เล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (2)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
เล่ม 1 ตอนที่ 9 : หญิงสาวทั้งสอง (2)
จัตุรัสเต็มไปด้วยกระดานข่าวที่แปะเอาไว้ซึ่งใบปลิวมากมาย ทั้งรับสมัครเข้ากิลด์ โฆษณา... และกระทั่งใบปลิวค่าหัวก็ยังมี
ถ้าหากผู้เล่นฆาตกรก่อเรื่องชั่วเอาไว้มาก ท่านลอร์ดหรือไม่ก็เอ็นพีซีหัวหน้าทหารยามจะมาลงใบปลิวประกาศจับเช่นเดียวกัน
ตามปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของเอ็นพีซีที่จะจัดการ แต่ก็มีผู้เล่นที่ต้องการล่าพวกอาชญากรเช่นเดียวกัน เป็นเพราะพวกเขาสามารถได้รับไอเทมวิเศษมาได้ง่ายยิ่งกว่าไปจัดการบอสมอนสเตอร์เสียอีก
ทว่า ใบปลิวที่อาร์คกำลังมองดูอยู่นี้แตกต่างออกไป
จดหมายข่าว : ใบปลิวเหล่านี้ในนิวเวิร์ลด์เป็นที่รู้จักกันในฐานะหนังสือพิมพ์ระดับภูมิภาค ข่าวการค้นพบพื้นที่แห่งใหม่ ข้อมูลโดยสรุปของดันเจี้ยน หรืออีเวนท์ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านจะถูกเขียนเอาไว้
อาร์คที่ในใจคิดไปจากเมืองแจ๊คสันถ้าหากเลเวลเพิ่มขึ้นอีกสัก 1~2 ระดับ เขาวางแผนที่จะเลือกที่สักแห่งในภูมิภาคแห่งนี้เพื่อออกเดินทางผจญภัย ในเมื่อมันไม่มีภารกิจอะไรให้เขารับได้อีก เขาจึงเริ่มหันมาตัดสินใจเป้าหมายการเดินทง
จากนั้น เขาพลันได้ยินเสียงดัง “ว้าว” มาจากด้านหนึ่งของเมือง
เมื่อเขาหันไปมอง ฝูงชนกำลังรวมตัวกันอย่างหนาแน่นที่จัตุรัส
“โห คนพวกนั้นเป็นพวกกลุ่มที่เข้าไปท้าทายวงกตแห่งทาร์ซ่า?”
“ได้ยินว่าเป็นภารกิจความยากระดับ C++ ด้วยนี่?”
“บ้าไปแล้ว กระทั่งภารกิจระดับ E ฉันยังไม่เคยได้รับเลย”
“ต่อให้ได้รับมาจริงพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เลเวลมันแตกต่างเกินไป”
“ดูอุปกรณ์ของพวกเขาสิ ทุกคนต่างก็มีไอเทมระดับวิเศษ กระทั่งระดับหายากยังมี”
“เฮ้อ เมื่อไหร่พวกเราจะได้ใส่พวกมันบ้างนะ”
“ดูนั่นสิ ท่านอลัน!”
ฝูงชนที่พูดคุยกันให้ความสนใจไปยังด้านหนึ่ง
บุคคลที่กำลังเข้ามาใกล้กำลังกลายเป็นที่สนใจ เขาเป็นอัศวินที่กำลังขี่ม้าขาว ด้วยความหล่อเหลาของอัศวินพร้อมผมสีทองที่พลิ้วไหว รวมถึงชุดเกราะที่สวมใส่อยู่นั้นเงาแวววาวจนสามารถบอกได้เลยว่าเป็นไอเทมหายากตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง การมาถึงของเขาแทบพรากทุกลมหายใจของทุกคนไป
“เหมือนจะมีคนบอกว่าท่านอลันเปลี่ยนอาชีพเป็น ‘อัศวินศักดิ์สิทธิ์’ ที่เป็นหนึ่งในอาชีพลับแล้วนะ”
อัศวินศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในอาชีพที่รู้กันว่าเป็นอาชีพลับ
“เพราะงั้นเองสินะถึงได้มีกองทหารที่ดูเหมือนเป็นเอ็นพีซี”
“โห ดูไอเทมที่พวกเขาใส่สิ นิวเวิร์ลด์เพิ่งเริ่มเปิดทำการได้ไม่นานเองนะ...”
