ตอนที่ 125 หุบเขาหมอก
หลิน ฮวงนอนตั้งแต่ตี 4 จนถึง 11โมงเช้า เขาพยายามจะพักผ่อนให้มากที่สุดหลังจากที่เดินทางมายาวนาน เมื่อเขาลุกออกจากเต็นท์ เขายังคงได้ยินเสียงกรนของเจ้าอ้วนในเต็นท์ หลิน ฮวงจึงเขย่าเต็นท์ของเจ้าอ้วน "เจ้าอ้วน ตื่นได้แล้ว ถ้ายังไม่ไปตอนนี้ พวกเราจะเสียเวลาไปอีกวันหนึ่ง" เจ้าอ้วนยังคงกรนต่อไป
"เจ้าอ้วน ตื่นเดี๋ยวนี้ มอนสเตอร์กำลังโจมตีถ้ำ! เร็วเข้า!" หลิน ฮวงเขย่าเต็นท์อย่างแรง
เจ้าอ้วนลุกขึ้นและเดินไปแต่งตัวทันที และออกมาจากเต็นท์ เขาถามหลิน ฮวงด้วยความตกใจว่า "ทางเข้าถ้ำถูกปิด เราจะหนีกันยังไงดี?"
"หนีอะไร? ไม่มีมอนสเตอร์อะไรทั้งนั้นแหละ ฉันแค่ต้องการปลุกนาย" หลิน ฮวงกล่าวอย่างลวกๆ
"นายนี่มัน!" เจ้าอ้วนถอดเสื้อผ้าของเขาออกและเก็บมันไว้อย่างดี เขาบ้าไปแล้ว
"นายไม่ใส่เสื้อผ้าตอนนายนอนในเขตป่าแบบนี้นะหรอ?"
"ฉันนอนไม่หลับ ถ้าฉันใส่เสื้อผ้าเยอะๆ "
หลินหวงไม่ได้พูดอะไร เขาเก็บเต็นท์ของเขาและทำความสะอาด
เต็นท์แบบพกพาสามารถหดให้เหลือขนาดเท่าเม็ดถั่วได้ มีปุ่มเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางและเมื่อกดมันก็จะขยายเป็นเต็นท์ที่มีถุงนอนหมอนและที่ปิดตา ทันทีที่เต็นท์ขยายไปเป็นขนาดปกติ มีแค่คนเดียวที่สามารถสแกนเข้าไปข้างในได้ เช่นเดียวกับตอนจะเก็บเต็นท์ ตราบเท่าที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในเต็นท์ เต็นจะไม่สามารถหดได้
ด้วยเหตุนี้ เต็นท์แบบพกพาบางแบบจึงมีราคาแพงกว่าแบบอื่น เนื่องจากมีคุณสมบัติการทำความสะอาดอัตโนมัติ ตราบใดที่เต็นท์ถูกเปิดใช้งาน มันจะฆ่าแมลงทั้งหมดในเต็นท์โดยอัตโนมัติ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้น เต็นท์ที่หลิน ฮวงซื้อเป็นเต็นท์ระดับสูง ราคาของมันเทียบได้กับอุปกรณ์ระดับทองแดงบางชิ้น
หลังจากที่เขาเก็บเต็นท์ เจ้าอ้วนก็มาหาเขาพร้อมกับถุงของว่างและนม
"มันไม่ปลอดภัยที่จะทำอาหารในเขตป่าระดับ 4 เราต้องกินอาหารว่างแทน"
หลิน ฮวงพยักหน้าและรับของว่างจากเจ้าอ้วน เขาเอาของว่างที่เขาสั่งจากเครือข่ายก่อนที่จะเดินทางมาด้วย แต่เขามั่นใจว่ามันจะไม่อร่อยเท่าของที่เจ้าอ้วนเตรียมมาแน่
เขาถุงของว่าง ข้างในมีเนื้อแห้ง และผักแห้ง หลิน ฮวงแปลกใจ "ฉันไม่เคยรู้ว่าการกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนายด้วย"
"ฉันเป็นคนทำเนื้อแห้งเอง และพ่อของฉันเป็นคนจัดเตรียมผักแห้งนั่น เขายืนกรานให้ฉันเอามันมาด้วย ถ้านายชอบ นายสามารถเอาของฉันไปกินด้วยได้เลย"
"ฉันไม่เคยเห็นนายกินผักในระหว่างการประเมิน" หลิน ฮวงคิดว่าเจ้าอ้วนเป็นพวกกินแต่เนื้อ
"มีชายคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า" ผู้ชายที่ไม่ชอบเนื้อสัตว์ไม่ใช่ผู้ชายที่แท้จริง " เจ้าอ้วนหาข้ออ้างในการปกป้องตัวเขาเอง สำหรับการไม่กินผักใดๆ
เจ้าอ้วนไม่ได้โกหกขึ้นมาเอง หลิน ฮวงเคยเห็นคำพูดนี้ในเครือข่ายมาก่อน และคิดว่ามันไร้สาระ มันถูกพูดโดยผู้หลุดพ้นในอดีตเพื่อเยาะเย้ยผู้หลุดพ้นคนอื่นที่เขาดูถูก จากนั้นเขาก็กลายเป็นกึ่งเทพและตำพูดนั้นก็กลายเป็นคำพูดที่ติดปากไปทั่ว
"การชื่นชอบเนื้อสัตว์และการไม่ทานผักมันคนล่ะเรื่องกัน ในกรณีของนาย เขาเรียกเลือกมาก " หลิน ฮวงตำหนิเขา เขาลองชิมผักแห้ง มันก็รสชาติดี
หลิน ฮวงกินอาหารเช้าเสร็จและเจ้าอ้วนทำความสะอาดตัวเขาเองเสร็จพอดี
"นี่มันนมอะไรกัน?มันอร่อยมาก” หลิน ฮวงถามหลังจากที่ดื่มนม
"นี่คือนมของวัวห้าดอกในภูเขาหิมะ มันมีรสชาติที่มหัศจรรย์มาก ฉันได้มาจากพ่อและฉันเอามา 10 ขวด ถ้าฉันไม่คิดว่านายเป็นน้องของฉัน ฉันจะไม่แบ่งของดีแบบนี้ให้นายหรอก "
หลิน ฮวงเคยได้ยินเกี่ยวกับวัวห้าดอกในเทือกเขาหิมะ พวกมันเป็นหนึ่งในวัวที่ดีที่สุดในเขต7 แม้ว่ามันจะเป็นมอนสเตอร์ระดับเหล็ก แต่คุณภาพของนมก็สูงถึงขนาดที่เทียบได้กับราคาของสมบัติโบราณ มันมีนมน้อยมาก ในหึ่งวันมันสามารถผลิตนมได้เพียง3ลิตรเท่านั้นและแต่ละลิตรสามารถขายได้ราคาเท่ากับอุปกรณ์ระดับทองแดง
นมที่หลิน ฮวงพึ่งจะดื่มไปเมื่อตะกี้ ราคาเกือบจะเท่ากับอุปกรณ์ระดับเหล็กสองชิ้น ตอนแรกเขาคิดที่จะซื้อนมเป็นเครื่องดับกระหายในช่วงฤดูร้อน นั่นคือเหตุผลที่เขาถามเจ้าอ้วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาบอกว่ามันเป็นนมของวัวห้าดอก เขาก็เปลี่ยนความคิดทันที
"ฉันควรจะรู้ว่ามีแต่คนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้ ... "
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ หลิน ฮวงเรียกปีศาจเถาวัลย์ แดนดิไลอันกลับและทั้งคู่ก็ออกจากถ้ำ จากนั้นเขาก็เรียกไป่ออกมาอีกครั้ง
"นายมีมอนสเตอร์ที่เรียกใช้ได้กี่ตัว?" ไขมันถาม
"สามถึงสี่ตัว " หลิน ฮวงตอบในขณะที่เขานึกได้ว่าเจ้าอ้วนเคยเห็นเขาเรียกมอนสเตอร์แค่สี่ตัวเท่านั้น
"แวมไพร์น่าจะทรงพลังที่สุดในหมู่พวกมัน ใช่ไหม?”เจ้าอ้วนนึกถึงฉากที่ไป่ได้ฆ่าคนไปก่อนหน้า
"อืม."
"ฉันละอิจฉาผู้ควบคุมเสียจริง นายไม่จำเป็นต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง มอนสเตอร์ที่ทรงพลังและสัตว์บินสุดเจ๋ง ... " เจ้าอ้วนอิจฉาพรสวรรค์ของหลิน ฮวงในฐานะผู้ควบคุม
"ทุกๆคนล้วนมีพรสวรรค์ในแบบของตน ดังนั้นเป้าหมายในการพัฒนาจึงแตกต่างกัน มันเป็นเรื่องดีมากที่นายอยากจะเป็นนักล่าอาหาร นายอาจเป็นเจ้าของร้านอาหารของนาย นักล่าจำนวนมากจะรับประทานอาหารที่ร้านของนายและคริสตัลชีวิตก็จะเป็นของนาย นั่นแหล่ะ มันดีกว่าพวกเราที่ต้องออกมาต่อสู้และใช้แรง งานของนายมันสะดวกสบายและปลอดภัยมากกว่า”. หลิน ฮวงคิดว่าความฝันของเจ้าอ้วนก็น่าอิจฉาเช่นกัน
"ถูกแล้ว ฉันชอบชีวิตที่มั่นคง ฉันคงเหนื่อยถ้าต้องต่อสู้ทุกวัน" เจ้าอ้วนคิด สิ่งที่หลิน ฮวงพูดทำให้เขารู้สึกดีและเขาควรจะพอใจกับพรสวรรค์ที่เขามี
พวกเขาออกจากถ้ำที่ไป่ขุดและผจญภัยในหุบเขาหมอก หากไม่มีหมอก แล้วมองจากด้านบน โครงสร้างของหุบเขาเหมือนกับเขาวงกต มีมอนสเตอร์สายพันธ์ต่าง ๆและทรงพลังอยู่ทั่วทุกที่ พวกเขาใกล้จะถึงตรงกลางของเขาวงกต มอนสเตอร์ที่มีมีระดับสูงสุดจะอยู่ที่นั่น
หุ่นเชิดเดนนรกที่หลิน ฮวงและเจ้าอ้วนกำลังตามหาอยู่ในเขตของเขาวงกต แต่พวกเขาไม่มีพิกัดที่แน่นอน รู้แค่พิกัดคร่าวๆเท่านั้น พื้นที่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหลายปีมาแล้ว ทำให้ยากสำหรับคนที่จะระบุทิศทางที่ต้องการไป ไม่มีการเชื่อมต่อหรือสัญญาณในอุปกรณ์สื่อสาร พวกเขาไม่สามารถหาอะไรในเขาวงกตนี้ได้ รวมทั้งตัวเองด้วย
ไป่เป็นผู้นำทาง ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีทางหลง การเดินทางของพวกเขาราบรื่น เพราะไป่จะฆ่ามอนสเตอร์ที่เจออย่างรวดเร็ว
"เลี้ยวซ้ายที่ทางแยกที่ 12 ... มันน่าจะเป็นตรงนั้นแหละ" ทั้งสองคนเดินมานานกว่าสามชั่วโมง หลิน ฮวงไม่ได้พูดอะไรมากตอนที่พวกเขาเดินทาง และยอมให้เจ้าอ้วนนำ อย่างไรก็ตามเขาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้เจ้าอ้วนเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับทองแดง มันจะแปลกถ้าหลิน ฮวงรู้ทางดีกว่าที่เจ้าอ้วนรู้
แม้ว่าเจ้าอ้วนจะสังเกตเห็นพลังที่ผิดปกติของไป่ แต่เขาก็คิดว่าหลิน ฮวงมีวิธีพิเศษในการฝึกฝนมอนสเตอร์ของเขา แต่ที่เขาไม่รู้คือหลิน ฮวงนั้นทรงพลังมากกว่านั้น
"ถ้าสิ่งที่ฉันอ่านมาถูกต้อง ควรจะมีรังของหุ่นเชิดเดนนรก ไม่ไกลหลังจากเลี้ยวซ้ายตรงนี้." เจ้าอ้วนลดเสียงของเขาลงขณะที่เขาพูดกับหลิน ฮวงว่า "เงียบ ๆ มอนสเตอร์เหล่านี้อาศัยอยู่กันเป็นกลุ่ม พวกเราต้องทำอะไรเพื่อล่อให้พวกมันออกมาหนึ่งหรือสองตัว”
