Chapter 48: ผมก็จะบดขยี้กระโหลกของนายยังไงละ!!
ในสำนักงานกิลด์นั้นห้องประชุมนั้นมีอะไรที่โดดเด่นเพิ่มเข้ามาพร้อมกับ NPC ที่มีชื่อว่า “ผู้จัดการกิลด์” ยืนอยู่ตรงมุมของทางเข้า
NPCคนนี้นั้นซ่อนตัวเองเป็นอย่างดีและเขาก็มีลักษณะที่หยาบคาย เมื่อเขาเห็นคนทั้งแปดเดินเข้ามา เขาก็รีบทักทายจากที่ห่างไกล “นักรบที่น่านับถือจากนิกายซวนเฉิน ยินดีกับชัยชนะของพวกท่านด้วย ฉันเป็นผู้จัดการสำหรับที่แห่งนี้ มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยเหลือพวกคุณหรือไม่?”
“พวกเรามาที่นี่เพื่อรับรางวัล”ไร้ความกลัวหยุดเดินและอธิบาย
ผู้จัดการกิลด์ก็พยักหน้าและตอบกลับ “พวกคุณได้กำราบกลุ่มโจรร้ายและสำหรับนักรบที่กล้าหาญในเมืองรัตติกาลนั้น ท่านเจ้าเมืองก็จะให้รางวัลแก่พวกคุณ….”
หลังจากที่เขาพูดเสร็จ แสงสว่างสีขาวก็ล้อมรอบทั้งแปดคนและทุกคนก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ
{แจ้งเตือนระบบ : เควสป้องกันสำนักงานใหญ่นั้นประสบความสำเร็จ ระดับเพิ่มขึ้น 1 ระดับ และคุณจะได้รับค่าคุณธรรม 50 หน่วยและ เงิน 20 เหรียญทอง }
{ แจ้งเตือนระบบ : รางวัลได้เพิ่มเข้าไปในกระเป๋า แต้มคงเหลือ 0 แต้ม ระบบนั้นไม่รับผิดชอบการสูญเสียรางวัลเนื่องจากไม่มีช่องเก็บของเพียงพอ }
หลังจากที่ทุกคนจ้องหน้ากันอย่างกระวนกระวายใจ พวกเขาก็รีบวิ่งไปยังกระเป๋าของพวกเขาที่ตั้งอยู่
“พวกนายได้อะไรกัน?”หมิงตู่นั้นยิ้มอย่างน่าเกลียด
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา ทุกคนก็รู้ว่าเขากำลังจะเริ่มการโอ้อวดแล้ว สุดท้ายแล้วในกลุ่มพวกเขานั้น หมิงตู่ก็มีแต้มเป็นอันดับสองรองมาจากหวังหยู่เพียงคนเดียว
ในกลุ่มพวกเขาแล้ว ขุนนางครอทเป็นคนเดียวที่ไม่คุ้นเคยกับลักษณะของหมิงตู่และก็ตกลงไปในกับดักของเขาในทันที
เขาก็ยิ้มออกมาและชี้ไปที่หมวกที่อยู่บนหัวของเขาและตอบกลับ “ฉันได้ไอ้นี่มา…”
หลังจากนั้นเขาก็ส่งรูปภาพไปในแชทกิลด์
{หมวกป้องกัน (หมวก) (เกราะลำตัว)}
พลังป้องกันกายภาพ : 27-35
ค่าต้านทานเวทย์มนต์ : 27-35
เซ็ตชุดปกป้อง 2/3
โบนัสเซ็ต:
โล่ปกป้อง : 1/1
หมวกปกป้อง : 1/1
เกราะขาปกป้อง : 0/1
ผลกระทบ
[พละกำลัง] (ติดตัว) : เพิ่มพลังชีวิตถาวร 500 หน่วย (ปลดล็อค)
[ทนทาน] (ติดตัว) : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและต้านทานเวทย์ขึ้น 15% (ปลดล็อค)
[พลังแห่งการปกป้อง] : สวมใส่โล่ป้องกันเป็นเวลา 4 วินาที พลังชีวิตของโล่นั้นจะขึ้นอยู่กับ 10% ของพลังชีวิตเต็มของคุณ หลังจากเวลาสี่วินาที โล่จะระเบิดออกมาและทำให้ศัตรูรอบข้างลดความเร็วลง 40% (ล็อค)
เมื่อทุกคนเห็นอุปกรณ์นี้ ทุกคนก็อุทานขึ้น “ไม่เลวเลย ไม่เลว!”
