TWO Chapter 200 สงครามมู่เย่ ตอนที่ 2
TWO Chapter 200 สงครามมู่เย่ ตอนที่ 2
เมื่อโอหยางโชวนำกองกำลังของเขาเข้าไปในค่ายทหารที่อยู่ทางตะวันตก เขาก็พบว่า มีลอร์ดบางส่วนได้มาอยู่ที่นี่แล้ว
เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในค่าย ราชวงศ์ซางได้ส่งทหารหลวง 100 นาย มาดูแลค่าย ซึ่งพวกเขาเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อ ทหารราชวัง
ทหารหลวงเหล่านี้แข็งแกร่งและทรงอำนาจ พวกเขาสวมชุดเกราะและโล่สัมฤทธิ์ที่ดีที่สุดในยุคนี้
ในฐานะตัวแทนผู้เล่น โอหยางโชวโชคดี ที่เขาได้รับพื้นที่ที่ดีที่สุดภายในค่าย ซึ่งมันตั้งอยู่ตรงกลางของค่าย ใกล้ๆกับเต็นท์ของทหารหลวง
หลังจากที่จัดการที่พักแล้ว โอหยางโชวก็จัดให้กงเฉิงซีและซุ่นหลงเตียนเซว่ไปรวบรวมข้อมูล โดยหลักๆให้ตรวจสอบว่าลอร์ดที่มีชื่อเสียงอยู่ฝ่ายไหนบ้าง
สำหรับลอร์ดที่มาเยือน โอหยางโชวจัดให้ไป๋ฮัวและเฟิงฉิวฮวงพาพวกเขาไปอีกด้านของเต็นท์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ
แตกต่างจากสงครามโจวหลู่ โอหยางโชวหวังว่าเขาจะสามารถรวบรวมผู้เล่นให้ได้มากที่สุดในครั้งนี้ เพราะเขาได้เลือกฝ่ายที่เคยแพ้สงคราม ถ้าเขาต้องการจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เขาจะต้องพึ่งพาพลังของทั้งฝ่าย
ในค่าย โอหยางโชวสามารถเพลิดเพลินกับเต็นท์ของเขาได้ เพราะหวังเฟิงได้นำทหารองครักษ์มารับผิดชอบด้านความปลอดภัยของเต็นท์แล้ว
เมื่อพวกเขาเห็นว่าโอหยางโชวมีทหารองครักษ์เป็นของตัวเอง กงเฉิงซีและซุ่นหลงเตียนเซว่ก็เริ่มอิจฉา พวกเขากล่าวว่า เมื่อพวกเขากลับไป พวกเขาจะสร้างกองทหารองครักษ์ และแสดงศักดิ์ศรีของพวกเขาในฐานะลอร์ด
โอหยางโชวไม่สนพวกเขา เขาเรียกซ่งเจี๋ยมาที่เต็นท์ของเขา นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้พบกันในเกมส์ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง แน่นอนว่าโอหยางโชวไม่ได้เรียกเธอมาเพื่อพูดคุยเรื่องความรัก หลังจากที่พูดคุยกันเล็กๆน้อยๆ โอหยางโชวก็หยิบคู่มือเทคนิคลับ ‘คัมภีร์เก้าหยิน’ ออกมา
มันเป็นคู่มือลับระดับจักรพรรดิ และมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1,500 เหรียญทอง ในตอนที่เขาซื้อมัน แต่ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะขายมันในราคา 30,000 เหรียญทอง ฝูงชนก็ยังคงจะซื้อมัน
สำหรับคู่มือเทคนิคลับที่มีค่าเช่นนี้ โอหยางโชวไม่ได้ส่งมันให้กับซ่งเจี๋ย แต่เขาอยากจะมอบให้เธอต่อหน้าแทน เพื่อให้เธอประหลาดใจ และตอนนี้ มันก็ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะทำเช่นนั้น
“ลองดูนี่ซิว่ามันคืออะไร?” โอหยางโชวส่งคู่มือเทคนิคลับให้กับซ่งเจี๋ย
เธอไม่ได้สนใจมันมากนัก จนกระทั่งเธอได้เห็นชื่อจากปกของคู่มือ เธอตกใจมาก มันทำให้ขากรรไกรของเธอค้าง ก่อนที่เธอจะร้องอุทานออกมาว่า “คัมภีร์เก้าหยิน?”
