เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 178 ขาว ดำ เทา
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 178 ขาว ดำ เทา
นานมาแล้ว ในหัวใจของฟางเจิ้ง ฟางหยวนดุจดั่งขุนเขาที่เขาไม่สามารถปีนป่าย
นานมาแล้ว ฟางเจิ้งคิดว่าเงามืดของภูเขาลูกนี้จะปกคลุมเขาไปตลอดชีวิต
แต่สวรรค์ทำให้ชีวิตเขาพลิกกลับโดยไม่คาดคิดด
ฟางหยวนล้มลงทำให้ฟางเจิ้งเห็นจุดอ่อนเป็นเหตุให้ภูเขาในหัวใจของเขายุบตัวลงทันที
แต่ทั้งหมด...
มันเป็นเพียงการแสดงของพี่ใหญ่ของเขางั้นหรือ?
เวลานี้ภูเขาที่เคยยุบตัวลงกลับถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆหมอกที่หนาทึบ
'พี่ใหญ่ ท่านเป็นคนเช่นไรกันแน่?'
ฟางเจิ้งรู้สึกว่าตนเองไม่รู้จักพี่ชายร่วมสายเลือดของเขาอีกต่อไป
ในใจของฟางหยวนเต็มไปด้วยแผนการที่ลึกซึ้ง ด้วยทักษะการแสดงและความไม่แยแสต่อชีวิตมนุษย์ของเขา ฟางเจิ้งรู้สึกว่ามีช่องว่างที่ห่างไกลระหว่างพวกเขา
ความรู้สึกเลวร้ายหวนกลับเข้าสู่หัวใจของเขาอีกครั้ง
เขาพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อฝืนยิ้มรับกับความรู้สึกเลวร้ายนี้ทำให้เขาติดตามไท่รั่วหนานไปโดยไม่รู้ตัว
"คุณหนูไท่ ท่านทำให้ข้าได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพี่ใหญ่ การช่วยท่านก็เหมือนกับการช่วยตัวข้าเอง ดังนั้นหากมีคำถามใด ข้าจะบอกทุกสิ่งที่ข้ารู้" ฟางเจิ้งกล่าวอย่างจริงจัง
ไท่รั่วหนานพยักหน้าก่อนจะส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว "สิ่งที่ข้าต้องการรู้ ข้าได้รู้แล้ว แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือ ฟางหยวนนำหนอนสุรามาจากที่ใด?"
"ท่านกล่าวได้ถูกแล้ว เรื่องนี้น่าสงสัย ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น พี่ใหญ่ยังไม่ได้รับมรดกของครอบครัว ในเวลาเดียวกันเขาก็มีพรสวรรค์เพียงนภาที่สามตั้งแต่เริ่มต้น แล้วเขานำหนอนสุรามาจากที่ใด?" ฟางเจิ้งขมวดคิ้ว
"ในสถานการณ์นี้ มีอยู่สองกรณ๊ หนึ่งคือความช่วยเหลือจากภายนอก และอีกหนึ่งคือการรับสืบทอดมรดก แต่ผู้ใดจะลงทุนกับผู้มีพรสวรรค์นภาที่สาม? หากเป็นมรดก แล้วมันเป็นมรดกของผู้ใด?" ไท่รั่วหนานหยุดเท้าลงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
รับสืบทอดมรดก...รับสืบทอดมรดก...
คำๆนี้ปรากฏขึ้นในใจของเธอและทำให้เขาจมอยู่ในห้วงความคิดของตน
'หากมันเป็นการรับสืบทอดมรดก ทุกสิ่งจะสามารถอธิบาย หนึ่ง มันเป็นที่มาของหนอนสุรา สอง มันเป็นเหตุผลที่เจียจินเฉิงถูกฆ่า!' ไท่รั่วหนานตื่นเต้นเมื่อคิดได้เช่นนี้
มันสามารถเป็นแรงจูงใจในการฆ่าและเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผล
ฟางหยวนแสดงหนอนสุราออกมาและเจียจินเฉิงต้องการซื้อ ฟางหยวนปฏิเสธ แต่หากเจียจินเฉิงยังไม่ยอมแพ้และติดตามเขาไปกระทั่งได้พบมรดกสืบทอดบางอย่าง...
แล้วฟางหยวนจะทำอย่างไร?
"ฮ่าฮ่าฮ่า..." ไท่รั่วหนานหัวเราะ
ฟางเจิ้งจ้องมองด้วยความงุนงง
ไท่รั่วหนานมองไปยังฟางเจิ้ง "ข้าต้องการตรวจสอบบันทึกประวัติศาสตร์ของตระกูลแสงจันทร์"
ฟางเจิ้งส่ายศีรษะพร้อมโบกมือ "มันถูกเก็บไว้ในเขตหวงห้าม แล้วคนนอกจะสามารถตรวจสอบได้อย่างไร?"
