ตอนที่แล้วChapter 47: กิลด์ที่พิลึกที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 49: เควสลับ

Chapter 48: ผมก็จะบดขยี้กระโหลกของนายยังไงละ!!


ในสำนักงานกิลด์นั้นห้องประชุมนั้นมีอะไรที่โดดเด่นเพิ่มเข้ามาพร้อมกับ NPC ที่มีชื่อว่า “ผู้จัดการกิลด์” ยืนอยู่ตรงมุมของทางเข้า

NPCคนนี้นั้นซ่อนตัวเองเป็นอย่างดีและเขาก็มีลักษณะที่หยาบคาย เมื่อเขาเห็นคนทั้งแปดเดินเข้ามา เขาก็รีบทักทายจากที่ห่างไกล “นักรบที่น่านับถือจากนิกายซวนเฉิน ยินดีกับชัยชนะของพวกท่านด้วย ฉันเป็นผู้จัดการสำหรับที่แห่งนี้ มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยเหลือพวกคุณหรือไม่?”

“พวกเรามาที่นี่เพื่อรับรางวัล”ไร้ความกลัวหยุดเดินและอธิบาย

ผู้จัดการกิลด์ก็พยักหน้าและตอบกลับ “พวกคุณได้กำราบกลุ่มโจรร้ายและสำหรับนักรบที่กล้าหาญในเมืองรัตติกาลนั้น ท่านเจ้าเมืองก็จะให้รางวัลแก่พวกคุณ….”

หลังจากที่เขาพูดเสร็จ แสงสว่างสีขาวก็ล้อมรอบทั้งแปดคนและทุกคนก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ

{แจ้งเตือนระบบ : เควสป้องกันสำนักงานใหญ่นั้นประสบความสำเร็จ ระดับเพิ่มขึ้น 1 ระดับ และคุณจะได้รับค่าคุณธรรม 50 หน่วยและ เงิน 20 เหรียญทอง }

{ แจ้งเตือนระบบ : รางวัลได้เพิ่มเข้าไปในกระเป๋า แต้มคงเหลือ 0 แต้ม ระบบนั้นไม่รับผิดชอบการสูญเสียรางวัลเนื่องจากไม่มีช่องเก็บของเพียงพอ }

หลังจากที่ทุกคนจ้องหน้ากันอย่างกระวนกระวายใจ พวกเขาก็รีบวิ่งไปยังกระเป๋าของพวกเขาที่ตั้งอยู่

“พวกนายได้อะไรกัน?”หมิงตู่นั้นยิ้มอย่างน่าเกลียด

เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา ทุกคนก็รู้ว่าเขากำลังจะเริ่มการโอ้อวดแล้ว สุดท้ายแล้วในกลุ่มพวกเขานั้น หมิงตู่ก็มีแต้มเป็นอันดับสองรองมาจากหวังหยู่เพียงคนเดียว

ในกลุ่มพวกเขาแล้ว ขุนนางครอทเป็นคนเดียวที่ไม่คุ้นเคยกับลักษณะของหมิงตู่และก็ตกลงไปในกับดักของเขาในทันที

เขาก็ยิ้มออกมาและชี้ไปที่หมวกที่อยู่บนหัวของเขาและตอบกลับ “ฉันได้ไอ้นี่มา…”

หลังจากนั้นเขาก็ส่งรูปภาพไปในแชทกิลด์

{หมวกป้องกัน (หมวก) (เกราะลำตัว)}

พลังป้องกันกายภาพ : 27-35

ค่าต้านทานเวทย์มนต์ : 27-35

เซ็ตชุดปกป้อง 2/3

โบนัสเซ็ต:

โล่ปกป้อง : 1/1

หมวกปกป้อง : 1/1

เกราะขาปกป้อง : 0/1

ผลกระทบ

[พละกำลัง] (ติดตัว) : เพิ่มพลังชีวิตถาวร 500 หน่วย (ปลดล็อค)

[ทนทาน] (ติดตัว) : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและต้านทานเวทย์ขึ้น 15% (ปลดล็อค)

[พลังแห่งการปกป้อง] : สวมใส่โล่ป้องกันเป็นเวลา 4 วินาที พลังชีวิตของโล่นั้นจะขึ้นอยู่กับ 10% ของพลังชีวิตเต็มของคุณ หลังจากเวลาสี่วินาที โล่จะระเบิดออกมาและทำให้ศัตรูรอบข้างลดความเร็วลง 40% (ล็อค)

เมื่อทุกคนเห็นอุปกรณ์นี้ ทุกคนก็อุทานขึ้น “ไม่เลวเลย ไม่เลว!”