“พวกเขาอ้างว่าเริ่มเล่นเกมหลังเกมเปิดราวหนึ่งเดือน ช้ายิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”
“อุปกรณ์สวมใส่ของผู้คนในปาร์ตี้รอบกายเขาก็ไม่ใช่เล่นเลย”
การทำภารกิจความยากระดับ ++ นั้นจำเป็นต้องรวบรวมหลายปาร์ตี้เข้าด้วยกัน มันไม่อาจสำเร็จได้ด้วยเพียงแค่ปาร์ตี้เดียว
โดยปกติแล้วก็จะมีเพียงแค่ผู้เล่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของภารกิจ บางครั้งก็จะมีเอ็นพีซีเข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับตัวละครที่มีชื่อเสียงมากมายอย่างอัศวินศักดิ์สิทธิ์ มันมีโอกาสที่เอ็นพีซีจะเข้าร่วมสูงเลยทีเดียว
‘อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ลือกันนั่นสินะ’
แม้ว่าอาร์คจะเคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตา ขณะที่อาร์คในตอนนี้พึงพอใจกับอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืดของตน ในตอนแรกนั้นอาร์คเองก็อยากที่จะได้รับอาชีพลับสายนักรบเช่นนี้มากกว่า
นับได้ว่ายังดี ไม่ว่าสิ่งที่ได้รับมาจะเป็นอะไร แต่การค้นพบภารกิจอาชีพลับนั้นราวกับงมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว
ขณะที่อาร์คเหม่อมองฝูงชน หนึ่งในฝูงชนพลันเริ่มเข้ามาใกล้เขา
เป็นนักเวทสาวที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำ ฮู้ดของเธอสวมใส่จนปิดเหลือแต่คางให้เห็น
“นายใช่คุณคิมฮยอนอูหรือเปล่า?”
สีหน้าแข็งทื่อพลันปรากฏบนใบหน้าของอาร์ค
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครสักคนที่เรียกเขาด้วยชื่อจริงในเกม อีกทั้งยังไม่ใช่ใครสักคนที่เขาเคยรู้จัก
นอกจากนี้ยังเป็นผู้หญิงอีก? เขานึกไม่ออกว่าเธอเป็นใคร
“ก็ใช่... เธอเป็นใคร?”
“อา ฉันเดาถูกสินะ ฉันคิดว่าเป็นนายเพราะมีใบหน้าที่คล้ายกันน่ะ”
“เธอรู้จักฉันด้วย?”
นักเวทสาวถอดฮู้ดที่ปกปิดใบหน้าออกมา
อาร์คหยีตามอง นักเวทคนนี้เป็นสาวเผ่าเอลฟ์ เขามั่นใจว่านี่เป็นตัวละครที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่เธอกลับคุ้นมาก แต่มันก็ยังไม่พอให้เขานึกออกได้ว่าเธอเป็นใคร
ขณะที่อาร์คเงยหน้าขึ้น เธอพลันยิ้มเขินอายออกมา
“อา ดูเหมือนจะจำฉันไม่ได้สินะ ก็นะ ฉันเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปพอสมควรเลย”
ในที่สุดอาร์คก็นึกออกหลังได้เห็นรอยยิ้มของเธอ
“อ๋า! หรือจะเป็นคนที่เจอตอนสัมภาษณ์?”
“ใช่แล้ว ฉันคังมีซู เอ้านี่ ในเกมฉันชื่อ ลาริเอ็ตเต้”
“อา ตัวละครของฉันชื่ออาร์คน่ะ”
อาร์คเร่งร้อนโค้งศีรษะให้เป็นการทักทาย
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่อาจจดจำใบหน้าเธอได้ ที่จริงอาร์คนึกถึงเธอขึ้นมาหลายครั้ง ไม่ กล่าวตามตรงคือคิดถึงเธออยู่บ่อยครั้ง เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกยินดีกับผู้หญิงสักคนที่เผยความสนใจในตัวเขาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยอีกทั้งยังเคยให้กำลังใจแก่เขา โดยเฉพาะในเมื่อเธอเป็นหญิงสาวผู้งดงามราวกับไอดอลคนหนึ่ง แต่ก็เท่านั้น อาร์คไม่คิดหวังว่าจะได้มีโอกาสพบเจอกับเธออีกครั้ง
แต่การพบเจอกันในที่แห่งนี้ด้วยอะไรก็ตามแต่ อีกทั้งเธอยังจดจำเขาได้และเข้ามาพูดคุยอีก...
“เธอเริ่มเล่นเป็นเอลฟ์เหรอ?”
“ใช่ แปลกไปหน่อยเนอะ ว่าไหม?”
