ตอนที่ 123 ความใฝ่ฝันของหลิน ฮวง
ในวันที่ 2 กันยายนที่มีแสงแดดจ้าในเมืองปาฉี ยานคริสตัลปีศาจจอดอยู่ที่กลางจตุรัสตอน 10 โมงเช้า ยานคริสตัลปีศาจที่จะบินไปยังเส้นทางอื่นๆก็ล้วนจอดอยู่ที่นี่เช่นกัน
หลังจากที่สแกนตั๋วแล้ว หลิน ฮวงและหยิน หยางยี่ก็เข้าไปในยานบิน พวกเขาอยู่คนล่ะชั้นกัน หลิน ฮวงอยู่ชั้นน 6 ส่วนหยิน หยางยี่อยู่ที่ชั้น 8 อย่างไรก็ตามเจ้าอ้วนก็ชอบที่จะยุ่งเรื่องของหลิน ฮวงอยู่ดี ก่อนที่จะนอน เขาจะใช้เวลาส่วนมากในห้องของหลิน ฮวง
"เจ้าอ้วนนายเคยคิดถึงเรื่องที่วันหนึ่งนายต้องสืบทอดโรงแรมของพ่อนายไหม?" หลิน ฮวงสงสัย
"เชฟอาหารทั่วไปจะทำอะไรได้ไม่มากนัก ถ้าฉันเป็นนักล่าอาหาร ฉันจะทำอาหารได้อร่อยขึ้น นั่นเป็นความต้องการของฉันในธุรกิจอาหาร" เจ้าอ้วนอธิบาย "นอกจากนี้ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถทำได้ดีกว่าพ่อของฉัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาสนับสนุนฉันอย่างเต็มที่ในการเป็นนักล่าอาหาร"
"แล้วนายละ ทำไมนายถึงอยากเป็นนักล่า?" เจ้าอ้วนถามเขากลับมา
"ฉันไม่ต้องการวางชะตากรรมของฉันในมือของคนอื่น มันไม่ปลอดภัย 100% ในเมือง แม้เมืองเกรดCจะมีผู้หลุดพ้นคอยคุ้มครองก็ตาม แต่ ผู้หลุดพ้นก็ยังคงเป็นมนุษย์ พวกเขาสามารถผิดพลาดได้ พวกเขาสามารถตายในการสู้รบได้ แทนที่จะวางชีวิตของฉันไว้ในมือของผู้หลุดพ้น ฉันอยากจะควบคุมชีวิตของฉันเองมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่ฉันจะสามารถปกป้องตัวเองและคนรอบข้างได้ " หลิน ฮวงพูดด้วยความลึกซึ้งแล้วคิดถึงมันอีกครั้ง มีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านี้ว่าทำไมเขาถึงอยากจะแข็งแกร่ง
"มันไม่ได้เกี่ยวกับความไม่มั่นคง ฉันชอบที่จะมองดูว่าโลกนี้กว้างใหญ่แค่ไหนก่อนที่ฉันจะได้เป็นผู้หลุดพ้น ฉันมักจะอยู่แต่ในเขตปลอดภัย ไม่เพียงแต่ฉันอยากจะสำรวจเขตปลอดภัยอื่นๆ ฉันยังอยากเห็นโลกด้านนอกเขตปลอดภัยเหล่านั้น พื้นที่ที่ยังไม่ถูกสำรวจโดยมนุษย์....”