อุปกรณ์ที่มีค่าต้านทานเวทย์นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากและนี่ก็เป็นชิ้นส่วนของเซ็ตอีกด้วย ในช่วงเวลานี้ของเกมนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เหมือนกับเป็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์

“ถ้าพวกเราได้ชิ้นส่วนที่สามในอนาคต พวกเราจะให้นาย”ทุกคนประกาศ

“ขอบคุณมากทุกคน ผมพึ่งได้รับเบาะแสเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่สามมา สิ่งที่ผมจะต้องทำก็คือทำเควสให้สำเร็จและชุดเซ็ตนี้ก็จะสมบูรณ์!”ขุนนางครอทหัวเราะ

“ดังนั้นระบบให้อะไรกับนาย? แสดงให้พวกเราเห็นด้วยซิ..”ขุนนางครอทหันไปถามหมิงตู่

หมิงตู่หัวเราะและสายฟ้าสีน้ำเงินก็เริ่มมารวมกันมือด้านซ้านอันว่างเปล่าของเขา ในชั่วพริบตา หอกสายฟ้ายาวก็ปรากฏขึ้น

เวทย์สายฟ้านั้นมีทำให้เห็นได้อย่างน่าตกตะลึงและเสียงประกอบของมันนั้นก็ดังกึกก้อง แม้กระทั่งหมิงตู่ที่ใบหน้าอันแปลกประหลาดก็ถูกฝังไว้ภายใต้แสงสว่าง

“สกิลที่ใช้ได้สองมืองั้นเหรอ?!!!”

ผู้คนรอบข้างนั้นก็ประหลาดใจ

หมิงตู่ก็ยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย

“เฮะเฮะ นี่คือ [หอกสายฟ้า] มันเป็นสกิลรองอย่างหลอกๆ....แต่สกิลนี้มันน่ากลัวกว่าเนื่องจากมันทำความเสียหายที่มากกว่า [เรียกสายฟ้า] และแม้กระทั่งมันยังมีความสามารถในการเจาะเกราะอีกด้วย”

“ว้าว นั่นเป็นสมบัติที่เสียของอะไรแบบนั้น”คนอื่นก็ถอนหายใจพร้อมกัน

มันมีความแตกต่างระหว่างสกิลรองแบบหลอกๆกับของจริง สกิลรองแบบหลอกๆนี้สามารถที่จะใช้ได้ในมือที่ไม่มีอาวุธ แต่เมื่อมันถูกใช้ ผลกระทบของอุปกรณ์ก็ไม่ได้เพิ่มมันเข้าไปด้วย ซึ่งมันก็ทำให้เหมือนใช้ตอนที่ [เปลือย] อยู่

อย่างไรก็ตาม [หอกสายฟ้า] นั้นทำความเสียหายมากกว่า [เรียกสายฟ้า] ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงสามารถที่จะถูกพิจารณาได้ว่ามันเท่ากับสกิลรอง ยิ่งไปกว่านั้น [หอกสายฟ้า] นั้นสามารถที่จะเจาะศัตรูอีกด้วย ซึ่งมันก็หมายความว่าเป็นสกิลหมู่แบบเส้นตรงซึ่งมันทำให้น่าประทับใจอย่างมาก

“แล้วพวกนายที่เหลือละ?”หมิงตู่สอบถาม

[แทงด้วยกล้ามเนื้อ] ดาบน้ำแข็งตอบกลับ

[แทงด้วยกล้ามเนื้อ] (ใช้งาน) : ทำความเสียหาย 140% ทำให้เป้าหมายนั้นพิการ ความเร็วของเป้าหมายนั้นลดลง 30% ใน [หลบซ่อน] ความเสียหายเพิ่มขึ้น 20% เมื่อโจมตีจากด้านหลัง ความเสียหายเพิ่มขึ้น 30% ความเสียหายสามารถสแต็คได้

ความต้องการของอาชีพ : นักฆ่า

“ไม่เลวเลย! ไม่เลว! พร้อมกับสกิลนี้ ดาบน้ำแข็งก็สามารถฆ่าคนอื่นได้เพียงการฟันครั้งเดียว!”

กริชของดาบน้ำแข็งนั้นพัฒนา [หลบซ่อน] และเขาก็เรียนรู้สกิล [ความเชี่ยวชาญในการโจมตีด้านหลัง] ดังนั้นหลังจากที่ได้ [แทงด้วยกล้ามเนื้อ] นั้นสามารถที่จะสแต็คดาเมจได้ แม้กระทั่งขุนนางครอทที่เป็นผู้พิทักษ์ก็จะโดนลดพลังชีวิตจนอยู่ในขั้นอันตรายหลังจากโดนสกิลนี้

เมื่อเปรียบเทียบกับหมิงตู่และสกิลของดาบน้ำแข็งแล้ว รางวัลของคนอื่นนั้นก็ดูด้อยค่า

โบซอนได้เกราะระดับเงินที่มีผลกระทบเพิ่มเติม [โจมตีฉับพลัน]

ความทระนงตัได้คู่ถุงมือระดับเงินซึ่งเพิ่มความเร็วการโจมตี 30% และไร้ความกลัวนั้นได้รองเท้าหนึ่งคู่ที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่มันจะมีค่าอะไรกับเขา?

รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นโชคร้ายมากกว่าทุกคนเมื่อเขาได้รับคทาของหมอผี ซึ่งคทาที่เขาใช้อยู่นั้นเป็นรางวัลจากการทำภารกิจลับได้สำเร็จและมันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้นี่เองคทาของหมอผีอันนี้จึงไร้ประโยชน์

แม้ว่ามันจะถูกตั้งประมูล มันก็จะตั้งได้ในราคาที่ต่ำ สุดท้ายแล้ว ใน {REBIRTH} หมอผีนั้นเป็นอาชีพที่หาได้ยาก แม้กระทั่งเมื่อเปรียบเทียบกับนักต่อสู้

“กระทิงเหล็ก แล้วนายละ?”สุดท้ายแล้วพวกเขาถามหวังหยู่

หวังหยู่จ้องไปที่พวกเขาและยกเท้าของเขาขึ้นและกระทืบพื้นรัวๆ มันก็ก็แสงสว่างขึ้นตามมาและสิ่งต่อมาที่ทุกคนรู้ก็คือพวกเขากระเด็นถอยหลัง

“นี่คืออะไรกัน?!”ทั้งกลุ่มมึนงง พวกเขาไม่เคยรู้ว่านักต่อสู้นั้นมีสกิลหมู่แบบนี้

หวังหยู่พูด

“[การเหยียบย่ำของเทพเจ้าสายฟ้า]! สกิลเพียงหนึ่งเดียวของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้! มันทำความเสียหาย 180% ในรัศมี 100เมตรและทำให้กระเด็นขึ้นและมีผลกระทบที่ทำให้กระเด็นถอยหลัง ถ้าพวกนายเป็นศัตรูละก็พวกนายก็คงกลับไปยังจุดเกิดแล้วในตอนนี้!”

“ความเสียหายหมู่และ สกิลที่ทำให้สถานะผิดปกติเป็นหมู่??”ไร้ความกลัวอุทาน

“ผมคาดว่าอย่างงั้นนนะ!”หวังหยู่พยักหน้า

โบซอนยกนิ้วโป้งของเขาให้

“อาชีพลับแม่งทรงพลังเกินไป!”

ใน {REBIRTH} นอกจากอาชีพหมอผี ไม่มีอาชีพใดภายใต้ระดับสามสิบที่มีสกิลหมู่ ไม่รวมสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป

ถึงแม้ว่าสกิลหมู่ของหมอผี [บิดเบือน] มันจะสามารถนับเป็นสกิลที่ทำให้เกิดสถานะผิดปกติแบบหมู่ก็ตามแต่มันไม่ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม [บิดเบือน] นั้นเป็นสกิลที่โดดเด่นของหมอผี

ถึงแม้ว่าใครคนหนึ่งจะมีระดับสูงสุดก็ตาม สกิลหมู่ที่ทำให้เกิดสถานะผิดปกติ [บิดเบือน] นี้ก็ไม่ตกยุค ไฮไลท์ก็คือมันแสดงถึงความสำคัญของสกิลหมู่

หวังหยู่นั้นอาชีพนักต่อสู้ระยะปะชิดและมันก็ทำความเสียหายได้เยอะมาก

อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่สกิลนี้เป็นเป็นสกิลหมู่ที่ทำความเสียหายได้อย่างดี มันยังคงมีสกิลที่ทำให้ติดสถานะเป็นหมู่ได้อีกด้วย เชี่ย นั่นหมายความว่าเขาสามารถที่จะทำหน้าที่แทนนักเวทย์ได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน?

