Chapter 49: เควสลับ
หลังจากที่รับรางวัลของพวกเขาไปแล้ว ทั้ง8คนก็เดินเล่นไปที่สำนักงานใหม่ของพวกเขา
แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าสำนักงานกิลด์ มันก็ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นอันคับแคบของถนนกลางในเมืองรัตติกาล
นอกจากจำนวนNPC ที่ขาดแคลนแล้ว มันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกของสาธารณะทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่น จุดเกิดและบ้านประมูล
นอกจากนี้ ตั้งแต่ที่มันเป็นสำนักงานกิลด์แรกสุดใน {REBIRTH} ระบบก็ยังให้รางวัลแก่พวกเขาพร้อมกับห้องวิจัยและห้องตีเหล็ก! นี่เป็นความประหลาดใจที่พึงพอใจกับทุกคนอย่างแท้จริง
ยาเพิ่มพลังชีวิตและยามานานั้นเป็นไอเทมใช้งานที่ใช้มากที่สุดและอุปกรณ์นั้นก็สำคัญยิ่งกว่า โดยปราศจากพวกมันแล้วผู้เล่นจะต่อสู้กันได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้นี่เอง กิลด์มากมายนั้นพยายามที่จะทำให้กิลด์ของตัวเองมีพวกมันเพียงพอและพยายามสร้างพวกนักสร้างให้เก่งกาจขึ้น
เพื่อที่จะทำให้เกิดผู้เล่นที่เชี่ยวชาญในอาชีพสร้าง สภาพของกิลด์นั้นจะต้องดีมาก
นอกจากวัตถุดิบที่มีราคาแพงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของกิลด์ก็คือการมีห้องวิจัยและห้องตีเหล็กเป็นของตัวเอง
เนื่องจากระบบที่ไม่ซื่อสัตย์นี้นั้น ราคาของการสร้างห้องตีเหล็กและห้องวิจัยในสำนักงานกิลด์นั้นแพงอย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้นี่เอง นอกจากกิลด์อันสุดยอดแล้ว ผู้เล่นปกติก็จะไปยังช่างตีเหล็กและเภสัชกรเพื่อที่จะเช่าห้องเพื่อสร้างพวกมัน
อย่างไรก็ตาม สมาชิกทุกคนในนิกายซวนเฉินนั้นอ้างตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญและพวกเขาก็คิดว่าอาชีพสร้างนั้นเป็นการออกนอกเส้นทางที่ถูกต้อง ตั้งแต่ที่ไม่มีใครมีอาชีพสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวกสองอย่างนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากของตกแต่งภายใน
“สุดท้ายแล้วฉันก็ถึงระดับ 15 ซะที! มีใครต้องการไปเคลียร์ดันเจี้ยนกับฉันไหม?”หมิงตู่ถาม
“การเคลียร์ดันเจี้ยนนั้นไม่ใช่ปัญหา....ตราบเท่าที่นายไม่ใช่หัวหน้าปาร์ตี้และนายไม่พูดไร้สาระอะนะ!”ดาบน้ำแข็งหัวเราะอย่างเยือกเย็น
ในอดีตเมื่อหมิงตู่นำคนอื่นไปเคลียร์ดันเจี้ยนใน { Insatiable Mountain } เขาพูดเรื่องไร้สาระมากกว่าคำสั่งและทำให้นิกายซวนเฉินทั้งกิลด์นั้นโดนกวาดล้างเมื่อบอสนั้นเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 1%...... ตั้งแต่หลังจากนั้นมา หมิงตู่ก็สูญเสียสิทธิ์ในการนำปาร์ตี้
“ก็ได้!”หมิงตู่กวาดสายตาไปที่คนที่เหลือถามขึ้น “และคนอื่นละ?”
“พาพวกเราไปด้วยละกัน โบสถ์ที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นไม่ใช่ดันเจี้ยนที่นายสามารถเคลียร์มันได้โดยไม่มีนักบวช พี่ชายฤดูใบไม้ผลิจะมากับพวกเราไหม?”ไร้ความกลัวและโบซอนพูดพร้อมกัน
“หน่า ฉันยังมีเควสบางอย่างที่ฉันจำเป็นที่ต้องเคลียร์มัน”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“ครอทชี้น้อย?”
