กำเนิดต้นไม้ในตันเถียน
ตอนที่2 กำเนิดต้นไม้ในตันเถียน
เทียนถางลืมตาขึ้นเมื่อมันได้ปรับสภาพพลังปราณในร่างกายของมันให้คงที่ได้แล้ว เทียนถางกลับเข้ามาที่บ้านของมันเพราะตอนนี้ดวงตะวันได้ตกดินแล้ว เมื่อเทียนถางเข้ามาที่บ้านพักของมันก็พบว่ามีขวดโอสถว่าอยู่ ด้านในมีโอสถอยู่สามเม็ด เมื่อมันลองค้นความทรงจำดูปรากฏสิ่งที่ทำให้มันต้องตกตะลึงเทียนถางรีบเข็นรถไปที่เตียงนอนแล้วยกขึ้นปรากฏขวดยาที่มีนามว่า โอสถปราณเงิน มันเป็นโอสถระดับสอง มีผลที่ขวดให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นแล้วพลังปราณแข็งแกร่งขึ้นเข้มข้นขึ้นอีกมาก
เทียนถางพบว่าใต้เตียงของมันนั้นมีขวดของโอสถปราณเงินนับร้อยขวด แต่ละขวดมีโอสถสามเม็ด เทียนถางเต็มไปด้วยความยินดีพร้อมกับที่มันได้ปิดเตียงลงและเข็นรถกลับไปทีขวดโอสถที่ว่างอยู่พร้อมกลืนมันลงคอทันที เมื่อมันลงคอพลังของเม็ดโอสถก็ระเบิดออกปราณไหลไปทั่วร่างกายของเทียนถางทันที ที่ตันเถียงของโอดินตอนนี้ผืนป่าเติบโตอย่างรวดเร็ว
พลังอำนาจในร่างกายเต็มโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน นั้นเพราะพลังปราณนั้นบริสุทธิ์ขึ้นเป็นอย่างมากพลังปราณทั้งหมดในร่างกายของเทียนถางนั้นไหลเข้าสู่ตันเถียนต้นไม้ ต้นไม้ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมันยังทำให้พลังอำนาจเติบโตขึ้นเช่นกันนั้นจึงทำให้เทียนถางรับรู้ว่าพลังอำนาจของมันคือผืนป่านี้นี้เอง
เทียนถางนั้นได้รับรู้จากความทรงจำว่าร่างกายขอมนุษย์ปกตินั้นจะทำให้สามารถดูดซับพลังจากโอสถได้เพียงแค่ครั้งละเม็ดเท่านั้นแล้วมนุษย์คนนั้นจะรู้สึกถึงพลังอำนาจมากมาย แต่เทียนถางสามารถรับรู้ได้จากสัญชาตญาณว่าพลังของมันที่เกิดจากการฝึกยุทธพลังปราณด้วยทักษะ ปราณจิตภูต จะสามารถลองรับพลังของโอสถได้หลายเม็ดแน่ มันจึงได้กินเข้าไปอีกเม็ด
เป็นไปอย่างที่เทียนถางคิดพลังของโอสถมิได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยผืนป่าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก พลังปราณในร่างกายของเทียนถางเริ่มเข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมันจึงได้ลองปลดปล่อยพลังปราณออกมาเมื่อมันชี้ไปที่หมอนที่ว่างอยู่บนเตียงแล้วยกนิ้วขึ้นหมดนั้นก็ลอยขึ้นตาม
“ข้าสำเร็จบทแรกแห่งทักษะ ปราณจิตภูตแล้วหรือ”เทียนถางพึมพำออกมาเพราะว่ามันมิได้คิดว่ามันจะสำเร็จบทที่หนึ่งแห่งทักษะปราณจิตภูตแล้วเช่นนี้แต่แล้วเมื่อเทียนถางหลับตาลงผืนป่าเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดปรากฏต้นไม้ขนาดใหญ่ใจกลางผืนป่ามันดูดซับพลังปราณของเทียนถางไปจำนวนมากแต่กับมิส่งพลังกลับออกมา
เทียนถางรีบโยนเม็ดโอสถเม็ดที่สามเข้าไปในปาก แต่พลังทั้งหมดของโอสถกับถูกต้นไม้ใหญ่ดูดกลืนไปอย่างรวดเร็วนั้นทำให้เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะลืมตาขึ้นเข็นรถไปที่เตียงแล้วหยิบขวดโอสถออกมาอีกขวดก่อนที่จะโยนเม็ดโอสถเข้าไปอีกสามเม็ดเลย พลังของโอสถก็ถูกดูดกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็วผืนป่าแล้วแห้งและตายลงแต่ต้นไม้ให้กับขึ้นเรื่อย