"นายปกติดีหรือเปล่า ฉันอยากจะใช้ชีวิตอยู่ในเขตปลอดภัยมากกว่าที่จะออกไปเผชิญอันตราย เกี่ยวกับการสำรวจหาสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ ฉันจะปล่อยให้คนอื่นทำเช่นนี้" เจ้าอ้วนโบกมือปฏิเสธไปมา
หลิน ฮวงหัวเราะและคิดว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้เขาดูทะเยอทะยาน
พวกเขาใช้เวลาเดินทาง 11 วันบนยานคริสตัลปีศาจ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา – เมือง 7C29, เมืองหมอก เมืองหมอกอยู่ห่างจากหุบเขาหมอกประมาณ 1,200 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองที่ใกล้กับหุบเขามากที่สุด วันที่ 13 กันยายนเวลาบ่ายสี่โมงยานคริสตัลปีศาจมาถึงเมืองหมอก หลิน ฮวงและหยิน หยางยี่ลงจากยานบินและเช็คอินเข้าโรงแรม
"มีเขตป่าระดับ 3 ตามทางไปหุบเขาหมอก มันอาจจะอันตรายได้ถ้าพวกเราไปกันแค่สองคน ฉันจะหาทีมจากสวรรค์แห่งนักผจญภัย" เจ้าอ้วนพูดหลังจากเช็คอินเข้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว แต่หลิน ฮวงไม่ได้พูดอไร เขาสามารถใช้อินทรีอเล็กซานเดรี้ยนให้พาพวกเขาไปที่นั่นได้ แต่เขาไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของเขา เหตุผลที่นักล่าระดับเงินและระดับทองใน สวรรค์แห่งนักผจญภัยยินดีที่จะพาคนอื่นๆไปด้วยกันไม่ใช่เพราะเงิน มันเป็นเป็นบริการของสวรรค์แห่งนักผจญภัย และพวกเขาสามารถพานักล่าคนอื่น ๆ ที่มีระดับต่ำกว่าไปทำภารกิจของพวกเขาด้วยได้ เพื่อให้พวกนั้นได้รับความรู้สึกดีๆ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการหาพนักงานใหม่ๆ โดยหวังว่าพวกเขาจะพิจารณาเข้าร่วมสมาคมในอนาคต
10 นาทีต่อมา เจ้าอ้วนก็ติดต่อหลิน ฮวงมาทางอุปกรณ์สื่อสาร หลิน ฮวงหยิบมันขึ้นมา และคิดว่ามันแปลกๆ "เกิดอะไรขึ้น?"
"ฉันได้ทีมแล้ว พวกเขากำลังจะออกไปตอนนี้ พวกเขารีบมาก ไปเจอพวกเขาที่ประตูทางทิศตะวันออก!" เจ้าอ้วนวางสายโดยโดยไม่รอให้หลิน ฮวงตอบ เขาคิดว่ามันแปลกเพราะไม่มีความจำเป็นที่เจ้าอ้วนจะต้องเร่งรีบ เพราะมีนักผจญภัยสองคนที่จะร่วมทีมกับคนอื่น ๆ เข้าไปในหุบเขาหมอกทุกวัน ดวงอาทิตย์กำลังจะตก ถ้าพวกเขาจะออกเดินทางตอนนี้ ทั้งสองคนจะต้องค้างคืนที่หุบเขาหมอกด้วยตัวเอง
หลิน ฮวงออกจากโรงแรมทันทีและขี่หมาป่าวิริเดียนมุ่งหน้าไปยังประตูทางทิศตะวันออก เมื่อมาถึง เขาเห็นเจ้าอ้วนและนักผจญภัยระดับเงินอีกสามคนจากระยะไกล พวกเขานั่งอยู่บนม้า ขณะที่เจ้าอ้วน กำลังยืนอยู่ เขามองไม่ชัดมากนัก
"นี่มันอะไรกัน เจ้าอ้วน?" หลิน ฮวงขมวดคิ้วและถาม
เมื่อได้ยินเสียงของหลิน ฮวงพวกเขาทั้งหมดก็หันมามองเขา
"คุณมาช้า เราจะไปกันได้หรือยัง?" ผู้นำมีผิวดำและผอม เขาจ้องมองหลิน ฮวงแล้วดึงเชือกบนมอนสเตอร์ของเขาและออกไป นักผจญภัยอีกสองคนตามเขาไป คนหนึ่งหัวล้านเล็กน้อยในขณะที่นักผจญภัยอีกคนยังดูเด็กอยู่ เขาไว้เครา แล้วเขาก็ตะโกนหาเจ้าอ้วน "เนื่องจากเพื่อนของคุณมีสัตว์ขี่ คุณก็ไม่ต้องนั่งไปกับเรา"
หลิน ฮวงดึงเจ้าอ้วนขึ้นบนหมาป่าวิริเดียนและถามพลางขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น?"
