ตอนที่แล้วChapter 198: ใช้คำว่า ‘ยืม’ เป็นข้ออ้าง?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 200: เรื่องเล่าของตั๊กแตนที่แอบตามจั๊กจั่น

Chapter 199: ฆ่าคนโดยยืมมีดคนอื่น


เจียงลู่ฉียังคงนั่งอย่างยากลำบากและระคายเคือง อย่างไรก็ตาม เขานั้นได้รับนิวเคลียสเลือดเพียงแค่หนึ่งก้อน ดังนั้นเขาควรที่จะมั่นใจ 100% ก่อนที่จะตัดสินใจ เขานั้นสงสัยเกี่ยวกับการวิจัยของกองทัพเกี่ยวกับผลลัพธ์ของนิวเคลียสเลือด เจียงลู่ฮีเชื่อว่าศักยภาพของมันนั้นแตกต่างกันระหว่างนิวเคลียวกลายพันธุ์และนิวเคลียสเลือด ด้วยเหตุนี้นี่เอง ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียสเลือดนั้นก็ถูกเสนอโดยเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวนั้นแตกต่างกัน

[มันเป็นเรื่องยากที่จะได้พบกับซอมบี้กลายพันธุ์ ดังนั้นในช่วงเวลานี้นั้น สิ่งที่ฉันจำเป็นที่จะต้องหามากที่สุดก็คือนิวเคลียสกลายพันธุ์ระดับสอง] เจียงลู่ฉีคิด ความสามารถพิเศษของเขานั้นพัฒนาขึ้นจากการดื่มยีนเหลววิวัฒนาการ ดังนั้นเขาจึงแตกต่างกับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ ความสามารถพิเศษของเจียงลู่ฉีนั้นสามารถที่จะพัฒนาได้นั้นขึ้นอยู่กับห้องปฏิบัติการทางชีวภาพ

หลังจากที่เห็นซอมบี้กลายพันธุ์สุดเหี้ยมโหดตัวนั้นแล้ว เจียงลู่ฉีก็ค้นพบว่าความสามารถของเขานั้นมีข้อบกพร่อง ถ้าความสามารถของเขานั้นสามารถที่จะพัฒนาถึงระดับซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนั้นได้ละก็ เขาจะกลายเป็นคนที่มีพลังที่หยั่งไม่ถึง อย่างไรก็ตาม มันคงจะเป็นกระบวนการที่ยาวนานกว่าจะถึงตอนนั้น

“เคลื่อนที่ไปข้างไปหน้าต่อไป!”จางจิงตะโกน “ต่อไปทหารราบจะเป็นคนกวาดล้างเส้นทาง และทีมของฉี่หยิงนั้นรับผิดชอบในการสอดส่องและสนับสนุน ทีมหลงซัวและทีมพายุคลั่ง พวกนายทั้งสองกลุ่มช่วยพวกช่างเครื่องกำจัดสิ่งกีดขวางตลอดทางและสลับกันทำ!”

“เหี้..! ทำตามที่พวกเขาบอกไปก่อน!] โบเจิงฉงจ้องอย่างกราดเกรี้ยวใส่จางจิง และหลังจากนั้นเขาก็หันไปมองทีมของฉี่หยิง แต่เจียงลู่ฉีก็ไม่ได้มองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย แต่ในรถ Freezer จางไฮ่และซุนคุยนั้นสังเกตเห็นโบเจิงฉงจ้องมา

“เฮ้ เฮ้” จางไฮ่นั้นเปิดเผยรอยยิ้มที่พึงพอใจ โบเจิงฉงนั้นคุ้นเคยกับการมีอำนาจที่โหดเหี้ยมของเขาไปแล้ว แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปนั้น จางไฮ่ก็เล่นตลกกับโบเจิงฉง แล้วเขาจะสามารถรู้สึกสะดวกสบายได้อย่างไร?

“กัปตันเจียง ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเป็นกัปตันของทีมหลงซัว”หวังฉวนฟู่ที่เป็นกัปตันนั้นทักทายเจียงลู่ฉีจากรถของเขา ความสามารถของเจียงลู่ฉีนั้นเป็นที่ดึงดูดความสนใจกับหวังเฉี่ยนฟู่ ดังนั้นเขาตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนกับเจียงลู่ฉี

“ยินดีที่ได้รู้จัก”เจียงลู่ฉียิ้ม ที่จริงแล้ว หลังจากวันโลกาวินาศนั้นผู้คนนั้นสนใจกับความเป็นจริงมากกว่าทางทฤษฎี ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ผู้คนนั้นก็เหมือนกับหญ้าที่อยู่บนกำแพงและพลิ้วไหวไปตามแรงลมนั่นเอง

“ผมได้ยินมาว่าคุณนั้นพึ่งจะถึงเกาะเชนไฮ่ แต่พวกเรานั้นอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นถ้าคุณมีปัญหาอะไรละก็ ได้โปรดบอกให้ผมรู้ด้วย ผมสามารถที่จะแบ่งปันข้อมูลบางอย่างกับคุณได้ ข้อมูลส่วนมากด้านนอกห้องประชุมแลกเปลี่ยนนั้นเป็นข้อมูลเท็จ”หวังฉวนฟู่พูด

“โอ้ ขอบคุณมาก แต่ผมไม่มีรหัสสื่อสาร…”เจียงลู่ฉีตอบ

“ฮ่าๆ ทำตัวตามสบายเถอะ ในความเป็นจริง คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีรหัสสื่อสาร เมื่อคุณไปถึงห้องประชุมแลกเปลี่ยน คุณสามารถที่จะเห็นสมาชิกของพวกเรานั้นถือป้ายไว้อยู่ พวกเรานั้นมีคนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการตามหาสมาชิกใหม่” และหลังจากนั้นเขาก็มองเข้าไปด้านในรถมินิบัส มันเป็นบ้านเคลื่อนที่ได้จริงๆด้วย! ยิ่งไปกว่านั้น มีผู้หญิงที่งดงามอีกสามคนบนรถมินิบัสนั่น

“กัปตันเจียง คุณช่างมีชีวิตที่อิสระและไม่มีข้อผูกมัดจริงๆ”หวังเฉี่ยนฟู่พูดพร้อมกับรอยยิ้มอันอิจฉา เจียงลู่ฉีนั้นพูดไม่ออก หลันซิหยู่ก็ได้ยินคำพูดพวกนั้นด้วย ดังนั้นเธอจึงหน้าแดง

สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าที่จะจีบพวกเธอ อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพลักษณ์อันงดงามของเธอนั้นก็เป็นที่น่าดึงดูด แม้กระทั่ง จางไฮ่และซุนคุยก็เรียกเธอว่านเองสะใภ้ โชคดีที่เจียงลู่ฉีบอกให้พวกเขาหยุดเรียกอย่างงั้น

ขบวนรถก็รีบเร่งความเร็วขึ้น พวกเขาควรที่จะเร่งความเร็วขึ้น มิฉะนั้นซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ก็จะถูกดึงดูดมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็ออกจากทางด่วนและพวกเขาก็เข้าไปในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง เมืองนี้นั้นเป็นเมืองเก่าแก่ที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวก่อนวันโลกาวินาศ มันมีเมืองที่คล้ายกับเมืองนี้เป็นจำนวนมากในบริเวณนี้ ดังนั้นพื้นที่นี้ประชากรที่แน่นหนา

มันถูกประเมินไว้ว่าซอมบี้ทั้งหมดนั้นออกมาจากเมืองพวกนั้น มันไม่มีแม้แต่แสงไฟสักดวงในเมืองนั้นที่สามารถมองเห็นได้ และประตูของมันก็เปิดกว้างออกที่ย้อมไปด้วยเลือด เสียงอันดังก้องของเครื่องยนต์นั้นทำลายความเงียบของเมือง พวกเขาก็กวาดล้างถนนทั้งถนน แล้วมันก็เริ่มที่จะมืดลง พวกเขาก็หยุดอยู่ที่โรงนา โรงนานี้ค่อนข้างกว้าง มีทั้งสนามและลานจอดรถที่กว้างมากตามด้วยท้องทุ่งนาและสวนผลไม้

ทีมของทหารนั้นเข้าไปตรวจสอบและหลังจากนั้นพวกเขาก็ลากศพซอมบี้หลายตัวออกมา ร่างของพวกมันนั้นถูกลากออกมาเป็นระยะที่ไกลและทำให้มันเริ่มปลดปล่อยกินอันไม่พึงประสงค์ออกมา

“พวกเราควรที่จะอยู่ที่นี่คืนนี้”ฉู่ซงหมิงพูด

โบเจิงฉงตะโกนและก็เดินเข้าไปในบ้าน ฉู่ซงหมิงนั้นก็คุยกับทหารด้านนอกชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นเขาก็กลับไปในห้อง

“ฉันบอกนายแล้วว่านายไม่ควรที่จะคุยกับฉันในภารกิจ”ฉู่ซงหมิงตอบอย่างสบายๆ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของโบเจิงฉงนั้นมืดมน เขามองไปที่ประตูอย่างระมัดระวังในขณะที่เขาก็รีบพูดขึ้น “กัปตันของทีมฉี่หยิงนั้นเป็นตนที่ทำให้ฉันสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากในคาสิโน!”

ฉู่ซงหมิงมึนงงเล็กน้อยและถามขึ้น “นายพูดว่าอะไรนะ?”

“ฉันขอโทษกับเขาไป แต่เขาตอบเพียงว่า ‘เข้าใจแล้ว’” โบเจิงฉงพูดเสียงต่ำ “เขาปฏิเสธการขอโทษของฉัน”

“อะไรนะ? เขาไม่รับมันงั้นเรอะ?”ฉู่ซงหมิงขมวดคิ้ว

ในความเป็นจริง โบเจิงฉงนั้นเกลียดเจียงลู่ฉีสุดขั้วหัวใจ ในตอนนี้นั้นเหมือนกับว่าโบเจิงฉงนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เต็มไปด้วยหนามและเข็มที่แหลมคม ดังนั้นเขาตั้งใจที่จะสังหารเจียงลู่ฉีโดยการยืมมือฉู่ซงหมิงฆ่า สุดท้ายแล้ว ฉู่ซงหมิงนั้นก็เป็นรองผู้บังคับบัญชาอยู่ดี

“หน้าที่ของนายก็คือโฟกัสไปที่ภารกิจ และทำตัวสบายๆ เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรหรอก”ฉู่ซงหมิงไม่กล้าที่จะตอบแต่เขาก็ปลอบประโลมโบเจิงฉง เขาก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ แต่เขานั้นเต็มไปด้วยคำสาปแช่งในหัวใจของเขา

หลังจากเก็บกวาดห้องแล้ว จางจิงและเจ้าหน้าที่ก็เริ่มที่จะศึกษาแผนที่ของถนน จากตรงนี้ไปยังเมืองถงหนานแล้ว พวกเขาควรที่จะสร้างเส้นทางที่ปลอดภัยขึ้นมาใหม่ ดังนั้นพวกเขาจะต้องบันทึกมันและเปรียบเทียบมันกันทีละก้าว ทีละก้าว ทีมผู้รอดชีวิตไม่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขานั้นตรวจสอบรถของพวกเขากัน

บนตึกสูงที่ห่างไกล ก็มีชายที่ตื่นเต้นที่วางกล่องส่องทางไกลลง

“ไอ้เหี้... พวกเขามาจากกองทัพอย่างแน่นอน!”หลังจากนั้น เขาก็ดึงหน้าต่างขึ้นและหลังจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในบ้าน บนบ้านที่ไฮโซเช่นนี้นั้นดูเงียบสงบด้านนอก แต่ด้านบนของชั้นมันนั้นถูกทำความสะอาดและมีคนจำนวน20คนอาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขานั้นเป็นผู้ชายกันทั้งหมด ที่ซึ่งมีท่าทางที่ดูแข็งแกร่ง หนึ่งในพวกเขานั้นใจเย็น แต่ก็มีรอยโดนฟันตรงตาซ้าย เขานั้นกำลังนั่งเช็ดปืนของเขาอย่างช้าๆ และปืนรุ่น81ของเขานั้นก็ถูกเช็ดจนสะอาดและกระสุนมากมายก็ถูกวางไว้ด้านข้างของเขา

“กัปตันหลง กองทัพมาถึงแล้ว” ชายที่ดูกล้องส่องทางไกลก็มาหาเขาและพูด

โจวหลงก็ยังคงเช็ดปืนของเขาต่อและหลังจากนั้นเขาก็ถามอย่างใจเย็น “พวกเขามีกันกี่คน?”

“ประมาณ สี่สิบหรือห้าสิบครับ”ชายที่ถือกล้องส่องทางไกลรีบบอกในทันที

‘ตึ้ง!’

ทันใดนั้นกระสุนก็หล่นลงบนพื้นและโจวหลงก็หยุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด