บทที่ 28: อสรพิษสี่ตา
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 28: อสรพิษสี่ตา
หลังจากได้ยินเช่นนั้น หานหลิงเฟิงก้มต่ำไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่จึงแสร้งทำท่าทางเหมือนว่าอึดอัดพร้อมกล่าวออกไปว่า “ข้าไม่มีทางเลือกอื่น ขณะที่เจ้าลิงได้ยินว่าข้าต้องการให้ซ่งจงมาช่วยบางอย่าง มันบอกข้าว่าต้องการจะช่วยข้าเช่นกัน อีกทั้งยังไม่ยินยอมแม้ว่าข้าจะกล่าวอย่างไร บวกกับความจริงที่ว่าข้าต้องพึ่งพามันให้ติดต่อกับเจ้าอ้วนไขมันเทิ้มนั่น ข้าจึงต้องยินยอมหากไม่แล้วข้าเกรงว่าจะทำลายแผนต่าง ๆ พังจนสิ้น!”
แม้ว่าหานหลิงเฟิงจะกล่าวเช่นนี้ออกมา แต่ภายในใจนางก็ก่นด่าเจ้าอ้วนอย่างเดือดดาล ‘เหตุผลที่ข้าต้องมารับภาระหนักหนาสาหัสเช่นนี้เป็นเพราะเจ้าอ้วนโง่ที่ต้องการดูแลพี่น้องของเขาตลอดเวลา เพียงแค่กลัวเจ้าลิงเสียผลประโยชน์จึงอยากพาเขาออกมาดูการนองเลือด หากทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้าเพียงคนเดียว ข้าจะไม่มีวันพามันมาแน่นอน!”
กู่หลงไม่รู้ว่าหานหลิงเฟิงคิดการใดอยู่ เขาเชื่อจริง ๆ ว่าเจ้าลิงมันอ้อนวอนเอง เขาเผยยิ้มเย็นชาพร้อมกล่าวว่า “ฮึ่ม มันรนหาที่ตายเอง หากว่าเป็นเช่นนั้นก็อย่าได้กล่าวหาว่าข้าไร้ความปราณี! ศิษย์น้องช่วยข้าดูแลพวกมันเถิด!”
“อา” หานหลิงเฟิงพยักหน้าพร้อมจบการสนทนาลับ ๆ นี้
อีกอย่างที่กู่หลงไม่รู้ในขณะที่เขากำลังพูดคุยกับหานหลิงเฟิง เจ้าอ้วนก็กำลังออกคำสั่งกับนางอยู่
“ศิษย์พี่หญิง เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว พวกเราทั้งหมดมุ่งหน้าไปทางหุบเขาที่มีปราณจิตวิญญาณหนาแน่นเถิด เหล่าอสูรร้ายมากมายอยู่ที่นั่น เหตุผลคือเราต้องการคู่มือที่ดีพอให้เจ้าพวกโง่เง่าได้รู้ตัวเสียที เข้าใจหรือไม่?” เจ้าอ้วนกล่าวออกมา
“ย่อมเป็นเช่นนั้น ข้ารู้หากพวกเขาอ่อนแอเกินไป ข้าจะจัดการทุกสิ่งอย่างเอง! และแน่นอนว่าจะหาคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งพอสำหรับพวกเขา!” หานหลิงเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่า ดียิ่งนัก!” เจ้าอ้วนตอบกลับพร้อมเผยยิ้มชั่วร้าย
ค่ำคืนนั้นมีแต่ความเงียบปกคลุม เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ทุกคนได้ลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมตัดสินใจเดินทางต่อ ระยะทางเหลือเพียงสองพันลี้เท่านั้น พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการมาถึงจุดหมายปลายทาง
เทือกเขาอีกาโลหิตถึงแม้จะเป็นสันเขา แต่ที่จริงแล้วมีรัศมีหลายพันลี้ มันเป็นป่าทึบที่อยู่บนภูเขาสูงและเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจอมนุษย์นับไม่อ้วน
อีกาโลหิตเป็นนกมีปีกยาวห้าฟุต กล่าวกันว่ามันไม่ได้ถูกมองเป็นสัตว์ร้าย แต่หากใครก็ตามที่ปฏิเสธมันจะได้พบเจอกับปัญหาครั้งใหญ่ ตามธรรมชาติของมันแล้ว พวกมันดุร้ายและหวงแหนอาณาเขตมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดที่กล้าเข้าไปสู่ดินแดนของมันก็จะถูกพวกมันหลายตัวมารอซุ่มโจมตี
ตามธรรมชาติแล้ว อีกาโลหิตไม่ได้มีพิษสงอะไร ไม่ว่าจะกี่ร้อยหรือกี่พันตัวก็ยังไม่สามารถข่มเหงเหล่าผู้ฝึกตนได้ แต่ในดินแดนของเทือกเขาอีกาโลหิต มีพวกมันรวมตัวกันอยู่นับล้าน แม้กระทั่งผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิยังไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ทำได้เพียงเผ่นหนีเท่านั้น! นอกจากนี้ อีกาโลหิตยังสามารถบินได้เร็วมาก พวกมันจะโจมตีจากทุกทิศทางแม้แต่การหลบหนียังเป็นไปได้ยากยิ่ง!
ดังนั้นเมื่ออยู่บนเทือกเขาอีกาโลหิตจะต้องระแวดระวังตัวให้มาก ต้องไม่สัมผัสสิ่งของแปลกปลอม โชคดีที่มันสมองของเหล่าผู้ฝึกตนไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาค้นพบวิธีการที่จะไม่ให้ถูกอีกาโลหิตพบเจอได้เร็วจนเกินไปแล้ว
ที่จริงแล้ววิธีการนั้นง่ายมาก มันคือการบดสมุนไพรที่ขึ้นอยู่ตามภูเขาแล้วนำมันมาทาเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ อีกาโลหิตชื่นชอบกลิ่นเจ้าสมุนไพรชนิดนี้มาก พร้อมทั้งยังใช้เจ้าพวกนี้สร้างรังของตนอีกด้วย ตราบใดที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรพวกมันจะไม่โจมตีเข้ามา
เล่าขานกันว่าผู้ฝึกตนทั้งหลายได้รู้เมื่อเห็นสัตว์ชนิดอื่นนำสมุนไพรนี้มาทาบนตัว เนื่องจากเจ้าสมุนไพรนี้สามารถใช้หลบซ่อนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้อีกด้วย วิธีดังกล่าวใช้ได้ผลดีจึงเริ่มแพร่กระจายออกเป็นวงกว้าง
ผู้ฝึกตนทั้งหลายที่มายังสถานที่แห่งนี้ก็จะใช้วิธีนี้เพื่อที่จะเข้าไปเอาสมุนไพรชั้นสูงชนิดอื่น วิธีการนี้เจ้าอ้วนและพรรคพวกก็ใช้เช่นกัน พวกเขาทาสมุนไพรลงบนตัว จากนั้นจึงบินเข้าไปในอาณาเขตของอีกาโลหิต พวกมันไม่ได้โจมตีเพียงแค่การบินโฉบเหนือหัวของพวกเขา แต่พวกมันปล่อยของเสียลงมาในบางครั้ง ทำให้พวกเขาทั้งหมดหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก
หลังจากเข้ามาสู่เทือกเขาอีกาโลหิตแล้ว พวกเขาไม่สามารถเดินทางด้วยการบินได้อีกต่อไป เพราะพวกเขาต้องการมาค้นหาสมุนไพร มิใช่มาเพื่อชื่นชมทัศนียภาพ สมุนไพรที่ต้องการไม่ได้อยู่บนท้องฟ้า เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงลงไปยังพื้นดินและเดินเข้าสู่ป่าทึบ
หญ้าจิตวิญญาณจันทราเติบโตขึ้นจากมูลของอีกาโลหิต ซึ่งทำการค้นหาเป็นไปได้ช้ามาก ถ้าหากว่าพวกเขาทั้งหมดโชคดีก็จะสามารถหามันพบอย่างรวดเร็ว ถ้าหากว่าไม่ก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามเดือน นอกจากนั้นแล้ว มันยังเป็นงานที่สกปรกอย่างมาก ผู้ฝึกตนจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะทำภารกิจเช่นนี้ นี่คือเหตุผลที่เหล่าผู้ฝึกตนระดับสูงปล่อยข่าวให้ผู้ฝึกตนระดับล่างได้รับรู้ถึงวิธีเข้ามายังเทือกเขานี้ได้
ก่อนอื่นพึงทราบว่าเทือกเขาอีกาโลหิตนั้นมิได้ปลอดภัย นอกเหนือจากอีกาโลหิตแล้วยังเต็มไปด้วยอสูรปีศาจอีกมากมาย ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะได้ เหล่าผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิทำได้เพียงเผ่นหนีเท่านั้น แต่โชคดีที่เหล่าปีศาจที่ดุร้ายพวกนั้นไม่ได้ออกมาเดินเพ่นพ่าน เหล่าสัตว์ที่ออกมาเดินทั่วไปล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนสามารถจัดการได้
ในวันแรกทุกคนผ่านการคุ้ยกองมูลจำนวนมาก นอกเหนือจากแมลงที่มากมายจนนับไม่ถ้วน พวกเขาก็ไม่พบเจอสิ่งอื่น ในวันที่สองก็เป็นเช่นเดียวกัน ในวันที่สามสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาค้นพบหญ้าจิตวิญญาณจันทราอายุหนึ่งร้อยปี แต่ช่างน่าสมเพชยิ่งนักเพราะมีอสรพิษสี่ตาปกป้องมันอยู่!
อสรพิษสี่ตามีดวงตาสี่ดวงอยู่บนหัว รูปร่างน่าเกลียดคล้ายกับคางคกอีกทั้งยังกว้างถึงสิบฟุต มีความแข็งแกร่งทั้งยังสามารถพ่นพิษได้อีกด้วย ผู้ฝึกตนทั้งหลายจำกัดให้มันเป็นอสูรปีศาจระดับสอง ความสามารถในการต่อสู้ของมันเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นเจ็ดหรือแปด และยากที่จะต่อกรกับพิษที่มันพ่นออกมา รัศมีมีมากกว่าหนึ่งพันฟุต ถ้าหากว่าผู้ฝึกตนถูกพิษโจมตีก็จะมีอาการเวียนหัวหรือร้ายแรงจนถึงขั้นตายตกไปได้
หลังจากได้เห็นปีศาจตนนั้นแล้ว ดวงตาของทุกคนก็เบิกโพลงขึ้นพร้อมกล่าวในใจ ‘ประเสริฐนัก ในที่สุดก็มีโอกาสเสียที!”
หลังจากที่ค้นพบอสรพิษสี่ตา พวกเขาไม่ได้รีบร้อนพุ่งเข้าไป เพียงแต่ค่อย ๆ ถอยออกมาอย่างช้า ๆ เพื่อที่จะพูดคุยกัน
“เฮ้ สหาย แม้ว่าพวกเราจะจัดการกับอสรพิษสี่ตานี่ไม่ได้ง่ายดายนัก แต่วัสดุในตัวของมันก็มิได้เลวร้ายโดยเฉพาะต่อมพิษของมัน มีร้านค้าจำนวนมากต้องการสิ่งนี้ หลังจากที่ฆ่ามันได้แล้ว เราจะได้รับหินจิตวิญญาณไม่กี่พันก้อน แต่พวกเจ้ายินดีจะทำงานร่วมกันหรือไม่?” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องทำงานนี้ร่วมกัน!” กู่หลงมีท่าทีวางมาดพร้อมกล่าวต่อ “จำไม่ได้หรือว่าครั้งล่าสุดเราตกลงกันว่าอย่างไร ? เราทั้งหมดต้องการแข่งขันกันเพื่อดูว่าใครคือภาระในทีม!”
“ถูกแล้ว และในครานี้พวกข้าจะเข้าไปก่อนเพื่อแสดงให้น้องใหม่ดูเป็นขวัญตา!” ซวนอวี๋กล่าวต่อพร้อมหัวเราะ
เจ้าอ้วนตอบกลับด้วยความโกรธทันที “ไม่ เหตุใดจึงไม่ให้ข้าเริ่มก่อน ? เพียงแค่อสรพิษสี่ตาข้าใช้ยันต์ระดับสูงเพียงไม่กี่อันก็สามารถจัดการมันได้แล้ว! ช่างง่ายดายเพียงแค่สะบัดนิ้ว!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นแทบจะกระอักความโกรธจนตายตกไป ยันต์ระดับสูงนั้นต้องใช้หินจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งร้อยก้อนเพื่อซื้อมัน พวกเขาอาจจะเสียยันต์นั่นไปเพียงเพราะเจ้าอสรพิษสี่ตาที่พวกเขาก็สามารถจัดการได้ นอกจากนี้ยันต์ระดับสูงนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ จากการยับยั้งของผู้ฝึกตนระดับนี้ เจ้าอสรพิษนี้จะไม่ถูกทำลายให้เหลือเพียงฝุ่นละออง พวกเขาต้องการร่างกายของมันเพื่อนำวัสดุต่าง ๆ ไปขาย
หานหลิงเฟิงที่ยืนด้านข้างกล่าวชักชวนอย่างรวดเร็ว “ศิษย์น้องซ่ง เจ้าอสรพิษสี่ตานี่อ่อนแอเกินไป มันไม่คุ้มค่ากับการที่เจ้าจะต้องใช้ยันต์ระดับสูง ข้าว่าให้ศิษย์พี่ทั้งสองแสดงความสามารถก่อนเถิด แล้วเมื่อเราพบปีศาจที่แข็งแกร่งในภายหลังพวกเราจะปล่อยให้เจ้าใช้วิธีการเช่นนั้น เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
“เรายังสามารถพบปีศาจที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้อีกงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนถามออกไปอย่างโง่เขลา
“แน่นอน สถานที่แห่งนี้มีอสูรปีศาจมากมายทั้งระดับสี่และห้า หากว่าเราอยู่ที่นี่อีกสักสองถึงสามวัน อย่างน้อยเราก็จะสามารถค้นพบปีศาจระดับสามได้ ในช่วงเวลานั้นพวกเราจะให้เจ้าแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เจ้าว่าอย่างไร?”
กู่หลงและซวนอวี๋แสดงท่าทีรีบร้อนพร้อมกล่าวออกมาทันที “หยุดก่อน ตอนนี้เสียเวลาไปมากแล้ว ให้พวกข้าดูแลเจ้าอสรพิษนี้ก่อนเถิด! โปรดรับชม!” เมื่อกล่าวจบ พวกเขาพุ่งเข้าไปข้างหน้าพร้อมหยิบอุปกรณ์วิเศษของตนออกมาโดยไม่รอคำตอบใด ๆ