พวกเขาชะลอการเดินลงและเดินไปทางด้านซ้ายมือ หลังจากผ่านไป 20 นาทีพวกเขาก็มาถึง แต่ไม่เห็นมอนสเตอร์สักตัว จากนั้นพวกเขาก็เดินกลับไปยังบริเวณที่กว้างขวางและสังเกตุเห็นว่ามีร่องรอยของการต่อสู้ และดูเหมือนจะเกิดขึ้นไม่นานนัก
"รังของหุ่นเชิดเดนนรกควรจะอยู่ที่นี่ แต่มอนสเตอร์ทั้งหมดถูกฆ่าโดยคนอื่น เรามาช้าเกินไป" หลิน ฮวงสรุป
"เนื่องจากไม่มีที่นี่ เราก็ไปที่อื่นกันเถอะ." เจ้าอ้วนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก
สองชั่วโมงต่อมาพวกเขาพบสัญลักษณ์ใกล้กับรังที่สอง
"หินทรงกลมขนาดใหญ่สองเมตร มันควรจะเป็นอันนั้น!" เจ้าอ้วนชี้ไปที่ก้อนหินขนาดมหึมา
"ถ้าเราเลี้ยวขวาจากที่นี่และเดินต่อไปอีก 10 นาที เราจะเจอกับรังที่สองของหุ่นเชิดเดนนรก"
"ไปกันเถอะ." หลิน ฮวงพยักหน้าและให้ไป่นำทาง
10 นาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงที่พื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีมอนสเตอร์เลย เหมือนกันกับรังแรก มีร่องรอยของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
"มีคนฆ่ามอนสเตอร์ที่นี่ด้วยอย่างงั้นเหรอ?" "คนคนนั้นคือใครกัน ทำไมพวกเขาจึงมุ่งเป้าไปที่มอนสเตอร์ตัวเดียวกันกับที่เรากำลังมองหาอยู่?"
"เจ้าอ้วน นายได้บอกนักผจญภัยทั้งสามคนเกี่ยวกับมอนเสตอร์เมล็ดพันธุ์ชีวิตที่นายเลือกไว้หรือเปล่า?" หลิน ฮวงรู้สึกว่าอาจเป็นชายผิวดำตัวผอมที่เป็นคนทำ
เจ้าอ้วนรู้สึกตะขิดตะขวงและพยักหน้า "พวกเขาถามฉัน ฉันคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหากฉันบอกเขา นายกำลังบอกว่าพวกเขาเป็นคนทำหรอ?"
"เป็นไปได้มาก" หลิน ฮวงพยักหน้า
"เราประสบการโจมตีกับมอนสเตอร์อื่นๆมาตลอดทางแต่ไม่มีร่องรอยของมอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าเลย คนๆนั้นใช้เส้นทางเดียวกับเราแต่กลับไม่ได้ฆ่ามอนสเตอร์อื่นเลย นั่นแสดงให้เห็นเห็นว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่การเก็บซากมอนสเตอร์ แต่เขากลับฆ่ามอนสเตอร์เมล็ดพันธุ์ชีวิตทั้งหมดที่นายต้องการ มันดูเหมือนว่าเขาจะจงใจ"
"มันดูมีเหตุผล" เจ้าอ้วนพยักหน้ากับการวิเคราะห์ของหลิน ฮวง "แล้วเราจะทำยังไงล่ะ ถ้าเขาฆ่าหุ่นเชิดเดนนรกทั้งหมดในรัง.... "
"ฉันไม่คิดอย่างนั้น ความเร็วของเขาเร็วกว่าพวกเราเล็กน้อย จากร่องรอย ฉันคิดว่าเขาคงอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงที่แล้วข้ามรังที่สามและตรงไปรังที่สี่ เราอาจจะตามเขาทัน! "
ทั่วทั้งหุบเขามีรังของพวกมันเพียง4รัง ถ้าพวกเขาไม่ลงมือก่อนมืด เจ้าอ้วนจะไม่ได้เป็นคนเดียวที่จะต้องเลือกเมล็ดพันธ์ชีวิตใหม่ หลิน ฮวงก็ต้องหาใหม่ด้วยเช่นกัน
"เอาล่ะ ไปรังที่สี่กัน!"