อุปกรณ์ที่มีค่าต้านทานเวทย์นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากและนี่ก็เป็นชิ้นส่วนของเซ็ตอีกด้วย ในช่วงเวลานี้ของเกมนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เหมือนกับเป็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์
“ถ้าพวกเราได้ชิ้นส่วนที่สามในอนาคต พวกเราจะให้นาย”ทุกคนประกาศ
“ขอบคุณมากทุกคน ผมพึ่งได้รับเบาะแสเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่สามมา สิ่งที่ผมจะต้องทำก็คือทำเควสให้สำเร็จและชุดเซ็ตนี้ก็จะสมบูรณ์!”ขุนนางครอทหัวเราะ
“ดังนั้นระบบให้อะไรกับนาย? แสดงให้พวกเราเห็นด้วยซิ..”ขุนนางครอทหันไปถามหมิงตู่
หมิงตู่หัวเราะและสายฟ้าสีน้ำเงินก็เริ่มมารวมกันมือด้านซ้านอันว่างเปล่าของเขา ในชั่วพริบตา หอกสายฟ้ายาวก็ปรากฏขึ้น
เวทย์สายฟ้านั้นมีทำให้เห็นได้อย่างน่าตกตะลึงและเสียงประกอบของมันนั้นก็ดังกึกก้อง แม้กระทั่งหมิงตู่ที่ใบหน้าอันแปลกประหลาดก็ถูกฝังไว้ภายใต้แสงสว่าง
“สกิลที่ใช้ได้สองมืองั้นเหรอ?!!!”
ผู้คนรอบข้างนั้นก็ประหลาดใจ
หมิงตู่ก็ยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย
“เฮะเฮะ นี่คือ [หอกสายฟ้า] มันเป็นสกิลรองอย่างหลอกๆ....แต่สกิลนี้มันน่ากลัวกว่าเนื่องจากมันทำความเสียหายที่มากกว่า [เรียกสายฟ้า] และแม้กระทั่งมันยังมีความสามารถในการเจาะเกราะอีกด้วย”
“ว้าว นั่นเป็นสมบัติที่เสียของอะไรแบบนั้น”คนอื่นก็ถอนหายใจพร้อมกัน
มันมีความแตกต่างระหว่างสกิลรองแบบหลอกๆกับของจริง สกิลรองแบบหลอกๆนี้สามารถที่จะใช้ได้ในมือที่ไม่มีอาวุธ แต่เมื่อมันถูกใช้ ผลกระทบของอุปกรณ์ก็ไม่ได้เพิ่มมันเข้าไปด้วย ซึ่งมันก็ทำให้เหมือนใช้ตอนที่ [เปลือย] อยู่
อย่างไรก็ตาม [หอกสายฟ้า] นั้นทำความเสียหายมากกว่า [เรียกสายฟ้า] ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงสามารถที่จะถูกพิจารณาได้ว่ามันเท่ากับสกิลรอง ยิ่งไปกว่านั้น [หอกสายฟ้า] นั้นสามารถที่จะเจาะศัตรูอีกด้วย ซึ่งมันก็หมายความว่าเป็นสกิลหมู่แบบเส้นตรงซึ่งมันทำให้น่าประทับใจอย่างมาก
“แล้วพวกนายที่เหลือละ?”หมิงตู่สอบถาม
[แทงด้วยกล้ามเนื้อ] ดาบน้ำแข็งตอบกลับ
[แทงด้วยกล้ามเนื้อ] (ใช้งาน) : ทำความเสียหาย 140% ทำให้เป้าหมายนั้นพิการ ความเร็วของเป้าหมายนั้นลดลง 30% ใน [หลบซ่อน] ความเสียหายเพิ่มขึ้น 20% เมื่อโจมตีจากด้านหลัง ความเสียหายเพิ่มขึ้น 30% ความเสียหายสามารถสแต็คได้
ความต้องการของอาชีพ : นักฆ่า
“ไม่เลวเลย! ไม่เลว! พร้อมกับสกิลนี้ ดาบน้ำแข็งก็สามารถฆ่าคนอื่นได้เพียงการฟันครั้งเดียว!”
