TWO Chapter 206 สงครามมู่เย่ ตอนที่ 8
TWO Chapter 206 สงครามมู่เย่ ตอนที่ 8
2 วันถัดมา ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น กองทัพทั้ง 2 ก็มาถึงสนามรบที่เมืองมู่เย่แล้ว
ฝนเริ่มตกพรำๆลงมา จากท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เมฆดำทมึนจำนวนมากได้ปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ
สำหรับกองทัพราชวงศ์โจว สนามเพลาะบังคับให้พวกเขาต้องจัดวางรถศึกไว้ที่ด้านหลัง พวกมันทำได้เพียงเป็นหน่วยสำรองเท่านั้น ทหารของราชวงศ์โจวถูกจัดให้อยู่ตรงกลาง ทหารองครักษ์จักรพรรดิ 3,000 นาย ยืนอยู่ด้านหน้า และทหารเกราะ 45,000 นาย ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา
ราชาคนอื่นๆและกองกำลังของพวกเขาอยู่ทางปีกซ้าย ขณะที่กองกำลังของผู้เล่นอยู่ทางปีกขวา
การจัดทัพของราชวงศ์โจว เป็นรูปแบบการโจมตีทั่วๆไป
ก่อนการรบ กองทัพราชวงศ์โจวได้แถลงการณ์อีกครั้ง ราชาหวู่ยืนอยู่ข้างหน้าขบวนทัพ แล้วกล่าวโทษความผิดร้ายแรงของราชาโจวแห่งราชวงศ์ซาง
ในทางกลับกัน ทหารหน้าไม้ 100,000 นาย เป็นกองกำลังหลักของราชวงศ์ซาง ดังนั้น พวกเขาจึงใช้รูปแบบป้องกัน ทหารโลดาบ 20,000 สร้างแนวป้องกันอยู่ที่ด้านหน้า ขณะที่พวกเขายกโล่ของพวกเขาขึ้น เพื่อสร้างเป็นกำแพงโลหะ
ด้านหลังของพวกเขาเป็นทหารหน้าไม้ 100,000 นาย ซึ่งตั้งขบวนคล้ายกับรูปพัด การตั้งขบวนทัพเช่นนี้ จะทำให้พวกเขาสามารถยิงลูกศรออกไปได้ทุกทิศทาง เป็นการใช้ประโยชน์ทหารหน้าไม่อย่างเหมาะสม
ขบวนของทหารหน้าไม้ถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเล็กและยิง, กลุ่มที่ 2 จะเล็กและเตรียมพร้อม, ในขณะที่กลุ่มที่ 3 จะขึ้นหน้าไม้และรอ พวกเขาจะผลัดกันยิง ซึ่งมันจะกลายเป็นการยิงอย่างต่อเนื่อง
ทหารหลวง, ทหารองครักษ์จักรพรรดิและช้างศึกจะอยู่ที่ปีกซ้าย ขณะที่ทหารม้า 10,000 นาย ของผู้เล่น จะอยู่ที่ปีกขวา เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอให้ทหารม้าสามารถพุ่งออกไปได้ พวกเขาจึงยืนห่างออกไปด้านหลังจากแนวขบวนทัพเล็กน้อย
การจัดกำลังพลของกองทัพราชวงศ์ซางทำให้เจียงซางตกใจ ไม่กี่วันก่อนเขามีรางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี หลังจจากที่สายลับที่ส่งไปติดต่อเว่ยฉีไม่ได้กลับมา ตอนนี้ เมื่อมองเห็นที่ทหารที่มีอาวุธครบครันและมีระเบียบวินัยเข้มงวดในกองทัพ ทาสควรจะเอะอะเสียงดังและไม่เป็นระเบียบ ดูเหมือนรางสังหรณ์ของเขาจะเป็นจริง
แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่อาจหันหลังกลับได้อีกแล้ว ทางเลือกเดียวของพวกเขาก็คือพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเอาชนะสงครามนี้ให้ได้
เจียงซางเดินไปที่กลองศึก และเขาก็กระหน่ำตีกลองอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เขาตีกลอง ทหารในกองทัพราชวงศ์โจวก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาเริ่มเดินทัพมุ่งไปยังขบวนทัพของราชวงศ์ซาง การเคลื่อนทัพของพวกเขาเป็นดั่งสายน้ำที่เชี่ยวกราก
