เล่ม 2 ตอนที่ 3 : นครใต้สมุทรโนเดเลส (2)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
เล่ม 2 ตอนที่ 3 : นครใต้สมุทรโนเดเลส (2)
ชายทะเลอันงดงามถูกความมืดเข้าปกคลุม
เป็นเพราะความมืด ทั้งดวงจันทร์และดวงดาวต่างส่องประกายแสงได้สว่างมากยิ่งขึ้น
มันเป็นเวลาของเขาซึ่งเป็นผู้ที่เดินในความมืดมิด ผู้เดินทางแห่งความมืด
มนุษย์ฉลามที่คุ้มกันประภาคาร รูปลักษณ์ของพวกมันบ่งบอกว่าเป็นมอนสเตอร์ออกหากินยามค่ำคืน
เมื่อกลางคืนมาถึง ค่าสถานะของพวกมันจะเพิ่มขึ้น 30% อีกทางหนึ่ง อาร์คนั้นได้รับค่าสถานะโบนัสเพียงแค่ 20% ในความมืด กระนั้นอาร์คก็ยังคงรอคอยให้มืดก่อนจึงค่อยเริ่มสู้
ค่าสถานะโบนัสในความมืด มันไม่ใช่เพียงแค่มีผลกับอาร์คเพียงคนเดียว แต่ความสามารถของสมุนปีศาจที่เป็นของอาร์คต่างก็เพิ่มขึ้นด้วย
มันก็ยากที่จะหวังพึ่งพลังโจมตีและป้องกันที่เพิ่มมากขึ้น แต่ว่า ด้วยความคล่องตัวที่เพิ่มมากขึ้นและความฉลาด รวมถึงการร่วมมือ ความคล่องแคล่ว และความเข้าใจในสถานการณ์ต่อสู้ รวมถึงความสามารถในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น พวกมันเป็นส่วนหนึ่งที่เขาตระหนักได้เมื่อเรียนรู้การทำงานร่วมกับสมุนปีศาจของตน ท้ายที่สุด ความสามารถของอาร์คที่เพิ่มขึ้น 20% และเมื่อรวมเข้ากับการร่วมมือเป็นทีมจะส่งผลให้มันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็ 40% ด้วยความสามารถพิเศษ ‘ลอบเร้น’ ที่เสริมเข้าไป แผนการของพวกเขาย่อมสามารถมีขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด
เพราะเหตุนี้ อาจกล่าวได้ว่าอาร์คได้กลายเป็นผู้เดินทางแห่งความมืดอย่างแท้จริงแล้ว
‘กลางคืนยังอยู่อีกนาน ไม่จำเป็นต้องรีบ’
เป้าหมายของเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว อาร์คไม่จำเป็นต้องรีบแต่อย่างใด
ด้วยความก้าวร้าวของมนุษย์ฉลาม การต่อสู้กับพวกมันในพื้นที่ชายหาดอาจนำมาซึ่งมนุษย์ฉลาดที่อยู่ว่ายน้ำอยู่ใกล้เคียง
“เจ้าค้างคาว ไปล่อมามันสักตัว”
“ขอรับเจ้านาย”
ไม่ช้า เจ้าค้างคาวบินลัดผ่านความมืดเข้าไปรบกวนมนุษย์ฉลาม มนุษย์ฉลามที่โกรธจัดจึงร้องออกมาด้วยเสียงประหลาดขณะไล่ล่าเจ้าค้างคาว มนุษย์ฉลามทุกตนอาจว่ายน้ำเข้ามาหาหากอาร์คเผยตัวออกไป แต่นี่เป็นเพียงแค่ค้างคาว พวกมันจึงไม่คิดว่าต้องลงมือทำอะไร
เจ้าค้างคาวล่อมนุษย์ฉลามมาจนถึงป่าที่มืดมนซึ่งอาร์คกำลังใช้ ‘ลอบเร้น’ รอคอยอยู่ ไม่ต้องบรรยายว่าสิ่งถัดไปที่เกิดขึ้นคืออะไร
การโจมตีแรกย่อมเริ่มด้วยแทงหลัง เรียกใช้งานเนตรแห่งแมว ถัดจากนั้นเขาจึงระเบิดพลังของคมดาบแห่งความมืดออกมา
อาร์คลงทุนไปอีกเล็กน้อยกับค่าความฉลาดหลังต่อสู้กับคุนดาลินีจนทำให้พลังมานาตอนนี้มีถึง 600 หน่วย กระทั่งว่าใช้เนตรแห่งแมวกับคมดาบแห่งความมืดไปอีกสี่ครั้ง เขาก็ยังคงมีเหลือพอคงสภาพสมุนปีศาจได้อีกหนึ่งนาทีกว่า
มนุษย์ฉลามที่โดนล่อมาทางนี้กลับกลายเป็นซุปหูฉลามในอีกนาทีถัดมา
=====
ท่านได้ปรุงซุปหูฉลามด้วยทักษะทำอาหารเพื่ออยู่รอด
ซุปที่ทำขึ้นจากหูฉลามอันโอชะ รสชาตินั้นเป็นเลิศ ด้วยการเสริมเครื่องเทศที่ช่วยให้สดชื่นลงไป ท่านสามารถนำศักยภาพที่ซุกซ่อนของวัตถุดิบออกมาได้
ความอิ่ม +50%, พลังชีวิตฟื้นฟูเป็นระยะเวลา 1 นาที, ผลพิเศษ (ผิวฉลาม) : พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 20 หน่วย เป็นเวลา 30 นาที
=====
เมื่อการทำอาหารเพื่ออยู่รอดเปลี่ยนเป็นขั้นกลาง อัตราการล้มเหลวก็ลดน้อยลง หลังจากที่เพิ่มเครื่องเทศไปนิดหน่อยที่ได้รับมาจากแลนเซล เขาสามารถทำอาหารให้มีผลลัพธ์พิเศษเพิ่มขึ้นมาได้
ยกตัวอย่าง หากเขาเพิ่มเครื่องเทศลงไปในพริกผัดเปรี้ยวหวาน ที่ปกติแล้วจะได้พละกำลังมากขึ้นแลกมากับความสับสนที่เกิดขึ้น มันจะเพิ่มความคล่องตัวให้และลดระยะเวลาส่งผลของความสับสนให้สั้นลง
แน่นอนว่า ผลลัพธ์ในทางที่ดีไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่เพิ่มเข้ามา แต่มันคือการทำอาหารเพื่ออยู่รอด ที่ไม่อาจทำให้คุณต้องลดความระมัดระวังลงขณะทำอาหารได้!
ถ้าหากเขาเพิ่มเครื่องเทศลงไปในชาสมุนไพรแจ่มใสที่มีผลแค่ฟื้นฟูพลังมานา มันอาจทำให้เกิดผลเป็นพิษขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วถ้าหากเขาไม่ดื่มชาสมุนไพรทุกสิบนาทีเป็นเวลานานหนึ่งชั่วโมง พลังมานาของเขาจะต้องกลายเป็น 0
ในตอนนี้ อาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่ใช้เครื่องเทศนั้นยังดีกว่า
ผลลัพธ์ของมันนั้นไม่ใช่เรื่องตลก แต่มันก็เป็นเรื่องที่สนุกอยู่บ้างเหมือนกัน
อาร์คนำหน้าต่างข้อมูลทำอาหารขึ้นมารับชมขณะยิ้มกว้าง
‘เอาเถอะ ตอนนี้ก็มีสูตรอาหารกว่าแปดสิบเมนูแล้วแหละนะ’
สองในสามอาจเรียกได้ว่าเป็นอาหารพิษ แต่มันก็ยังนับได้ว่าเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม หลังจากที่ทดสอบโดยการนำครีบฉลามมาทำอาหารแล้ว ค่าสถานะของเจ้าค้างคาวได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้น พวกเขาจึงพยายามล่ามนุษย์ฉลามเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้รับวัตถุดิบที่มากขึ้น
มนุษย์ฉลามดูหาได้สนใจไม่กับการหายตัวไปของพรรคพวกที่อยู่ข้างเคียง พวกมันต่างกำลังง่วนอยู่กับการเดินเตร่ไล่จับสัตว์ที่พบเจอรอบตัวพวกมัน
ต้องขอบคุณท่าทีของพวกมันที่หาได้ใส่ใจอะไรไม่ ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงจนตอนนี้เหลือมนุษย์ฉลามเพียงแค่ตัวเดียวที่อยู่ด้านหน้าประภาคาร บางทีอาจเพราะมันเป็นหัวหน้า มันจึงตัวใหญ่กว่ามนุษย์ฉลามตัวอื่นและมีสีดำ
“เนตรแห่งแมว”
หลังตรวจสอบข้อมูล เลเวลของมันคือ 58 อาร์คที่ตอนนี้เลเวล 50 และหากพิจารณาจากโบนัสความมืดแล้ว มอนสเตอร์ตัวนี้ยังมีระดับเลเวลต่างกับเขาอย่างน้อยก็ 10 ระดับ แต่อาร์คยังมีโบนัสจากฉายาและภารกิจทำให้ค่าสถานะของเขาสูงกว่าเลเวลที่เป็น หากนับรวมเข้าไปด้วย ส่วนต่างของเลเวลระหว่างเขากับมันก็มีเพียงแค่ 6 เลเวลเท่านั้น
รอยยิ้มประดับอยู่ที่ริมฝีปากของอาร์ค
‘ดีนะที่เลเวลของเราเพิ่มขึ้นมาเยอะ’
“เจ้าค้างคาว เจ้ากะโหลก รออยู่ตรงนี้”
อาร์คปล่อยให้สมุนปีศาจคอยเฝ้าระวังและเดินมุ่งไปยังประภาคารเพียงลำพัง
เมื่อมนุษย์เดินเข้ามาใกล้ มนุษย์ฉลามพลันพ่นลมออกมาและวิ่งพุ่งเข้าใส่
อาร์คหมุนร่างเหวี่ยงลูกเตะเข้าใส่กรามของมนุษย์ฉลามจนตัวโยนกลับ เมื่อเริ่มด้วยการหวดเข้าที่ปากของมัน การต่อสู้จึงเริ่มขึ้น
ในนิวเวิร์ลด์ เลเวลนั้นคือค่าอันเป็นสมดุล กล่าวก็คือ มันไม่ใช่ค่าที่เที่ยงแท้ไปทั้งหมด
ในการต่อสู้ มันยังมีสิ่งอื่นที่เที่ยงแท้ยิ่งกว่า
สภาพโดยรอบ การตัดสินใจ การสวนกลับโจมตี และยังมีอีกหลายสิ่งที่สามารถใช้งานได้
การต่อสู้จะยิ่งมีความหมายเมื่อผู้แข็งแกร่งบางครั้งกลับพ่ายแพ้ต่อผู้ที่ไม่น่าจะมีโอกาสชนะ นิวเวิร์ลด์เองก็เป็นเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าเลเวลและค่าสถานะยังคงมีความสำคัญ แต่ทว่า เลเวลมากกว่านั้นมันหมายความว่ามีโอกาสได้รับชัยชนะ 99% แต่ไม่ใช่ 100%
อาร์คได้เรียนรู้เรื่องนี้จากบอสมอนสเตอร์ที่เขาสู้มาด้วยจนกระทั่งถึงตอนนี้ ดังนั้นแล้วเขาจึงใช้เคล็ดวิชาทั้งหมดที่มีร่วมกับสมุนปีศาจ เพื่อเข้ามีชัยเหนือมนุษย์ฉลามได้โดยง่าย
เขากระทั่งว่าไม่คิดใช้อาหารเพื่อเพิ่มค่าสถานะด้วยซ้ำ
อีกทั้งยังไม่ใช้เนตรแห่งแมว ลำพังเพียงแค่คมดาบแห่งความมืด เพียงแค่เขาใช้สัมผัสที่มีจากการต่อสู้จริงก็เพียงพอให้ใช้ต่อสู้กับมนุษย์ฉลามแล้ว
ลูกเตะเป็นชุดโรมรันเข้าใส่พร้อมการโจมตีด้วยดาบ!
เขาไม่จำเป็นต้องหยิบยืมพลังของทักษะก็สามารถเข้าโจมตีจุดอ่อนพึงประเมินได้ ขณะที่ทั้งเทควันโดและดาบเสริมประสานเข้าด้วยกัน เขาสามารถโจมตีแบบคริติคอลได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อพลังชีวิตของอาร์คลดลงถึง 30% ในที่สุดมนุษย์ฉลามก็ล้มคุกเข่าและตายลง
“เจ้านายยอดเยี่ยม! ครั้งนี้ท่านยอดเยี่ยมจริง ๆ!”
กรั่ก! กรั่ก! กรั่ก!
ทั้งเจ้าค้างคาวและกะโหลกต่างกล่าวชมเขาเป็นการใหญ่
อาร์คเพียงแค่ยกยิ้ม
เมื่อสภาวะความตื่นเต้นจางหาย หัวใจก็เริ่มกลับมาเต้นเป็นปกติ โดยไม่พูดกล่าว เขาในตอนนี้รู้สึกได้ว่าตนนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ขณะที่มนุษย์ฉลามหายไป ครีบฉลามและไอเทมจำนวนหนึ่งพลันดร็อปออกมา
=====
ตรวนมนุษย์ฉลาม (วิเศษ)
ประเภท : รองเท้า
พลังป้องกัน : 10
ความทนทาน : 20/20
น้ำหนัก : 100
ข้อจำกัดการใช้งาน : มีพละกำลังอย่างน้อย 120 หน่วย
เป็นตรวนที่หัวหน้ามนุษย์ฉลามสวมใส่ เป็นเพราะมันทำมาจากหินที่หนักมาก จึงทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงหากสวมใส่
พลังป้องกันค่อนข้างต่ำ ทำให้มันหวังพึ่งใช้งานในการต่อสู้ได้ยาก ทว่า เป็นเพราะน้ำหนักของมัน ท่านจะสามารถคุมสมดุลตัวเองได้แม้จะมีพายุพัดเข้าใส่
ผลของไอเทม : ความคล่องตัว -15, ทำให้ร่างกายของผู้สวมใส่หนักขึ้น
=====
เกล็ดเงือก (พิเศษ) : (จำนวน 5 ชิ้น)
เกล็ดของเงือกที่มักอาศัยอยู่ในมหาสมุทร หากท่านคาบเอาไว้ด้วยปากจะสามารถหายใจใต้น้ำได้
=====
พวกมันดูไม่ใช่ไอเทมที่จะมีประโยชน์มากนัก
‘เอาเถอะ มันไม่ใช่กระทั่งบอสมอนสเตอร์ นี่ก็ถือว่ามากพอสมควรแล้ว’
หลังจัดการหัวหน้ามนุษย์ฉลามลงได้ อาร์คจึงเบนสายตามองไปยังประภาคาร
มันคือจุดหมายปลายทางของการเดินทางอันยาวนาน
ประภาคารนี้ดูเก่ากว่าที่เขาเคยเห็น ตอนอยู่ห่างออกไปเขาก็คิดว่ามันงดงามอยู่ แต่พอเข้ามาใกล้แล้ว ทั้งอิฐและสีต่างก็เริ่มซีดจางจนทำเอาเขารู้สึกว่ามันคล้ายบ้านผีสิง เขารู้สึกว่ามันยิ่งน่ากลัวยิ่งขึ้นเพราะเป็นเวลากลางคืน
ทว่า เมื่อเขาขึ้นไปบนยอดของประภาคาร ความรู้สึกที่มีจึงเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขามองลงจากหน้าต่างจึงได้พบกับภาพท้องทะเลยามค่ำคืนที่รายล้อม
ในความมืด ชายหาดนั้นสามารถเห็นได้อย่างกระจ่างชัด คลื่นน้ำที่สาดซัดพร้อมประกายแสงดวงดาวสาดส่อง บรรยากาศของมันดูลึกลับราวกับมีเสียงเพลงคลอมาพร้อมกันก็ไม่ปาน
‘เอาล่ะ ตอนนี้ควรทำอะไรดีล่ะ?’
ในเมื่อคันฉ่องนำทางเขามายังที่นี่ มันก็ย่อมต้องมีเบาะแสของภารกิจ ไม่ช้าอาร์คจึงพบเจอร่องขนาดเล็กอยู่ตรงกลางของประภาคาร
เมื่อเขาพบร่อง ความคิดของเขาจึงผุดออกมาว่าควรทำอะไร
อาร์คนำเอาคันฉ่องออกมาและแทรกมือจับเข้าไปยังร่องดังกล่าว
ตึก ตึก ตึก!
ขณะนั้นเอง ประภาคารคล้ายกับหายใจอย่างหนักหน่วงขณะเริ่มหมุน เขาเห็นภาพที่ฉายผ่านไปคล้ายกับมันหมุนไปตามคันฉ่อง และเมื่อคันฉ่องหันไปยังทิศทางที่มีดวงดาวเพียงหนึ่งเดียว การหมุนจึงหยุดลง
วาบ!