"หยุดถาม ไปกันก่อนเถอะ”เจ้าอ้วนนั่งข้างหลังหลิน ฮวง เขาส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นหลิน ฮวงก็ตบหมาป่าวิริเดี้ยนและไล่ตามนักผจญภัยไป พวกเขาสามคนอยู่ในระดับเงินและมีสัตว์ขี่เป็นแรดดินระดับทองแดง มันคือสัตว์ขี่ทั่วไป มันไม่ได้เร็วนักแต่มันค่อนข้างอึด
นักผจญภัยทั้งสามคนกำลังขี่สัตว์ราคาถูกเนื่องจากราคาของแรดดินถูกกว่าหมาป่าวิริเดี้ยนมาก พวกเขาอาจจะอิจฉาเมื่อเห็นหลิน ฮวงขี่หมาป่าวิริเดี้ยน
“นายบอกว่านายจน งั้นทำไมนายจึงมีหมาป่าวิริเดี้ยน!ราคาของมันเทียบได้กับอุปกรณ์ระดับเงิน!”ท้ายที่สุดเจ้าอ้วนก็อดวีนไม่ได้
หลิน ฮวงไม่ได้บอกเขาว่านื่คือมอนสเตอร์อัญเชิญของเขา“ฉันโชคดีนะ ฉันไปพบเจอมันในราคาถูก”
“เท่าไร?”เจ้าอ้วนถามอย่างฉลาด
“เท่ากับอุปกรณ์ระดับทองแดงหนึ่งชิ้น”หลิน ฮวงโกหกอีกครั้ง ไม่เพียงแต่เจ้าอ้วนที่ลอบฟัง นักผจญภัยทั้งสามคนก็เช่นกัน
พวกเขาดูไม่มีความสุขนักเพราะพวกเขาต้องซื้อแรดมาในราคาอุปกรณ์ระดับทองแดงสองชั้น หมาป่าวิริเดี้ยนจะมีราคาอย่างน้อยอุปกรณ์ระดับเงินสองชิ้น แต่หลิน ฮวงกลับได้รับมันมาในราคาที่ถูกมาก
“ไอหนู ฉันจะซื้อหมาป่าวิริเดี้ยนของนายด้วยอุปกรณ์ระดับทองแดงสองชิ้น”ชายเคราแพะตะโกน
“ผมไม่ขาย”หลิน ฮวงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
ชายเคราแพะจ้องมองหลิน ฮวง แม้ว่าหลิน ฮวงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะมา เขาก็สังเกตเห็นว่าเจ้าอ้วนเอาแต่นั่งเงียบตลอดทาง เขาคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับทั้งสามคนนี้ เจ้าอ้วนอาจจะถูกข่มขู่มา
พวกเขาสามารถมาถึงหุบเขาหมอกได้ในหนึ่งชั่วโมง แต่เจ้าอ้วนก็พบว่าทีมไม่ได้มีสัตว์ที่บินได้เฉกเช่นหลิน ฮวง ส่งผลให้การเดินทางต้องล่าช้าไปถึงแปดชั่วโมง
โชคดี นักผจญภัยทั้งสามคนได้ทำสิ่งที่พวกเขาควรจะทำ พวกเขาฆ่ามอนสเตอร์ตามเส้นทางทั้งหมด อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เหลือศพเอาไว้และเก็บพวกมันทั้งหมด พวกเขาต้องจนมากจริงๆ เจ้าอ้วนดูเหมือนจะไม่สบายใจมากขึ้น คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาคือชายร่างผอมผิวดำ เขาอยู่ในระดับเงินขั้น2ขณะที่อีกสองคนอยู่ในระดับเงินขั้น1 เพียงแค่หลิน ฮวงเรียกไป่ ชาโคล หรือไทแรนด์ นั่นก็เพียงพอจะฆ่าพวกเขาแล้ว
หลังจากที่เดินทางอยู่นานกว่า6ชั่วโมง ท้องฟ้าก็เริ่มมืด และผู้นำร่างผอมก็เริ่มช้าลง
“ข้างหน้านี้เป็นเขตป่าระดับ3 เราจะต้องเดินข้ามไปโดยไม่ใช่สัตว์ขี่เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจ”
หลิน ฮวงตกใจที่พวกเขาต้อง’ระมัดระวัง’ในเขตป่าระดับ3 นักผจญภัยระเงินไม่ควรจะกลัวมอนสเตอร์ในเขตป่าระดับ3
เนื่องจากพวกเขาได้เก็บสัตว์ขี่ไป เจ้าอ้วนก็ตบหลังหลิน ฮวง“เก็บมันเถอะ”จากนั้น หลิน ฮวงก็เก็บหมาป่าวิริเดี้ยนในช่องเก็บของเขา จริงๆแล้ว ไม่ว่าเขาจะเก็บมันหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญเพราะการเดินของมันเบากว่ามนุษย์มากนัก ในทางกลับกัน แรดจะส่งเสียงดังบนถนน แต่เขาคิดว่ามันคงจะหยาบคายหากพวกนั้นต้องเดินขณะที่พวกเขานั่งบนหลังหมาป่าวิริเดี้ยน
“มันอีกตั้ง300กิโลเมตร เราต้องเดิน?”แม้ว่าพวกเขาจะวิ่ง ด้วยความเร็วของหลิน ฮวงและเจ้าอ้วน มันจำต้องใช้เวลากว่า7ชั่วโมง
“พวกนายสามารถขี่หมาป่าวิริเดี้ยนได้ แต่อย่าร้องขอความช่วยเหลือหากมอนสเตอร์โจมตีพวกนาย”ชายร่างผอมผิวดำจ้องมองหลิน ฮวง
“หลิน ฮวง ไม่เป็นไรหรอก พวกเราจะวิ่งไป ที่นี่มันอันตรายเกินไปที่จะอยู่กันแค่เรา”เจ้าอ้วนแนะนำ
เนื่องจากมันคือเจ้าอ้วนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากทีมนี้ หลิน ฮวงจึงไม่ต้องการทำให้เขาลำบากใจ แต่เขาก้ยอมรับอย่างหงุดหงิด“เอาเถอะ”
นักผจญภัยทั้งสาม หลิน ฮวง และเจ้าอ้วนวิ่งด้วยความเร็ว50กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าอ้วนหอบหายใจอย่างรุนแรงหลังจากวิ่งมาสองชั่วโมง
“เจ้าอ้วน หากนายไม่ไหว นายสามารถขี่หมาป่าวิริเดี้ยนได้นะ”หลิน ฮวงแนะนำ
“ฉันไม่เป็นไร...”เจ้าอ้วนโบกมือ
สามชั่วโมงต่อมา เจ้าอ้วนก็ช้าลง หลิน ฮวงให้เขาขี่บนหลังหมาป่าวิริเดี้ยน ขณะที่เขากับคนอื่นๆวิ่ง ในไม่ช้า สามชั่วโมงก็ผ่านไปท้ายที่สุดพวกเขาก็ผ่านเขตป่าระดับ3และถึงหุบเขา มีหมอกหนาปกคลุมอยู่ที่ปากหุบเขา เจ้าอ้วนลงจากหลังหมาป่าวิริเดี้ยนและขอบคุณนักผจญภัยทั้งสามคน“ทำไมนายถึงขอบคุณเรา?นายยังไม่ได้จ่ายเงินเราเลย โปรดจ่ายมาสามคริสตัลชีวิต”ชายร่างผอมผิวดำแสยะยิ้มให้หลิน ฮวงและเจ้าอ้วน ขณะที่นักผจญภัยสองคนยืนดักอยู่ข้างหลังพวกเขา