ทหารเดินข้ามพื้นที่หน้าเมืองมู่เย่ เหมือนดั่งน้ำทะเลที่ท่วมชายหาด ราวกับว่า พวกเขากำลังเหยียบย่ำและกลืนกินเมืองมู่เย่
ราชาหวู่นำกองทัพของเขาด้วยตัวเอง ทหารองครักษ์จักรพรรดิยืนล้อมรอบเพื่อปกป้องเขา ขณะที่เขายืนอยู่ที่หน้าขบวนทัพ
เหล่าทหารรักษาขบวนทัพภายใต้คำสั่งของราชาหวู่ พวกเขาเดินทุ่งหน้าไปหาศัตรูอย่างต่อเนื่อง หอกและแหลนชี้ขึ้นท้องฟ้า ธงสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆก็ปลิวไสวตามสายลม
“ยกโล่ขึ้น!” ขุนพลของพวกเขาออกคำสั่งโดยตะโกนออกมา ทหารองครักษ์จักรพรรดิยกโล่ขึ้นแล้วตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน พวกเขาเคาะอาวุธกับโล่ของพวกเขา “หวู่...หวู่...หวู่...” และผลักดันไปข้างหน้าในเวลาเดียวกัน
เมื่อระยะห่างระหว่างกองทัพราชวงศ์ซางและราชวงศ์โจว เหลือเพียง 300 เมตร ราชวงศ์ซางก็เริ่มเคลื่อนไหว
ภายใต้การนำของทหารที่มีประสบการณ์ ทหารหน้าไม้ 100,000 นาย ได้นั่งคุกเข่าลงหนึ่งข้าง แล้วหันหน้าไม้ของพวกเขาชี้ขึ้นฟ้า ข่าวการสังหารหมู่ทาส 600,000 คน ก่อนหน้านี้ ได้มาถึงพวกเขาแล้ว เมื่อราชวงศ์โจวได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาไร้ความเมตตา แล้วเหตุใดพวกเขาจะยังลังเลอยู่อีก
ลูกศรถูกยิงออกไป ตกลกที่กองทัพราชวงศ์โจว การระดมยิงของพวกเขาได้สังหารทหารราชวงศ์โจวได้หลายพันคน ซึ่งมันทำให้เลือดของพวกเขากระเซ็นไปทั่วอากาศ กองทัพราชวงศ์ซางสร้างความเสียหายให้กับกองทัพราชวงศ์โจวอย่างรุนแรง พวกเขาทำได้เพียงปกป้องตัวเองอย่างอดทนเท่านั้น
ขวัญและกำลังใจและความกล้าของทหารค่อยๆลดลง และมันก็ยากที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทหารองครักษ์จักรพรรดิชั้นสูง หรือกองกำลังของผู้เล่น พวกเขาต่างก็เศร้าสร้อย ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงฝนลูกศรเหล่านี้ได้
ราชาหวู่พยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะรักษาขบวนทัพเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ภายใต้การปลุกเร้าของราชาหวู่ กองทัพราชวงศ์โจวยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาเดินย่ำผ่านซากศพเพื่อนทหารของพวกเขา จนมันกลายเป็นเนื้อบด
ถ้าพวกเขาถอยหลังไป สิ่งเดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความตาย จะไม่มีใครจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถข้าม 300 เมตร ข้างหน้านี้ไปได้ พวกเขาก็จะสามารถไปสังหารทหารหน้าไม้เหล่านั้นลงได้
อย่างน้อย กองทัพราชวงศ์โจวก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น
ลูกศรที่ยิงโดนทหาร ทำให้พวกทหารบาดเจ็บและล้มตาย ถูกนำไปเติมเต็มหลุมสนามเพลาะ จนสามารถมองเห็นเลือดของพวกเขาไหลออกมาจากหลุมสนามเพลาะได้ พื้นดินถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดง ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด ขณะที่พวกเขาที่เหลือยังคงก้าวต่อไปข้างหน้า บนซากศพและเลือดของเพื่อนทหารพวกเขา พวกเขากลายเป็นกองทัพแห่งความแค้นที่จะไม่มีวันล่าถอย
ความกลัวเริ่มจางหายไป ทหารหน้าไม้เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น และการประสานงานของพวกเขาก็ดีขึ้น อัตราการยิงของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้น และลูกศรที่ถูกยิงออกไปก็แม่นยำและทะลุทะลวงมากขึ้น ลูกศรพุ่งผ่านหูและไหล่ของทหาร หรือแม้กระทั่งเจาะทะลุศีรษะของบางคนที่โชคกร้าย
ชุดเกราะที่เรียบง่ายและหยาบของราชวงศ์โจว ไม่สามารถหยุดลูกศรที่แหลมคมได้ มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ในะระการเดินสั้นๆเพียง 300 เมตร มีทหารราว 20,000-30,000 นาย ที่นอนอยู่บนกองเลือดทั่วสนามรบ
เมื่อทหารที่ยังเหลือวิ่งมาถึงด้านหน้ากองทัพราชวงศ์ซาง ขุนพลซีก็ตั้งกำแพงโล่เพื่อต้อนรับพวกเขา ทหารราบเกราะหนักของเมืองซานไห่ถูกวางไว้ด้านหน้า พวกเขาสวมชุดเกราะปูเหรินที่ทำจากเหล็กกล้า พวกมันไม่สามารถถูกทำลายได้ง่ายๆ แม้แต่หอกของราชวงศ์โจวก็ไม่สามารถเจาะทะลุชุดเกราะของพวกเขาได้
ภายใต้บัฟ ทหารโล่ดาบกลายเป็นบ้าคลั่งและทนทาน พวกเขาสามารถรับการปะทะของกองทัพราชวงศ์โจวที่ใช้เพียงอาวุธและอุปกรณ์ระดับต่ำได้อย่างง่ายดาย
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!” ทหารโล่ดาบยกโล่ที่มือขวาของพวกเขาขึ้น ปัดหอกของศัตรูที่ทิ่มแทงมายังพวกเขา แล้วใช้มืออีกข้าง เหวี่ยงดาบออกไปฟันศัตรูของพวกเขา มันได้ตัดผ่านร่างของทหารราชวงศ์โจวเป็นส่วนๆ ชิ้นส่วนแขนและขาลอยอยู่เต็มทั่วท้องฟ้า เลือดที่พุ่งออกมาเห็นเหมือนเป็นดอกไม้โลหิต ที่กำลังบานอยู่กลางอากาศ ทหารราชวงศ์โจวชั้นสูงที่หยิ่งยโส กลายเป็นไก่และสุนัขเมื่ออยู่ต่อหน้าทหารโล่ดาบ
กำแพงโล่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของกองทัพราชวงศ์โจวได้ จนพวกเขาไม่สามารถแพ้แต่จะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ซักเซ็นเดียว พวกเขาถูกบังคับให้หยุดและถอยหลัง
ทหารหน้าไม้ราวกับเป็นเครื่องจักรสังหาร พวกเขาไม่หยุดการยิงฝนลูกศรแม้แต่วินาทีเดียว การระดมยิงอย่างไม่หยุดยั้ง ได้สังหารทหารราชวงศ์โจวอย่างไม่หยุดหย่อน
ฝนลูกศรอันยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อกองทัพราชวงศ์โจวที่อยู่ตรงกลาง มันยังโจมตีปีกทั้ง 2 ข้างของพวกเขาด้วย
มีอย่างน้อย 1 ใน 3 ของกองกำลังผู้เล่น 50,000 นาย ที่ถูกสังหารไปแล้ว ลอร์ดบางส่วนที่ส่งทหารมาอยู่ในแนวหน้า ได้สูญเสียทหารทั้งหมดของพวกเขา ลอร์ดบางคนได้เข้ามาอยู่ในสนามรบ และก็พบกับความตายของตนเอง ในตอนนี้ ลอร์ดบางคนเริ่มที่จะเคลื่อนที่ช้าลง และเตรียมที่จะล่าถอย
อย่างไรก็ตาม ฝันร้ายก็ได้ปกคลุมพวกเขาอีกครั้ง
ช้างศึกพุ่งไปข้างหน้า ภายใต้การยิงคุ้มกันของทหารหน้าไม้ ทหารบนหลังช้างยิงลูกศรใส่ศัตรูที่อยู่ไกล และทหารหอกใช้หอกทิ่มแทงศัตรูที่อยู่ใกล้ และช้างศึกถูกควบคุมให้ใช้งาของพวกมันฟากฟันศัตรูและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ทหารหลวง 10,000 นาย ได้ตามหลังพวกช้างศึกไป เพื่อปกป้องพวกช้างศึกจากการซุ่มโจมตี
ช้างศึกเหล่านี้ได้ก่อให้เกิพายุที่โหมกระหน่ำ ข้ามผ่านกองกำลังของผู้เล่น
กองกำลังของผู้เล่นที่เป็นดั่งกองทรายหลวมๆ ทหารม้าจำนวนมาเคลื่อนที่ไม่พร้อมเพรียงกันและไม่ร่วมมือกัน พวกเขาสู้อย่างอสิระไร้รูปแบบ ทำให้พวกเขาสูญเสียอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะไม่ถึงด้านหน้าของกองทัพราชวงศ์ซาง และตอนนี้ ช้างศึกก็ยังออกมาสังหารทหารม้าอย่างง่ายดายอีก พวกเขาจึงกลายเป็นสับสนวุ่นวาย ไม่สามารถหาผู้บัญชาการของตัวเองได้ ส่วนผู้บัญชาการก็ไม่สามารถหาลอร์ดของพวกเขาได้ พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะเดินหน้าต่อหรือควรจะล่าถอย พวกเขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ที่ควรจะแข็งแกร่งของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง
ทหารหลวงของราชวงศ์ซางมีความมุ่งมั่นในการปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนขของพวกเขา พวกเขาแทงหอกไปที่ศัตรูและสังหารศัตรูทุกคนที่ยืนขวางทางพวกเขา ชุดเกราะสัมฤทธิ์ช่วยพวกป้องกันการโจมตีให้พวกเขาได้เป็นอย่างดี
กองกำลังของผู้เล่นในตอนนี้เริ่มอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี พวกเขาถูกทหารหลวงและทหารองครักษ์จักรพรรดิของราชวงศ์ซางกำราบ
ที่ปีกขวา จางเลี้ยวชี้หอกขึ้น แล้วสั่งให้โจมตี “โจมตี!”
เหล่าทหารม้าชูอาวุธของพวกเขาขึ้น ซึ่งมีทั้ง หอกและทวน เข้าไปสังหารกองทัพของราชาคนอื่นๆ เมื่ออยู่บนหลังม้าศึก พวกเขาเป็นดั่งภูติ ข้ามผ่านหลุมสนามเพลาะได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ได้ชะลอความเร็วลงเลย
ในยุคของรถม้าศึก ทหารม้าเหล่านี้เป็นดั่งฝันร้าย ลูกศรสร้างความเสียหายให้กับชุดเกราะหมิงกวงของทหารม้าเมืองซานไห่ได้เพียงเล็กน้อย ทหารม้าเป็นเหมือนแท่งโลหะร้อน ที่พุ่งเข้าสู่กองเนย พวกเขาสามารถฉีกกองทัพของราชาคนอื่นๆเป็น 2 ส่วน ได้อย่างง่ายดาย
ไม่มีทหารแม้แค่คนเดียวที่สามารถยืนขวางทางพวกเขาได้ ศพของพวกเขาก็ไม่ได้สมบูรณ์นัก พวกมันทั้งหมดถูกเหยียบย่ำจนกลายเป็นกองเนื้อ
นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการสังหารหมู่ และสนามรบก็ได้กลายเป็นโรงฆ่าสัตว์ ทหารม้าที่อยู่ยงคงกระพันไม่มีความเกรงกลัวใดๆ พวกเขาพุ่งเข้าไปยังทะเลของกองทัพราชาคนอื่นๆ ทำให้พวกเขาเสี่ยมถอยและไร้กำลังต่อต้าน
แม้แต่ทหารที่เคยกล้าหาญที่สุด ก็ยังสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมดของเขาไป เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนรกบนดินเช่นนี้ ทวนของทหารม้าภายใต้การเพิ่มประสิทธิภาพของแรงส่งจากการเคลื่อนที่ มันสามารถเจาะทะลวงศัตรูได้อย่างง่ายดาย
ทหารที่ยะงไม่ตายก็ทำได้เพียงโศกเศร้า
แต่ทหารม้าก็ไร้อารมณ์ พวกเขายังคงเหวี่ยงทวนไปที่ศัตรู เหลือไว้เพียงกองซากศพ ที่กระจายไปทั่วพื้นดิน จากนั้น ม้าก็ย่ำลงไปบนซากศพเหล่านั้น ทำให้มันผสมเข้ากับพื้นดิน กลายเป็นสลัดมนุษย์
ฝนลูกศรยังคงถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ไปที่ทหารราชวงศ์โจว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย