บทที่ 26: การตอบแทนของเจ้าอ้วน
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 26: การตอบแทนของเจ้าอ้วน
หลังจากที่ได้ยินแผนการทั้งหมด ดวงตาของนางได้เบิกกว้างขึ้นขณะกล่าวว่า “เจ้าช่างน่ารังเกียจจริง ๆ แล้วเหตุใดต้องทำให้ข้าดูน่ารังเกียจไปด้วย ?”
“แม่นกน้อย พวกมันคิดสร้างปัญหา เราก็แค่คิดหาทางสวนกลับ นี่ไม่อาจกล่าวโทษข้า!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมยิ้มกริ่ม “นอกเหนือจากนั้น ข้าจะปฏิบัติกับเจ้าอย่างยุติธรรมที่สุดเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว มันจะจบลงแบบในครั้งที่แล้ว สมบัติของไอ้โง่ทั้งสองคนนั้นจะเป็นของเจ้า ข้าจะไม่เอาสิ่งใดเลย ตกลงไหม?”
“เหอะ เจ้าช่างร่ำรวย แน่นอนว่าเจ้าคงไม่ฝันใฝ่ที่จะได้สมบัติของเหล่าคนจน!” หานหลิงเฟิงเบะปากอย่างไม่อาจอดกลั้น “แต่หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าก็คงต้องทำตามอย่างเสียมิได้”
“เอาน่า อย่าทำให้ตัวเองดูน่าสงสารไปหน่อยเลย!” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวต่อ “ก็ได้ ข้าจะให้สิ่งอื่นกับเจ้าด้วย! แต่เจ้าต้องเข้าใจด้วยว่ามันต้องเป็นสิ่งของที่เหมาะสม ตกลงไหม?”
“โอ้!” ด้วยความยินดี หานหลิงเฟิงพยักหน้ารับหลายครั้ง
“จงเชื่อฟัง!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับคุกคามนางด้วยรอยยิ้มปีศาจ “มันเร็วเกินไป ข้าว่าเรามาทำกันอีกครั้งเถิด!”
“เจ้าช่างลามกยิ่งนัก” นางโวยวายเพียงครู่หนึ่งก่อนที่ปากของนางจะถูกปิดกั้น ในเวลาเดียวกันกระท่อมน้อยก็อบอวลไปด้วยความรักท่ามกลางบรรยากาศป่าทึบ
สองวันถัดมาที่ลานเล็ก ๆ ภายในสำนักเสวียนเทียน ศาลาที่พักของหานหลิงเฟิงมีแขกมาเยี่ยมเยือนสองคน
ผู้หนึ่งอวบอ้วนอยู่บ้างพร้อมหนวดเล็กน้อยและดูท่าทางเป็นมิตร อีกคนหนึ่งสูงและผอมท่าทางสุขุมและเยือกเย็น หลังจากที่ทั้งสองได้เข้ามายังศาลาของหานหลิงเฟิง นางต้อนรับพวกเขาด้วยชาชั้นดีทำให้มันทั้งสองผ่อนคลายและเพลิดเพลินอย่างมาก
“ศิษย์น้องหาน เรื่องราวที่ข้าได้บอกกล่าวกับเจ้าก่อนหน้านี้ เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างหรือ?” กู่หลงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่ลูบหนวดของมันไปด้วย
“เรื่องที่ศิษย์พี่ได้กล่าวถึงงั้นหรือ อ้อ” หานหลิงเฟิงแสร้งว่ากำลังคิดอย่างหนักพร้อมตอบกลับไป “หลังจากที่น้องสาวคนนี้ได้คิดตรองดูแล้ว ข้าว่าเรื่องนี้ช่างน่าหนักใจเสียจริง เมื่อคิดถึงซ่งจงที่มีพรสวรรค์เปรียบดังขยะมูลฝอยอีกทั้งรูปลักษณ์ที่ต่ำต้อย หากท่านทั้งสองต้องการให้ข้าทำ ความดีในตัวข้านั้นไม่สามารถทำใจยอมรับสิ่งนี้ได้!”
หานหลิงเฟิงทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที พวกมันทั้งสองในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี แต่ในขณะที่พวกมันกำลังฟังที่นางกล่าวและพบว่ายังมีช่องว่างสำหรับการสนทนานี้อยู่ ถ้าหากนางไม่ต้องการคงปฏิเสธตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมเช่นนี้ เห็นได้ชัดเจนว่านางต้องการผลประโยชน์มากกว่านี้
ดังนั้นเมื่อได้ยินหานหลิงเฟิงกล่าว นัยน์ตาของกู่หลงก็เป็นประกาย มันไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใด กลับรีบพูดเสริมขึ้นมาทันที “สิ่งที่ศิษย์น้องกล่าวมาล้วนแต่เป็นความจริง สมบัติของเจ้าทาสซ่งจงมันน้อยนิดเกินไปสำหรับเจ้า อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการแสดงละครเท่านั้นมิใช่หรือ? เจ้าแค่แสร้งทำเป็นเล้าโลม ข้ามั่นใจว่าไอ้เลวผู้นั้นจะต้องตกหลุมรักเจ้าอย่างแน่นอน นั่นจะทำให้แผนการของเราง่ายขึ้น!”