“ไม่หรอก เหมาะมากเลยล่ะ”
มันไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง มีคนเพียงน้อยนิดที่จะเหมาะกับภาพลักษณ์ของเอลฟ์
ขณะที่อาร์คกล่าวชม ลาริเอ็ตเต้ที่โดนชมก็เริ่มเผยความแดงก่ำที่ใบหู
“ดูเหมือนเธอจะเข้าร่วมการบุกจู่โจมครั้งนี้ด้วยสินะ”
“ใช่ ที่จริงเลเวลของฉันยังไม่พอหรอก แต่ที่เข้ามาได้เพราะคนรู้จักเชิญให้ไปด้วยน่ะ”
“เธอเลเวลเท่าไหร่เหรอ?”
“ถึงจะได้คนรู้จักช่วยเอาไว้เยอะ แต่ฉันยังเลเวลแค่ 50 เอง”
ลาริเอ็ตเต้ตอบกลับมาด้วยสีหน้าเขินอาย
อาร์คสำลัก
“หะ-ห้าสิบ?”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ ไม่หรอก เลเวลของเธอสูงกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยล่ะ”
“แล้วอาร์คนิมเลเวลเท่าไหร่กันเหรอ?”
“ฉันเพิ่งเลเวล 35 เอง...”
ขณะที่อาร์คตอบกลับด้วยเสียงดังราวกับมดตะโกนใส่พื้นดิน ลาริเอ็ตเต้เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา จากนั้นเธอจึงส่ายหน้าออกด้วยสีหน้าผิดหวัง
“ฉันขอโทษที่ต้องพูดเช่นนี้นะ แต่อาร์คนิม นั่นออกจะน้อยเกินไป ที่จริงแล้ว ในหมู่ผู้เข้าสมัคร ฉันนั้นเลเวลค่อนข้างไปทางต่ำแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่เลเวลจะอยู่ที่ประมาณ 70 และกลุ่มปาร์ตี้จู่โจมในครั้งนี้ ผู้นำอย่างอลันนิมเองก็เป็นผู้เข้าสมัครเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้เลเวลของเขาสูงมากกว่า 75 เสียอีก กล่าวตามตรงนะ เลเวลของอาร์คนิมนั้น...”
กระทั่งเขาไม่ได้ยินส่วนที่เหลือ เขาก็พอจะเดาคำพูดเหล่านั้นได้ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเลยทีเดียวที่จะผ่านการทดสอบของโกลบอลเอ็กซอร์ทได้ เขารู้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินต่อหน้าโดยตรงมันก็คล้ายดูดพลังชีวิตของเขาไป
จากนั้น อัศวินที่ขี่ม้าขาวพลันเริ่มเข้ามาใกล้ลาริเอ็ตเต้จากทางด้านหลัง เป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์อลันนั่นเอง
“ลาริเอ็ตเต้นิม กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“เจอคนรู้จักน่ะ ก็เลยคุยด้วยกันนิดหน่อย”
“คนรู้จัก?”
อลันมองสำรวจอาร์คตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยดวงตาคล้ายไม่สบายใจนัก
“อาร์คนิมเองก็เป็นผู้สมัครงานเช่นเดียวกัน”
“เช่นนั้นเลเวลของนายคงไม่มีปัญหาสินะ ภารกิจที่เรากำลังจะไปทำครั้งนี้ค่อนข้างยากเอาเรื่องเลยทำให้เราขาดคนอยู่ งั้นก็ดีเลย สนใจเข้าร่วมการบุกจู่โจมกับพวกเราไหม?”
“ไม่ อาร์คนิมน่ะ...”
ลาริเอ็ตเต้อ่านสีหน้าของอาร์คขณะที่กระซิบกล่าวกับอลัน ขณะที่เธอทำเช่นนั้น ดวงตาของอลันพลันทอแสงวูบหนึ่งแห่งความเหยียดหยันออกมา...
“โอ้ แต่ละคนก็มีสถานภาพแตกต่างกันไป ขอตัว”
อลันหันม้ากลับราวกับไม่มีอะไรที่น่าสนใจอีก
“เอาล่ะ ลาริเอ็ตเต้นิม พวกเราไปกันเถอะ”
“อา งั้นฉันไปก่อนนะ พยายามเข้า”
ลาริเอ็ตเต้จ้องมองอาร์คด้วยดวงตาขมขื่นก่อนที่จะหันจากไป ความรู้สึกของอาร์คว่างเปล่าขณะที่มองดูแผ่นหลังของเธอ เขารู้สึกได้ว่าความหวังของตนนั้นกำลังเดินจากไปพร้อมกับเธอ
ที่จริง อาร์คเพิ่งรู้สึกพึงพอใจกับตนเองไม่กี่วันมานี้เอง
เขาได้รับอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืด จากนั้นก็แก้แค้นอันเดลที่เลเวลสูงล้ำกว่าตนเอง ไม่นานมานี้เขายังได้รับภารกิจที่มีทางเลือกลับจนได้รับรางวัลดังที่เขาต้องการมา ดูเหมือนทุกสิ่งมันจะเป็นไปอย่างราบลื่น
เขากระทั่งคิดว่าเขายังพอที่จะมีโอกาสผ่านการทดสอบของทางโกลบอลเอ็กซอร์ท
แต่ท้ายที่สุด ทั้งหมดเป็นเขาคิดไปเอง
คู่ต่อสู้ของอาร์คอย่างผู้เข้าสมัครคนอื่นต่างกำลังออกไปทำภารกิจระดับความยาก C++ ในสถานที่อันสูงส่งเกินจินตนาการ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาและอาร์คนั้นมันช่างกว้างใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้
ถูกแล้ว เขาพอประมาณตนเองได้แล้ว
ไม่เหมือนกับพวกเขา อาร์คไม่ได้พยายามลงทุนลงแรงไปกับการเล่นเกมทั้งวัน ด้วยการลงแรงที่เกินกว่าผู้อื่นจึงเกิดความแตกต่างอันกว้างใหญ่ขึ้น อีกทั้งเขายังต้องเสียเวลาไปสองสัปดาห์ในหมู่บ้านฮารัน มันจึงยิ่งทำให้ความแตกต่างมากขึ้นไปอีก
เขารู้ เขารู้อยู่แล้ว แต่ว่า...
‘บ้าจริง ทำไมถึงรู้สึกแย่ขนาดนี้กัน’
ความรู้สึกพ่ายแพ้พลันท่วมท้นออกมา
ไม่ใช่เพราะเขาโดนผู้เข้าสมัครอื่นทอดทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง แต่สายตาเหยียดหยันของอลันนั้น รวมถึงลาริเอ็ตเต้ที่ตามอีกฝ่ายไปต่างหาก
ขณะที่เขานึกย้อนภาพเหตุการณ์ อาร์คพลันรู้สึกว่าตนสูญเสียลาริเอ็ตเต้ให้กับอลันไป นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม แต่นิวเวิร์ลด์นั้นเป็นเกมที่สมจริงยิ่งกว่าความเป็นจริง เช่นนั้นความรู้สึกพ่ายแพ้ของเขาจึงยิ่งรุนแรงมากกว่าครั้งใด
เขาไม่อยากที่จะแพ้อีกต่อไปแล้ว
ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม!
* * *
‘หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่’
หลังจากได้เห็นอลันนำกองปาร์ตี้จู่โจม ฮยอนอูไม่อาจสลัดความตึงเครียดทิ้งไปได้
เมื่อครั้งที่หัวหน้าฝ่ายวางแผนฮามย็องอูบอกกล่าวคำพูดเอาไว้ในโถงสัมภาษณ์ ที่กล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูเพียงแต่เลเวล ทว่า เลเวลนั้นแท้จริงแล้วเป็นตัวเลขอันเที่ยงแท้ภายในเกม
ผู้เล่นเลเวลสูงจะสามารถล่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงขึ้นได้ นั่นทำให้มีโอกาสได้รับไอเทมที่ดีมากยิ่งขึ้น พวกเขาจะยิ่งขยับขยายกองกำลังออกไปทั่วภูมิภาค อีกทั้งพวกเขายังได้รับภารกิจระดับความยากที่ค่อนข้างสูง ท้ายที่สุดแล้ว เลเวลมันก็เป็นมูลค่าอันแท้จริงของทุกสิ่ง
โดนทิ้งเอาไว้ด้านหลังนั่นก็หมายถึงความล้มเหลวในการทดสอบ
เขาต้องตามให้ทัน มันเป็นหนทางเดียวที่จะอยู่รอด
‘มีวิธีไหนไหมนะที่จะเพิ่มเวลาเล่นเกมได้?’
เป็นเช่นเดิม ปัญหาคือเวลา
เขามั่นใจว่าตนสามารถตามทันได้หากสามารถทุ่มเทสมาธิกับเกมด้วยเวลาที่ทัดเทียมกับผู้เล่นอื่น ทว่า ฮยอนอูนั้นสามารถลงทุนเวลาได้เพียงแค่หกชั่วโมงต่อวัน เขายอมลดเวลานอนให้น้อยลงและยอมต่อสู้กับความเหนื่อยล้าเท่าที่กระทำได้
กล่าวตามตรง เขาไม่ได้คาดหวังการทดสอบของโกลบอลเอ็ทซอร์ทมากนัก
เขายังคงคิดเช่นนี้กระทั่งถึงตอนนี้ แต่ทว่า ถ้าหากเขาพลาดการทดสอบไป เขาก็จะไม่ได้เล่นนิวเวิร์ลด์อีก เขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังผ่านไปหนึ่งหรือสองเดือน ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาจะไม่สามารถพบเจออาร์คได้อีก มันเป็นตัวละครที่เขาบากบั่นปั้นมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก ความพยายามของเขาทั้งหลายจะกลายเป็นสูญเปล่า
‘และเจ้าอลัน!’