“มันไม่ได้มีประโยชน์มากมายในการโจมตีบนพื้นดินใช่ไหม?”ความทระนงที่เป็นนักต่อสู้พูด

ในเกม {REBIRTH} มันไม่มีสกิลไหนในเกมที่สามารถจะบดขยี้คนอื่นได้จนไม่มีทางสู้ ถึงแม้ว่าสกิลเทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำนี้ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก ระยะการโจมตีของมันก็แค่ร้อยเมตร แล้วใครจะเข้าไปใกล้นักต่อสู้อย่างไม่มีเหตุผลกัน? สกิลนี้นั้นมีประสิทธิภาพเมื่อเป้าหมายนั้นกำลังนอนอยู่บนพื้นเท่านั้น

หวังหยู่พูด “แต่ความทระนงตัว ทั้งนายและโบซอนก็รู้ศิลปะการต่อสู้และใช้โหมดอิสระ แต่พวกนายก็ยังคงคิดว่าพวกนายยังใช้โหมดช่วยเหลืออยู่!”

“พวกเรายังคิดว่าพวกเราใช้โหมดช่วยเหลืออยู่งัน้เหรอ?”

“ใช่ ตั้งแต่ที่นายใช้โหมดอิสระ นายก็ควรที่จะเลิกทำตามที่ระบบนั้นบอกในสกิลของระบบ แต่นายจะต้องพึ่งปฏิกิริยาของนายเพื่อทำให้เกิดสกิลของระบบ ถ้านายเพียงแค่ทำตามสกิลระบบ ละก็มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมากและนายก็จะไม่มีทางปลดปล่อยพลังของโหมดอิสระได้อย่างเต็มที่”หวังหยู่ตอบกลับ

“มันมีข้อแตกต่างระหว่างการทำตามสกิลของระบบและการพึ่งปฏิกิริยาเพื่อให้ระบบอนุญาตให้ใช้งาน?”

“แน่นอน!”หวังหยู่ก้าวเท้าเข้าหาความทระนงตัวและใช้ [หมัดกระแทก] ในขณะที่ความทระนงตัวนั้นรีบยืดมือออกมาเพื่อป้องกันตัวของเขาเอง

หวังหยู่ก็ยกเลิกหมัดกระแทกและใช้มืออีกข้างนึงจับไปที่มือของความทระนงตัวและบิดมัน ความทระนงตัวก็ล้มกระแทกลงกับพื้นและหวังหยู่ก็ยกเท้าของขึ้นและเล็งไปที่หัวของความทระนงตัว

ความทระนงตัวก็ตื่นตระหนกและตะโกนอย่างน่าสงสาร “โอ้ยย!!”

เท้าของหวังหยู่นั้นอยู่ห่างกับหัวของความทระนงตัวเพียงแค่หนึ่งเซนติเมตรและเขาก็ถามขึ้น “นายเข้าใจมันยัง?”

“ใช่…ใช่!”วามทระนงตัวและพยักหัวรัวๆ

ในเกมนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีสกิลที่ทำให้ผู้คนกระเด็นไปได้ ในโหมดอิสระมันก็ทำให้ทำได้เหมือนกันกับสกิลชองชีวิตจริง

ในวันก่อนหน้านี้ ความทระนงตัวนั้นพึ่งปฏิกิริยาของเขาและสกิลของระบบในการเล่นเกม เขาไม่เคยมีความคิดจะเอาความสามารถในโลกจริงมาใช้ในเกม พร้อมกับวิธีการเล่นของเขาในตอนนี้ เขานั้นก็แค่เร็วขึ้นและแข็งแกร่งกว่าคนอื่นเล็กน้อย และมีการพัฒนาที่น้อยนิด

หลังจากถูกสอนบทเรียนโดยหวังหยู่แล้ว ทุกคนก็ตื่นเต้นและมีความคิดขึ้นมาในหัว “หรือว่าฉันควรที่จะลองใช้โหมดอิสระด้วยเหมือนกัน?”

ความทระนงตัวถามหวังหยู่ด้วยความลังเล “ลุงกระทิง จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปถ้าลุงใช้ [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำ] ?”

หวังหยู่ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ “ผมก็จะบดขยี้กระโหลกของนายยังไงละ!!!”

เมื่อฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ กลุ่มทั้งกลุ่มก็พูดไม่ออกและมองไปที่หวังหยู่ด้วยความหวาดกลัวและคิดกับตัวเองว่า “นี่มันโหดร้ายเกินไป…”

*****ขอเปลี่ยน พลังป้องกันเวทย์มนต์เป็น ค่าต้านทานเวทย์มนต์แทนนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด