกล่าวออกมาอย่างจริงจัง หลงอู่สะบัดมือสร้างปราณห่อหุ้มเทียนถางและรถเข็นหยกเย็นก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในพระราชวังอย่างรวดเร็วโดนที่มีกลุ่มจักรพรรดิฟ้าและฉิงเทียนตามมาด้วยความเร็วสูง มินานทั้งกลุ่มก็มาถึงยังห้องโถงหลักของพระราชวังเมื่อเข้ามาเทียนโจที่นั่งอยู่ก็จ้องมองมาที่เทียนถางและกลุ่มด้วยสายตาเย็นชา

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด