เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 181-2 หัวใจที่บิดเบี้ยว (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 181-2 หัวใจที่บิดเบี้ยว (อ่านฟรี)
ก่อนหน้านี้อวี๋โป้คิดว่าฟางหยวนมีพรสวรรค์เพียงนภาที่สามและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อฟางหยวนครอบครองสุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาล โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวข้องกับคำทำนายของผู้นำตระกูลรุ่นแรก ทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์
ฟางหยวนต้องได้รับการคุ้มครอง แม้ตระกูลเจียจะไม่พอใจ ก็ไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจ
'โอ้ ผู้นำตระกูลผู้นี้เปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว น่ารังเกียจนัก ทัศนคติของเขาเปลี่ยนแปลงไปทันทีเพียงเพราะข้าเปิดเผยความจริงเรื่องสุดยอดกายาของฟางหยวนที่เหนือกว่าพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนผู้นำตระกูลผู้นี้จะต้องการปกป้องฟางหยวนและมันจะเป็นอุปสรรคใหญ่ในการไขคดีของข้า แล้วข้าควรทำอย่างไร? ท่านพ่อ...'
หัวใจของไท่รั่วหนานทรุดลงขณะที่เธอหันหน้ามองไปยังบิดาของเธอโดยไม่รู้ตัว
"อา...ท่านพ่ออยู่ที่ใด?" เด็กสาวตะลึง
ก่อนหน้านี้ไท่เซี่ยเล้งยังอยู่ที่นี่ แต่พริบตาต่อมาเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
การค้นพบนี้ทำให้อวี๋โป้เต็มไปด้วยความเครียด
เทพนักสืบไท่เซี่ยเล้งจะไปที่ใดในเวลานี้? ผู้นำตระกูลแสงจันทร์อวี๋โป้สามารถคาดเดาได้ว่ามันย่อมเกี่ยวข้องกับฟางหยวน
"ฟางเจิ้ง ข้าจะไปหาพี่ชายของเจ้า เจ้าจงไปแจ้งเหล่าผู้อาวุโสให้ติดตามข้าไปทันที" อวี๋โป้ออกคำสั่งก่อนจะกระตุ้นใช้งานวิญญาณและบินออกไปทางช่องหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
ไท่รั่วหนานเย้ยหยันก่อนจะวิ่งไปยังที่พักของฟางหยวน
ในห้องโถงที่ว่างเปล่า มีเพียงฟางเจิ้งยืนอยู่
"นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร?"
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ฟางเจิ้งไม่สามารถมองโลกในแง่ดี ใบหน้าของเขาซีดลงเรื่อยๆ เขารู้สึกราวกับสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด
ฟางเจิ้งรู้สึกราวกับโลกถูกปกคลุมไปด้วยความมืดอีกครั้ง
โลกของเขาพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตาอย่างกะทันหัน
มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
'พรสวรรค์ของพี่ใหญ่คือสุดยอดกายาทั้งสิบ พรสวรรค์นภาที่หนึ่งของข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขา มันไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิงต่อหน้าเขา'
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ น้ำตาก็เริ่มไหลลงมาอาบแก้มของฟางเจิ้ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเหนือกว่าฟางหยวนก็คือพรสวรรค์ ความมั่นใจทั้งหมดของเขาเกิดขึ้นจากเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขากลับค้นพบความจริงที่โหดร้ายที่ว่าพรสวรรค์ของเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับฟางหยวน มันจึงช่วยไม่ได้ที่ความภูมิใจและความมั่นใจของเขาจะพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
"พี่ใหญ่!" เขาเงยศีรษะขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาราวกับแม่น้ำ
เขาตะโกนก้องอยู่ในหัวใจ 'ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่านเฝ้ามองข้ากระโดดไปมาราวกับตัวตลกอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่?'
สายตาของเขาหยุดอยู่บนผนัง ขณะที่ภาพเหตุการณ์ในอดีตยังคงฉายซ้ำอยู่ที่นั่น ผู้คนส่งเสียงสรรเสริญในพรสวรรค์ของฟางเจิ้ง มีเพียงฟางหยวนที่ยืนอยู่ด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่งขณะที่จ้องมองมาที่เขา
เฝ้ามองอย่างสงบนิ่ง...
ฟางเจิ้งรู้สึกได้ขึ้นมาอย่างฉับพลันว่าในภาพเหตุการณ์ เขาที่ปกคลุมด้วยแสงสว่างของวิญญาณแห่งความหวังไม่ต่างจากเด็กน้อยไร้เดียงสา ในหัวใจของเขาเวลานี้ฟางหยวนที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิดกลับไม่ต่างจากเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ภูเขาในหัวใจของเขาค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น มันสูงขึ้นจนเขารู้สึกไม่สามารถปีนป่ายได้อีก
ฟางหยวนที่ยืนอยู่บนยอดเขาชำเลืองมองลงมาที่เขาด้วยสายตาเวทนาสงสาร
ดวงตาคู่นี้ราวกับกำลังพูดกับเขาว่า "ฟางเจิ้ง น้องชายที่น่าขันของข้า น่าสงสาร น่าสงสาร น่าสงสาร...."
เสียงของฟางหยวนดังสะท้อนอยู่ในห้วใจของฟางเจิ้ง
ความรู้สึกหดหู่ทำให้เขาแทบไม่สามารถหายใจ
เขาเคยคิดว่าเขากำจัดความรู้สึกนี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกนี้กลับย้อนมาทำร้ายจิตใจเขาอีกครั้ง
ในความเป็นจริงมันกระทั่งรุ่นแรงกว่าก่อนหน้านับร้อยเท่า!
"อ๊าก...ข้าอยากตาย! ข้าอยากตาย!!" ใบหน้าของฟางเจิ้งเต็มไปด้วยเส้นเลือกที่ปูดโปน มือข้างหนึ่งของเขาบีบรัดลำคอของตนเองอย่างแน่นหนา เวลานี้เขาดูราวกับคนกำลังจะจมน้ำตายด้วยความผิดหวัง
ฟางเจิ้งล้มตัวคุกเข่าลงบนพื้น
เพราะอาการขาดอากาศทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นเหม่อลอย
"ไม่ ข้าไม่อยากตาย! ข้าไม่อยากตาย!!" ฟางเจิ้งทุบกำปั้นลงบนพื้นจนเลือดพุ่งทะลักของมา ความเจ็บปวดกระตุ้นความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของเขาให้ตื่นขึ้น
ร่างกายของเขาไม่มีบาดแผลร้ายแรง แต่หัวใจกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาไม่สามารถลุกขึ้นเพราะความภาคภูมิใจของเขาถูกทำลายจนแตกละเอียด
เขารู้สึกว่าตนเองไม่สามารถเผชิญหน้ากับผู้ใดได้อีก เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับพี่ชายของเขา เขากลายเป็นตัวตลกที่น่าขันและมันก็น่าหัวเราะอย่างที่สุด
หัวใจของเขาราวกับถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่เถ้าถ่านกองนี้ยังคุกรุ่นและมีเชื้อเพลิงเหลืออยู่
"ฮืม สุดยอดกายาทั้งสิบแล้วอย่างไร? พี่ใหญ่ ท่านพลาดแล้ว! ท่านฆ่าคน...ท่านไม่ควรทำมัน...ถูกต้อง...นั่นถูกต้อง ท่านต้องจ่ายค่าตอบแทนกับความผิดบาปของตน พี่ใหญ่! ท่านฆ่าเจียจินเฉิง! ท่านเดินบนเส้นทางที่ผิดบาป ท่านเป็นสิ่งที่ผิดพลาด แม้พรสวรรค์ของท่านจะเหนือล้ำกว่าข้า แล้วอย่างไร!?"
"ติ๊ง..."
เสียงหยดน้ำร่วงหล่นลงสู่พื้นดังขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงในหัวใจที่ดับมอดลงทันที
ฟางเจิ้งที่กำลังจะตายฟื้นคืนสู่ชีวิตอีกครั้ง
มือที่จับลำคอของเขาค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ
ร่างของฟางเจิ้งปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่เขายังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับกำปั้นที่ได้รับบาดเจ็บ
น้ำตาของเขาเริ่มเหือดแห้ง
ใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวของเขาค่อยๆสงบ
ลมพัดเข้าผ่านช่องหน้าต่างและบานประตูที่เปิดอยู่เข้ามาในห้องโถง
มวลอากาศเย็นปะทะกับร่างกายของเขาท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด
"ฮิฮิฮิฮิฮิ...." ฟางเจิ้งที่อยู่ในท่าทางครึ่งยืนครึ่งนั่งส่งเสียงหัวเราะอันแหลมสูงออกมาอย่างน่าขนลุก
แสงจากโคมไฟส่องสะท้อนใบหน้าของเขา แต่เวลานี้ใบหน้านี้กลับแตกต่างไปจากเดิม มันไม่อบอุ่นและไม่สว่างไสว ตรงข้าม มันดูคล้ายใบหน้าปีศาจร้ายที่กำลังเต้นรำอยู่ท่ามกลางความมืด