คันฉ่องได้ขยายแสงราวดวงดาวนับร้อยส่องข้ามผ่านทะเลยามค่ำคืนสร้างขึ้นเป็นถนนเหนือห้วงน้ำอันดำมืด
ด้วยเสียงกลองที่ดังขึ้น เป็นความหมายว่าภารกิจคืบหน้าแล้ว
=====
ภารกิจได้รับความคืบหน้า
เสียงกระซิบแห่งกระจกลึกลับ > ทางเข้าแห่งนิวเวิร์ลด์
เมื่อการเดินทางอันยาวนานจบลง ในที่สุดท่านก็ได้พบกับประภาคาร
ทว่ากลับต้องพบว่า ประภาคารนั้นไม่ใช่สถานที่หมายปลายทาง แต่มันเป็นเพียงแค่หลักบอกทิศทาง ที่แห่งนี้คือสุดขอบโลก นี่คือประตูที่จะพาไปยังอีกโลกหนึ่งสำหรับผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น การได้รับการชี้ทางจากคันฉ่องจนนำมาพบกับโลกใบใหม่ การเดินทางครั้งใหม่กำลังรอท่านอยู่
ระดับความยาก : E
ข้อจำกัดภารกิจ : มีภูมิความรู้โบราณวัตถุ
=====
* * *
‘คันฉ่องนำทาง? นี่จะบอกว่าให้ตามแสงไปอีกแล้ว?’
อาร์คมองไปยังเส้นทางที่แสงสาดส่องลงไปยังห้วงน้ำ
มันดูเหมือนกับแสงที่เชื่อมต่อไปยังห้วงลึกของมหาสมุทร
ท้ายที่สุดแล้วเขาต้องผ่านมหาสมุทรไป แต่ยังไงล่ะ? นั่นยังไม่น่าเป็นกังวล เพราะถ้ามีปัญหาย่อมต้องมีคำตอบ
‘นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมหัวหน้ามนุษย์ฉลามถึงดร็อปเกล็ดเงือกมาสินะ?’
อาร์คเก็บคันฉ่องไปและเริ่มการผจญภัยครั้งใหม่
ดังคาด เขาสามารถหายใจได้หลังคาบเอาเกล็ดเงือกเอาไว้ในปากขณะศีรษะจมน้ำ ด้วยสมุนปีศาจแต่ละตัวที่คาบเอาเกล็ดเงือกไว้ อาร์คพลันดำดิ่งลงไป
กระทั่งว่าอยู่ในน้ำพวกเขายังสามารถเคลื่อนไหวและหายใจได้อย่างอิสระ
บางทีนี่คงเป็นประสบการณ์ที่มีเพียงแค่ความฝันที่จะทำให้เป็นจริงได้
แต่นี่คือเกม แต่ความรู้สึกนี้ก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี
ภายใต้ท้องทะเลนั้นงดงามยิ่ง
มันมีป่าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยสาหร่ายทะเลและปะการังปกคลุมภายใต้น้ำทะเลสีฟ้าครามโปร่งใส สีสันของปลาแต่ละตัวล้วนแตกต่าง ภาพความมหัศจรรย์เหล่านี้เขาเพียงเห็นแค่ในสารคดี แต่ครั้งนี้กลับได้เห็นด้วยตาตนเอง
แต่ทว่า ส่วนลึกของมหาสมุทรนั้นหาได้ใช่สถานที่ที่มีเพียงแต่ความงดงาม ฝูงปลาจำนวนหนึ่งเริ่มกระจายตัวขณะมีบางสิ่งใหญ่โตเข้าโจมตีอาร์ค
‘ปลาหมึก!’
ปีศาจแห่งท้องทะเล มันย่อมต้องเป็นมอนสเตอร์ปลาหมึกนามว่าปลาปีศาจ
ขณะที่มันเหวี่ยงขาทั้งแปด ปลาปีศาจพลันบุกเข้าโจมตี
อาร์ครีบเคลื่อนร่างหลบอย่างรวดเร็ว แต่มันก็มีบางสิ่งที่เขาไม่คาดคิด
หลักฟิสิกส์ย่อมเป็นจริงในนิวเวิร์ลด์ด้วย! ในเมื่อเขาอยู่ใต้น้ำ เขาจึงไม่อาจเคลื่อนไหวได้รวดเร็วดังที่ต้องการ ลำพังแค่การรักษาสมดุลเอาไว้ยังยาก
ขณะที่อาร์คโดนรัด แสงสีแดงพลันวาบผ่านเข้าสู่ดวงตา
=====
ท่านได้รับความเสียหายคริติคอลจากปลาปีศาจ ความเสียหายทั้งสิ้น 180 หน่วย
=====
ในเมื่อความเสียหายคริติคอลเกิดขึ้นแค่ 180 หน่วย ดูเหมือนมันจะไม่แข็งแกร่งอย่างที่เห็นสักเท่าไหร่
ทว่าปัญหาหลักคืออาร์คไม่มีวิธีต่อสู้ที่ดีพอ ขณะที่เขาโดนโจมตีด้วยหนวดปลาหมึก ร่างของเขาก็เริ่มเหวี่ยงไปทั่ว ขณะที่เจ้ากะโหลกและค้างคาวทำได้เพียงแค่ดิ้นรน
‘บ้าจริง เราทำได้แค่รักษาสมดุลเหรอเนี่ย... อา ใช่แล้ว!’
