บทที่ 23: อิทธิฤทธิ์ของอสนีวารี
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
บทที่ 23: อิทธิฤทธิ์ของอสนีวารี
ไข่มุกโปร่งแสงถูกผ่าครึ่งกลางอากาศพร้อมหล่นใส่โขดหินอย่างแม่นยำ หลังจากที่มันสัมผัสกันจึงเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณโขดหินโดยรอบ ในรัศมีหนึ่งร้อยฟุตถูกแรงระเบิดทำลายย่อยยับ หลังจากที่ฝุ่นได้จางหายไป เจ้าอ้วนไม่เชื่อสายตาตนเองว่าเหล่าโขดหินสูงหนึ่งร้อยฟุตนั้นจะเหลือเพียงตอ ความรุนแรงเช่นนี้เปรียบได้กับพลังของผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ เพียงแค่ระดับเซียนเทียนนั้นไม่สามารถสร้างพลังโจมตีที่รุนแรงเท่านี้ได้
ในตอนแรกเขาไม่รู้ความรุนแรงของมัน แต่เมื่อเห็นอานุภาพของอสนีวารีขั้วลบแล้วจึงรู้สึกเบิกบานใจ ก่อนอื่นเลยนี่เป็นเพียงบอลสายฟ้าเพียงลูกเดียว หากถูกโยนพร้อมกันสักสิบลูก มันจะไม่ทำลายภูเขาลูกนี้ทั้งลูกเลยหรือ? ไม่น่าแปลกใจที่เขาว่ากันว่าผู้ฝึกตนเวทสายฟ้านั้นถูกขนานนามว่าเป็นผู้ก่อการร้ายมากที่สุดในบรรดาผู้ฝึกตนทั้งหมด เพราะว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้รุนแรงเกินจะกล่าว
แม้ว่าผู้ฝึกตนสายฟ้าจะแข็งแกร่ง แต่ว่ากระบวนการที่จะฝึกมันนั้นซับซ้อนจนเกินไป ถ้าหากว่าเจ้าอ้วนมิได้ไปบังเอิญพบเข้าก็ไม่มีทางที่จะได้เรียนรู้เคล็ดวิชาอสนีวารีอย่างแน่นอน
ประการแรกเคล็ดวิชานี้หาได้ยาก ซึ่งไม่สามารถหาได้โดยทั่วไป ถัดมาคือความอันตรายระหว่างการฝึกฝน หากเจ้าอ้วนไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งคงถูกระเบิดเป็นชิ้นไปแล้ว
โดยปกติแล้วผู้ฝึกตนจะต้องอยู่ในระดับปฐมภูมิหรือระดับจินตันก่อนจึงจะสามารถฝึกฝนเวทสายฟ้าได้ และขณะที่ฝึกฝนพวกเขาจะต้องกระทำอย่างรัดกุมที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอันตรายใด ๆ ถ้าหากผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนต้องการที่จะฝึกมัน เขาจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยปกป้องอยู่ข้าง ๆ แน่นอนว่าจะต้องเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งเท่านั้น ซึ่งผู้ฝึกตนทั่วไปนั้นลืมเรื่องนี้ไปได้เลย ด้วยความโชคดีและโชคร้ายของเจ้าอ้วน เขาได้เรียนรู้เคล็ดวิชานี้โดยบังเอิญ จากนี้ต่อไปเจ้าอ้วนสามารถกล่าววาจาได้เต็มปากว่า ‘ข้าจะครองโลกใบนี้ด้วยสายฟ้าในมือ’
อสนีวารีขั้วลบนั้นได้สร้างพลังใจให้กับเจ้าอ้วน เขารีบกลับไปยังหุบเหวเพื่อจะฝึกฝนสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ต่อ ประโยชน์ของมันไม่ใช่เพียงเพราะมันแข็งแกร่งเท่านั้น ที่สำคัญคือมันสามารถผลิตเก็บไว้ใช้เมื่อยามฉุกเฉินได้ เมื่อใดก็ตามที่ต้องการใช้มัน ก็เพียงแค่ทำการโยนออกไปเท่านั้น สิ่งที่เป็นข้อจำกัดมีเพียงอย่างเดียวคือ เมื่อมันถูกสร้างขึ้นจะมีพลังของเจ้าของประทับเอาไว้ ถ้าหากไม่ใช่เจ้าของมันก็จะไม่สามารถใช้งานได้ เขาจึงไม่อาจมอบให้เจ้าลิงไว้ใช้ป้องกันตน
หลังจากผ่านพ้นฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เวลาผ่านไปสามปีอย่างรวดเร็ว เจ้าลิงและเจ้าอ้วนยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำอย่างสันโดษ สองปีที่แล้วเจ้าลิงได้เข้าสู่ระดับเซียนเทียนพร้อมกลายเป็นผู้ฝึกตนอย่างเป็นทางการ มันได้เข้าเป็นศิษย์นอกของสำนักเสวียนเทียนและสลัดคราบสถานะคนรับใช้ออกไป
หลังจากที่ได้รับป้ายหยกยืนยันตน เจ้าลิงกล่าววาจาอย่างสบายใจคำพูดที่บอกถึงความกตัญญูได้ในประโยคเดียว “พี่น้องอ้วน ชีวิตที่เหลือของข้าในอนาคตขึ้นอยู่กับท่าน!” นับตั้งแต่วันนี้ เจ้าอ้วนเป็นมิตรแท้เพียงหนึ่งเดียวของมัน
นอกเหนือจากนี้ หานหลิงเฟิงกับเจ้าอ้วนนั้นได้สร้างสัมพันธ์กันยาวนาน ทุก ๆ เดือนนางจะไปที่กระท่อมของเจ้าอ้วนเพื่อพบกัน นางไปที่นั่นในเวลากลางคืน หมายความว่าการฝึกฝนพลังของพวกเขาทั้งสองจะเติบโตไปพร้อมกัน ปราณปฐมวัยของเจ้าอ้วนจะเติบโตขึ้น ส่วนปราณจิตวิญญาณของหานหลิงเฟิงจะบริสุทธิ์ นี่คืออีกรูปแบบของการฝึกตนคู่
ทุกครั้งที่เจ้าอ้วนได้ช่วยหานหลิงเฟิงด้วยสิ่งที่เขามี การฝึกฝนของนางจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปสู่ระดับเซียนเทียนขั้นเจ็ด กล่าวอีกอย่างคือ นางเพิ่มไปสามขั้นในเวลาเพียงสามปี นี่คือความเร็วที่ผิดมนุษย์ หนึ่งคือหานหลิงเฟิงนั้นเข้าสู่ระดับเซียนเทียนมานานเจ็ดถึงแปดปี ตอนนั้นนางอยู่แค่ระดับเซียนเทียนขั้นสี่เท่านั้น กว่านางจะไต่ขึ้นระดับถัดไปต้องใช้เวลาถึงสองปี แต่หลังจากนางได้ฝึกตนคู่กับเจ้าอ้วน พัฒนาการของนางจึงเพิ่มขึ้นทุกปี
หานหลิงเฟิงไม่อาจพูดถึงข้อเท็จจริงในการฝึกตนคู่กับเจ้าอ้วนได้ นางจึงพยายามหาเหตุผลอื่นขึ้นมาแทนที่ และในความเป็นจริงเจ้าอ้วนก็ไม่อยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์กับนางเท่าใดนัก นั่นเป็นเพราะว่าหานหลิงเฟิงมีชื่อเสียงมากมายในบรรดาศิษย์นอก ศักดิ์เป็นถึงขุนนาง ทั้งพรสวรรค์และความงดงามของนางนับเป็นสิ่งที่คนรอบข้างจับตามอง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นางมีผู้คนมากมายหมายปองอยู่อย่างน้อยหลายสิบคนรวมทั้งเหล่าศิษย์ในด้วย
จากสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าอ้วนไม่ต้องการให้ผู้ใดมาจ้องมองเขาเพียงเพราะเขาได้ครอบครองความงามนั้น เขาต้องการจะรักษาความลับนี้ให้ถึงที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกัน แม้เวลาที่พบปะกันที่ด้านนอกยังไม่มีแม้แต่คำทักทายจึงเป็นบรรยากาศที่เย็นเยือก หานหลิงเฟิงก็แสดงตนว่ามองเจ้าอ้วนเป็นเพียงผู้ไร้พรสวรรค์ที่พยายามฝึกตนเท่านั้น
ดังนั้นในสายตาผู้อื่นจึงเปรียบเจ้าอ้วนและหานหลิงเฟิงเหมือนกับปฐพีและสวรรค์ชั้นฟ้า ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงภายใต้กระท่อมน้อยบนภูเขา องค์หญิงผู้สูงศักดิ์จะเปลือยกายอยู่ภายใต้เอวของเจ้าอ้วนที่กำลังเสพสังวาสกันอย่างรื่นรมย์
สำหรับเจ้าอ้วนแล้วเขาเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าท่าทีของเขานั้นดูคล้ายกับคนเหลวไหลและคล้ายคนมักมากในกาม แต่หากหลังจากได้ตรวจสอบมันอย่างใกล้ชิดจะทำให้รู้ว่าเจ้าอ้วนได้มาถึงระดับเซียนเทียนขั้นห้าแล้ว
เหตุผลที่เจ้าอ้วนสามารถฝึกตนได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากความช่วยเหลือของหานหลิงเฟิง มันเป็นการฝึกที่ฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี
ก่อนอื่นนั้นควรทราบว่าความเร็วในการฝึกตนจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเสียมาก เหล่าเงื่อนไขพิเศษพวกนั้นสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกตนได้มากมายถ้าหากใช้มันได้หลายร้อยครั้ง แต่ความต้องการนั้นมีมากจนเกินไปและค่าใช้จ่ายของมันก็สูงจนไม่อาจเอื้อมถึง
อย่างที่เจ้าอ้วนใช้มันตลอดเวลาที่เขาฝึกฝน เขามีทรัพยากรยาอายุวัฒนะที่ใช้ได้อีกนับสิบปี นอกเหนือจากยาเร่งองค์ประกอบทั้งห้าธาตุจะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน เขายังใช้ยาที่เพิ่มสัมผัสวิญญาณ ขยายช่องลมปราณ พละกำลัง และอื่น ๆ ซึ่งยาเหล่านี้มีราคาแพงมาก เจ้าอ้วนใช้เวลาในการทำสมาธิวันละแปดชั่วโมง ยาที่เขาได้กินเข้าไปมีมูลค่าเป็นหินจิตวิญญาณระดับต่ำจำนวนไม่น้อย
เขาจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นในหนึ่งวัน ยาเหล่านี้สำหรับผู้อื่นสามารถใช้ได้นานมากมายเพียงใด? ในครอบครัวใหญ่จะมอบมันให้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์เท่านั้น ลูกหลานคนอื่นจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับยาพวกนี้ได้
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับยา สภาพแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่มีราคาต้องจ่ายมาก อย่างแรกคือความหนาแน่นของปราณในสำนักเสวียนเทียนนั้นมันไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเหล่าผู้ฝึกตน นิกายจึงได้สร้างห้องโถงขนาดใหญ่ขึ้นมาห้าแห่ง เช่น โถงอัคคีเทวะ โถงวารีเทวะ และโถงพสุธาเทวะ ทุกพื้นที่ในห้องโถงจะมีรัศมีการสะสมปราณจิตวิญญาณอยู่ที่หนึ่งร้อยลี้ ศูนย์กลางของห้องโถงนั้นสร้างขึ้นมาจากวัสดุชั้นเยี่ยม ปราณจิตวิญญาณของธาตุทั้งห้าจะวนเวียนอยู่ภายในห้องโถง ประโยชน์ของการฝึกฝนสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์เพียงแค่คนที่รู้จักมัน
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างที่น่าอัศจรรย์นี้ใช้หินจิตวิญญาณมากมายนับล้านก้อน นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวัสดุอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถใช้หินจิตวิญญาณซื้อหามาได้ แม้ว่าหลังจากที่มันถูกสร้างขึ้นมาแล้วยังต้องใช้หินจิตวิญญาณอีกหลายหมื่นก้อนเพื่อให้มันทำงาน ดังนั้นแม้ว่าสำนักเสวียนเทียนจะมีความมั่งคั่งเพียงใดในการสร้างห้องโถงศักดิ์สิทธิ์ในภูเขาสามลูก ห้องโถงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้พร้อมรองรับคนนับหมื่นในการฝึกฝนในครั้งเดียว เพราะการเผชิญหน้ากับเหล่าสาวกนับพันในลานด้านในนั้นไม่เพียงพอ
สถานที่ดังกล่าวจะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้มากสองถึงสามเท่า แต่เงื่อนไขในการใช้มันเข้มงวดจนเกินไป เหล่าสาวกที่เป็นศิษย์ในเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาต ผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นศิษย์ในจำต้องจ่ายหินจิตวิญญาณจำนวนมากจึงจะมีสิทธิ์ใช้มัน
เจ้าอ้วนได้รับพรจากสวรรค์ เขาสามารถฝึกฝนในมิติลึกลับได้ ความหนาแน่นของปราณในมิติลึกลับนั้นหนาแน่นมากยิ่งกว่าโถงเทวะเสียอีก มันกลั่นปราณขององค์ประกอบทั้งห้าออกมาได้จากหินจิตวิญญาณ ดังนั้นสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงทำให้เจ้าอ้วนมีโอกาสที่ดีกว่าผู้อื่น