"แล้วเจ้าสามารถเข้าไปหรือไม่?"
ฟางเจิ้งส่ายศีรษะอีกครั้ง "มีเพียงผู้อาวุโสที่สามารถเข้าไป"
"เป็นเช่นนั้น...แล้วเราสามารถทำสิ่งใดได้บ้างในเวลานี้?" ไท่รั่วหนานขมวดคิ้ว
"คุณหนูไท่ บางทีข้าอาจช่วยได้" เสียงชราภาพของหญิงแก่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เธอไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเหยาจี้
ตำแหน่งผู้อาวุโสห้องโถงพยายามของเธอถูกแทนที่ด้วยผู้อาวุโสซื่อซ่ง นอกจากนี้เธอยังสูญเสียแขน พลังอำนาจของเธอสูญหายไปแทบหมดสิ้น
แต่ความโหยหาอำนาจยังฝังแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของเธอ เธอเข้าใจดีว่าความรวมมือกับซื่อซ่งเป็นเพียงทางออกชั่วคราวเท่านั้น วิธีเดียวที่จะทำให้เธอได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสห้องโถงพยายามกลับคืนมาคือการกลืนกินฝ่ายสกุลโม่
การกลืนกินฝ่ายสกุลโม่ แน่นอนว่าคือการทำลายความหวังของพวกเขาและความหวังของพวกเขาก็คือฟางหยวน
"คุณหนูไท่ กล่าวตามตรง ข้าได้สังเกตการณ์พวกท่านมาระยะหนึ่งแล้ว มากันข้า ข้าจะนำทางเข้าไปในเขตหวงห้ามของตระกูล ฮี่ฮี่ ปกติแล้วที่นั่นจะได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่นน แต่บังเอิญว่าตอนนี้ข้าเป็นผู้รับผิดชอบในการปกป้องเขตหวงห้ามของตระกูลแสงจันทร์ โฮะโฮะโฮะโฮะ" เหยาจี้หัวเราะด้วยเสียงชั่วร้าย
เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการทำร้ายฟางหยวนทางอ้อม แต่หากพวกเขาไร้เดียงสาเกินไป เธอก็จะใส่ร้ายฟางหยวนเสียเองด้วยวิธีการที่ชั่วร้ายของเธอ
ห้องลับในถ้ำใต้พิภพ ไท่รั่วหนานจ้องมองบันทึกประวัติศาสตร์ของตระกูลแสงจันทร์
ตั้งแต่ยุคแรกหลังจากตระกูลแสงจันทร์ถูกต่อตั้งตลอดจนถึงยุคทองและยุคเสื่อมถอย ข้อมูลในช่วงไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมาถูกบันทึกเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่หรือเหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ พวกมันก็ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด
"ผู้นำตระกูลรุ่นแรกมีเบื้องหลังที่ลึกลับ สามารถก่อตั้งตระกูลแสงจันทร์ด้วยตัวเขาเพียงลำพัง เขาจะต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจ!" ไท่รั่วหนานกล่าวออกมาด้วยความตกใจ
"มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีผู้ใช้วิญญาณปีศาจมากมาย หลังจากล้มป่วยหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขามักจะหาสถานที่ลงหลักปักฐานเพื่อสืบทอดสายเลือด หลังจากไม่กี่ร้อยปีผ่านไป สายเลือดปีศาจจะสูญสิ้น ทายาทรุ่นหลังของเขาจะกลายเป็นฝ่ายธรรมะ สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วไป มันถือเป็นเรื่องปกติ" ไท่เซี่ยเล้งที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าว
"แล้วการกระทำความผิดก่อนหน้าทั้งหมดจะต้องปล่อยผ่านงั้นหรือ?" ไท่รั่วหนานแสดงความไม่พอใจออกมา "ผู้ใช้วิญญาณปีศาจก่ออาชญากรรมเอาไว้มากมาย แต่เมื่อถึงเวลาเกษียณ พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุข นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีเกินไปสำหรับพวกเขางั้นหรือ?"