ยังไม่ลืมว่าอาร์คนั้นได้รับความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธอย่างสาหัส
อาร์คก็คือฮยอนอู ดูถูกอาร์คนั้นไม่ต่างอะไรกับดูถูกฮยอนอู ถ้าหากเขาสามารถทำได้ เขาอยากที่จะยกระดับเลเวลของตนเองราวคนบ้าเพื่อไปฉีกกระชากอลันดังเช่นที่ทำกับอันเดล จากนั้นจะหัวเราะใส่หน้าอีกฝ่ายที่หาเรื่องเขา
แต่ทว่า เขาก็ไม่อาจยอมละทิ้งความเป็นจริงเพื่อเกมได้
แม้ว่าเงินที่ทางโกลบอลเอ็กซอร์ทจ่ายให้เขาจะมากพอก็ตาม แต่มันไม่พอสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของเขาในกรณีที่เขาไม่ทำงานเพิ่ม กระทั่งตอนนี้ ความเป็นจริงที่ว่าเงินที่เขาได้รับจากร้านค้า และงานพาร์ทไทม์อีกสาม รวมกับเงินที่ได้รับจากโกลบอลเอ็กซอร์ทนั้นมันเพียงพอแค่เสมอตัว
‘ถึงแบบนั้นก็เถอะ เราจะเพิ่มหนี้อีกไม่ได้...’
ด้วยความที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่มีที่ทางให้เขากระดิกเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรได้
‘ครึ่งปี! ไม่สิ อย่างน้อยก็ไม่กี่เดือน มันไม่มีทางที่จะทำให้เราทุ่มเทไปกับการเล่นเกมได้เลยหรือไง?’
จากนั้น ข่าวคราวที่เขาได้เห็นมาเมื่อไม่กี่วันก่อนพลันผุดขึ้นมาในใจ
มันเป็นเรื่องของการซื้อและขายไอเทมภายในเกม ตอนนี้มันคือสิ่งที่เขาคิด เขาจำได้ว่าได้ยินเรื่องราวของผู้คนที่ได้รับเงินมหาศาลจากการขายไอเทมภายในเกม
ตอนนี้การซื้อขายไอเทมนับเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้ว ในตอนนี้ไอเทมสามารถซื้อขายได้อย่างอิสระในตลาด ฮยอนอูจำได้ว่าครั้งที่ยังเรียนอยู่ ตอนนั้นเขายังได้รับเงินจำนวนหนึ่งมาจากการขายไอเทมภายในเกมออนไลน์ ตอนนั้นเขาไม่มีภาระเรื่องค่าครองชีพ แต่ไอเทมในเกมนั้นสามารถกลายเป็นเงินได้จริง
สำหรับเกมอย่างนิวเวิร์ลด์ ไอเทมนั้นแน่นอนว่ายิ่งต้องขายได้แพงมากกว่า
‘หรือบางทีเราควรขายไอเทมและใช้เงินจากการขายพวกมันเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่? อืม ด้วยเลเวลของเราตอนนี้ ไอเทมที่เราสามารถได้รับนั้นไม่อาจนับเป็นเงินได้มากนัก แต่ว่า... นิวเวิร์ลด์เป็นเกมที่เพิ่งเปิดใหม่ ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการไอเทมที่เราได้รับด้วยเลเวลตอนนี้ ใช่แล้ว ลองดูสักตั้งก็แล้วกัน’
ฮยอนอูหาและเข้าไปยังเว็บไซต์ประมูลราคาแห่งหนึ่งที่เขาเคยใช้งานเมื่อนานมาแล้ว
ดังคาด การประมูลไอเทมของนิวเวิร์ลด์นั้นกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เขาค้นหารายการสินค้าอยู่นั้น สายตาพลันเหลือบไปเห็นราคาของในตลาดจนแทบทำเอาเขากรามค้าง
“อะ-อะไรเนี่ย? นี่มันราคาไอเทมในเกมจริง?”
