Chapter 42: ไม่มีความเสียหายจริงอีกต่อไป
หวังหยู่นั้นก็เหยียบขึ้นไปที่ด้านข้างของภูเขาแล้วเขาก็พุ่งเข้าใส่บอสเพื่อที่จะดึงแอคโกรเข้าหาเขา ก่อนที่จะหันหลังกลับและจากไป
ผู้คนที่อยู่ด้านบนของหุบเขานั้นก็มึนงงอย่างเต็มที่เมื่อพวกเขาเห็นหวังหยู่นั้นเหยียบไปที่หัวของบอสเพื่อดึงดูดความสนใจ
“นรกอะไรวะเนี่ย....นายเห็นนั่นไหม นักต่อสู้สามารถที่จะบินได้จริงๆ…”
ผู้เล่นบางคนนั้นออกมาจากเมืองของตัวเองเพื่อที่จะมาดูการต่อสู้นี้ ด้วยเหตุนี้นี่เอง มันจึงเป็นครั้งแรกของเขาที่เห็นใครบางคนที่มีประสิทธิภาพอย่างเช่นการบินแบบนี้
“ใช่ ฉันเห็นมันแล้ว แต่ทำไมเขาโจมตีบอสไปเพื่ออะไร อย่าบอกฉันนะว่าเขานั้นยอมแพ้ไปแล้ว?”ไม่มีใครสามารถที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมหวังหยู่ถึงเลือกที่จะวิ่งไปทางด้านภูเขาเพื่อที่จะโจมตีบอส
“เขาไม่ได้พยายามลากบอสเข้ามาหาพวกเราใช่ไหม…”ผู้เล่นคนหนึ่งพูดอย่างลังเลใจ
“นั่นมันเรื่องตลกเลวร้ายอะไรกัน การลากมอนสเตอร์นั้นมันเป็นหน้าที่ของนักธนู ทำไมนักต่อสู้ที่มีพลังชีวิตเพียงนิดเดียวและมีระยะการโจมตีที่ใกล้ที่สุดจึงทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้กัน?”
ฝูงชนนั้นกรามค้างเมื่อพวกเขาเห็นวาร์ตันนั้นไล่ล่าหวังหยู่
“เหี้...อะไรวะเนี่ย ชายคนนี้แม่งเทพจริงๆ!!”
“หื้ม! เขาไม่ได้เล่นอาชีพที่มีความคล่องแคล่วสูงด้วยซ้ำ เขาจะสามารถทำได้นานแค่ไหนกัน? ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ เขาจะดึงดูดแอคโกรบอสได้นานเท่าไหร่กัน? ฉันคิดว่าเขาไม่สามารถที่จะทำได้เกิน 30วินาที! นักต่อสู้นั่นไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากจริงๆ”อัศวินที่ถูกเรียก บิ๊กเฮดประกาศอย่างเย็นชา
ด้านข้างบิ๊กเฮด นักต่อสู้ที่ถูกเรียกว่ามังกรหลี่โต้แย้งกลับอย่างไม่มีความสุข “นายมีความมั่นใจเท่าไหร่กัน? ถึงแม้ว่านักต่อสู้นั่นจะไม่ได้รวดเร็ว แต่การเคลื่อนไหวของชายคนนั้นลื่นไหวมากและเขานั้นรู้แม้กระทั่ง [ระลอกคลื่น] ใครจะไปรู้ละว่าเขาสามารถที่จะดึงดูดบอสได้จริงๆ เมื่อพูดถึงอัศวินแล้ว....นายก็เห็นแล้วว่ากลุ่มคนด้านล่างนั้นใช้หมอผีเป็นแถวหน้าแทนไม่ใช่เหรอ? พวกเขาไม่ใช้แม้กระทั่งอัศวินด้วยซ้ำ ถ้านายต้องการที่จะพูดว่าใครมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ละก็ คำตอบมันก็เห็นได้เด่นชัดแล้วละ!”
ใครก็ตามที่เห็นชื่อของเขาก็สามารถที่จะรู้ได้ว่านักต่อสู้ที่ชื่อมังกรหลี่นั้นเป็นผู้คลั่งไคล้สำหรับศิลปะการต่อสู้ ในวันนี้ ผู้เล่นคนไหนก็ตามที่เล่นใน {REBIRTH} ที่ยังคงเล่นอาชีพนักต่อสู้นั้นก็เป็นผู้เล่นที่รักในอาชีพนี้อย่างแท้จริง มันจึงเป็ฯเรื่องหายากที่สามารถที่จะหาผู้เล่นที่มีความสามารถและเล่นอาชีพนักต่อสู้ ด้วยเหตุนี้นี่เอง มังกรหลี่จึงไม่สามารถที่จะอดทนได้ที่บิ๊กเฮดนั้นยังคงเหยียดหยามหวังหยู่
“ฮึ่ม! ทุกคนก็รู้ว่าอาชีพนักต่อสู้นั้นเป็นขยะ! ถ้านายเชื่อฉันละก็ รอดูเขาละกัน!”
วาร์ตันใช้ [หมัดทำลายภูเผา] และข้ามผ่านมอนสเตอร์ตัวอื่นและไล่ล่าหวังหยู่อย่างกราดเกรี้ยว
แต่หวังหยู่นั้นก็เป็นเพียงผู้เล่นระดับ 16 ค่าสถานะของเขานั้นค่อนข้างที่ขาดแคลนเมื่อเปรียบเทียบกับวาร์ตันที่เป็นบอสระดับ40 ระดับทองแล้ว ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะใช้ [เฮสต์] วาร์ตันก็ตามเขาทันได้อย่างรวดเร็วอยู่ดี
วาร์ตันเริ่มทำตามระบบอันน่าเบื่อที่ถูกวางไว้ในการต่อสู้ในทันที เขาก็ยกดาบของเขาขึ้นและใช้ [วายุสลาตัน] และฟันเข้าใส่หวังหยู่
“นายเห็นนั่นหรือเปล่า! ฉันบอกนายแล้วว่าเขาจะทนได้ไม่นาน!”บิ๊กเฮดโอ้อวดอย่างมีความสุขเมื่อเขาเห็นหวังหยู่กำลังจะตายและจุดความกราดเกรี้ยวกับผู้เล่นที่เหลือ
ผู้เล่นเหล่านี้นั้นลงพนันในฝั่งนิกายซวนเฉินที่จะทำเควสป้องกันสำนักงานใหญ่ได้สำเร็จ ผลประโยชน์อะไรของอัศวินคนนี้ ถ้าหวังหยู่ตายกันละ?
มังกรหลี่นั้นกำหมัดของเขาแน่นเมื่อเขาจ้องไปที่หวังหยู่ ในช่วงเวลานี้เองเขานั้นดูกระวนกระวายมากกว่าตัวของหวังหยู่ซะอีก
ในช่วงเวลานั้นเอง หวังหยู่ก็หมอบลงพื้นทอย่างฉับพลันและใช้กล้ามเนื้อหลังอันยืดหยุ่นและทรงพลังของเขานั้นกระเด้งตัวขึ้นจากพื้นและหลบหลีกการโจมตีของวาร์ตันที่ฟันใส่เขา
เมื่อวาร์ตันนั้นมีรูปร่างที่สูง มุมของการฟันนั้นจะห่างไกลจากพื้นดิน ทำให้หวังหยู่นั้นมีมุมที่จะสไลด์หลบเขาโดยปราศจากการได้รับความเสียหาย
ไม่สำคัญว่าระบบจะไม่ยุติธรรมแค่ไหนก็ตาม มันก็ยังคงมีขีดจำกัด
“เหี้...อะไรวะเนี่ย!!!”
ผู้เล่นในฝูงชนนั้นจ้องไปอย่างว่างเปล่าที่ฉากนี้ ตาของพวกเขานั้นกว้างจนแทบจะคล้ายกับพระจันทร์
“เขาสามารถที่จะทำมันแบบนั้นได้ด้วย? นั่นหมายความว่า [วายุสลาตัน] จากนักรบก็สามารถที่จะหลบแบบนั้นได้ด้วย? นี่มัน…”
เมื่อพวกเขามองไปที่ฉากที่เกิดขึ้นด้านหน้าเขานี้ ฝูงชนก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างฉับพลัน อย่างน้อยในวันนี้พวกเขาก็เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
ถึงแม้ว่าหลังจากหลบการโจมตีของวาร์ตันแล้ว หวังหยู่ก็ไม่ได้เร่งรีบในการวิ่งหนีจากไป เขานั้นยืนขึ้นและมองไปที่วาร์ตันที่ยังคงใช้ [วายุสลาตัน] ต่อ
“เขากำลังคิดอะไรอยู่? ทำไมเขาถึงไม่หนีกันละ? เขากำลังยืนรอให้โดนฆ่าอยู่เหรอ?”ผู้ชมนั้นมีเหงื่อไหลมากมายเมื่อพวกเขามองไปที่หวังหยู่ที่ยืนสบายๆอยู่ตรงนั้น
ในเวลานั้นเอง หวังหยู่ก็เคลื่อนตัว เขานั้นไม่ได้หลบหนีกตามที่ทุกคนคาดคิดไว้ แต่เขานั้นพุ่งเข้าใส่วาร์ตันแทน
“โอ้ พระเจ้า! เขาตั้งใจที่จะสู้กับบอสคนเดียวนี่นะ?”
“มันไม่น่าใช่ มันสามารถที่จะเป็นไปได้ด้วยหรอ? ระดับที่ห่างกันถึง 25ระดับนี่นะ!”
ใน {REBIRTH} ถ้าผู้เล่นมีระดับต่ำกว่าบอสห้าระดับ เมื่อพวกเขานั้นสู้กับบอส พลังป้องกันของบอสก็จะเพิ่มขึ้น 10% การพยายามที่จะสู้กับบอสที่มีระดับห่างกับเขา 25ระดับนั้นก็หมายความว่าบอสจะได้รับค่าสถานะพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 50% สิ่งนี้นั้นหมายความว่าหวังหยู่นั้นไม่สามารถที่จะเจาะการป้องกันของวาร์ตันและทำความเสียหายใส่เขาได้เลยแม้แต่น้อย!
แต่หวังหยู่นั้นไม่เคยสนใจปัญหานี้เลย ตั้งแต่ที่เขานั้นไม่เคยเจอมอนสเตอร์ที่มีพลังป้องกันที่เขาไม่สามารถเจาะได้มาก่อน
เมื่อ [วายุสลาตัน] ของวาร์ตันนั้นจบลง เขาก็หยุดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
หวังหยู่นั้นก็ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ และ [เตะด้านข้าง] ใส่หน้าอกของวาร์ตัน หน้าอกของวาร์ตันสั่นเล็กน้อย แต่หวังหยู่นั้นก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าว ในเวลาเดียวกันตัวเลขสีเลือดก็ปรากฏขึ้นด้านบนหัวของวาร์ตัน
-227
หวังหยู่ตกใจเมื่อเขาเห็นว่าพลังชีวิตของวาร์ตันนั้นลดไปเป็นจำนวนเท่านั้น
[เตะด้านข้าง] นั้นอยู่ในระดับ 3 ซึ่งมันสามารถทำความเสียหายกายภาพ 135% ใส่เป้าหมาย ในขณะที่ความเสียหายเพิ่มเติมจากความสมบูรณ์แบบของการโจมตีของเขาซึ่งมันคำนวณตามค่าพลังโจมตีของเขาคุณด้วยความเสียหายของสกิล มันหมายความว่าตั้งแต่การโจมตีของเขานั้นถึง 120% ความสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ของมันนั้นความเสียหายจะต้องเป็น 200% หมายความว่า [เตะด้านข้าง] ของเขานั้นควรที่จะทำความเสียหาย 270% (200% x 135%)
พลังโจมตีของหวังหยู่ในปัจจุบันก็คือ 150 ตั้งแต่ที่วาร์ตันนั้นมึนงงกับการโจมตีของเขานั้นหมายความว่าการโจมตีของเขานั้นถึง 120% ความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นความเสียหายที่เขาสามารถทำได้มันควรที่จะเกิน 400 แต่ทำไมมันน้อยเท่านี้กันละ? ระบบมันขัดข้องหรืออะไรกัน?
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวังหยู่ก็รีบเปิดบันทึกการต่อสู้ขึ้นมาดู
{ บันทึกการต่อสู้ : [เตะด้านข้าง] ถึง 160% ความสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ทำให้ความเสียหายกายภาพเพิ่มขึ้น 810% (600% X 135%) ผลลัพธ์เพิ่มเติม คู่ต่อสู้มึนงงเป็นเวลา 2วินาที }
นี่มันแปลกประหลาดมาก หวังหยู่มองไปที่มันอีกครั้งและยืนยันกับสิ่งที่เขาเห็น เขาควรที่จะทำความเสียหาย 1200 สิ!
ในขณะที่เขานั้นพยายามที่จะหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยใส่วาร์ตันนั้น หวังหยู่ก็หลบไปด้านข้างเมื่อเขาหลบดาบของวาร์ตันก่อนที่เขาจะต่อยไปที่ลำคอของวาร์ตัน
-180
เขาทำได้น้อยกว่าเมื่อนี้อีก!
หวังหยู่ถอยไปหลายก้าวและดูบันทึกการต่อสู้อีกครั้ง
{ บันทึกการต่อสู้ :พลังโจมตีธรรมดา 160% ความสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ ความเสียหาย 600% ผลลัพธ์เพิ่มเติม เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง }
“นี่มัน…”หวังหยู่มองมันอย่างใกล้ๆ แล้วเขาก็ตระหนักถึงปัญหาได้ว่า “มันไม่มีความเสียหายจริง!”
ไม่สงสัยเลยที่หวังหยู่รู้สึกว่าความเสียหายที่เขาทำได้นั้นน้อยมาก เกราะและพลังป้องกันของวาร์ตันนั้นทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น! หวังหยู่ก็เข้าใจมันได้ในทันที
มันมี เงื่อนไข2อย่างที่เขาพบว่าเขาสามารถที่จะทำความเสียหายจริงได้
เขานั้นจะต้องถึง 110% ความสมบูรณ์แบบสำหรับการโจมตีของเขาในโหมดอิสระ
เขาจำเป็นที่จะต้องโจมตีจุดตาย
เหตุผลที่ความเสียหายที่หวังหยู่ทำได้นั้นสูงเสมอมา เนื่องจากว่าหวังหยู่นั้นติดนิสัยในการโจมตีจุดตายของคู่ต่อสู้และการโจมตีทั้งหมดของเขานั้นก็เกิน 110% ความสมบูรณ์แบบเสมอมา ด้วยเหตุนี้นี่เอง ไม่ว่าบอสตัวไหนที่หวังหยู่เจอ หวังหยู่ก็สามารถที่จะเจาะพลังป้องกันของมันด้วยความเสียหายจริงของเขามาตลอดๆ
ถึงแม้ว่าการโจมตีของหวังหยู่นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับที่เขาคาดคิด แต่นอกจากที่มันมีพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ วาร์ตันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากบอสระดับเงินเลยแม้แต่น้อย เขายังคงมีสกิลเพียงแค่สามสกิล และใช้รูปแบบการโจมตีเหมือนเดิมและการเคลื่อนไหวของมันก็รวดเร็วกว่าวาร์ตันระดับเงินเพียงเล็กน้อย หวังหยู่ก็สามารถที่จะจัดการเขาได้อยู่ดี
เมื่อพวกเขาเห็นหวังหยู่นั้นสู้กับวาร์ตันในการต่อสู้ระยะประชิด ผู้เล่นที่อยู่ด้านบนหุบเขาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ความชื่นชมและความนับถือที่พวกเขามีต่อหวังหยู่นั้นไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“เหี้...อะไรวะนั่น เขาสู้กับบอสจริงๆ…”
“สำหรับนักต่อสู้ที่ต้องสู้กับบอสด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว น่าชื่นชมมากจริงๆ! เขาเป็นสัตว์ประหลาด!”
“เมื่อฉันอ่านเกี่ยวกับเว็บบอร์ดที่นักต่อสู้สามารถที่จะจัดการกับพันธมิตรอันนองเลือดได้เพียงตัวคนเดียว ฉันคิดว่าคนจากเมืองรัตติกาลกำลังโอ้อวดอยู่ ใครจะไปคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงกันทั้งหมด….”
“มันน่าอายที่ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถที่จะฆ่าเขาได้ทันเวลา…”หวังหยู่ถอนหายใจอย่างผิดหวังเมื่อเขามองไปที่วาร์ตัน
ถ้าใครก็ตามได้ยินสิ่งที่เขาพูดละก็ พวกเขาจะต้องร้องไห้ออกมาแน่นอน
สำหรับคนที่สามารถที่โซโลบอสระดับทอง ระดับ40เป็นระยะเวลานานและไม่ถูกฆ่านั้น ไอ้บ้าคนนี้ก็ยังคงคิดถึงเรื่องการที่จะฆ่าเขาลงอีกงั้นเหรอ? นายไมควรที่จะพูดอะไรไร้สาระแบบนั้นนอกจากว่านายกำลังเมายาอยู่!
ส่วนที่ยากที่สุดของเควสป้องกันสำนักงานใหญ่นั้นก็คือบอส แต่หวังหยู่นั้นลากบอสไปแล้ว สมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินก็มีช่วงเวลาที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เมื่อหวังหยู่ล่อบอสไป
ยิ่งไปกว่านั้น ทางเข้าของหุบเขานั้นแคบมาก มีเพียงมอนสเตอร์สี่ตัวเท่านั้นที่สามารถจะเข้ามาได้ในแต่ละครั้ง พร้อมกับรัศมีฤดูใบไม้ผลิที่ยืนป้องกันทางเข้าและควบคุมมอนสเตอร์ที่จะเข้ามาได้นั้นก็ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านในอีกเจ็ดคนสามารถที่จะฆ่ามอนสเตอร์ได้ ซึ่งสามารถที่จะทำให้พวกเขานั้นที่มีระดับที่แตกต่างและค่าสถานะที่แตกต่างฆ่าพวกมันได้
ทั้งเจ็ดคนนั้นเริ่มต้นที่จะพูดคุยกันเมื่อพวกเขานั้นยังคงต่อสู้
“ใครจะไปคิดว่าเควสป้องกันสำนักงานใหญ่จะง่ายดายขนาดนี้ มัวแต่คิดว่าผมจะหวาดกลัวไปทำไมกัน!”ขุนนางครอทถอนหายใจ
“หื้ม เนื่องจากนายมีอัจฉริยะแบบฉันวางแผนให้พวกนายต่างหาก! มิฉะนั้นละก็พวกขยะแบบพวกนายจะต้านทานพวกมอนสเตอร์พวกนี้ได้ยังไงกัน?”
“เฮ้ ไร้ความกลัว ถ้านายยังคงพูดไร้สาระต่อละก็ ฉันจะปล่อยมอนสเตอร์ทั้งหมดเข้ามาแล้วนะ”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“แน่นอนว่าความสำเร็จมากก่าครึ่งหนึ่งนั้นก็เป็นเพราะว่าพี่ชายฤดูใบไม้ผลิ พี่ชายฤดูใบไม้ผลิเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถและทำงานหนักจริงๆ…”ไร้ความกลัวรีบแก้ตัว
“เฮ้ ไก่น้อย นายมีแต้มเท่าไหร่แล้ว?”โบซอนถามขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“เกือบสามสิบแล้ว แล้วนายละ?”
“24 ไอ้เหี้....ดาบน้ำแข็งแม่งแย่งกูฆ่า!”โบซอนกราดเกรี้ยว
“ฮ่าๆๆๆ มันเป็นความสามารถของฉันหน่า! ถ้านายต้องการที่จะพูดถึงการแย่งฆ่าละก็นายจะต้องถามหาเฒ่าหลี่แล้วละ! เฒ่าหลี่ เฒ่าหลี่ ทำไมลุงไม่พูดละ?”ดาบน้ำแข็งเยาะเย้ย
“ไสหัวไป! สุภาพบุรุษคนนี้กำลังดูกระทิงเหล็กสู้อยู่ ฉันไม่สามารถที่จะบอกได้ในตอนแรก แต่ยิ่งฉันมองไปที่เขา ชายคนนี้ก็ทรงพลังมากกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้อีก!”หมิงตู่ยืนบนกำแพง และถือคทาของเขาแล้วเขาก็มองไปยังระยะทางที่ห่างไกล และก็ร่ายสายฟ้าใส่มอนสเตอร์ในหุบเขาอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อพวกเขานั้นเพียงแค่ฟังคำพูดของหมิงตู่นั้นก็ทำให้ทุกคนจดจำได้ว่ามีใครคนหนึ่งที่มีงานที่หนักที่สุด ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่กำลังต่อสู้กับบอสอย่างเสี่ยงชีวิต
เมื่อหมิงตู่นั้นดู เขาก็ส่งข้อความชื่นชมกับหวังหยู่ “@กระทิงเหล็ก เฮ้ น้องชายผู้เชี่ยวชาญ นายจัดการที่จะปกป้องตูดของนายได้เป็นอย่างดีเลยนะ! นายแม้กระทั่งหลบดาบของบอสได้อีกด้วย!”
“ไอ้เหี้... มึงก็รู้ว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่าการเป็นตัวล่อ! ผมเป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้!”หวังหยู่ตอบกลับ
“เหี้..อะไรวะนั่น นายยังคงมีเวลาที่จะตอบกลับพวกเราในขณะที่นายโซโลกับบอสอยู่อีกเรอะ? ใครกันแน่ที่เป็นบอส….”ทุกคนนั้นประหลาดใจ ชายคนนี้ไม่มีขีดจำกัดอย่างงั้นเหรอ?
“มันโอเคหน่า บอสตัวนี้แม่งอ่อนแอมาก เพียงแค่พลังป้องกันกายภาพของเขานั้นสูงเกินไป การโจมตีของผมนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากยุงกัดเลย…”หวังหยู่ตอบกลับ
หวังหยู่เป็นชายคนเดียวบนโลกที่กล้าที่จะบอกบอสระดับ40 ระดับทองนั้นอ่อนแอเกินไป
“มันสูงแค่ไหนกัน?”ไร้ความกลัวถามอย่างสงสัย
“อย่างน้อย 120!”
“สูงขนาดนั้นเลยเหรอ?!”ทุกคนอุทาน
พลังโจมตีกายภาพของนักรบส่วนมากในช่วงเวลานี้ของเกมนั้นประมาณ 120 ถ้าพวกเขาไม่ได้ใช้สกิลละก็ พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเจาะพลังป้องกันของวาร์ตันและทำความเสียหายกับเขาได้เลย
คุณจำเป็นที่จะต้องใช้นักแม่นปืนในการจัดการกับบอส
[ตาเหยี่ยว] สามารถที่จะเพิ่มระยะการโจมตีและเพิ่มความเสียหายเจาะเกราะ 30%
แต่โชคร้ายที่ในนิกายซวฃนเฉินนั้นขาดนักธนู....
“ยังไงก็ตามบอสก็ไม่ได้เป็นอมตะ ตั้งแต่ที่การโจมตีกายภาพนั้นไม่ได้ผลละก็ ทำไมนายไม่ลองใช้การโจมตีเวทย์มนตร์ดูละ นายจำเป็นต้องการความช่วยเหลือของฉันไหมละ? ตราบเท่าที่นายล่อมันไว้ได้ละก็ ฉันจะไปช่วยนายอย่างแน่นอน!”หมิงตู่เสนอ
“นายก็แค่ต้องการขโมยบอสเท่านั้นแหละ!”ทุกคนเยาะเย้ย