“เจ้างู เอาตรวนมนุษย์ฉลามออกมา!”
ขณะที่อาร์คส่งเสียง เจ้างูพลันคายเอาตรวนออกมา
นับได้ว่าโชคดีที่เขาฝากมันเอาไว้กับเจ้างู เป็นเพราะมันหนักนั่นแหละนะ
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น อาวุธ โล่ โพชั่น และไอเทมอื่นจะไม่สะดวกนำออกจากกระเป๋า แต่ข้อจำกัดนี้ไม่มีผลกับเจ้างู
แต่มันก็ไม่อาจช่วยเรื่องสภาพไร้การป้องกันขณะเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ เขาต้องรับความเสียหายสองเท่าขณะที่สวมใส่ตรวน จากนั้น ขณะที่เขารู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายเริ่มจมลง ต้องขอบคุณเจ้าสิ่งนี้ถึงทำให้เขาสามารถคุมสมดุลร่างกายได้
ไอเทมที่ดร็อปจากมนุษย์ฉลามนั้นมีประโยชน์อย่างแท้จริงเมื่อต้องเดินทางใต้ทะเล แต่ลำพังแค่สิ่งนี้มันไม่อาจแก้ปัญหาทุกอย่างได้
‘ร่างหนักมาก!’
ไม่ใช่เพียงแค่น้ำหนักของตรวน อาร์คที่อยู่ใต้น้ำ การหายใจยังเป็นไปได้เพราะเกล็ดเงือก แต่การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงเพราะแรงต้านของน้ำจนยากหลบหลีก ดาบของเขาที่เคยเหวี่ยงได้ราวกับสายลมกลับช้าราวกับภาพช้าที่ถ่ายวิดีโอออกมา
ไม่เพียงเท่านั้น
=====
การโจมตีของท่านล้มเหลวเพราะปลาปีศาจยืดหยุ่น
=====
มันเด้ง!
ดาบขอบอาร์คเด้งออกราวโดนยางเพราะความยืดหยุ่นของปลาปีศาจ
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? เนตรแห่งแมว!”
เมื่ออาร์คร่ายทักษะออกมา จุดสีแดงจึงเริ่มปรากฏบนร่างของปลาปีศาจ
หากเป็นมอนสเตอร์ตัวอื่นนั้นสมควรมีถึงหลายสิบแห่ง แต่เจ้าปลาปีศาจนี่กลับมีเพียงแค่สามหรือสี่แห่ง อีกทั้งมันยังเป็นตำแหน่งที่จะเผยขึ้นก็ต่อเมื่อปลาปีศาจทำการโจมตีอีกต่างหาก
‘นี่เราต้องรอให้มันขยับกล้ามเนื้อเข้าโจมตีเราก่อนถึงจะสวนกลับได้เหรอ?’
ปลาปีศาจมีเลเวล 40 ซึ่งน้อยกว่าอาร์คเสียอีก แต่เป็นเพราะกายภาพที่พิเศษของมันรวมกับสภาพแวดล้อมใต้น้ำจึงทำให้รู้สึกยากกว่านับร้อยเท่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแทงเข้าใส่จุดอ่อนของมันอย่างแม่นยำเพราะความคล่องตัวที่ลดน้อยลงในน้ำแบบนี้
‘เรายังสามารถใช้ความเสียหายไม่สนพลังป้องกันของคมดาบแห่งความมืดได้ แต่ว่า...’
เขาไม่เหลือพลังมานามากนักเพราะมัวเสียเวลานับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น
‘ก็มีแค่ทางเดียวสินะ’