ไอเทมในนิวเวิร์ลด์นั้นสามารถขายได้ด้วยราคาที่เกินจะจินตนาการถึง
ตอนที่ฮยอนอูเล่นเกมออนไลน์ ช่วงราคาที่ขายได้ก็อยู่หลักสิบล้านวอน แต่นั่นคือราคาไอเทมของผู้เล่นชั้นแนวหน้า
ทว่า นิวเวิร์ลด์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ราคาของหนึ่งเหรียญทองมีค่าประมาณหนึ่งหมื่นวอน และดาบวิเศษที่เลเวล 20-30 นั้นสามารถขายได้อย่างน้อยหลักล้านวอน
*ผู้แปล : 1,000,000 วอน มูลค่าเทียบเท่า 30,000 บาท*
สำหรับระดับหายากและระดับยูนิค*นั้นจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะ มูลค่าของมันอยู่ในช่วงตั้งแต่หลายแสนจนถึงสิบล้านวอน
*ยูนิค หมายถึง มีจำนวนจำกัด อาจถึงระดับชิ้นเดียวในโลก*
แน่นอนว่าไอเทมนั้นมีมูลค่าของมัน แต่ในโลกของฮยอนอูที่อดมื้อกินมื้อเพื่อประหยัดเงินสักพันวอนนั้น มันไม่อาจจินตนาการใฝ่ฝันได้ถึง
‘หนึ่งเหรียญทองเทียบเท่าหนึ่งหมื่นวอน... งั้นราคากล่องเครื่องมือที่เราได้รับมาวันนี้ก็เทียบมูลค่าได้สองล้านวอน!’
มันทำเขาตกตะลึงอย่างแท้จริง
‘บางทีไอเทมที่เรามีก็อาจขายได้ราคาสูงเหมือนกัน?’
หลังการพิจารณา ฮยอนอูได้ส่งผ้าคลุมสีชาดแห่งความฝันเข้าประมูล มันเป็นไอเทมเลเวล 20 มันเป็นไอเทมระดับยูนิคที่มีความสามารถเต็มเปี่ยมสำหรับฉวยโอกาสจากคู่ต่อสู้
มันนับเป็นสมบัติหวงแหนของฮยอนอู แต่ไอเทมอื่นที่เขาถือครองก็ไม่น่าจะมีราคามากพอให้ขายได้ จากนั้น ราวกับกองเพลิงที่ลุกโชน ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีคนประมูลนับร้อยต่างเข้ามาแข่งกันประชันราคา หลังผ่านไปชั่วโมง ราคาในตอนนี้พุ่งขึ้นไปสูงถึงสี่ล้านวอนเป็นที่เรียบร้อย
มันทัดเทียมได้กับค่าจ้างสองเดือนของฮยอนอูและค่ารักษาพยาบาลกว่าครึ่งเดือนเลยทีเดียว
มันน่าเหลือเชื่อยิ่ง
‘บ้าไปแล้ว ที่ผ่านมาเรามัวทำอะไรอยู่กัน?’
กระทั่งว่ามันเป็นระดับยูนิค แต่มันก็จำกัดที่เลเวล 20 และต้องโดนคำสาปด้วย
แต่นี่สี่ล้านวอนในเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ! เขากระทั่งไม่กล้าจินตนาการถึงเลยว่าไอเทมเพียงชิ้นเดียวจะให้ราคาสูงถึงขนาดนี้
ทว่า ฮยอนอูก็ตระหนักได้ว่าความจริงไม่ง่ายเช่นนั้น
แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเพราะผู้สมัครเข้าทำงานของโกลบอลเอ็กซอร์ท
อันเดลก็เช่นกัน คุณไม่อาจดื่มโพชั่นฟื้นฟูราวกับดื่มน้ำได้หากไม่มีเหมืองเงินเหมืองทอง พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับเงินตรา ไม่ว่าจะยังไง สำหรับฮยอนอูแล้ว สถานการณ์เช่นนี้นับได้ว่าเป็นแสงส่องสว่างชี้ทางให้เลยทีเดียว
‘นี่ไง นี่ไงเล่า!’
หนทางที่จะทำให้เขาเล่นเกมได้!
‘เราสามารถหาเงินจากเกมได้!’
หลังจากที่พบช่องทาง เขายิ่งรู้สึกโกรธยิ่งนักที่ตนไม่รู้เรื่องราวจนถึงตอนนี้
การประมูลจบลงแล้ว ผ้าคลุมสีชาดแห่งความฝันถูกขายออกไปที่ราคาสี่ล้านห้าแสนวอน
เขายังเปิดประมูลชุดเกราะโลหะยกเซ็ตของอันเดลด้วย เป็นเพราะค่าพลังป้องกันมันดีเอาเรื่องนั่นเอง แม้มันจะมีข้อจำกัดหลายอย่างสำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นอาชีพนักรบ อีกทั้งมันยังเป็นเกราะที่ไม่ได้หรูหราอะไร ท้ายที่สุดแล้วจึงถูกขายออกไปที่ราคาสองล้านห้าแสนวอน
แม้ว่าเขาจะเสียดายที่ต้องขายพวกมันไป แต่เขาก็คิดแทนว่านี่คือการลงทุน
ถ้าหากเขาสามารถลงสมาธิกับเกมได้ตลอดทั้งวัน มันก็ไม่มีอะไรให้น่าเสียดาย
ด้วยการขายผ้าคลุมและชุดเกราะของอันเดล ค่ารักษาพยาบาลสองเดือนนั้นตกอยู่ในมือของเขาแล้ว อีกทั้งยังมีเหลืออีกนิดหน่อยให้เขาสามารถใช้เล่นเกมได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากไปอีกสองเดือน ถ้าหากเขาสามารถทำเงินได้เช่นนี้ เขาอาจจะสามารถซื้อเครื่องเกมมาเล่นเองได้สักวันหนึ่ง
กระทั่งว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบ ถ้าหากเขายังสามารถเล่นนิวเวิร์ลด์ต่อได้ เขาก็จะสามารถทำเงินได้
‘เอาล่ะ มาลองกันสักตั้ง!’
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮยอนอูตั้งใจมุ่งมั่นเส้นทางอาชีพเกมเมอร์
วันถัดมา เงินจำนวนเจ็ดล้านวอนได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของเขา
เมื่อฮยอนอูยืนยันจำนวนเงินคงเหลือในบัญชี เขาจึงออกไปที่ร้านค้า เจ้าของร้านก่นด่าสาปแช่งที่เขาไม่โผล่หน้ามาทั้งสัปดาห์ จากนั้น ฮยอนอูจึงยื่นจดหมายลาออกอย่างสุภาพและเร่งร้อนออกมาจากร้าน
ฮยอนอูไม่ใช่คนที่มีสัมพันธ์ฉันท์มิตรเหลือมากนัก เขาจึงไม่ต้องรู้สึกเสียดายอะไรที่ต้องทำเช่นนี้
ถ้าหากจะมีคนหนึ่งที่เขาเสียดาย ก็คงเป็นเพื่อนร่วมงานอย่างฮเยซอน ฮเยซอนไม่เคยที่จะลืมยิ้มให้เขาแม้เธอต้องเผชิญความยากลำบากของทางบ้านเช่นเดียวกับฮยอนอู แต่ว่าฮยอนอูที่ไม่เคยให้ความใส่ใจผู้อื่นเลยนั้นกลับเห็นเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
แม้ว่าจะไม่ดีนัก แต่เขาก็อยากที่จะอธิบายสถานการณ์ของตนเองให้เธอได้ฟัง
“เธอต้องหัวเราะแน่เลยถ้าพี่จะบอกว่าลาออกไปเล่นเกม แต่นี่มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพี่”
“แต่นี่มันกะทันหันเกินไป”
ฮเยซอนเผยใบหน้านองน้ำตา
“อย่าเศร้าไปน่า แม่ของพี่ก็อยู่โรงพยาบาลใกล้ ๆ นี่เองนะ ตอนที่พี่จะไปโรงพยาบาลจะมาซื้อเครื่องดื่มที่นี่แล้วกัน แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะ ไม่ว่าจะหนูหรืออะไร พี่จะช่วยเราจับพวกมันโยนออกไปให้พ้นเอง”
“หนู...” ฮเยซอนหัวเราะคิกคักขณะพึมพำกับตัวเธอเอง “ได้ค่ะ แต่เรื่องนั้น... ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
ฮเยซอนดูแปลกไปราวกับเธอสลัดทิ้งแล้วซึ่งความกังวล
“แต่ว่านะพี่ชาย ถ้าหากพูดถึงเกมแล้ว สำหรับพี่ก็คงเป็นนิวเวิร์ลด์ใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“ได้ค่ะ งั้นไว้เจอกันที่นั่นแล้วกันค่ะ”
“ว่าอะไร? เธอเล่นนิวเวิร์ลด์แล้ว? ในเกมชื่ออะไรล่ะ?”
