เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 181-1 สุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาล
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 181-1 สุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาล
"คุณหนูไท่ ความหมายของท่านคือ?" ฟางเจิ้งยังไม่เข้าใจ
ไท่รั่วหนานชี้นิ้วไปที่ผนัง "ลองมองฟางหยวน เจ้าไม่คิดหรือว่าเขาเยือกเย็นเกินไปเมื่อพบว่าตนเองมีพรสวรรค์นภาที่สาม ขณะที่น้องชายมีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง หากเป็นคนทั่วไป พวกเขาย่อมต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองบางอย่าง แต่เขาไม่มีแม้แต้ร่องรอยของอารมณ์ความรู้สึก มันไม่สามารถสั่นคลอนจิตใจของเขาได้เลย เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกเกินไปงั้นหรือที่เขาสามาถรถสงบนิ่งได้ตลอดกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ"
คำพูดของไท่รั่วหนานทำให้ทุกคนต้องจ้องมองไปยังผนังห้องที่ฉายภาพฟางหยวนซ้ำไปซ้ำมา
ฟางหยวนยืนเพียงลำพังท่ามกลางเงามืด ตรงข้ามกับฟางเจิ้งที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางแสงสว่างจากวิญญาณแห่งความหวัง
เป็นจังหวะนี้ที่ชีวิตของคู่พี่น้องฝาแฝดกลับตาลปัตร แฝดผู้พี่ที่ถูกเรียกเป็นอัจฉริยะร่วงหล่นลงราวกับวิหคเพลิงดับแสง ขณะที่แฝดผู้น้องพุ่งทยานสูงขึ้นไปไม่ต่างจากมังกรผงาดฟ้า
"เด็กหนุ่มอายุสิบห้าที่ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน แต่เขากลับไม่มีร่องรอยของความรู้สึกผิดหวัง งุนงง หรือโกรธเคือง ตรงข้ามเขายังสามารถยืนอยู่อย่างสงบนิ่งท่ามกลางผู้คนและเฝ้ามองเหตุการณ์ต่อไปอย่างเงียบๆ" ไท่รั่วหนานกล่าวออกมาในเวลาที่เหมาะสม
ถูกต้อง!
ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ
ขณะที่เงามืดกลืนกินร่างกายของเขาเข้าไปครึ่งหนึ่ง แต่ใบหน้าของเขากลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นผิวของเด็กหนุ่มที่ขาวซีดอยู่แล้ว
อวี๋โป้มองภาพเหตุการณ์บนผนังอย่างเคร่งขรึม
ฟางเจิ้งรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงแกนกระดูก
'พี่ใหญ่ ท่านเป็นผู้ใดกันแน่?'
"แม้เขาจะคาดเดาผลลัพธ์ของมันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เขาก็ควรมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์บางอย่าง เขาย่อมไม่สามารถสงบได้ดังเดิม ก่อนหน้านี้ข้าใช้วิญญาณกระบองเพชรชี้ทาง มันบอกให้ข้าคิดถึงคำว่า พรสวรรค์ แรกเริ่มข้าคิดว่ามันเกี่ยวกับซื่อเฉิน แต่ดูเหมือนตอนนี้มันอาจจะไม่ได้อ้างอิงถึงซื่อเฉิน แต่เป็นฟางหยวน" ไท่รั่วหนานกล่าว
"คุณหนูไท่ ท่านกำลังกล่าวสิ่งใด? ข้าไม่เข้าใจ" ฟางเจิ้งยิ่งสับสนเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ไท่รั่วหนานชูนิ้วชี้ขึ้น "มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่ทำให้ฟางหยวนสามารถสงบอยู่ได้ นั่นก็คือ เขามีไพ่ตายที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่ต้องอิจฉาผู้ใดเพราะมันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกคน ตัวอย่างเช่น หากคนผู้หนึ่งได้รับหินวิญญาณสิบก้อนอย่างโดยบังเอิญ แต่อีกผู้หนึ่งมีหินวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนซุกซ่อนเอาไว้ แล้วเขาจะต้องอิจฉาคนที่ได้รับหินวิญญาณเพียงสิบก้อนเพื่อสิ่งใด แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถสงบนิ่ง เช่นเดียวกับฟางหยวน"
"เจ้าหมายความว่าฟางหยวนโกงและปิดบังพรสวรรค์ที่แท้จริงของเขาเอาไว้เช่นนั้นหรือ?" อวี๋โป้เข้าใจความหมายของไท่รั่วหนาน "แต่หากเขามีพรสวรรค์นภาที่หนึ่งหรือสอง แล้วเหตุใดเขาจึงไม่เปิดเผยมันออกมาทันที?"
"ฟางหยวนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก" ไท่รั่วหนานกัดริมฝีปากก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ "ไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าได้อ่านบทกวีที่เขาแต่ง ด้วยวิสัยทัศน์และแรงบันดาลใจ กระทั่งท่านพ่อของข้ายังต้องชื่นชม เขาเป็นอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมชาติที่เขาจะมีแผนการอยู่ในหัวตลอดเวลา"
อวี๋โป้ส่ายศีรษะ "เพียงเรื่องนี้ มันยังไม่สามารถยืนยันทุกสิ่ง การปิดบังและการเปิดเผยพรสวรรค์เป็นสองสิ่งที่จะได้รับการดูแลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ฟางหยวนจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่หลังจากหนึ่งปีในสถานศึกษา เขาก็ควรตระหนักถึงมันได้อย่างชัดเจน"
"แน่นอนว่าเขารู้ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องปิดบัง" ไท่รั่วหนานยังไม่ยอมแพ้
"ความหมายของเจ้าคือ?" อวี๋โป้ยังคิดไม่ออก
"ท่านผู้นำตระกูลแสงจันทร์" ไท่รั่วหนานมองอวี๋โป้อย่างจริงจัง "ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับบุตรทั้งสิบคนของมนุษย์คนแรกหรือไม่?"
ได้ยินคำถามนี้ อวี๋โป้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของไท่รั่วหนานได้ในทันที
แต่นั่นกลับทำให้อวี๋โป้ยิ่งตกตะลึง!
รูม่านตาของเขาหดเล็กลด ขณะที่ปากกลายเป็นอ้าค้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางเจิ้งได้เห็นการแสดงออกเช่นนี้ของอวี๋โป้
เด็กทั้งสิบของมนุษย์คนแรก บุตรชายคนโต หยางเม้ง บุตรสาวคนที่สอง อวี๋หยินฮวง (แสงจันทร์บรรพกาล) .... บุตรธิดาทั้งสิบของมนุษย์คนแรกล้วนมีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์พิภพ พวกเขาเป็นที่มาของสุดยอดกายาทั้งสิบ!
"บุตรธิดาทั้งสิบของมนุษย์คนแรกตายไปทีละคนทีละคน ในช่วงเวลาที่มนุษย์คนแรกกำลังจะตายด้วยความชรา เขารวบรวมซากศพของบุตรธิดาทั้งสิบไว้ในท้องของวิญญาณต้นกำเนิด จากนั้นท้องของมันจึงเกิดการระเบิดแตกและส่งชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายไปยังดินแดนต่างๆบนโลกใบนี้จนเกิดเป็นต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาในที่สุด มนุษย์ไม่มีความสามารถเหมือนมนุษย์คนแรกหรือบุตรธิดาของเขา แต่พวกเขาสามารถบ่มเพาะหลังจากปลุกทะเลวิญญาณ ตั้งแต่นั้นมนุษย์ก็เติบโตและพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้"
"แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพียงตำนาน แต่ตามตำนาน พวกเราทุกคนล้วนสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์คนแรกและบุตรธิดาของเขา" ไท่รั่วหนานกล่าวต่อ "สิ่งที่แตกต่างก็คือพรสวรรค์ที่ได้รับสืบทอด บางคนมีพรสวรรค์สูงส่ง บางคนมีเพียงเล็กน้อย และมีบางคนที่ครอบครองพรสวรรค์อันเป็นที่สุด สุดยอดกายาทั้งสิบ!"
"สุดยอดกายาทั้งสิบ? มันคือสิ่งใด?" ฟางเจิ้งถาม
"อย่าบอกข้าว่าฟางหยวนมีหนึ่งในสุดยอดกายทั้งสิบ!" อวี๋โป้ตะลึง
"มีเพียงสุดยอดกายาทั้งสิบที่จะทำให้ฟางหยวนสามารถรักษาความเยือกเย็นและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรของตระกูล มีเพียงสุดยอดกายาทั้งสิบที่เหนือกว่าพรสวรรค์นภาที่หนึ่งและทำให้ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องอิจฉาผู้ใด มีเพียงสุดยอดกายาทั้งสิบที่ทำให้ฟางหยวนไม่สามารถเปิดเผยความจริง เพราะเขาเกรงว่าจะถูกสังหารก่อนเวลาอันควร ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปิดบัง" ไท่รั่วหนานกล่าวทั้งหมดออกมาในครั้งเดียวอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ไท่เซี่ยเล้งยังไม่สามารถคิดถึงเรื่องการกำเนิดใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงไท่รั่วหนาน ดังนั้นภายใต้เหตุบังเอิญทั้งหมด มันจึงทำให้เธอคาดเดาบทสรุปที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิงในทำนองนี้
แน่นอนว่ามันทำให้ทุกคนตะลึง
การวิเคราะห์ของไท่รั่วหนานอยู่ภายใต้หลักฐานที่เห็นได้ชัด นี่ทำให้ทุกคนเชื่อคำพูดของเธอ เพราะหากไม่ใช่เหตุผลนี้ แล้วมันจะเป็นสิ่งใดเมื่อมันดูเหมือนไม่มีความน่าจะเป็นอื่นอยู่อีก
"ถูกต้อง ถูกต้อง สุดยอดกายาทั้งสิบ มันต้องเป็นสุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาล!"
หัวใจของอวี๋โป้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาถึงกับสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น
บางคนอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เขาเป็นผู้นำตระกูลที่ครอบครองบันทึกประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของตระกูลแสงจันทร์ ในความเป็นจริง ผู้นำรุ่นแรกไม่ได้ใช้แซ่อวี๋ที่มีความหมายว่าแสงจันทร์
แต่เพราะเหตุใดเขาจึงเปลี่ยนเป็นแซ่อวี๋และก่อตั้งตระกูลแสงจันทร์ขึ้นมา?
ก่อนที่ผู้นำรุ่นแรกจะเสียชีวิต เขาเคยกล่าวไว้ว่า "สายเลือดจะถูกส่งต่อ สุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาลจะถือกำเนิดขึ้นในตระกูลและสร้างความปั่นป่วนขึ้นบนโลกใบนี้"
ผู้นำรุ่นแรกทิ้งข้อความนี้เอาไว้เพราะเขาทำนายไว้ว่าทายาทตระกูลแสงจันทร์ของเขาจะให้กำเนิดสุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาลขึ้นในอนาคตอีกหลายร้อยปีหลังจากนั้นและคนผู้นี้จะทำให้ตระกูลเข้าสู่ยุคทอง นอกจากนั้นเขายังทิ้งคำสั่งเสียไว้ด้วยว่าเมื่อใดที่สุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาลถือกำเนิด ให้นำตัวทายาทผู้นี้ไปยังสุสานของเขา
ในฐานะผู้นำตระกูล อวี๋โป้รู้ถึงจุดอ่อนของสุดยอดกายาทั้งสิบเป็นอย่างดี แต่เขาก็ได้ศึกษาเรื่องนี้มาแล้วอย่างลึกซึ้งและพบว่าบรรพชนรุ่นแรกดูเหมือนจะรู้วิธีแก้ปัญหาซึ่งวิธีนี้อยู่ในสุสานของเขา นี่จึงเป็นที่มาของคำสั่งให้นำตัวทายาทผู้นี้ไปยังสุสานของเขานั่นเอง
'เมื่อคิดถึงอัจฉริยภาพทั้งหมดของฟางหยวน เขาจะต้องครอบครองสุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาลอย่างไม่ต้องสงสัย!' อวี๋โป้กรีดร้องอยู่ภายในใจ
"นี่เป็นไปไม่ได้ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน แล้วพี่ใหญ่จะปิดบังความจริงได้อย่างไร?" ฟางเจิ้งส่ายศีรษะและไม่ยอมรับทฤษฎีนี้
ไท่รั่วหนานมองฟางเจิ้งด้วยความสงสาร "แม้แต่ซื่อเฉินยังสามารถโกง แล้วเหตุใดฟางหยวนที่ครอบครองหนึ่งในสุดยอดกายาทั้งสิบจะไม่สามารถ สุดยอดกายาทั้งสิบมีความน่าจะเป็นที่ไม่สิ้นสุด ไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถเป็นไปได้ บางทีพรสวรรค์ของเขาอาจจะตื้นขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้านั้น และบางทีมันอาจจะสามารถหลอกลวงวิญญาณสุภาพบุรุษหน้าหยก ในความเป็นจริงเจียจินเฉิงอาจถูกสังหารโดยฟางหยวนเพราะเขาบังเอิญค้นพบความลับเรื่องนี้"
"คุณหนูไท่ โปรดระวังคำพูดด้วย!" อวี๋โป้กล่าวเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ "เจ้าไม่ควรกล่าวออกมาอย่างเลื่อนลอย เจียจินเฉิงจะถูกสังหารโดยฟางหยวนหรือไม่ ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน นอกจากนั้นเมื่อฟางหยวนเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลแสงจันทร์ แม้เขาจะทำจริง พวกเราก็จะอธิบายกับครอบครัวตระกูลเจียด้วยตัวพวกเราเอง เจ้ามาที่นี่เพียงเพื่อไขคดีเท่านั้น"
ทัศนคติของอวี๋โปพลิกกลับร้อยแปดสิบองศา