ไท่เซี่ยเล้งถอนหายใจ "รั่วหนาน ตอนที่ข้าอายุเท่ากับเจ้า ข้าก็ไม่ต่างจากเจ้า ข้าคิดว่าโลกใบนี้มีเพียงสีขาวกับสีดำ แต่หลังจากได้เห็นโลกมากขึ้น เจ้าจะพบว่าแท้จริงแล้วโลกใบนี้เป็นสีเทา หลายครั้งสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาว สีขาวกลายเป็นสีดำ บางทีสีขาวยังชั่วร้ายและกระทั่งผิดบาปมากกว่าสีดำ"
"ผู้ใช้วิญญาณปีศาจมีความคับข้องใจของตนเอง ผู้ใช้วิญญาณฝ่ายธรรมะจะควบคุมทรัพยากรทั้งหมด ขณะที่ผู้ใช้วิญญาณปีศาจถูกกีดกัน พวกเขาจึงต้องพึ่งพาวิธีที่รุนแรงเท่านั้น เช่นเดียวกับผู้นำตระกูลรุ่นแรก เขาสามารถเปลี่ยนเส้นทางของตน นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อยเขาก็ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นอีก การเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาวทำให้เขาสามารถเดินร่วมทางไปกับฝ่ายธรรมะ"
ไท่เซี่ยเล้งอธิบายแต่ดูเหมือนไท่รั่วหนานจะยังไม่สามารถยอมรับ
เธอส่ายศีรษะ "ท่านพ่อ มันไม่ถูกต้องที่ท่านเห็นใจผู้ใช้วิญญาณปีศาจ ขาวก็คือขาว ดำก็คือดำ พวกเขาควรได้รับโทษกับความผิดบาปที่พวกเขาก่อขึ้น เมื่อทำลายกฎ พวกเขาก็ต้องรับโทษ หากไม่ แล้ว ความยุติธรรมจะอยู่ที่ใด กฎจะสามารถยืนอยู่ได้อย่างไร?"
"นี่ไม่ใช่ความเห็นอกเห็นใจ ทุกที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ที่นั่นย่อมมีผลประโยชน์ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นจะมีอาชญากรรมเกิดขึ้น ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงอยู่ อาชญากรรมจะเกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด เด็กน้อย แล้วเจ้าจะเข้าใจในที่สุด ความแข็งแกร่งของคนผู้เดียวไม่มีนัยสำคัญ" เสียงของไท่เซี่ยเล้งเต็มไปด้วยประสบการณ์ขณะเดียวกันมันก็แฝงไว้ด้วยความโศกเศร้า "เอาล่ะ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวถึง เจ้าควรให้ความสำคัญกับการไขคดีนี้เป็นอันดับแรก"
"ทราบแล้ว ท่านพ่อ" ไท่รั่วหนานตอบรับแต่เธอยังไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของบิดา
คนหนุ่มสาวมักต้องการเปลี่ยนโลก แต่หลังจากพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาก็จะพบว่าคนเพียงผู้เดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของคนทั้งโลก
หลังจากชั่วครู่
"ผู้นำตระกูลรุ่นที่สี่...นักบวชปีศาจสุราดอกไม้...หนอน...หนอนสุรา?" ดวงตาของเธอส่องประกายสว่างไสวเมื่อพบสิ่งนี้...
สายฟ้าแล่นผ่านคมเขี้ยวที่แหลมคมและสะท้อนแสงอันเย็นเยียบออกมา
กรงเล็บของฝูงหมาป่าสายฟ้ากวาดผ่านอากาศตรงมายังไป่หนิงปิง แต่เขาก็ไม่มีความคิดที่หลบเลี่ยง
ทันใดนั้นแสงสีรุ่งถูกยิงออกมาจากทะเลวิญญาณของเขาราวกับสายฝนก่อนที่อสรพิษขาวจะปรากฏกายขึ้น
ต่อหน้าวิญญาณระดับห้า หมาป่าสายฟ้าคลั่งถึงกับหดหางและต้องการหลบหนีทันที
แต่อสรพิษขาวกลับเปิดปากและพ่นหมอกควันสีขาวออกมา
ควันสีขาวดูเหมือนจะเชื่องช้าแต่มันกลับปกคลุมร่างกายของหมาป่าสายฟ้าคลั่งได้อย่างรวดเร็ว
วิสัยทัศน์ของหมาป่าสายฟ้าคลั่งถูกปกคลุมไปด้วยควันสีขาวทำให้มันเร่งล่าถอย แต่ไม่ว่ามันจะวิ่งไปที่ใด ควันสีขาวก็ยังตามติดมันราวกับเงาตามตัว
ความสามารถของนางพญางูขาวก็คือกลุ่มก้อนควันสีขาวเหล่านี้ เมื่อมันปกคลุมอยู่รอบตัวศัตรู พวกมันหรือพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด
กระทั่งหมาป่าสายฟ้าที่มีสายตาอันยอดเยี่ยมยังไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อประสาทสัมผัสที่มีประโยชน์ที่สุดของมันไม่สามารถใช้งาน มันจึงยิ่งตื่นตระหนกและทำให้มันวิ่งชนต้นไม้หรือกำแพงหินตลอดเวลา
"อะวู้..."
มันเปิดปากและยิงบอลสายฟ้าออกไป
บอลสายฟ้าตรงมายังไป่หนิงปิงโดยไม่คาดคิด แต่เขากลับไม่มีความตั้งใจหลบหนี
"เปรี้ยง!"