“ผมจะไปทำเควสเกี่ยวกับเกราะขาปกป้องให้สำเร็จ”ขุนนางครอทตอบกลับ
“โบสถ์ชุ่มเลือดนั้นจะไม่เปิดนอกจากมีพวกเราอย่างน้อยห้าคน! ทำไมพวกนายไม่ช่วยสนับสนุนมากกว่านี้ละ? ถ้พานายและพี่ชายฤดูใบไม้ผลิไม่ไปละก็ใครจะแท็งค์ให้พวกเรา?”หมิงตู่ตื่นตระหนก
ทั้งคู่จ้องหน้ากันและกันและชี้ไปที่หวังหยู่ในทันที “กระทิงเหล็กไง! เขาเป็นแท็งค์เหมือนกัน!”
“ขอโทษนะเพื่อนๆ มันเกือบจะบ่ายโมงแล้ว ฉันจำเป็นต้องออกเกมไปชั่วครู่หนึ่ง…”หวังหยู่โบกมือและตอบกลับ
“โอ้.........ภรรยานายกำลังจะกลับมาที่บ้านสินะ~” คนที่เหลือตอบกลับอย่างล้อเลียน
“มันไม่ใช่แบบที่พวกนายคิด!”หวังหยู่หน้าแดง
“พวกเราเข้าใจมันแล้ว เข้าใจแล้ว! รีบไปเถอะ!”
“อ๊า…”หวังหยู่ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วเขาก็ออกจาเกมไป
“ก็ดีถ้ามันเป็นแค่แท็งค์มอนสเตอร์ไม่กี่ตัว ถ้าอย่างงั้นทำไมไม่ให้ฉันทำมันละ? ถ้าพี่กระทิงเหล็กสามารถทำมันได้ละก็ฉันก็ทำมันได้เช่นกัน!”ความทระนงตัวเสนอ
ตั้งแต่ที่มันเกือบจะบ่ายโมง มู่จี่เซียนก็กลับบ้านมานานแล้วและกำลังเตรียมข้าวกลางวันให้อยู่
เมื่อถอดหมวกเกมออกมา หวังหยู่ก็พบว่ามู่จี่เซียนนั้นกำลังนั่งอยู่ด้านข้างเขาบนเตียงและจ้องมาที่เขา
“คุณกำลังจ้องอะไรของคุณอยู่?”หวังหยู่หัวเราะแล้วเขาก็โยนหมวกไปด้านข้าง
“ฉันไม่ได้สังเกตมันมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคุณยิ้มนั้นก็ค่อนข้างที่จะดึงดูดมาก คุณไปเจอชู้หรืออะไรบางอย่างในเกมมาอย่างงั้นเหรอ? ทำไมคุณถึงมีความสุขมากมายในช่วงเวลานี้จัง?”มู่จี่เซียนแกล้ง
หลังจากที่แต่งงานกันแล้ว หวังหยู่นั้นก็ตกอยู่ในสภาวะการเงินที่ขาดแคลน ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ค่อยยิ้ม อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้หวังหยู่ก็นั้นก็เริ่มยิ้มออกมาเมื่อ เขานั้นได้รับเงินมาจากการเล่นเกม ด้วยเหตุนี้เมื่อหวังหยู่นั่นเล่นเกม เขาก็จะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา!
“ผมจะมีเวลาไปหาชู้ได้ยังไงกัน? ทุกคนที่อยู่รอบผมนั้นเป็นผู้ชาย! ผมยังไม่เคยเห็นมอนสเตอร์ตัวเมียในเกมเลยด้วยซ้ำ!”หวังหยู่สาบานอย่างจริงจัง
“ฮึ่ม! คุณไม่ควรที่จะโกหกกับฉันนะ! ถ้าฉันพบว่าคุณโกหกฉันละก็ รอดูฉันได้เลย…”มู่จี่เซียนกำมือของหวังหยู่แน่นและหลังจากนั้นก็พูดอย่างเริงร่า “อย่างไรก็๖ม อาหารเที่ยงจะเย็นชืดแล้ว รีบไปกินเถอะ!”
“อื้ม!”
หลังจากกินข้าวเที่ยงและเก็บกวาดมันเสร็จ มู่จี่เซียนก็เปลี่ยนชุดของเธอและเตรียมตัวที่จะออกจากบ้าน
“คุณไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำงานในตอนกลางวันไม่ใช่เหรอ?”หวังหยู่ถาม
มู่จี่เซียนชี้ไปที่ปฏิทินบนกำแพงและถาม “คุณไม่ได้ดูปฏิทินเลยเหรอ? วันนี้เป็นวัยหยุดราชกาล!”
“ถ้ามันเป็นวันหยุดละก็ทำไมคุณไม่หยุดอยู่บ้านและพักผ่อนละ?”หวังหยู่พูด
“ตั้งแต่ที่มันเป็นวันหยุด ถ้าอย่างงั้นร้านอาหารก็จะยุ่งมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน! และพวกเขาก็ยังให้ค่าจ้างเพิ่มอีกด้วยในวันนี้!”หวังหยู่ตอบกลับแบบสบายๆ
“โอ้…”
“เดี๋ยวนะ..ที่รัก คุณเคยดูบัตรเครดิตที่ผมส่งให้คุณไปหรือยัง?”หวังหยู่ถามลังเล
หลายวันที่ผ่านมา พร้อมกับการขายสกิล อุปกรณ์และสมญานามนั้นทำให้หวังหยู่ได้รับโชคลาภมากมายในบัญชีธนาคารของเขา”
“ดูอะไร? มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณในการได้รับเงินและพวกเราก็จำเป็นที่จะต้องประหยัดมันไว้เพื่อลูกของเราในอนาคตอีกด้วย! เรื่องทั้งหมดนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ดังนั้นพวกเราควรที่จะเริ่มประหยัดให้มากขึ้น โอเคไหม?”มู่จี่เซียนหัวเราะคิกคัก
หวังหยู่รู้จักมู่จี่เซียนเป็นอย่างดีและรู้เกี่ยวกับความคิดของเธอว่าเป็นอย่างไร เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจอย่างยอมแพ้ “โอเค ถ้าอย่างงั้นก็อย่าฝืนตัวเองมากเกินไปละ”
“ฉันรู้ ฉันรู้! อย่าลืมกินข้าวเย็นด้วยนะ? ฉันวางข้าวและกับข้าวไว้ด้านในหม้อตุ๋นไฟฟ้า!”พร้อมกันนั้น มู่จี่เซียนก็หันหลังกลับและเดินออกจากบ้านไป
หลังจากที่มู่จี่เซียนจากไป หวังหยู่ก็ยืนขึ้นและยืดหลังของเขาก่อนที่จะออกไปที่ระเบียงและต่อยเสาอีกครั้ง เพียงแค่เขาจะกลับไปยังห้องของเขา เด็กสาวทั้งสี่ก็ออกมาจากห้องของพวกเธอ
เมื่อเห็นเด็กสาวทั้งสี่คนนิ่งเงียบและเดินอย่างเศร้าหมองออกมาจากห้องและขึ้นไปนั่งบนโซฟาด้านนอก นั้นก็ทำให้หวังหยู่สงสัยและถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเธอถึงขมวดคิ้วกันละ? ระวังไว้ละกันว่าพวกเธอจะไม่กลายเป็นลิง!”
เมื่อใช้เวลาเป็นอย่างมากกับพวกอันธพาลในนิกายซวนเฉินนั้นก็ทำให้หวังหยู่รู้วิธีการล้อเลียนมากยิ่งขึ้น
“อ๊า….พวกเราไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว…..เกมนี้มันยากเกินไปจริงๆ…”แมรี่ถอนหายใจอย่างผิดหวัง
“พวกเธอยังหาหากิลด์ใหม่ไม่สำเร็จอีกเหรอ?”หวังหยู่ถามขึ้นอีกครั้ง
คำพูดของหวังหยู่นั้นทำให้ทั้งสี่คนที่ได้ยินและเกรี้ยวกราด “เฮ้! ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าปากของคุณจะหยาบคายขนาดนี้ คุณเจ้าของบ้าน!”แมรี่บ่น
“ถ้ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นละก็บอกผมมาได้เลย ผมจะไปช่วยพวกเธอจัดการมันเอง!”หวังหยู่หัวเราะแบบสบายๆ
เมื่อฟังคำพูดของหวังหยู่แล้วเด็กสาวทั้งสี่คนก็เริ่มที่จะดีขึ้นในทันทีและพูด “โอ้ใช่ คุณเจ้าของบ้าน นิกายซวนเฉินนั้นสามารถที่จะทำเควสป้องกันสำนักงานใหญ่ได้สำเร็จ ดังนั้นเรื่องเล็กๆแบบนี้มันคงไม่เป็นปัญหากับคุณเจ้าของบ้าน!”
“เช่นนั้นแหละ พี่สาวซัวนั้นได้รับเควสลับมา แต่มันยากเกินไปจริงๆ..... พวกเราสี่คนไม่สามารถที่จะท้าทายมันได้เลย…”แมรี่ตอบอย่างซื่อสัตย์
เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังหยู่ก็เข้าใจมันในทันที ดังนั้นมันก็เป็นเควสลับนี่เอง!
{REBIRTH} นั้นถูกรู้จักกันดีว่าเป็นโลกที่สองที่มีอาชีพสร้างมากมาย
สำหรับผู้เชี่ยวชาญการเล่นเกมนั้น หลี่ซัวและคนที่เหลือก็ไม่ได้จดจ่อไปกับการหาเงิน ด้วยเหตุนี้นี่เอง พวกเธอทั้งสี่คนก็มีอาชีพสร้างของพวกเธอเอง
อาชีพหลักของหลี่ซัวนั้นคือนักบวชและอาชีพสร้างของเธอคือหมอยา เควสที่พวกเธอนั้นพยายามที่จะทำให้สำเร็จในครั้งนี้มาจาก NPCที่ไม่เคยพูด ใครจะไปคิดว่าเมื่อเขาเปิดปากออกมาเขาจะให้เควสลับระดับตำนานกัน
รางวัลสุดท้ายของเควสนั้นก็เป็นอะไรบางอย่างที่หลี่ซัวนั้นก็ไม่รู้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของเควสนั้น NPCนี้ก็ให้ อุปกรณ์ระดับเงินที่ชื่อ “จอบยา” แก่หลี่ซัว ดังนั้นนในอนาคตรางวัลของมันก็สามารถที่จะจินตนาการได้
โชคร้ายที่พวกเธอนั้นมีความแข็งแกร่งที่จำกัดอย่างมากและล้มเหลวในส่วนแรกของเนื้อเรื่องเควสระดับสอง พวกเธอพยายามแล้วพยายามอีกตลอดช่วงเช้าและก็ล้มเหลวเควสนี้ไปถึงสี่ครั้ง! หลี่ซัวนั้นคิดที่จะยอมแพ้เควสนี้แล้วด้วยซ้ำ
“โอ้เป็นแบบนั้นนี่เอง ทำไมพวกเธอถึงไม่มาหาผมละ? พวกเธอพิจารณาว่าผมเป็นคนนอกงั้นเหรอ? ผมเป็นส่วนหนึ่งของกุล่มฟาร์มเงินนะ จำได้ไหม?”หวังหยู่หัวเราะ
“แต่คุณกำลังป้องกันสำนักงานกิลด์อยู่….ดังนั้น…”หลี่ซัวพึมพำอย่างอึดอัด
“โอ้ววว โอเค ถ้าอย่างงั้นก็มาหาผมถ้าพวกเธอเข้าเกมไปในครั้งหน้า!”
“พี่ไม่มีสิ่งอื่นที่จะทำอย่างงั้นเหรอ?”หลี่ซัวถาม ถึงแม้ว่าหลี่ซัวนั้นจะไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญแบบหวังหยู่ในอดีตนั้นเป็นอย่างไร แต่เธอก็รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแบบเขานั้นจะยุ่งมาก
“มันก็เป็นเพียงแค่เกมแล้วทำไมมันจะยุ่งกันละ? ปัญหาของเธอก็คือปัญหาของผม ไม่สำคัญหรอกว่าผมนั้นยุ่งแค่ไหน มันก็ไม่สำคัญ! โอเคไหม? เพียงแค่ส่งข้อความหาผมเมื่อพวกเธอเข้าเกม!”
เมื่อพูดเสร็จหวังหยู่ก็หันกลับและเดินเข้าห้อง
พร้อมกับการสนับสนุนและความมั่นใจที่ให้มาจากหวังหยู่ อารมณ์ของเด็กสาวทั้งสี่คนก็ดีขึ้น
แมรี่กอดหลี่ซัวและหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข “คุณเจ้าของบ้านนี่เป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดในสถานการณ์แบบนี้เลย!”
“ใช่! ใช่! ไม่เพียงแค่เป็นผู้ชายเพียงแค่คนเดียวในบ้าน!”เมิ่งเมิ่งและเซี่ยวหยี่ยิ้มพร้อมกัน
“ชายเพียงแค่คนเดียว…”หลี่ซัวพึมพำกับตัวเองแล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้น
เมื่อเห็นการแสดงออกของเธอ ที่เหลือก็ถามอย่างมึนงง “พี่ใหญ่เป็นอะไร? พี่โอเคไหม?”
“ไม่....ไม่มีอะไรผิดปกติ! รีบหาอะไรกินและเข้าเกมกันเถอะ ผู้เชี่ยวชาญแบบพี่ชายหยู่นั้นไม่มีเวลาให้เสียอย่างไร้ค่าแบบนี้หรอก! พวกเราไม่สามารถให้เขารอเรานานได้!”หลี่ซัวสั่ง