กริชของดาบน้ำแข็งนั้นพัฒนา [หลบซ่อน] และเขาก็เรียนรู้สกิล [ความเชี่ยวชาญในการโจมตีด้านหลัง] ดังนั้นหลังจากที่ได้ [แทงด้วยกล้ามเนื้อ] นั้นสามารถที่จะสแต็คดาเมจได้ แม้กระทั่งขุนนางครอทที่เป็นผู้พิทักษ์ก็จะโดนลดพลังชีวิตจนอยู่ในขั้นอันตรายหลังจากโดนสกิลนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับหมิงตู่และสกิลของดาบน้ำแข็งแล้ว รางวัลของคนอื่นนั้นก็ดูด้อยค่า
โบซอนได้เกราะระดับเงินที่มีผลกระทบเพิ่มเติม [โจมตีฉับพลัน]
ความทระนงตัได้คู่ถุงมือระดับเงินซึ่งเพิ่มความเร็วการโจมตี 30% และไร้ความกลัวนั้นได้รองเท้าหนึ่งคู่ที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่มันจะมีค่าอะไรกับเขา?
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นโชคร้ายมากกว่าทุกคนเมื่อเขาได้รับคทาของหมอผี ซึ่งคทาที่เขาใช้อยู่นั้นเป็นรางวัลจากการทำภารกิจลับได้สำเร็จและมันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้นี่เองคทาของหมอผีอันนี้จึงไร้ประโยชน์
แม้ว่ามันจะถูกตั้งประมูล มันก็จะตั้งได้ในราคาที่ต่ำ สุดท้ายแล้ว ใน {REBIRTH} หมอผีนั้นเป็นอาชีพที่หาได้ยาก แม้กระทั่งเมื่อเปรียบเทียบกับนักต่อสู้
“กระทิงเหล็ก แล้วนายละ?”สุดท้ายแล้วพวกเขาถามหวังหยู่
หวังหยู่จ้องไปที่พวกเขาและยกเท้าของเขาขึ้นและกระทืบพื้นรัวๆ มันก็ก็แสงสว่างขึ้นตามมาและสิ่งต่อมาที่ทุกคนรู้ก็คือพวกเขากระเด็นถอยหลัง
“นี่คืออะไรกัน?!”ทั้งกลุ่มมึนงง พวกเขาไม่เคยรู้ว่านักต่อสู้นั้นมีสกิลหมู่แบบนี้
หวังหยู่พูด
“[การเหยียบย่ำของเทพเจ้าสายฟ้า]! สกิลเพียงหนึ่งเดียวของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้! มันทำความเสียหาย 180% ในรัศมี 100เมตรและทำให้กระเด็นขึ้นและมีผลกระทบที่ทำให้กระเด็นถอยหลัง ถ้าพวกนายเป็นศัตรูละก็พวกนายก็คงกลับไปยังจุดเกิดแล้วในตอนนี้!”
“ความเสียหายหมู่และ สกิลที่ทำให้สถานะผิดปกติเป็นหมู่??”ไร้ความกลัวอุทาน
“ผมคาดว่าอย่างงั้นนนะ!”หวังหยู่พยักหน้า
โบซอนยกนิ้วโป้งของเขาให้
“อาชีพลับแม่งทรงพลังเกินไป!”
ใน {REBIRTH} นอกจากอาชีพหมอผี ไม่มีอาชีพใดภายใต้ระดับสามสิบที่มีสกิลหมู่ ไม่รวมสกิลที่หาไม่ได้ทั่วไป
ถึงแม้ว่าสกิลหมู่ของหมอผี [บิดเบือน] มันจะสามารถนับเป็นสกิลที่ทำให้เกิดสถานะผิดปกติแบบหมู่ก็ตามแต่มันไม่ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม [บิดเบือน] นั้นเป็นสกิลที่โดดเด่นของหมอผี
ถึงแม้ว่าใครคนหนึ่งจะมีระดับสูงสุดก็ตาม สกิลหมู่ที่ทำให้เกิดสถานะผิดปกติ [บิดเบือน] นี้ก็ไม่ตกยุค ไฮไลท์ก็คือมันแสดงถึงความสำคัญของสกิลหมู่
หวังหยู่นั้นอาชีพนักต่อสู้ระยะปะชิดและมันก็ทำความเสียหายได้เยอะมาก
อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่สกิลนี้เป็นเป็นสกิลหมู่ที่ทำความเสียหายได้อย่างดี มันยังคงมีสกิลที่ทำให้ติดสถานะเป็นหมู่ได้อีกด้วย เชี่ย นั่นหมายความว่าเขาสามารถที่จะทำหน้าที่แทนนักเวทย์ได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน?
“มันไม่ได้มีประโยชน์มากมายในการโจมตีบนพื้นดินใช่ไหม?”ความทระนงที่เป็นนักต่อสู้พูด
ในเกม {REBIRTH} มันไม่มีสกิลไหนในเกมที่สามารถจะบดขยี้คนอื่นได้จนไม่มีทางสู้ ถึงแม้ว่าสกิลเทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำนี้ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก ระยะการโจมตีของมันก็แค่ร้อยเมตร แล้วใครจะเข้าไปใกล้นักต่อสู้อย่างไม่มีเหตุผลกัน? สกิลนี้นั้นมีประสิทธิภาพเมื่อเป้าหมายนั้นกำลังนอนอยู่บนพื้นเท่านั้น
หวังหยู่พูด “แต่ความทระนงตัว ทั้งนายและโบซอนก็รู้ศิลปะการต่อสู้และใช้โหมดอิสระ แต่พวกนายก็ยังคงคิดว่าพวกนายยังใช้โหมดช่วยเหลืออยู่!”
“พวกเรายังคิดว่าพวกเราใช้โหมดช่วยเหลืออยู่งัน้เหรอ?”
“ใช่ ตั้งแต่ที่นายใช้โหมดอิสระ นายก็ควรที่จะเลิกทำตามที่ระบบนั้นบอกในสกิลของระบบ แต่นายจะต้องพึ่งปฏิกิริยาของนายเพื่อทำให้เกิดสกิลของระบบ ถ้านายเพียงแค่ทำตามสกิลระบบ ละก็มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมากและนายก็จะไม่มีทางปลดปล่อยพลังของโหมดอิสระได้อย่างเต็มที่”หวังหยู่ตอบกลับ
“มันมีข้อแตกต่างระหว่างการทำตามสกิลของระบบและการพึ่งปฏิกิริยาเพื่อให้ระบบอนุญาตให้ใช้งาน?”
“แน่นอน!”หวังหยู่ก้าวเท้าเข้าหาความทระนงตัวและใช้ [หมัดกระแทก] ในขณะที่ความทระนงตัวนั้นรีบยืดมือออกมาเพื่อป้องกันตัวของเขาเอง
หวังหยู่ก็ยกเลิกหมัดกระแทกและใช้มืออีกข้างนึงจับไปที่มือของความทระนงตัวและบิดมัน ความทระนงตัวก็ล้มกระแทกลงกับพื้นและหวังหยู่ก็ยกเท้าของขึ้นและเล็งไปที่หัวของความทระนงตัว
ความทระนงตัวก็ตื่นตระหนกและตะโกนอย่างน่าสงสาร “โอ้ยย!!”
เท้าของหวังหยู่นั้นอยู่ห่างกับหัวของความทระนงตัวเพียงแค่หนึ่งเซนติเมตรและเขาก็ถามขึ้น “นายเข้าใจมันยัง?”
“ใช่…ใช่!”วามทระนงตัวและพยักหัวรัวๆ
ในเกมนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีสกิลที่ทำให้ผู้คนกระเด็นไปได้ ในโหมดอิสระมันก็ทำให้ทำได้เหมือนกันกับสกิลชองชีวิตจริง
ในวันก่อนหน้านี้ ความทระนงตัวนั้นพึ่งปฏิกิริยาของเขาและสกิลของระบบในการเล่นเกม เขาไม่เคยมีความคิดจะเอาความสามารถในโลกจริงมาใช้ในเกม พร้อมกับวิธีการเล่นของเขาในตอนนี้ เขานั้นก็แค่เร็วขึ้นและแข็งแกร่งกว่าคนอื่นเล็กน้อย และมีการพัฒนาที่น้อยนิด
หลังจากถูกสอนบทเรียนโดยหวังหยู่แล้ว ทุกคนก็ตื่นเต้นและมีความคิดขึ้นมาในหัว “หรือว่าฉันควรที่จะลองใช้โหมดอิสระด้วยเหมือนกัน?”
ความทระนงตัวถามหวังหยู่ด้วยความลังเล “ลุงกระทิง จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปถ้าลุงใช้ [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำ] ?”
หวังหยู่ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ “ผมก็จะบดขยี้กระโหลกของนายยังไงละ!!!”
เมื่อฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ กลุ่มทั้งกลุ่มก็พูดไม่ออกและมองไปที่หวังหยู่ด้วยความหวาดกลัวและคิดกับตัวเองว่า “นี่มันโหดร้ายเกินไป…”
*****ขอเปลี่ยน พลังป้องกันเวทย์มนต์เป็น ค่าต้านทานเวทย์มนต์แทนนะครับ