บทที่ 50 เล่นน้ำริมฝั่ง (อ่านฟรี)
เมื่อมาถึงโรงเรียน เฝิงหยู่เอาหนังสือแจ้งกำหนดการของเหวินตงจุนมาด้วย ใจจริงเขาอยากอยู่กับหลี่น่าให้นานกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่เธอต้องกลับถึงบ้านตอนเที่ยง
หลังจากที่เฝิงหยู่ขับรถจากไป บรรดาครูอาจารย์ต่างพากันพูดคุยซุบซิบ ครอบครัวของเด็กคนนี้ตกถังข้าวสารแน่ๆ ได้ยินมาว่าพี่สาวของเขามีแฟนร่ำรวยที่เมืองปิง! ดูรถที่เฝิงหยู่ขับสิ เหมือนกับรถที่ข้าราชการขับไม่มีผิด โดยเฉพาะครูหญิงทั้งหลายที่พากันทอดถอนใจกับชะตาชีวิตของพวกเธอ ทำไมพวกเธอหาแฟนร่ำรวยในเมืองไม่ได้บ้างนะ?
ในยุคสมัยนี้ ตราบใดที่มีความกล้า ยินดีที่จะทนทุกข์ลำบากได้ การทำธุรกิจย่อมมีรายได้มากกว่าการทำงานกินเงินเดือน! เฝิงหยู่คร้านจะมาสนใจกับคำพูดเหล่านี้ เขาขับรถไปส่งหลี่น่าที่บ้าน
“วันพรุ่งนี้เราไปเล่นน้ำที่ริมแม่น้ำ ฉันจะขับรถมารับเธอ” เฝิงหยู่พูดกับหลี่นา
"ไม่ได้หรอก พ่อแม่ของฉันคงไม่อนุญาตให้ไป" เธอตอบ
"ไม่ใด้ไปกันแค่พวกเราสักหน่อย ก็บอกไปว่าเป็นงานเลี้ยงรวมตัวเพื่อนร่วมชั้น พวกเราที่สอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายนั้นได้มีแค่สี่คนเท่านั้น ต่อไปพวกเราต้องดูแลพึ่งพากันและกัน เธอบอกพ่อแม่ไปตามนี้ พวกเขาต้องอนุญาตให้เธอไปอย่างแน่นอน ฉันจะไปชวนหลิวคุนด้วย" เฝิงหยู่กล่าว
หลี่น่าเองก็อยากจะออกไปเที่ยวเล่น เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยแล้วถามว่า "พรุ่งนี้กี่โมง?"
"ประมาณแปดโมงเช้าละกัน เราจะปิกนิกกันตอนเที่ยง ก่อนพลบค่ำฉันจะพาเธอกลับมาส่งที่บ้าน เอาตามนี้นะ" เฝิงหยู่ตอบ
เมื่อกลับถึงบ้าน หลี่น่าขออนุญาตแม่และพ่อโดยพูดตามที่เฝิงหยู่บอก พ่อแม่ก็เห็นด้วยจริงๆ ในภายหน้าเธอจะเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมในเมือง พวกเด็กๆต้องช่วยเหลือกันและกัน จะได้ไม่ถูกนักเรียนในเมืองมารังแก
เฝิงหยู่เชื้อเชิญหลิวคุน เขาก็ตอบตกลงด้วยเช่นกัน เขาค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าเฝิงหยู่จะขับรถจี๊ปมารับ เพราะเขาไม่เคยนั่งรถจี๊ปมาก่อน
"แม่คร้าบบ พ่อคร้าบบบ ผมกลับมาแล้ว!" เฝิงหยู่ตะโกนเมื่อมาถึงบ้าน
"โอ้ ลูกชายฉันกลับมาแล้ว ตอนเที่ยงกินอะไรมาหรือยัง อยากจะกินอะไรดี แม่จะได้ทำให้กิน" จางมู่วากล่าว เธอมีความสุขมากเมื่อได้เห็นเฝิงหยู่กลับมาบ้าน ลูกชายคนนี้ไปอยู่อยู่ที่เมืองเสียนาน เธอรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยกับการที่ไม่มีลูกชายอยู่เคียงข้างกาย
"ตอนเที่ยงกินก๋วยเตี๋ยวก็ได้ครับ ส่วนตอนเย็นเราจะกินเกี๊ยวกันดีไหมครับ?" เฝิงหยู่ถาม
"ได้สิ ลูกนั่งรอดูทีวีก่อน" จางมู่วาตอบ
"พ่อไปไหนเหรอครับ?" เฝิงหยู่ถาม
"เขาขับรถไปตกปลากับลุงซุนของลูก ตอนนี้เขามีรถจี๊ปเลยขี่ไปโม้ จับปลาได้แค่นั้น ยังไม่พอค่าน้ำมันเลย!" จางมู่วาตอบ
เฝิงหยู่ยิ้ม ค่าน้ำมันรถแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก เพราะยังไงเสีย จำนวนเงินที่เฝิงหยู่หาได้ในหนึ่งเดือน พ่อแม่ของเขาใช้จ่ายปีก็ยังไม่หมด!
ตอนบ่าย เฝิงหยู่นำหนังสือแจ้งกำหนดการมาให้เหวินตงจุน ทั้งสองคนเล่นเกมส์ซูเปอร์มาริโอบราเธอส์กันทั้งบ่าย เพราะลูกชายของตัวเองสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดของเมืองได้ เหวินเต๋อกวางจึงปล่อยให้พวกเขาเล่นกันอย่างตามใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น เฝิงหยู่ขับรถจี๊ปที่เติมน้ำมันเต็มถังแล้วไปรับเหวินตงจุน หลี่น่าและหลิวคุน แล้วขับรถไปที่ริมแม่น้ำ
เมื่อมาถึงที่แม่น้ำ เหวินตงจุนก็ถอดเสื้อใส่แต่กางเกงขาสั้น หยิบยางในล้อรถมา แล้วกระโดดพุ่งลงไปในน้ำ หลิวคุนก็ทำตาม ทั้งสองสองตีคลื่นในน้ำกันไม่หยุด สนุกสนานยิ่งนัก
เฝิงหยู่และหลี่น่าถือคันเบ็ดและตาข่ายและเดินไปที่อ่าวน้ำเพื่อตกปลา
แม่น้ำลำธาร, สายลมโชย, ต้นหญ้าพลิ้วไหว, สายน้ำไหล, ต้นหลิวสูงใหญ่ แสงแดดสาดส่อง
ทัศนียภาพนี้มีความสวยงามราวกับภาพวาด
หลี่น่านั่งเงียบๆอยู่ด้านข้างของเฝิงหยู่ เธอสวมชุดสีเหลืองสดใส บนหัวติดกิ๊ปผมสีชมพูซึ่งเฝิงหยู่มอบให้เมื่อวานนี้ เมื่อแสงแดดส่องมากระทบ กิ๊ปส่องแสงเป็นประกาย
สาวน้อยวัยแรกแย้มที่งดงามปรากฏสู่ภาพวาด ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับภาพวาดนี้ ทำให้เป็นภาพที่งดงามยิ่งขึ้น.....
ซัว!
น้ำถูกสาดเข้าใบหน้าของเฝิงหยู่ ความรู้สึกจินตนาการเมื่อครู่พังคลืนลง!
“ตกปลาอะไรกัน ลงมาเล่นน้ำ! น้ำไม่เย็นเลยสักนิด” เหวินตงจุนกล่าว
ท่าทางยิ้มแบบมีเลศนับของเหวินตงจุน เห็นแล้วน่ารำคาญจริงๆ
ซัว!
หลิวคุนก็สาดน้ำไปที่เฝิงหยู่ด้วยเช่นกัน เฝิงหยู่รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจชวนสองคนนี้มาเที่ยวด้วย
โดนสาดน้ำใส่หลายครั้ง เหมือนไปกระตุ้นต่อมโมโหของเฝิงหยุ่ เขาจึงถอดเสื้อผ้าออก สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว แล้วเดินเข้าไปในน้ำ พุ่งกระโดดจนน้ำกระเซ็นน้ำใส่ทั้งสองคน
สักพัก หลี่น่าก็เดินลงไปในน้ำ ช่วยเฝิงหยู่สาดน้ำใส่พวกของเหวินตงจุน
ชุดของหลี่น่าเปียกจนเกือบจะมองทะลุ เฝิงหยู่จึงรีบตะโกนให้หยุด เขาเดินมาบังด้านหน้าของหลี่น่า พร้อมบอกให้เธอกลับไปที่รถ เพื่อเปลี่ยนไปใส่ชุดที่เขาเอามาเปลี่ยน ส่วนกระโปรงที่เธอใส่ให้วางบนหลังคารถเพื่อตากให้แห้ง ชุดนี้เปียกจนแนบติดกับร่างกายของหลี่น่าแล้ว เฝิงหยู่สังเกตเห็น และเขาไม่อนุญาตให้คนอื่นเห็น
"มา ฉันจะสอนวิธีว่ายน้ำ" เฝิงหยู่ดึงลี่นาออกจากเจ้าเด็กโง่ทั้งสองคน การว่ายน้ำไม่เป็น ถือเป็นเรื่องอันตรายเมื่ออยู่ในน้ำ
หลี่นาเดินเข้าลงไปในน้ำอีกครั้ง เฝิงหยู่ค่อยๆพาเธอไปยังส่วนที่ลึกในแม่น้ำ เดินไปยังไม่ถึงจุดที่น้ำสูงเหนือคอเลย หลี่น่าก็จับแขนของเฝิงหยู่ไว้แน่น และไม่กล้าเดินต่อ
"เชื่อฉัน. ผ่อนคลายลง และค่อยๆยกเท้าขึ้น ฉันจะจับเธอไว้ " เฝิงหยู่กล่าว
หลี่น่าส่ายศีรษะ ถ้าเธอยกเท้าขึ้น เธอไม่ต้องสำลักน้ำเข้าไปหรือ?
เฝิงหยู่จึงลอยตัวทันที เงยหน้ามองหลี่น่า หลี่นาจับมือของเฝิงหยู่ไว้ไม่ได้ เท้าดิ่งลงด้านล้าน ทั้งร่างของเธอจึงจมลงไป
แต่เฝิงหยู่จับมือเอวของหลี่น่าด้วยมือทั้งสองข้าง ช่วยให้หลี่น่าลอยตัวหน้าแหงนขึ้นฟ้าอยู่บนผิวน้ำ
“ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ทั้งคน ดูสิ ง่ายดายมากใช่ไม? ตราบเท่าที่เธอไม่กลัว เธอจะสามารถลอยบนน้ำได้ ลืมแล้วหรือที่ครูเคยบอก น้ำหนักร่างกายมนุษย์น้อยกว่าความหนาแน่นของน้ำ ดังนั้น เราจึงสามารถลอยตัวได้” เฝิงหยู่กล่าว
หลี่น่าจึงหยุดตะเกียกตะกายทั้งมือและเท้า เธอค่อยๆผ่อนคลายลง และเธอพบว่าตัวเองลอยอยู่ในน้ำได้แล้ว!
"แต่ฉันจะพลิกตัวได้อย่างไร?" เธอถาม
"ค่อยๆบิดเอวอย่างช้าๆ ฉันจะพยุงตัวเธอเอาไว้ ไม่ต้องกังวล " เฝิงหยู่กล่าว
เมื่อเฝิงหยูจับเอวของเธอ มือของเขาเคลื่อนไปโดนก้นของหลี่น่าอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอสะดุ้ง พลิกตัวได้ครึ่งหนึ่ง ก็พลิกกลับไปลอยตัวแหงนหน้าเหมือนเดิม
"ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เฝิงหยู่กล่าว
"ไม่เป็นไร" หลี่นาปิดตาลง แล้วพูดเบาๆ
ไม่เป็นไร? เฝิงหยู่กระพริบตา นี่เป็นกำลังใจใช่หรือเปล่า?
ซัว!
มีน้ำสาดใส่หัวของเฝิงหยู่อีกครั้ง!
"สองคนนี้มาแอบทำอะไรกันที่นี่ มาเล่นด้วยกันสิ! "
เจ้าบ้าเหวินตงจุนนี่เข้ามาขัดอีกครั้ง!
"ฉันกำลังสอนหลี่น่าว่ายน้ำ นายไปเล่นก่อนเถอะ เดี่ยวพวกเราจะตามไปร่วมวง! " เฝิงหยู่ตะโกนบอกในขณะที่เช็ดน้ำออกจากใบหน้า
"อย่างนายเนี่ยนะจะสอนว่ายน้ำ? อย่างฉันสิถึงจะเรียกว่าเทพ! ไม่อยากจะโม้เลย ตอนสามขวบฉันก็ว่ายน้ำเป็นแล้ว พอห้าขวบฉันก็อาบน้ำในแม่น้ำ ใครๆก็เรียกฉันว่า "มัจฉาขาวแห่งวารี" เหวิตงจุนกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
ว่ายน้ำด้วยยางด้านในล้อรถ ยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็น "มัจฉาสีขาวแห่งวารี"?
เฝิงหยู่ชี้ไปด้านหลังของเหวินตงจุน แล้วตะโกนว่า "รีบหนี มีงูน้ำอยู่!"
เหวินตงจุนตกใจร้องเสียงหลงอย่างหวาดกลัว ตะเกียกตะกายว่ายน้ำเป็นหนึ่งนาที ตีคลื่นสูงกว่าเดิม แต่เขาว่ายน้ำไปได้ไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ
เฝิงหยู่ยิ้มเยาะเหวิตงจุน"แม้เต่ายังว่ายเร็วกว่านายเลย แบบนี้ยังเรียกว่ามัจฉาขาวแห่งวารีได้อีกเหรอ?”
หลิวคุนดูออก จึงว่ายน้ำมาทางเหวินตงจุน กล่าวว่า "เฝิงหยู่แกล้งนายต่างหาก ไม่มีงูน้ำอะไรนั่นหรอก ไปกัน แถวนั้นมีแหตกกุ้ง (ตาข่ายกับดัก ไว้ตกปลากุ้ง) พวกเราไปยกแหกัน "
เฝิงหยู่หันไปมองหลี่น่า แล้วลูบมือ: "มา ฉันจะสอนเธอว่ายน้ำต่อ"
"ฉันเหนื่อยแล้ว นายดึงฉันขึ้นไปหน่อย ฉันจะล้างเชอร์รี่และพลัม พวกเราจะได้มากินกัน " หลี่นากล่าว
ปั๊ดโท่! มันเป็นความผิดของเหวินตงจุนที่ขวางแผนการของฉัน!
เฝิงหยู่พยุงหลี่น่าให้กลับมายืน ทั้งสองคนเดินกลับไปที่ฝั่ง
หลี่น่าเดินไปที่ด้านหลังของรถจี๊ป หยิบชุดของเธอที่ตากไว้จนแห้งดีแล้วกลับมาใส่อีกครั้ง จากนั้น เธอนำผลไม้ไปล้างที่ริมแม่น้ำ ส่วนเฝิงหยุ่กลับไปที่แหล่งตกปลาแล้วดึงคันเบ็ดขึ้น แต่เหยื่อถูกกินไปแล้ว
โชคดีที่เหวินตงจุนและหลิวคุนขโมยปลาในแหดักปลา แม้ว่าปลาจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เพียงพอสำหรับพวกเขา พวกเขาใช้น้ำมันจุดไฟ แล้วเริ่มย่างปลาโดยใช้กิ่งไม้ขนาดเล็กเสียบ ทั้งสี่คนกินปลาย่างด้วยกัน
นอกจากปลาย่างแล้ว ยังมีแฮมย่าง เนื้อแกะย่าง หอยย่าง และกุ้งย่าง ทั้งสี่คนกินกันอย่างเอร็ดอร่อยจนปากมันเยิ้ม
หลังจากที่อิ่มแล้วพวกเขาก็เอนตัวนอนบนพื้นหญ้า แเริ่มพูดถึงความฝันและความทะเยอทะยานของพวกเขา
"ฉันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ จะได้คิดค้นสิ่งใหม่ๆมากมาย และฉันอยากจะสร้างจรวด " หลิวคุนพูดเสียงดัง
“เป็นนักวิทยาศาสตร์น่าเบื่อจะตาย ฉันอยากเป็นข้าราชการ ถ้าฉันได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ฉันจะดูแลพวกนายเอง!” เหวินตงจุนกล่าว
หลี่นายิ้ม และพูดว่า "ฉันอยากเป็นครูเหมือนอาจารย์ซุน ฉันต้องการช่วยผู้ที่ไม่อาจศึกษาเล่าเรียนต่อได้ "
เฝิงหยู่กางแขนทั้งสองข้าง พร้อมกล่าวว่า "ความฝันของฉัน คือการหาเงิน หาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วจะทำให้ความฝันของพวกนายเป็นความจริง! "