บทที่ 54 ไนท์คลับ (อ่านฟรี)
เฝิงหยุ่หรี่ดวงตา แล้วกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว เขายังยิ้มต่อไป และกล่าวว่า "ทุกคนต่างก็พากันยกย่องคุณเหล่าซื่อว่าเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่เคยรังแกประชาชน ดูเหมือนข่าวลือเหล่านี้จะเกินจริง "
"เอ็งกล้าพูดไม่ดีถึงลุงซื่อของข้าเหรอ?" : ซ่งเสี่ยวเฟิงลุกขึ้นยืน และกำคอของเฝิงหยู่
"ถ้าคุณต้องการรถ คุณก็ต้องรอ ตอนนี้ไม่มีรถเหลืออยู่สักคัน ผมก็ไม่สามารถหามาให้ได้ ผมมีรถเหลือยู่คันหนึ่ง ไม่ใช่รถสปอร์ต แต่เป็นแลนด์โรเวอร์ ถ้านายน้อยซ่งไม่รังเกียจ ผมจะมอบให้กับคุณ เพื่อแทนคำสัญญา!” เฝิงหยู่กล่าวอย่างสงบใจ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ น่าสนใจ! อายุไม่มาก แต่ความกล้ามากโข! แต่ที่เอ็งพูดก็ถูกต้อง พวกข้าคนจากจากบริษัทเจียงหวา เป็นคนที่พูดกันด้วยเหตุผล รถแลนด์โรเวอร์ที่ว่านั่นอยู่ที่ไหน? ข้าอยากจะดูสิ ว่ามันคุ้มค่าพอกับสัญญาหรือเปล่า” ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าว
ซ่งเสี่ยวเฟิงได้รับอิทธิพลจากซ่งเหล่าซื่อ นิสัยใจคอและท่าทางก็เหมือนๆกัน ลุงซื่อเคยบอกเขาไว้ว่า เวลาปกติให้พูดกันด้วยเหตุผล แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ฟัง "เหตุผล" ของพวกเขาให้ใช้หมัดมีดและปืนเพื่อ "พูด" กับพวกเขาแทน
ในเมื่อเฝิงหยู่อ้างถึง"เหตุผล" แล้วพูดเองว่าจะให้รถเขาคันหนึ่ง เขาจึงรู้สึกกระดากดายที่จะสั่งคนให้ลงมือ
"นี่ คันนี้" เฝิงหยู่ชี้ไปที่แลนด์โรเวอร์ซึ่งจอดอยู่นอกประตู
"แลนด์โรเวอร์ดูดีมีราศรีกว่ารถจี๊ป แต่ก็เป็นแค่รถจี๊ปขนาดใหญ่ไม่ใช่เหรอ? จะให้ข้าขับรถคันนี้? ถ้าเอ็งไม่มีรถสปอร์ตแล้ว ก็ควรจะให้เป็นรถเก๋ง? ข้าได้ยินมาว่านายมี Rolls-Royce อย่าบอกนะว่าเอ็งจะเก็บ Rolls-Royce ไว้เองแล้วไม่ให้ข้า? " ซ่งเสี่ยวเฟิงถาม
"รถจี๊ปขนาดใหญ่? นายน้อยซ่งจะคิดเช่นนั้นก็ได้ แต่รถจี๊ปนี้ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะหาซื้อมาขับได้ ที่ประเทศอังกฤษ มีเพียงกองทหารรักษาการณ์แห่งพระราชวังเท่านั้นที่สามารถขับรถแลนด์โรเวอร์นี้ได้ แถม แลนด์โรเวอร์นี้ทนทานมาก ปกตินายน้อยซ่งขับรถ BMW ใช่มั้ย? ผมกล้าพนันกับคุณ ถ้าทั้งสองคันนี้ชนกัน BMW จะเละกระจุย แต่แลนด์โรเวอร์จะไม่มีแม้รอยขีดข่วน " เฝิงหยู่กล่าว
"เอ็งพูดจริงเหรอ?" ซ่งเสี่ยวเฟิงถาม
ถ้าแลนด์โรเวอร์แข็งแรงทนทานขนาดนี้ ก็ควรจะมีไว้สักคัน ครั้งสุดท้ายเขาไปทำธุระให้บริษัท คิดอยากจะไปจับตัวหัวหน้าของอีกฝ่ายที่พูดไม่เข้าหู อีกฝ่ายชนกระแทกรถของเขาแล้วขับหนีไปได้ ถ้าคราวหน้าเขาจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวอีก เขาจะขับรถแลนด์โรเวอร์ไปจัดการ
"เอ็งไปลองดูสิ! ว่ารถคันนี้ดีอย่างที่ว่าหรือเปล่า" ซ่งเสี่ยวเฟิงส่งกุญแจรถให้ผู้ติดตามคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ลูกน้องคนนั้นรับกุญแจรถมาอย่างหวั่นกลัว แล้วกัดฟันเดินขึ้นรถ
บรรลัยแล้ว!
หัวใจของเฝิงหยู่เต้นสนั่น เจ้านี่บ้าไปแล้ว! ซ่งเสี่ยวเฟิงถึงกับสั่งให้ลูกน้องขับรถแลนด์โรเวอร์ชนประตูเหล็กของบริษัทการค้าไท่หัว!
โชคดีที่แลนด์โรเวอร์คันนี้เฝิงหยู่เคยใช้ขับเอง และเขาตั้งใจเสริมแรงกันชนด้านหน้าไว้เป็นพิเศษ พอมันพุ่งชนจริงๆ รถแลนด์โรเวอร์จึงไม่มีแม้รอยขีดข่วน!
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ รถดี! นี่เป็นรถที่ดีจริงๆ! ข้าจะรับมันไว้ก็ได้ แล้วเอ็งต้องการอะไรจากข้า?” ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าวอย่างมีความสุข เขาตัดสินใจเอา แลนด์โรเวอร์คันนี้โดยไม่ลังเล
เฝิงหยู่ชี้ไปที่พนักงานของเขาที่อยู่รอบๆ และกล่าวว่า "คนเหล่านี้เป็นพนักงานของผม ถ้าในอนาคต พวกเขาทำอันใดที่ทำให้นายน้อยซ่งหรือคุณเหล่าซื่อไม่พอใจอย่างไม่ได้ตั้งใจ หวังว่านายน้อยซ่งจะเมตตาสักนิด "
ซ่งเสี่ยวเฟิงคิ้วขึ้นและถามว่า "แค่นี้?"
เขาคิดว่าเฝิงหยู่จะมีเงื่อนไขยุ่งยากอะไร คิดไม่ถึงว่าเฝิงหยู่แค่ต้องการการปกป้องคุ้มครองเท่านั้น ถ้าเฝิงหยู่ไม่มาหาเรื่องพวกเขา พวกเขาก็คร้านที่จะสร้างปัญหาให้กับเฝิงหยู่
"แค่นั้นครับ นายน้อยซ่งตกลงไหมครับ?" เฝิงหยู่ตอบ
"เรื่องเล็กน้อย ไม่มีปัญหา. เอาอย่างนี้ มีไนต์คลับที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่ไกลจากที่นี่ คืนนี้พวกเราจะไปเต้นรำกัน ข้าจะเลี้ยงเอ็งเอง " ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าว
ซ่งเหล่าซื่อชอบไปไนต์คลับ บาร์ และสถานที่บรรเทิงอื่น ๆ และมักจะพาซ่งเสี่ยวเฟิงไปยังสถานที่ที่เขาเคยไป แสงสีเหล้ายา นารีงามช้อย รื่นเริงบันเทิง
"นายน้อยซ่ง ผมเต้นไม่เป็น" เฝิงหยู่กล่าว
"คิดจะหักหน้าข้า?" นายน้อยซ่งหัวเราะเยาะเย้ย ไม่มีใครในเมืองปิงที่คิดจะหักหน้าเขาโดยปฏิเสธคำเชิญของเขา!
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่รู้วิธีเต้นจริงๆ ก็ได้ ผมจะลองหน่อยก็แล้วกัน” เฝิงหยู่ตอบ
"ฮ่า ๆ มันต้องอย่างนี้ พวกเอ็งทั้งหลาย หนึ่งทุ่มคืนนี้ ตามกันมาให้หมด ข้าเลี้ยง อารมณ์ดีโว้ย! " ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าวอย่างมีความสุข
หลังจากที่ซ่งเสี่ยวเฟิงและคนของเขาจากไป อู๋จื้อกางและคนอื่น ๆมาล้อมรอบเฝิงหยู่
"ผู้จัดการเฝิง กับคนอย่างนั้นพูดกันเรื่องเหตุผลไม่ได้หรอก เรื่องเลวๆซ่งเหล่าซื่อทำได้ทุกอย่าง จะต้องถูกจับแล้วก็ถูกยิงเป้าเข้าสักวัน! ซ่งเสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้เป็นคนดี นี่อาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัท " อู๋จื้อกางกล่าว
เฝิงหยู่โบกมือเพื่อสื่อให้อู๋จื้อกางหยุด เฝิงหยู่จะไม่รู้ได้อย่างไร แต่ถ้าไม่ไปจะเกิดอะไรขึ้น? คนเหล่านี้กฎหมายทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ประตูห้องเจ้าหน้าที่ของรัฐพวกเขายังทำลายได้ แล้วเฝิงหยู่เป็นเพียงนักธุรกิจตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น!
เฝิงหยู่เริ่มเสียดายวิถีชีวิตที่ผ่านมาของเขา อย่างน้อยๆชีวิตก่อนหน้าก็เป็นประเทศที่มีแต่ความปลอดภัย ไม่มีนักเลงอันตพาลมาวางท่ากำเริบเสิบสาน แต่พวกเขาเหล่านั้นความตายกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า ปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งที่พวกเขาทำตามอำเภอใจไปก่อนก็แล้วกัน
"คืนนี้พวกเราจะไปเที่ยวเล่นกัน ถือซะว่าไปพักผ่อนหย่อนคลาย ไม่ต้องพูดคุยกับคนเหล่านั้นมากนัก ต่อไปภายหน้าให้ถือว่าพวกเขาเป็นคนแปลกหน้า แลนด์โรเวอร์คันนั้นถือซะว่าแลกกับความปลอดภัย อย่างน้อยถ้าในอนาคตไปทำให้คนจำพวกนี้ขุ่นเคืองใจ จะได้หยิบยืมชื่อเหล่าซื่อมาเป็นไม้กันหมาได้ " เฝิงหยู่กล่าว
หลังจากทานอาหารค่ำ เฝิงหยู่และพนักงานของเขาไปไนท์คลับ
ลูกน้องของซ่งเสี่ยวเฟิงกำลังรออยู่ที่ประตูพวก เขาซื้อตั๋วราคา10 หยวนไว้ก่อนแล้ว พอเห็นพวกของเฝิงหยู่มาถึง พวกเขาก็ถูกนำทางเข้าไปด้านใน
ไนท์คลับที่นี่ดีกว่าที่เฝิงหยู่จินตนาการไว้ ดูอร่ามตามาก ทำให้เขานึกถึงไนต์คลับในอนาคตของชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มีไฟหมุนอยู่บนหัว กระจกสะท้อนแสงลูกไฟ สแกนเนอร์ ห่วงไฟ โคมไฟ ไฟบิน และไฟแฟลช
ด้านหน้ามีโซฟาล้อมรอบมากมายสามด้าน ส่วนอีกหนึ่งด้านฟลอร์เต้นรำและเวทีสำหรับร้องเล่นเต้นรำ หนุ่มๆสาวๆกำลังเต้นโยกย้ายส่ายเอว มุมหนึ่งมีเคาน์เตอร์บาร์ขายเครื่องดื่มและอาหาร
ซ่งเสี่ยวเฟิงนั่งอยู่ในมุม โซฟาข้างๆเขาว่างอยู่เต็ม ด้วยเพราะไม่มีใครกล้านั่งใกล้ ๆ เขา
"มากันแล้ว นั่งสิ อยากกินอะไรหรือดื่มอะไร ก็สั่งได้ตามสบาย วันนี้ ข้าเลี้ยง!" ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าว
เฝิงหยู่รู้สึกอึดอัดมาก ถ้าขายแลนด์โรเวอร์อย่างน้อยๆคงขายได้หลายแสนหยวน การเชิญพวกเขามามากินดื่มอาหารในราคาเพียงไม่กี่ร้อยหยวน ซ่งเสี่ยวเฟิงยังกล้าทางท่าว่าตัวเองใจกว้างได้อีก
"พวกนายไปเต้นรำกันสิ ฉันจะนั่งพักสักหน่อย " เฝิงหยู่กล่าวกับพนักงานของเขา
เฝิงหยู่ไม่ชอบสถานที่รื่นเริงเสียงดังขนาดนี้ โดยเฉพาะการเต้นแร้งเต้นกา ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจที่จะเข้าไปร่วมแจม เขาขอดื่มน้ำส้มหนึ่งแก้ว แล้วจิบอย่างช้า ๆ
จู่ๆก็มีหญิงสาวแต่งหน้าจัดคนนั่งมานั่งข้างๆเฝิงหยู่ แล้วโอบแขนของเฝิงหยู่: "คุณพี่ขา ทำไมมานั่งที่นี่? มาเต้นรำกับน้องหน่อย "
เฝิงหยู่ดึงมือจากการโอบกอดของเธอ และกล่าวว่า "เธอไปเถอะ ฉันเต้นไม่เป็น "
"ง่ายดายจะตายไป ก็แค่โยกไปมา คุณน้องจะสอนเองนะคะ " หญิงสาวดึงมือของเฝิงหยู่อีกครั้ง
"น้องเฝิง มาที่นี่แล้วต้องปลดปล่อยบ้าง หรือไม่ชอบน้องผู้หญิงคนนี้? เช่นนั้น ก็ลองเลือกเองตามใจ ชอบคนไหน ข้าจะเรียกมาให้! " ซ่งเสี่ยวเฟิงกล่าวเสียงดังขณะที่โอบกอดหญิงสาวนางหนึ่ง
หญิงสาวข้างๆเฝิงหยู่มองเขาอย่างอ้อนวอน หากเธอไม่อาจเอาใจเฝิงหยู่ซึ่งเป็นคนที่นายน้อยซ่งสั่งให้เธอไปดูแลให้ดี ผลที่ตามมาก็น่ากลัว
เฝิงหยู่ถอนหายใจ ยืนมือออกไปโอบไหล่สาวน้อยคนนั้น: "นายน้อยซ่ง เธอคนนี้ก็งามไม่หยอก แต่ผมจะดื่มให้พอกรุ้มกริ่มก่อน สักพักจะออกไปแด้นให้มันหยด "
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆเฝิงหยู่ดูท่าทางอายุสิบกว่าปีเอง อายุเท่าเธอควรจะเล่าเรียนอยู่มัธยม แต่กลับต้องมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ ดูเหมือนว่าในสถานที่ประเภทนี้ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือชีวิตก่อนหน้าของเขาก็ไม่มีความแตกต่างกันเลย
"คุณพี่ขา อีกเดี๋ยวจะปิดไฟเต้นรำ ไปเต้นกับน้องนะคะ" หญิงสาวพูดกับเฝิงหยู