บอลสายฟ้าทะลวงผ่านหน้าอกของไป่หนิงปิงอย่างแม่นยำ
ไป่หนิงปิงก้มหน้าลงมองรูบนหน้าอกที่ทะลุไปจนถึงด้านหลัง แต่มันกลับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งก่อนจะกลายเป็นเลือดเนื้อของเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
'นี่คือความสามารถที่แท้จริงของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด ข้าคือน้ำแข็งและน้ำแข็งก็คือข้า บาดแผลที่เกิดการผู้ใช้วิญญาณทั่วไปจะถูกกู้คืนภายในเวลาไม่กี่วินาที' ไป่หนิงปิงคิดพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นมาพิจารณา
แขนขวาที่เคยขาดหายไปถูกกู้คืนมาด้วยความสามารถของสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดเรียบร้อยแล้ว
"นางพญางูขาวตระหนักถึงสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด ดังนั้นมันจึงเข้าไปอยู่ในทะเลวิญญาณของข้า สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดจะดึงดูดวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับธาตุน้ำให้เข้ามาหาข้า....แข็งแกร่งอย่างที่สุด แต่ก็เปราะบางอย่างมากเช่นกัน"
ไป่หนิงปิงถอนหายใจ
หลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้สะกดข่มการบ่มเพาะของตน เป็นเหตุให้สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็รู้สึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามาเช่นกัน
"กระทั่งวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถทำสิ่งใดงั้นหรือ?" เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้นำตระกูลไป่เดินมาหยุดอยู่ด้านข้างไป่หนิงปิง
ไป่หนิงปิงส่ายศีรษะ "งูตัวนี้ไม่ยอมรับข้า มันเพียงเปลี่ยนที่อยู่จากน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติมายังทะเลวิญญาณของข้าด้วยแรงดึงดูดจากกายาน้ำแข็งแห่งความมืดเท่านั้น แต่เมื่อใดที่ข้าตกอยู่ในอันตราย มันจะออกมาปกป้องบ้านของมัน"
นางพญางูขาวไม่ได้ถูกปรับแต่งโดยไป่หนิงปิง ดังนั้นความสามารถของมันจึงถูกจำกัด
เช่นเดียวกับสถานการณ์ก่อนหน้า บอลสายฟ้าของหมาป่าสายฟ้าคลั่งรวดเร็วเกินไป มันจึงไม่สามารถออกมาป้องกันได้ทันกาล
แต่หากกล่าวไปแล้วในความเป็นจริงนางพญางูขาวก็ไม่ใช่วิญญาณสายป้องกัน
ผู้นำตระกูลไป่ถอนหายใจ เขารู้สึกเสียใจและเสียดายแทนไป่หนิงปิง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทำได้อีก
"ถูกต้อง ผลการตรวจสอบตระกูลซ่งออกมาแล้ว พวกเขาเก็บรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้มากกว่าครึ่ง เราไม่สามารถประมาทพวกเขา อย่างไรก็ตามในที่สุดสามตระกูลก็ตกลงที่จะตัดสินกันด้วยการต่อสู้แข่งขันและมีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าร่วมการแข่งครั้งนี้"
"ข้าเข้าใจ" ไป่หนิงปิงพยักหน้า "จุดจบของข้าใกล้เข้ามาแล้ว หากสามารถต่อสู้จนถึงที่สุด นั่นคงทำให้ข้ามีความสุขมาก ขอบคุณท่านผู้นำ"
"นี่เป็นเรื่องของตระกูลเช่นกัน" การแสดงออกของผู้นำตระกูลไป่เผยให้เห็นถึงความอึดอัดใจ แท้จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเขาที่เอ่ยปากเสนอต่อที่ประชุมของสามตระกูล ทั้งหมดก็คือเขาต้องการบีบเค้นผลประโยชน์จากไป่หนิงปิงออกมาจนถึงหยดสุดท้าย
แต่ความกตัญญูของไป่หนิงปิงมาจากหัวใจที่แท้จริงของเขา
นางพญางูขาวไม่มีการเคลื่อนไหว นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้โชคดีได้รับมรดกจากผู้นำรุ่นแรก ขณะที่ชีวิตของเขากำลังจะสูญสิ้น แล้วเขายังต้องเกรงกลัวสิ่งใด?
ไป่หนิงปิงได้พบเส้นทางของเขาแล้ว แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เขายังไม่สามารถปล่อยมือ
"ฟางหยวน การแข่งขันของสามตระกูล เจ้าคงเข้าร่วมใช่หรือไม่? อย่าทำให้ข้าผิดหวัง เพราะตอนนี้ข้าแข็งแกร่งมากจริงๆ..."