“ใช่แล้ว!” ซวนอวี๋กล่าวเสริม “แม้ที่จริงแล้วศิษย์น้องไม่ต้องลงไปเกลือกกลั้วกับมัน ความงามของเจ้านั้นทรงพลังยิ่ง เพียงแค่เจ้าปรากฏตัวต่อหน้าของมัน มันก็จะเสียตัวตนทันที เจ้าไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตัวดีกับมันด้วยซ้ำ เรื่องราวช่างง่ายดายเพียงแค่นี้! เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจสมบัติของมันเราจะแบ่งกันสามคน คิดจากจำนวนนับหมื่นที่มันใช้จ่ายไปเมื่อเดือนที่แล้ว นับว่าความมั่งคั่งของเจ้าเด็กนั่นมากมายยิ่งนัก!”
“ใช่ หลังเสร็จสิ้นภารกิจนี้ เราทั้งสามคงไม่จำเป็นต้องลำบากลำบนไปอีกนับสิบปี และสามารถสุขสบายกับการไม่ต้องดิ้นรนอันใดอีกต่อไป!” กู่หลงชักชวนเพิ่ม “ศิษย์น้องหาน เท่าที่พวกเราได้รู้มา มีอีกหลายคนที่เล็งเจ้าอ้วนนั่นอยู่ หากเราเลื่อนเวลาออกไปข้าเกรงว่าจะถูกตัดหน้าไปเสียก่อน!”
“เรื่องนี้...” หลังจากที่หานหลิงเฟิงได้ยินเช่นนั้นนางก็จมลงไปในความคิดของตน
“ศิษย์น้องหานเราไม่ควรพลาดโอกาสนี้เพราะมันจะไม่หวนกลับมาอีกครั้ง!” ซวนอวี๋เกลี้ยกล่อมอย่างรีบร้อน
“เฮ้อ แม้ว่าเจ้าซ่งจงจะบ้ากามอีกทั้งยังอ่อนแอกว่าข้า แต่จะให้ข้าหักหลังมัน ข้าไม่เข้มแข็งพอที่จะทำเช่นนั้นได้!” หานหลิงเฟิงลุกขึ้นพร้อมแสดงออกไป “แต่! เมื่อศิษย์พี่ทั้งสองมาหาข้าถึงที่นี่ หากว่าข้าไม่เห็นด้วยแล้วปล่อยให้ท่านไปกันเพียงสองคน คงเป็นการตัดสินใจที่ผิด เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าคงไม่สามารถปล่อยเจ้าอ้วนไปได้อีกแล้ว!”
“ศิษย์น้องตกลงแล้ว!” กู่หลงตะโกนออกมาด้วยความยินดี “นับว่าเป็นเรื่องที่ดี!”
“ด้วยการช่วยเหลือของศิษย์น้องจะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน!” ซวนอวี๋หัวเราะออกมาทันที
“ช้าก่อน!” หานหลิงเฟิงกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “แม้ว่าข้าจะตกลงแล้ว แต่สำหรับรายละเอียดของภารกิจเรายังต้องคุยกันอีกครั้ง ข้าไม่ต้องการที่จะไปหว่านล้อมเจ้าซ่งจง ใบหน้าของเจ้านั่นทำให้ข้ารู้สึกอยากอาเจียรเมื่อเห็นมัน!”
“แต่” ขณะที่กู่หลงกับซวนอวี๋ได้ยิน พวกเขามองหน้ากันเพียงครู่พร้อมหันไปถามนางว่า “แล้วเจตนาของศิษย์น้องคือสิ่งใดหรือ?”
“ข้าว่าสำหรับกับเรื่องนี้” หานหลิงเฟิงกล่าว “ข้าเพิ่งได้รับภารกิจจากนิกาย ท่านอาวุโสต้องการหญ้าจิตวิญญาณจันทรา มันเป็นสมุนไพรที่หาได้ยากยิ่ง และเท่าที่ข้ารู้ สถานที่เดียวที่มีสิ่งนั้นอยู่คือเทือกเขาอีกาโลหิตซึ่งห่างไปหลายร้อยลี้ สถานที่นั้นช่างห่างไกลเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายพร้อมอันตรายอีกมากมาย ข้าต้องการคนจำนวนหนึ่งเพื่อไปกับข้า!”
หลังจากพูดจบประโยคนางจึงมองไปที่กู่หลงและซวนอวี๋
กู่หลงและซวนอวี๋ ทั้งสองคนมีความเฉลียวฉลาดพร้อมกับเข้าใจได้ทันทีว่านางพูดถึงเรื่องอันใด กู่หลงตอบกลับในทันที “ศิษย์น้องหาน เจ้าจะเชิญซ่งจงไปด้วยกันใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่แค่มัน ท่านทั้งสองก็เช่นกัน!” หานหลิงเฟิงกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มหวาน “ทำไมหรือ? อย่าบอกข้าว่าศิษย์พี่ทั้งสองไม่ต้องการช่วยเหลือน้องสาวผู้นี้?”