“ชู่ววว!” โอหยางโชวทำท่าทาง ขณะที่เขาขอให้ซ่งเจี๋ยเบาเสียงลง
“วู๊ดซี่ ท่าน ท่าน ท่านพยายามจะทำให้ข้าตกใจตายหรือ?” เธอเบาเสียงลง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “คู่มือเทคนิคลับที่หายากเช่นนี้ เจ้ายังได้รับมันมา ข้าประทับใจจริงๆ”
“แล้วเป็นอย่างไร เจ้าชอบมันหรือไม่?” โอหยางโชวยิ้ม
ซ่งเจี๋ยพยักหน้า จากนั้นเธอก็ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “วู๊ดซี่ ข้าชอบมันจริงๆ แต่ข้าไม่สามารถรับมันไว้ได้ มันมีค่ามากเกินไป ท่านควรจะเก็บมันไว้ใช้กับตัวเอง ท่านเป็นลอร์ดที่ยิ่งใหญ่ ท่านควรจะฝึกฝนเทคนิคที่ยอดเยี่ยมนี่นะ” ขณะที่เธอกล่าวจบ เธอก็ยื่นคู่มือเทคนิคลับกลับไปให้โอหยางโชวอย่างไม่เต็มใจ
โอหยางโชวส่ายหัวและหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอชอบมันมากเพียงใด แต่เธอก็ยังคงคิดถึงเขา “ไม่เป็นไร ข้าได้ฝึกฝนเทคนิคลับระดับจักรพรรดิอันอื่นแล้ว ดังนั้น ข้าจึงไม่ต้องใช้คัมภีร์เก้าหยินนี้”
“วู๊ดซี่ ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้โกหกข้า ท่านพูดราวกับว่าคู่มือเทคนิคลับระดับจักรพรรดิเป็นเพียงผักในตลาด มันไม่ได้หาได้ง่ายๆเช่นนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าท่านจะฝึกฝนมันแล้ว”
โอหยางโชวพูดไม่ออก เขาจึงแสดงแถบสถานะตัวละครของเขาให้เธอดู ทักษะการตรวจสอบไม่สามารถตรวจสอบแถบสถานะของผู้เล่นได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะได้เห็นสถานะของผู้เล่นคนอื่น
หลังจากที่เธออ่านค่าสถานะของเขาแล้ว ซ่งเจี๋ยก็อุทานออกมาด้วยเสียงดังว่า “วู๊ดซี่ ข้ามั่นใจแล้วในตอนนี้ว่า ท่านเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ พระเจ้า ท่านคนเดียวมีเทคทิคลับระกับจักรพรรดิถึง 2 เทคนิค และยังมีเทคทิคระดับกษัตริย์อีก 1 เทคนิค ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ”
“ตอนนี้ เช้าเชื่อข้าแล้วใช่หรือไม่? รีบเรียนรู้เทคนิค คัมภีร์เก้าหยินเถอะ ข้าจะรออยู่ข้างๆเจ้า”
“โอเค” เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ขณะที่เอามือวางไว้บนคู่มือ แล้วเรียนรู้มัน
โอหยางโชวเฝ้าดู ขณะที่เธอกำลังนั่งขัดสมาธิ เขาก็เริ่มการฝึกฝนของเขาข้างๆเธอ
หลังจากที่ผ่านไป 3 ชั่วโมง ซ่งเจี๋ยก็เปิดตาขึ้น ความปิติยินดีเต็มอยู่บนใบหน้าของเธอ เธอจ้องไปที่โอหยางโชวที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ และสัมผัสได้ถึงความรักในประกายสายตาของเธอ ‘วู๊ดซี่ นายช่างดีกับฉันจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนนายยังไงดี’
เมื่อเวลาผ่านไปซักพัก โอหยางโชวก็เสร็จสิ้นการฝึกฝนของเขา และเขาก็ได้เห็นว่า ซ่งเจี๋ยกำลังจ้องมองมาทางเขา เขายิ้มแล้วกล่าวหยอกล้อว่า “เจ้าไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อๆแบบข้ามาก่อนหรือ? การที่เจ้าจ้องมองข้าเช่นนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกอายนะ”
“ชิ หวู่ยี่ ใบหน้าของท่านก็ยังคงหนาเหมือนเดิม” ซ่งเจี๋ยยิ้มอย่างนุ่มนวล
ด้วยความสัตย์จริง โอหยางโชวที่อยู่ในเกมส์นั้น ทำให้เธอรู้สึกแตกต่าง ราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้า เขาเป็นคนที่สงบและมั่นคง และยังเป็นลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยาก ที่เธอจะเชื่อมโยงเขากับโอหยางโชวในสมัยเด็ก แต่เขาก็ยังคงคำนึงถึงซ่งเจี๋ย โอหยางโชวก็ยังคงเป็นโอหยางโชว เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“วู๊ดซี่ ข้าสังเกตเห็นว่าพันธมิตรซานไห่ของท่าน มีผู้หญิงสวยๆอยู่เต็มไปหมด บอกข้ามาตามตรง ท่านมีผู้หญิงคนอื่นนอกจากข้าหรือไม่?” หลังจากที่ความรู้สึกคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง เธอก็เริ่มที่จะหึงหวง
คำกล่าวของเธอเป็นความจริง ภายในพันธมิตรซานไห่ เฟิงฉิวฮวง, ไป๋ฮัว และมู่หลานเยว่ ต่างก็เป็นหญิงสาวที่งดงาม และพวกเธอยังเป็นลอร์ดแห่งดินแดนที่ทรงอำนาจ ซ่งเจี๋ยรู้สึกไม่สบายใจ เธอเป็นเพียงสาวน้อยจากตระกูลซ่ง ซึ่งไม่มีอำนาจอะไรในเกมส์นี้ นอกจากนี้ เฟิงฉิวฮวงยังเป็นคุณหนูจากตระกูลเฟิงอีกด้วย
การปรากฎตัวของพวกเธอ ทำให้ซ่งเจี๋ยรู้สึกว่าถูกคุกคาม
“นอกจากนี้ การที่ท่านบ่มเพาะเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายในของจักรพรรดิเหลือเช่นนี้ ท่านคิดว่าท่านจะทำตัวเจ้าชู้ และมีนางสนมเป็นพันๆคนเลยหรือ?” ความหึงหวงของซ่งเจี๋ยเริ่มหนักขึ้น
โอหยางโชวส่ายหัว ก่อนที่จะลูบหัวของเธอเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้ากำลังกล่าวอะไรออกมากัน? นี่เป็นเพียงเทคนิคการบ่มเพาะกำลังภายใน มันไม่ใช่เทคนิคที่ใช้สำหรับเรื่องแบบนั้น นี่เจ้ายังคงมีความภาคภูมิใจในฐานะผู้หญิงอยู่อีกหรือ?”
“ถ้าเช่นนั้นก็บอกข้ามา ท่านมีอะไรกับสาวๆพวกนั้นหรือไม่? จากที่ข้าเห็น พวกนางใกล้ชิดกับท่านมาก ทั้งยิ้มให้กัน และยังสนทนากันอย่างสนิทสนม ในขณะที่ข้า ไม่แม้แต่จะหาโอกาสคุยกับท่านได้เลย วู๊ดซี่ บอกข้ามาตามตรง ท่านคิดว่าข้าไร้ประโยชน์หรือไม่? ข้าไม่เคยมาช่วยท่านเลยในเกมส์นี้ และข้ายังคงเป็นภาระ ทำให้ท่านต้องเสียสมาธิอีกด้วย” ซ่งเจี๋ยรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
คำกล่าวของเธอทำให้โอหยางโชวตะลึง เขาลุกขึ้นและกอดซ่งเจี๋ยจากด้านหลัง เขาเงื้อมือของเขาไปรัดรอบเอวเธอ และวางใบหน้าของเขาไว้ที่ข้างๆแก้มสีขาวนุ่มๆของเธอ ซ่งเจี๋ยรู้สึกเขินอายมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้สนิทสนมกันขนาดนี้ ตั้งแต่ที่พวกเขาได้พบกัน
“หญิงโง่ ข้า โอหยางโชว ไม่ใช่เพลย์บอย การมีผู้หญิงเช่นเจ้าในชีวิต เป็นสิ่งที่ข้าปรารถนา ไป๋ฮัวและคนอื่นๆ เราเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกอื่นๆระหว่างพวกเรา และเจ้าก็หยุดกล่าวว่าตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ได้แล้ว เราเป็นคู่รักกัน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ สำหรับสิ่งต่างๆที่เจ้าได้มอบให้ข้า มันสำคัญยิ่งกว่ายิ่งอื่นใด” โอหยางโชวกล่าวอย่างสนิทสนม
ร่างของเธอสั่นเทา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ แม้กระทั่งหูของเธอก็ร้อนผ่าว นี่เป็นครั้งแรกที่โอหยางโชวกล่าวถึงความรักกับเธอ ดังนั้น เธอจึงไม่สามารถขยับไปไหนได้
เธอหันมามองโอหยางโชว มองเข้าไปในดวงตาของเขา แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “วู๊ดซี่ ข้าจะจำคำกล่าวของท่านในวันนี้ไว้ ปละโปรดอย่าหันหลังให้ข้า”
“ข้า โอหยางโชว จะไม่หันหลังให้กับเจ้าตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของข้า!”
ซ่งเจี๋ยไม่อาจทนได้อีกต่อไป เธอทิ้งความภาคภูมิใจของเธอในฐานะเด็กสาว แล้วจูบโอหยางโชว
จูบนี้เป็นสัญญาตลอดชีวิตของพวกเขา
ในขณะที่ทั้ง 2 คน กำลังกระซิบกระซาบคำหวานให้กับและกัน กงเฉิงซีก็เดินเข้ามา และเมื่อเขาได้เห็นฉากนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “พี่ พี่ใหญ่ น้องชายของท่านกำลังยุ่งอยู่กับการรวบรวมข้อมูลด้านนอก ท่านยังคงอยู่ที่นี่ และสนุกสนานเพลิดเพลินเช่นนี้ หวู่หวู่ โหว่โหว่”
โชคดีที่ซ่งเจี๋ยไม่ใช่ผู้หญิงใจแคบ เธอมีกลิ่นอายของนางเอก แม้ว่าจะเจอกับคำล้อเลียนของกงเฉิงซี เธอก็เพียงเอียงอายเล็กน้อย
โอหยางโชวไม่สนใจการล้อเลียนของเขา และถามว่า “เป็นเช่นไรบ้าง?”
กงเฉิงซีกลับมาจริงจังอีกครั้ง เขาส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ มันไม่ดีเท่าไหร่ ท่านคิดอย่างไรละ พันธมิตรหานตาน, พันธมิตรชุนฉิว และพันธมิตรโลหะโลหิตได้เลือกฝ่ายราชวงศ์โจวทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ”
โอหยางโชวตะลึง “เป็นไปได้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้?”
“ไม่ใช่แค่นั้น” ซุ่นหลงเตียนเซว่เดินเข้ามา เขาทักทายพวกเขา แล้วกล่าวต่อว่า “ข้าเพิ่งจะเห็นหวู่ฟู่จากพันธมิตรหานตาน”
“หวู่ฟู่? ตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่กับพันธมิตรหานตานหรอกหรือ?” โอหยางโชวงงงวย
“ใครจะรู้”
กงเฉิงซีคิดในแง่ลบกว่าทั้ง 2 คน “มันอาจเป็นไปได้ว่า ตี่เฉินส่งเขามาเป็นสายลับหรือไม่?”
“สายลับ? ในสมรภูมิ ไม่อนุญาติให้มีการส่งข้อความ แม้แต่ช่องพันธมิตรก็ถูกจำกัด แล้วเขาจะส่งข้อความได้อย่างไร?” โอหยางโชวงงงวย
“เฮะเฮะ พี่ชาย เป็นสายลับเขาไม่จำเป็นต้องส่งข้อความก็ได้ เขาสามารถทำลายพันธมิตรจากภายใน และหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในการรบ ตราบเท่าที่เขาต้องการ ยังมีอีกหลายวิธีที่เขาจะทำได้” กงเฉิงซีทำเหมือนว่าเขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดซะเอง
โอหยางโชวพยักหน้าและขมวดคิ้ว “ไม่น่าจะใช่ หากเป็นกรณีดังกล่าว การที่หวู่ฟู่มาที่นี่ เขาจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย แล้วทำไมเขาต้องเสียสละครั้งใหญ่ด้วยเล่า?”
“พี่ใหญ่กล่าวถูกต้อง จากความเห็นของข้า หวู่ฟู่คงไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนี้ อาจเป็นไปได้ว่าพันธมิตรของเขา บีบบังคับเขามากเกินไป ถ้าเราอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่ และตี่เฉินกับชุนเซิ่นจุนมีกลยุทธ์ใด หวู่ฟู่ค่อนข้างจะน่าสนใจ พี่ใหญ่ ท่านน่าจะลองติดต่อเขาดู” การคาดเดาของซุ่นหลงเตียนเซว่ค่อนข้างมีเหตุผล
มีเมฆครึ้มในใจโอหยางโชว เขาไม่สบายใจถ้ายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เอาล่ะ ข้าจะลองติดต่อกับหวู่ฟู่ดู ดูเหมือนว่าหมากรุกตานี้จะไม่ง่ายเลย”
“เหอะ ตี่เฉินและคนเช่นเขาก็แค่คนขี้ขลาด พี่ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปหรอก” กงเฉิงซีหัวเราะเยาะเย้ยตี่เฉินตามปกติ ความเกลียดชังระหว่างทั้ง 2 ค่อนข้างยุ่งเหยิง
โอหยางโชวส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “เจ้ากล่าวผิดแล้ว อย่าได้ดูถูกพวกเขา เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่า นับตั้งแต่ที่เขาล้มเหลวในการอัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดกลาง ตี่เฉินก็ได้ลดการเผยตัวต่อสาธารณชนแล้ว สิ่งนี้หมายความว่าเช่นไร? มันก็หมายความว่า เขาได้ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขา และตอนนี้ เขาได้ซ่อนมือของเขาอยู่ในเงา การเป็นศัตรูกับคนแบบนี้น่ากลัวที่สุด นอกจากนี้ หลังจากเริ่มการอพยพ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ทั้งหลายก็ได้มายืนข้างเขาแล้ว”
ซุ่นหลงเตียนเซว่พยักหน้า เขาเห็นด้วยกับข้อสรุปของโอหยางโชว
แฟนเพจ : TWOแปลไทย