เมื่อหมดโอสถปราณเงินไปสามสิบขวดต้นไม้ใหญ่ก็หยุดโตและส่งพลังของมันออกมาด้วยพลังของต้นไม้ใหญ่จึงทำให้เทียนถางเข้าสู่ขั้นสามของระดับเดรัจฉาน เทียนถางตรวจสอบผืนป่าตอนนี้มิใช้ผืนป่าอีกต่อไปมันเปลี่ยนเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นศูนย์กลางผืนที่รอบๆมีเพียงต้นหญ้าที่เขียวสว่างสดใสเท่านั้น
“ร่างกายของข้าเปลี่ยนแปลงมากจริงๆ”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อมันได้ลืมตาขึ้นแล้งพบว่าร่างกายของมันเต็มไปด้วยของเหลวสีดำมันจึงได้เข็นไปเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เมื่อเทียนถางออกมาจากห้องน้ามันรับรู้ว่าร่างกายของมันนั้นมิได้ผอมแห้งอีกแล้ว ตอนนี้มันเริ่มมีเนื้อมีหนังแล้ว เทียนถางนั้นก็เลยไปเข้านอนแต่ก่อนที่มันจะได้เทียนถาง เทียนหย่าก็เข้ามา
“ข้านำมื้อเย็นมาให้คะ คุณชาย”เทียนหย่านั้นกล่าวออกมาพร้อมกับที่นางเดินเข้ามาและว่างทานอาหารลงบนโต๊ะและว่างขวดโอสถปราณเงินไว้ด้วย
“ขอบคุณมากป้าหย่า”เทียนถางกล่าวตอบไปอย่างสุภาพ เทียนหย่าประหลาดใจมากเมื่อเห็นรูปร่างของเทียนถางที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก แต่นางก็มิได้กล่าวสิ่งใดออกมาเพราะว่านางกลัวว่าเทียนถางจะโกรธนาง นางจึงได้เดินออกไปเงียบๆ เทียนถางประหลาดใจเล็กน้อยที่นางเงียบเช่นนี้แต่มันก็มิได้สนใจพร้อมกับเข็นไปกินอาหารที่เทียนหย่านำมา
“อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยของบำรุงมากมายเช่นนี้เลยหรือ”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อมันได้ชิมอาหารคำแรกเข้าไป มันจ้องมองออกไปที่นอกห้องที่เทียนหย่าเดินจากไปมันขมวดคิ้วเข้าหากันนี้คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีผู้อื่นที่ทำดีกับมันเช่นนี้ นอกจากภรรยาของมันแม้แต่ลูกชายทั้งสองของมันยังมิอาจทำดีเช่นนี้กับมันเลย
เทียนถางรีบส่ายหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกไปก่อนจะรีบกินแล้วเข้านอน ในเช้าวันรุ่งขึ้นเทียนถางมุ่งหน้าไปที่ศาลาหยกเย็นอีกครั้งมันต้องการที่จะฝึกบทที่สองแห่งทักษะ ปราณจิตภูตให้ สำเร็จเมื่อมันยกมือขึ้นหินที่อยู่บนพื้นมากมายก็ลอยขึ้น นั้นจึงทำให้มันยิ้มออกมาแต่ร่างกายมันกับร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วจนเทียนถางตกตะลึง
“ร่างกายของข้ามันมีสิ่งใดกันแน่”เทียนถางกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเพราะมันไม่คิดว่าการใช้พลังปราณเพียงนิดจะส่งผลเช่นนี้ เทียนถางหลับตาลงส่งร่างวิญญาณเข้าไปที่ตันเถียนแล้วพบว่าต้นไม้ใหญ่นั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงมันส่งพลังที่รุนแรงราวกับเปลวเพลิงออกมา เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะส่งพลังปราณของมันเข้าไปในศาลาหยกเย็นเพื่อให้ศาลายกเย็นดูดซับความร้อนทั้งหมดไป ไม่นานต้นไม้ใหญ่ก็กลับมาเป็นเช่นเดิม
“ถ้าเป็นเช่นนี้ข้าคงมิอาจฝึกต่อไปได้แน่”เทียนถางกล่าวออกมาเมื่อมันรับรู้ได้ว่าร่างกายของมันนั้นประหลาดมาก เพียงแค่ใช้พลังอำนาจเล็กน้อยร่างกายของมันก็ร้อนเกินไปแล้ว มันจำเป็นต้องหา โอสถ ทักษะ สมบัติวิเศษ เพื่อที่จะช่วยลดความร้อนจากร่างกายของมัน
“ป้าหย่า ท่านพ่อมีสมบัติวิเศษหรือทักษะที่ช่วยให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่”แต่แล้วก็มีร่างของหญิงชราผู้หนึ่งเดินเข้ามานางคือเทียนหย่า เทียนถางเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบกล่าวถามทันที
“คุณชายหรือว่าท่านจะฝึกยุทธหรือ”เทียนหย่าตกตะลึงมากที่เทียนถางกล่าวถามนางเช่นนี้เมื่อนางส่งพลังปราณออกมาเพื่อตรวจสอบพลังเทียนถางในร่างกายของเทียนถางนางก็ต้องตกตะลึงเทียนถางตอนนี้อยู่ในระดับเดรัจฉานขั้นที่สามแล้ว เทียนหย่านั้นกล่าวถามอย่างจริงจัง
“ใช้ แต่ตอนนี้ข้าต้องการ สมบัติวิเศษหรือทักษะ ที่จะช่วยให้ร่างกายของข้าเย็นลง”ในเมื่อเทียนถางมิอาจที่จะปกปิดความลับได้อีกแล้วมันจึงกล่าวออกมาตามความจริงและได้กล่าวสิ่งที่มันต้องการออกมา เทียนหย่าขมวดคิ้วเข้าหากันถึงนางจะตกตะลึงแต่นางก็มีความสุขในเวลาเดียวกันแต่เมื่อได้ยินที่เทียนถางกล่าวนางก็นึกถึงบางสิ่ง
“คุณชายหรือว่าท่านจะเป็นโรค ปราณเผาผลาญ หรือ”เทียนหย่านั้นกล่าวออกมาอย่างจริงจังนั้นทำให้เทียนถางครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่พยักหน้าตอบนั้นให้เทียนหย่าเต็มไปด้วยความสับสนแต่ก็ทำเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่ เทียนถางนั้นคิดว่ามันนั้นมีหวังเป็นแน่
“นายท่านเทียนโจมีสิ่งที่เรียกว่า สร้อยจิตเย็น อยู่นะมันน่าจะช่วยเหลือท่านได้”เทียนหย่านั้นกล่าวออกมาอย่างจริงจังแต่สีหน้าของนางดูมิค่อยดีนัก เทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันและหลับตาลงค้นความทรงจำของมันดูเทียนโจนั้นรักมันมากและยิ่งมันเป็นเช่นนี้เทียนโจยิ่งรักมันมากขึ้นส่งโอสถปราณเงินให้มันจำนวนมาก คงมิยากที่เทียนหย่าจะขอ สร้อยจิตเย็น
“แต่ตอนนี้คุณชายเทียนหยิน ได้ครอบครองมันอยู่”เทียนหย่านั้นกล่าวออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นเทียนถางเงียบไปดวงตาของเทียนถางเต็มไปด้วยความสับสนแต่ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังในมิช้า
“ป้าเทียนหย่า พาข้าไปหาท่านพ่อ”เทียนถางมิได้สนใจคำกล่าวของเทียนหย่าเลยมันกล่าวออกมาอย่างจริงจัง เทียนหย่ามิรู้ว่าจะยิ้มหรือร้องไห้ดีที่คุณชายของนางจะออกจากบ้านพักในรอบสามปี แต่นางก็ทำได้เพียงแค่พาเทียนถางออกไป เทียนหย่าเข็นรถเข็นของเทียนถางไปตามทาง
“นั้นคุณชายเทียนถางนิ เหตุใดเขาถึงออกจากบ้านพักกัน”หญิงสาวจากตระกูลเทียนเมื่อเห็นว่าชายที่อยู่บนรถเข็นคือเทียนถางนางก็กล่าวออกมานั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในลานฝึกต่างสนใจ พวกมันทุกคนจ้องมองมาที่ชายรูปร่างอัปลักษณ์ที่นั่งอยู่บนรถเข็น นั้นทำให้พวกมันทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงที่ได้เห็นคุณชายที่หายไปถึงสามปีแต่ไม่มีใครคิดว่าคุณชายที่หล่อเหลาจะกลายเป็นชายที่มีรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์เช่นนี้
“ท่านพ่อ”เทียนถางมาถึงยังที่ห้องของเทียนโจที่บ้านหลัง เมื่อมันเข้ามาในห้องเทียนถางก็กล่าวออกมา ชายวัยกลางคนที่มีผมสีดำสนิทใส่ชุดคลุมสีขาวหันหน้ามาหามันผมที่ยาวพดปลิวไสวดวงตาที่ดำของเทียนโจเบิกกว้างเมื่อเห็นเทียนถางบุตรชายคนโตที่มิได้มาเจอมันเลย
“เทียนถางลูกข้าเจ้าช่างดูดีขึ้นมาก”เทียนโจกล่าวออกมาอย่างมีความสุขเมื่อเห็นว่าบุตรชายคนโตของมันดูดีขึ้นมากเช่นนี้
“ท่านพ่อข้านั้นสามารถที่จะฝึกยุทธได้แล้วแต่ข้านั้นเป็นโรคปราณเผาผลาญ”เทียนถางกล่าวออกมาโดยที่มิได้อ้อมค้อมเมื่อเทียนโจได้ยินก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมันจับไปที่ข้อมือของเทียนถางและปลดปล่อยพลังปราณเข้าตรวจสอบแล้วพบว่าสิ่งที่มันสัมผัสได้ในตอนแรกคือของจริงในตอนแรกเทียนโจนึกว่ามันนั้นสัมผัสได้ผิดที่เทียนถางอยู่ในระดับเดรัจฉานขั้นที่สาม
เมื่อมันรู้ว่าเทียนถางอยู่ในระดับเดรัจฉานขั้นที่สามจริงมันก็ยินดีมากแต่เมื่อมันได้ยินว่าเทียนถางเป็นโรคปราณเผาผลาญ เทียนโจปล่อยมืออกจากเทียนถางก่อนที่จะครุ่นคิดบางอย่างมินานมันก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังและพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง เทียนถางมิได้ตื่นตระหนกมันรู้ว่าเทียนโจนั้นต้องนำบางอย่างมาให้กับมันเป็นแน่
“ลูกถางนี้คือโอสถเยือกแข็งสุริยะมันคือโอสถระดับหก เป็นหนึ่งในสิบสมบัติวิเศษของตระกูลเทียนของเราพ่อจะยกมันให้เจ้าขอเพียงแค่ในอีกสิบวันต่อจากนี้เจ้าต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำตระกูลเทียน พ่อมีเรื่องที่จะต้องกล่าวกับทุกคนในงานรวมทั้งเจ้าเช่นกัน”ไม่นานเทียนโจก็กลับมาพร้อมกล่องหยกสีน้ำเงินในมือ เทียนโจยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเทียนถางก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเทียนถางรับรู้ว่าเทียนโจต้องการบางอย่างเป็นแน่
“ได้ขอรับท่านพ่อ ข้าเทียนถางขอสัญญา”เทียนถางนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวตอบเทียนโจกังวลมากแต่เมื่อเห็นดวงตาที่จริงจังของเทียนถางก็ทำให้มันรู้ว่าเทียนถางมิได้กล่าวเท็จมันจริงยิ้มและยื่นกล่องหยกสีน้ำเงินให้กับเทียนถาง และเทียนหย่าก็เข็นเทียนถางกลับมาที่บ้านพักของมันเทียนถางนั้นรีบเข้าไปที่ศาลาหยกเย็นก่อนที่จะเปิดกล่องหยกออก
“ป้าหย่าท่านกลับไปก่อนที่เถอะเย็นนี้ข้ามิทานข้าวเย็นนะ”เทียนถางนั้นเมื่อมันเห็นว่าเทียนหย่ายังมิได้ไปมันจึงกล่าวออกมา เทียนหย่ามิได้ตอบแต่ก็เดินจากไปเทียนถางนั้นเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังก่อนที่จะหยิบเม็ดโอสถสีฟ้าอ่อนขึ้นมามีไอความเย็นไหลออกมาจำนวนมาก
เทียนถางยืนเข้าไปในปากเม็ดโอสถเยือกแข็งสุริยะไหลเข้าไปที่กระเพาะเมื่อมันแตกออกไอเย็นจำนวนมากก็พุ่งไปทั่วทั้งร่างกาย เทียนถางมุ่งเข้าสู่ตันเถียนของมันและพบว่าทั่วทั้งเกาะกับกลายเป็นฤดูหนาวพายุหิมะจำนวนมากปรากฏอยู่ที่ตันเถียนเทียนถางเริ่มโคจรพลังปราณด้วยทักษะ ปราณจิตภูต ในร่างกายของมันอย่างรวดเร็วเพื่อให้ต้นไม้ให้ดูดซับพลังของโอสถ
ต้นไม้ใหญ่ดูดซับพลังของโอสถเยือกแข็งสุริยะอย่างรวดเร็วพายุหิมะกลายเป็นกระแสไหลเข้าสู่ทั้งใบทั้งลำต้นของต้นไม้ใหญ่ราวกับหลุมดำขนาดเล็กเลยก็ว่าได้ร่างกายของเทียนถางที่ควรจะร้อนขึ้นตอนนี้ปลดปล่อยไอเย็นออกมาจำนวนมหาศาล เทียนถางยิ้มออกมาเมื่อได้รับรู้ว่าร่างกายของมันกำลังปรับสภาพตามต้นไม้ใหญ่
ไม่นานต้นไม้ให้ก็ดูดซับพลังของโอสถเยือกแข็งสุริยะจนหมดด้วยพลังของต้นไม้ใหญ่ทำให้การดูดซับพลังอำนาจรวดเร็วกว่าคนปกติหลายร้อนเท่า ในความทรงจำของเทียนถางมันเคยดูดซับโอสถปราณเงินมันต้องใช้เวลาถึงสามวันเพื่อดูดซับแต่ตอนนี้มิถึงสามชั่วโมงเลย พายุหิมะนั้นหายไปแต่ทั้งเกาะกลายเป็นสีขาวต้นไม้ใหญ่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีฟ้าอ่อนปลดปล่อยไอเย็นออกมาจำนวนมาก
เทียนถางลืมตาขึ้นและเริ่มฝึกบทที่สองแห่งทักษะ ปราณจิตภูต เมื่อเทียนถางยกมือขึ้นหินมากมายที่อยู่รอบรอบตัวมันก็ลอยขึ้น แต่มีเพียงหินเล็กเท่านั้นเทียนถางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่สะบัดมือทั้งสองข้างของมันและส่งหินทั้งหมดปลิวไปทั่วทุกทิศเทียนถางจึงได้เริ่มฝึกยุทธอีกครั้งโดยยกขึ้นเล็กๆก่อนและค่อยๆเพิ่มขนาดขึ้น
เจ็ดวันผ่านไป
“ตูม”หลังจากผ่านไปเทียนถางก็สามารถที่จะยกหินที่หนักถึงหนึ่งตันที่อยู่ในระยะห้าสิบเมตรได้แล้ว เมื่อมันว่างหินลงก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นปรากฏกระแสพลังพุ่งออกมาจากตันเถียนของเทียนถางมันรับรู้ได้ว่าตอนนี้มันได้เข้าสู่ระดับเดรัจฉานขั้นที่สี่และมันยังได้บรรลุบทที่สองของทักษะ ปราณจิตภูตแล้ว เช่นกัน
เทียนถางจึงได้หลับตาลงเพ่งสมาธิเข้าไปที่ตันเถียงปรากฏว่าดอกไม้สีฟ้าราวกับหยกอยู่ที่พื้นของเกาะจำนวนมหาศาลเลย เมื่อดอกไม้หยกฟ้าดูดซับพลังปราณเข้าไปมันก็ปลดปล่อยไอเย็นออกมาแทนนั้นทำให้เทียนถางสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อไอเย็นออกมาต้นไม้ใหญ่ก็ถูกดูดกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็ว เทียนถางยิ้มออกมาเมื่อมันคิดว่าร่างกายของมันนั้นได้รับบางสิ่งที่พิเศษมาใหม่
เทียนถางทางนั้นลืมตาขึ้นและเริ่มฝึกบทที่สามแห่งทักษะ ปราณจิตภูต โดยการฝึกบทที่สามนี้เทียนถางจะต้องควบคุมปราณให้ออกมาเป็นรูปลักษณ์ให้ได้ ปกติแล้วผู้ที่จะสามารถปลดปล่อยพลังปราณออกมายังภายนอกได้จะต้องอยู่ในระดับมนุษย์หรือมากกว่าขึ้นไปเท่านั้น เทียนถางมิได้สนใจมันรวบรวมพลังปราณมาที่มือขวาเพื่อปลดปล่อยมันออกมา
สามวันต่อมา
ตลอดสามวันเทียนถางพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะปลดปล่อยพลังปราณออกมาจากร่ากายแต่ก็มิได้เป็นไปอย่างที่มันคิดพลังปราณนั้นมิได้ออกมาจากร่างกายของมันเลยแม้เพียงนิดเดียว และนี้ยังถึงวันที่มันจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำตระกูลเทียน เทียนหย่าเข้ามามันแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมความพร้อมกับกับมัน ในวันนี้ชายที่อัปลักษณ์ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยผมสีดำสว่างไสวปลิวไปตามลมร่างกายที่เริ่มมีเนื้อหนังได้ส่งกลิ่นหอมของดอกไม้ออกมา เสื้อผ้าสีสีเขียวที่เข้ากับดวงตาเพียงข้างเดียวของมันที่มีสีเขียวเช่นกัน ยิ่งทำให้มันดูดีขึ้นเล็กน้อย
“คุณชายต้องการจะไปเลยหรือไม่”เทียนหย่านั้นเป็นกังวลมานางกล่าวถามออกมาทันที
“ไปเถอะข้ามิอาจที่จะเสียเวลากับงานนี้ได้มากนัก”เทียนถางกล่าวออกมาโดยมิได้มองที่เทียนหย่าเลย นางเข็นรถของเทียนถางไปตามทางตลอดเวลาสามภายในตันเถียนของเทียนถางเต็มไปด้วยไอเย็นที่รุนแรงพลังปราณของมันเข้มข้นขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
“พี่เทียนมิได้พบกันนาน”ชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเดินเข้ามายังห้องโถงของพระราชวังตระกูลเทียน มันกล่าวออกมาอย่างยินดีเมื่อได้พบเทียนโจ
“มิได้พบกันนานเช่นกันนานวังหลี่”เทียนโจกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองเพราะอีกฝ่ายคือวังหลี่ผู้นำจากตระกูลวัง หนึ่งในสี่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเขี้ยวมังกร มินานคนมากายก็เข้ามาคนทั้งหมดเป็นคนของตระกูลวังแต่แล้วกลุ่มชายชุดขาวก็ลอยมาจากท้องฟ้า
“พี่เทียน”เมื่อกลุ่มชายชุดขาวเดินเข้ามาที่ห้องโถงทุกคนต่างเงียบลง หัวหน้าของชายชุดขาวเดินเข้ามาที่ด้านหน้าของเทียนโจก่อนที่จะประสานมือและกล่าวอย่างเป็นมิตร
“น้องเจียงหวินมิต้องมากพิธีก็ได้”วังหลี่นั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังในดวงตาของผมมัน แต่เทียนโจมิได้สนมันพยุงชายชุดขาวขึ้นก่อนที่จะกล่าวอย่างเป็นมิตร ชายชุดขาวที่อยู่ด้านหน้ามันคือเจียงหวินผู้นำตระกูลเจียงคนปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นเดียวกับวังหลี่
“หลายสิบปีแล้วสินะที่สี่เขี้ยวมังกรมิได้อยู่พร้อมหน้ากันเช่นนี้”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหน้าของประตูทางเข้าห้องโถงพระราชวัง
“พี่ฉิงเทียนข้าเองก็อยากที่จะให้พวกเราทั้งสี่อยู่พร้อมหน้ากันมาหลายปีแล้ว”เมื่อเทียนโจมองไปที่ด้านหน้าของมันปรากฏชายวัยกลางคนผมสีดำสนิทดวงตาสีดำสนิทและยังสวมใส่ชุดสีดำสนิท เทียนโจกล่าวออกมาด้วยสีหน้ามีความสุขชายวัยกลางคนนั้นคือฉิงเทียนผู้นำจากตระกูลฉิง ด้านหลังของมันมีกลุ่มชายชุดดำจำนวนมากจามมาด้วยเช่นกัน