“เต็มใจ! แน่นอนว่าเรายินดีอย่างยิ่ง!” กู่หลงตอบกลับอย่างเร่งรีบ “อย่างไรก็ตามแม้เจ้าซ่งจงนั่นร่ำรวยจริง ๆ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขามีอุปกรณ์วิเศษช่วยชีวิตหรือไม่? เราจะพาเขาไปด้วยได้อย่างไรและจะจบชีวิตเขาได้อย่างไร?”
“ง่ายมาก!” หานหลิงเฟิงหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวว่า “เมื่อยามที่เราพบเจอสัตว์ร้าย ท่านทั้งสองต้องแสร้งทำเป็นไม่พอใจเขา จากนั้นก็เข้าไปต่อสู้กับเหล่าปีศาจ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้าก็จะสรรเสริญพวกท่าน และใช้โอกาสนี้ทำให้มันดูต้อยต่ำลง ถ้าหากมันมีสมบัติอยู่ในตัวก็คงไม่ยอมให้เราต่อสู้กับปีศาจร้ายในคราวต่อไปแน่นอน ในขณะที่มันกำลังต่อสู้กับเหล่าปีศาจอยู่ เราทั้งสามคนก็ลอบเข้าไปจัดการมันจากทางด้านหลัง!”
“ฉลาด เฉียบขาดเหลือเกิน!” หลังจากที่ได้รับฟังแผนการ กู่หลงก็ร้องออกมาอย่างลืมตัว “ศิษย์น้องหานช่างแหลมคมอะไรเช่นนี้ นี่เป็นแผนที่ดีที่สุด!”
แต่ซวนอวี๋ผู้ที่อยู่ด้านหลังกลับรู้สึกเหงื่อตกอย่างฉับพลันพร้อมคิดในใจ ‘ผู้หญิงคนนี้ฉลาดจริง ๆ และร้ายกาจยิ่งนัก!”
“อา น้องสาวผู้นี้ยังโง่เขลา มันเป็นเพียงความคิดที่ป่าเถื่อน แต่ถ้าหากว่าพี่ชายทั้งสองคิดว่ามันคือแผนการที่ดี เราก็จะทำตามแผนนี้ ตกลงไหม?” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างนอบน้อมพร้อมเผยยิ้มหวาน
ในขณะนั้นหานหลิงเฟิงกล่าวในใจ ‘อย่าได้ตำหนิว่าข้าใจร้าย เจ้าอ้วนนั่นสาปให้ข้านั้นกล่าววาจาเช่นนี้”
“เจ้าถ่อมตนมากเกินไปแล้วศิษย์น้องหาน ข้าคิดว่าแผนนี้ดีเลิศ!” กู่หลงตอบกลับพร้อมยกยิ้ม “เราสามารถทำตามแผนนี้ได้ แต่ว่า”
“เป็นเช่นนี้” กู่หลงกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “ศิษย์น้องหานยังรู้ว่าเจ้าอ้วนที่เมื่อก่อนเป็นเพียงทาสต้อยต่ำ ตอนนี้กลับเป็นที่นิยมขึ้นมา มีหลายคนที่กำลังจับตามองมันอยู่ แต่สิ่งที่น่าขันคือมันกลับไม่รู้ตัวเลย ฮ่าฮ่า ช่างโง่งมอะไรเช่นนี้!”
“ฮ่าฮ่า” ซวนอวี๋และหานหลิงเฟิงหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ดังนั้นเรื่องนี้อย่าได้รอช้า เราจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดมาคว้าโอกาสนี้ไปเด็ดขาด!” กู่หลงประกาศกร้าว
เมื่อได้ยินกู่หลงกล่าวเช่นนั้น หานหลิงเฟิงรู้สึกโล่งใจพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ข้าทราบดีว่าต้องทำอันใด!”
“ประเสริฐ! เพียงแต่ว่าที่อยู่ของซ่งจงนั้นลึกลับอย่างมากแม้แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังหามันไม่พบ ศิษย์น้องรู้หรือว่าจะไปพบได้ที่ใด?” กู่หลงถามออกมาอีกครั้ง
“ข้ามีวิธีจัดการเรื่องนี้แล้ว เจ้าอ้วนนั่นมีเพื่อนรักที่นามว่าลิง บังเอิญว่าข้ารู้จักกับมัน ข้าเชื่อว่าหากข้าไปพบมันเพื่อขอความช่วยเหลือ ข้าคงได้เห็นฉากเจ้าอ้วนบาดเจ็บสาหัส!” หานหลิงเฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“โอ้ ประเสริฐยิ่งนัก!” กู่หลงดีดนิ้วพร้อมตอบกลับอย่างรวดเร็ว “หากเป็นเช่นนี้ก็คงต้องเดือดร้อนศิษย์น้องเสียแล้ว ซวนอวี๋และข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า! ตกลงตามนี้ ข้าทั้งสองขอตัวก่อน” หลังจากพูดจบเขาก็ลุกขึ้น
“ให้ข้าไปส่งท่านทั้งสองเถิด!” หานหลิงเฟิงกล่าวพร้อมลุกขึ้นส่งพวกเขาทั้งสอง