ตอนที่ 130 การประหารสาธารณะ
หลิน ฮวงกำลังปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในค่ายฝึก มันคล้ายๆกับการถูกขังไว้ในคุก การสื่อสารและสัญญาณเน็ตทั้งหมดถูกปิดกั้น และพวกเขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง มีกล้องวงจรปิดในทุกมุมของเมืองเล็กนี่และไม่มีจุดบอดเลย ไม่มีความเป็นส่วนตัว พวกเขาถูกจับตามองตลอด24ชั่วโมง เมื่อพวกเขาใช้ห้องน้ำ อาบน้ำ และแม้กระทั่งตอนนอน
กิจวัตรประจำวันของพวกเขาคือการตื่นมากินข้าวเช้าตอน8โมงถึง8โมงครึ่ง และต่อจากนั้น พวกเขาจะเป็นอิสระหนึ่งชั่วโมง ตั้งแต่9โมงครึ่งถึง5โมงครึ่ง พวกเขาจะต้องฆ่ามอนสเตอร์ในหอฝึกฝนเป็นเวลา8โมงชั่วโมงเต็ม 5โมงครึ่งถึง6โมงคือมื้อเย็น และอีกครั้ง พวกเขาจะเป็นอิสระหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น พวกเขาก็จะถูกส่งกลับไปฆ่ามอนสเตอร์ในหอฝึกฝน3ชั่วโมง จาก1ทุ่มถึง4ทุ่ม พวกเขาจะได้พักผ่อนหลัง5ทุ่มเท่านั้น
ในไม่ช้า สองวันก็ผ่านไป มันเป็นช่วงพักหลังอาหารเช้า และจู่ๆ เสียงที่ราวกับเสียงเรียกเข้าก็ดังออกมาจากลำโพง ครึ่งนาทีต่อมา เพลงก็หยุดและชายคนหนึ่งก็เริ่มพูด
“ทุกคนมารวมตัวที่จุดปฏิบัติการภายใน10นาที!”
หลิน ฮวงคิดว่ามันแปลก“เกิดอะไรขึ้น?”เขาถามเสี่ยว โม่
“มันคือวันประหารสาธารณะ....”เสี่ยว โม่ อธิบายเบาๆ“ทุกคนจะต้องไปที่นั่นเพื่อดู”
“นายหมายถึงการประหารชีวิตคนที่มีระดับต่ำที่สุดสามคน?”หลิน ฮวงถามอีกครั้ง เขารู้ถึงกฏแต่นี่คือครั้งแรกที่เขาจะได้เห็นการประหารชีวิตจริงๆ“พวกเขาจะดำเนินการประหารต่อหน้าทุกคน?!”เขาเกือบจะตะโกน
หลิน ฮวงได้อ่านกฏนี้ตั้งแต่เริ่มเมื่อค่ายฝึกได้ให้พวกเขาทดสอบจัดอันดับ พวกเขาสามารถรวบรวมคะแนนได้โดยการฆ่ามอนสเตอร์ในหอฝึกฝน
ระดับเหล็ก
ขั้น-1 = 1แต้ม
ขั้น -2 = 2 แต้ม
ขั้น -3 = 4 แต้ม
ระดับทองแดง
ขั้น -1 = 10 แต้ม
ขั้น -2 = 20 แต้ม
ขั้น -3 = 40 แต้ม
ระดับเงิน
ขั้น -1 = 100 แต้ม,
ขั้น -2 = 200 แต้ม
ขั้น -3 = 400 แต้ม
ระดับทอง
ขั้น -1 = 1,000 แต้ม
ขั้น -2 = 2,000 แต้ม
ขั้น -3 = 4,000 แต้ม
โดยการสะสมแต้ม พวกเขาจะสามารถแลกสิ่งที่พวกเขาต้องการได้รวมถึงทักษะต่อสู้ ทักษะชีวิต อุปกรณ์ อาหารและอื่นๆ การจัดอันดับจะนับใหม่ในทุกๆวันและจะส่งไปที่แหวนหัวใจจักรพรรดิของแต่ละคนผ่านเครือข่ายเฉพาะ ผู้ที่อยู่ใน3อันดับแรกติดต่อกัน100รอบหรือผ่านระดับทองในระหว่างการฝึกฝนเหล่านี้จะได้กลายเป็นสมาชิกสำรองของอีกาม่วง ในขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่ใน3อันดับท้ายติดต่อกัน10วันจะถูกประหารในที่สาธารณะ
“การประหารสาธารณะก็เหมือนการเตือนพวกเราทุกคน”เสี่ยว โม่อธิบาย เมื่อมองทุกคนที่กำลังเดินไป เขาก็ร้องบอกหลิน ฮวง“เราต้องไปกันแล้ว จะมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไปช้า”
ทั้งคู๋เดินตามฝูงชนไปยังอาคารอื่นในเมืองเล็ก พวกเขามาถึงสนามกีฬาขนาดใหญ่รูปวงแหวน มีพื้นที่ว่างขนาดเท่าสนามฟุตบอลอยู่ตรงกลาง มันถูกล้อมรอบด้วยเก้าอี้ และด้วยการคาดคะเนจากสายตา มันสามารถรอบรับคนได้มากกว่า10000คน
หลิน ฮวงและเสี่ยว โม่พบที่นั่งของพวกเขา ในไม่ช้า เก้าอี้ว่างในสนามก็เกือบเต็ม มันทำให้หลิน ฮวงรับรู้ได้ทันทีว่ามีคนอยู่ในค่ายฝึกมากกว่าที่เขาคิดไว้
“คนมากมาย...”
“นี่ไม่ถือว่ามาก มีค่ายฝึก13แห่งในเขต7 พวกเราอยู่ในอันดับที่11หากเทียบกันในด้านจำนวนคน”เสี่ยว โม่อธิบายทันทีเมื่อเขาได้ยินคำอุทานของหลิน ฮวง
“มีค่ายฝึก13แห่ง?!”หลิน ฮวงอ้าปากหวอ เขาคิดว่านี่คือค่ายฝึกเพียงแห่งเดียวในเขต7 เขาต้องประเมินองค์กรนี้ใหม่
“ชู่....”ทันใดนั้น เสี่ยว โม่ก็ทำท่าให้หลิน ฮวงหยุดพูดและพูดเบาๆ“การประหารกำลังจะเริ่มแล้ว พวกเราไม่อาจพูดได้”
หลิน ฮวงพยักหน้าและนิ่งเงียบขณะที่มองไปรอบๆ ผู้คนรอบสนามล้วนเงียบสนิท ดูเหมือนทุกคนจะรู้กฏนี้ดี
ชายหนุ่มสามคนในชุดเครื่องแบบสีเขียวถูกผลักเข้ามาในสนาม พวกเขาดูคล้ายกับคนที่ตายไปแล้ว มีเพชรฆาตสามคนในชุดดำด้านหลังพวกเขา
ชายหนุ่มสามคนในชุดเขียวเดินไปที่ใจกลางสนามช้าๆ หนึ่งในชายชุดดำที่สวมแว่นกันแดดเดินไปทางเขาพร้อมกับกล่องที่ปิดสนิท
“เกิดอะไรขึ้น?”หลิน ฮวงกระซิบถาม
“พวกเขากำลังจะให้ชายคนนั้นเลือกว่าเขาจะตายด้วยวิธีไหนโดยการสุ่มหยิบ”เสี่ยว โม่อธิบาย
หลิน ฮวงนิ่งเงียบขณะที่เฝ้าดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ชายหนุ่มสามคนยื่นมือเข้าไปในกล่องปิดสนิท จากนั้นพวกเขาก็หยิบชิ้นไม้ออกมา
“บอกชื่อ อันดับและรูปแบบของการประหาร”ชายสวมแว่นตากันแดดพูดเข้าไปไมค์ขนาดเท่าฝ่ามือ จากนั้นเขาก็ส่งไมค์ไปหาชายคนแรก
ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก“ฉันชื่อ.....ฮัน หยาง.....อันดับของฉัน.....อันดับสุดท้าย....มาเป็นเวลา...10วัน.. ความตาย.....การตัดหัว..”
เขาร้องไห้ขณะที่เขากล่าวคำพูดเหล่านั้นออกมาเสียงดัง เขากลัวมาก!
หลิน ฮวงสามารถบอกได้ว่าคนๆนี้อยู่ในระดับเหล็กขั้น2เท่านั้น ซึ่งถือเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในค่ายนี้ นั่นจึงไม่แปลกที่เขาจะอยู่ในอันดับโหล่
หลังจากที่เขาพูดจบ ชายสวมแว่นกันแดดก็รีบไมค์คืนและพยักหน้าให้เพชรฆาตผู้ที่ยืนด้านหลังเขาและเขาก็ก้าวถอยหลังไป แหวนสีทองบนมือเพชรฆาตกลายเป็นดาบและเขาก็จับชายหนุ่มไว้กับพื้นด้วยกำลัง ในไม่ช้า ดาบก็ฟันลงมาและหัวของเขาก็ลอยคว้างไปในอากาศขณะที่เลือดสาดกระจายไปทั่ว
หลิน ฮวงขมวดคิ้วขณะที่เฝ้าดู แม้ว่าเขาจะเคยฆ่าคนมาก่อน แต่นี่คือครั้งแรกที่เขาได้ดูการประหาร เขาคิดว่ามันน่าสยดสยองและผิดจรรยาบรรณ อย่างไรก็ตาม ชายสวมแว่นกันแดดดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย จากนั้นเขาก็เดินข้ามกองเลือดไปและส่งไมค์ให้กับชายคนที่สองด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ฉันชื่อ ลู่ เฉิน ฉันอยู่อันดับรองโหล่มา10วัน ความตายคือการโดนยิง”ชายคนที่สองพูดด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง ชายสวมแว่นกันแดดพยักหน้าให้เพชรฆาตอีกครั้ง แหวนสีทองเปลี่ยนเป็นปืนพกและเขาก็เล็งไปที่ขมับซ้ายของลู่ เฉิน เพชรฆาตดึงไกปืนโดยไม่ลังเล“ปัง!”กระสุนถูกยิง และหัวของชายหนุ่มก็ระเบิด มันคือครั้งแรกที่หลิน ฮวงเห็นพลังของปืนระดับทอง
ชายสวมแว่นกันแดดเดินไปหาคนสุดท้ายและส่งไมค์ให้
“ฉันชื่อ โจว เหอ ฉันอยู่อันดับ3นับจากท้ายมา10วัน ความตายจะเป็น....การตัดอวัยวะ...”ทันใดนั้น ความโกลาหลก็บังเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มบอกถึงวิธีการประหาร หล่นคนกำลังพูดถึงการประหารราวกับมันผ่านมานานแล้วที่คนจะถูกประหารโดยการตัดอวัยวะ ชายสวมแว่นกันแดดเองก็ตะลึงแต่เขาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นโกรธเมื่อเขาได้ยินเสียงดังของฝูงชน
“เงียบ!”ชายสวมแว่นตะโกนผ่านไมค์และทั่วสนามก็เงียบลง เมื่อเขาแน่ใจว่าผู้คนสงบลงแล้ว เขาก็ก้าวถอยหลังและพยักหน้าให้เพชรฆาต จากนั้นเพชรฆาตก็ผนึกการเคลื่อนไหวของโจว เหอ จากหลังคอเขา เสื้อของเขาถูกถอดและเขาก็ถูกมัดด้วยเชือกเหล็กก่อนที่เขาจะถูกแขวนเอาไว้ เขาดูราวกับสัตว์ที่กำลังรอเวลาถูกฆ่า
ในไม่ช้า ดาบก็ปรากฏบนมือเพชรฆาตและเขาก็เริ่มแสดงทักษะมืดบนร่างโจว เหอ ทักษะที่ถูกขัดเกลามาหลายปีค่อยๆโชว์ลีลาการตัดเนื้อบนร่างของโจว เหอช้าๆ เมื่อเสื้อผ้าของเขาถูกลบออกโดยสมบูรณ์ บาดแผลก็ปรากฏต่อสายตาของทุกน โจว เหอ ร้องอย่างเจ็บปวด และเสียงก็ถูกส่งผ่านลำโพง หลิน ฮวงเคยได้ยินเรื่องการประหารชีวิตมาก่อนหน้า แต่เขาไม่คิดว่ามันจะโหดร้ายเช่นนี้
มันกินเวลานานกว่าสามชั่วโมง ท้ายที่สุดโจว เหอ ก็ตายจากการถูกตัดเนื้อเป็นพันๆชิ้น การประหารนี้ได้สลักลึกลงไปในจิตใจของทุกคนและพวกเขาก็หวาดกลัวเพชรฆาต เสียงร้องคร่ำครวญของโจว เหอ ดังก้องอยู่ในหัวของหลิน ฮวงขณะที่เขากลับไปที่ห้อง
“ดูเหมือนว่าอีกาม่วงจะเป็นลัทธิ...”เขาคิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเรื่องเช่นนี้นับตั้งแต่เข้าร่วมค่ายฝึก
เสี่ยว โม่ เงียบไปตั้งแต่ที่พวกเขากลับห้องและเขาก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลิน ฮวงสังเกตเห็นถึงพฤติกรรมแปลกๆของเขาและถาม“เสี่ยว โม่ มีอะไร?”
“อีก10วัน ฉันจะต้องตาย...”เสี่ยว โม่พูดหลังจากเงียบอยู่สักพัก
“หมายความว่าไง?”หลิน ฮวงสงสัยขณะที่คิดว่าสิ่งที่เขากล่าวมามันไร้สาระ
“ฉันเป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกประหารในชุดต่อไป”เสี่ยว โม่พึมพำราวกับเขาไม่ต้องการอธิบายอีก
จากนั้น หลิน ฮวงก็ตระหนักว่าเขากำลังพยายามจะพูดอะไร เขาเป็นเพียงนักล่าระดับเหล็กขั้น3และพลังของเขาก็มีจำกัด เขาอยู่ในอันดับท้ายถัดจากสามคนที่ถูกประหารไป นั่นหมายความว่า เสี่ยว โม่จะเป็นหนึ่งในอันดับท้าย
“ไม่ต้องกังวล ยังเหลือเวลาอีกตั้ง10วัน มันต้องมีหนทาง”หลิน ฮวงกล่าวขณะที่พยายามเพิ่มขวัญกำลังใจ เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไร“พยายามอยู่ในหอฝึกฝนให้นานกว่านี้”
แต่ละห้องในหอฝึกฝนจะสามารถรองรับคนได้เพียงคนเดียว และภารกิจแต่ละอันจะต้องทำเพียงลำพัง ไม่มีทางที่หลิน ฮวงจะช่วยเสี่ยว โม่ได้เลย
“โอ้ ใช่....อีกเยอะไหมว่าพลังชีวิตนายจะเต็ม?”หลิน ฮวงถาม
“พลังชีวิตฉันเต็มแล้วแต่ฉันไม่กล้าที่จะเลื่อนขั้นเพราะเมื่อฉันมาถึงระดับทองแดง ฉันจะไม่สามารถเข้าห้องฝึกฝนระดับเหล็กได้อีกต่อไป แม้ว่าการสะสมแต้มจะช้าก็ตาม...”
เสี่ยว โม่ อยู่ในวัฏจักรที่ไม่ดี เขาสามารถสะสมแต้มได้โดยการฆ่ามอนสเตอร์ระดับเหล็กแต่แต้มมันน้อยมากเมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับทองแดง ในทางกลับกัน หากเขาเลือกที่จะเลื่อนขั้น ความสามารถเขาก็จะไม่พอสำหรับการฆ่ามอนสเตอร์ระดับทองแดงและนี่จะทำให้เขาช้ากว่าเดิม หลิน ฮวงรู้สึกเศร้าใจเพราะเขาไม่อาจช่วยอะไรได้เลยในสถานการณ์นี้