“ความลับค่ะ ไว้หนูจะไปหาพี่นะ ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่” ฮเยซอนตอบกลับด้วยรอยยิ้มงดงาม
* * *
“หึหึหึ”
เสียงหัวเราะดังก้องอยู่ภายในป่าแห่งเงา
บุคคลที่มีค้างคาวและกะโหลกศีรษะเคียงข้าง พร้อมออร่าชั่วร้ายแห่งความโลภที่ปลดปล่อยออกมานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากอาร์ค
นี่ไม่ใช่อาร์คคนเดิมอีกต่อไป ปณิธานแรงกล้ากำลังเผยออกมาอย่างมีชีวิตชีวาบนใบหน้าของอาร์ค มันเปลี่ยนไปแล้ว นับตั้งแต่วันนี้อาร์คได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่โดยยึดอาชีพเกมเมอร์
“เจ้านายทำไมถึงมีท่าทีแบบนี้ล่ะ? นี่มันน่ากลัวไปนะ”
เจ้าค้างคาวสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอาร์คไปในทางน่ากลัวขึ้นจนร่างสั่น
“หุบปาก แกเตรียมตัวไว้ให้ดี นับจากนี้จะไม่มีการพัก เจ้าค้างคาวไปสำรวจพื้นที่ซะ หาสถานที่ที่มีมอนสเตอร์รวมตัวกันอยู่เยอะ ๆ”
“ระ-รับทราบ”
ด้วยดาบที่ชี้ขึ้น ท่าทีของอาร์คตอนนี้ที่มีต่อป่าแห่งเงาราวกับคนบ้าคนหนึ่ง
“รอก่อนเถอะอลัน! สักวันฉันจะให้แกมาคุกเข่าต่อหน้าให้ได้!”
ทั่วทั้งป่าแห่งเงาโดนขุดราก ก่อนหน้านี้เขาได้จากไปเพราะคิดว่ามันจำเป็นต้องใช้กลุ่มขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้เขากลับมาอีกที่นี่อีกครั้งเพราะมีมอนสเตอร์อยู่ชุกชุม อีกทั้งยามที่เขาพบมันสักตัวหนึ่ง ดวงตาของเขาแทบจะทอแสงสว่างวาบออกมา
นี่ไม่นับว่าบ้าคลั่ง แต่เป็นความโลภที่ชโลมไปทั่วทั้งดาบของเขาขณะฟาดฟันลงใส่ทั้งซอมบี้และกูลอย่างไม่อาจยั้ง เท่านั้นยังไม่พอ เขายังคว้าเอาวัตถุดิบทำอาหารทุกชนิดในพื้นที่จนถึงขนาดที่ว่าป่าแห่งนี้เหี้ยนเตียน
‘เราไม่อาจต่อว่าอะไรเรื่องอาชีพได้อีก ในเมื่อเราเลือกมันมาเอง เราก็ต้องใช้อาชีพนี้ให้ดีที่สุด และเมื่อมันดีขึ้น เราจะสามารถใช้ความสามารถเต็มร้อยของอาชีพพิเศษนี้ได้!’
อาร์คไม่ยอมเสียเวลาแม้เพียงนาที
ถ้าหากเขาจะพักชั่วครู่ก็เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต และทันทีที่เขาทำอาหารเพื่ออยู่รอดออกมาก็จะโยนพวกมันให้ปีศาจอัญเชิญกิน
“ชะ-ช่วยด้วย! หยุดเถอะเจ้านาย!”
ทั้งเจ้าค้างคาวและกะโหลกต่างกรีดร้องออกมา ทว่าอาร์คไร้ซึ่งความปราณี มันเป็นเพราะค่าสถานะของปีศาจอัญเชิญที่เพิ่มขึ้นมันก็หมายถึงอาร์คจะแข็งแกร่งขึ้น
ยามที่เขาได้รับอุปกรณ์สวมใส่ที่ดร็อปจากมอนสเตอร์ เขาจะซ่อมแซมมันอย่างต่อเนื่องด้วยการเวทมนตร์ฟื้นคืนจนกระทั่งค่าความทนทานเหลือเพียงแค่หนึ่ง เพื่อที่จะประหยัดเงินแม้เพียงสักเล็กน้อย มันจำเป็นต้องเพิ่มทักษะเวทมนตร์ฟื้นคืนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงทักษะอื่นก็ด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะทักษะไหน ถ้าหากเขายกระดับมันขึ้น เขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหรือช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เขาได้มากขึ้น
และมันเป็นเหตุผลที่จะช่วยยกระดับชีวิตของเขาให้ดียิ่งขึ้นด้วย
“มอบค่าประสบการณ์มา! มอบเงินมา! มอบไอเทมมา!”
ขณะที่อาร์คออกล่าราวบ้าคลั่ง มอนสเตอร์อันเดตทั้งหลายราวกับคิดหลีกเลี่ยง ในขณะที่แรงจูงใจของเขาท่วมล้นกระทั่งไม่ปล่อยหลุดรอดแม้ศีรษะของเหล่าอันเดต เพียงพริบตาเขาได้ปลดปล่อยระเบิดแห่งโทสะออกมา อาร์คกลับกลายเป็นศัตรูที่แสนอันตรายต่อป่าแห่งนี้ไป
หลายวันผ่านไปด้วยการล่าเช่นนี้ ในที่สุดมอนสเตอร์ที่น่ากลัวก็ปรากฏตัวขึ้น บอสระดับกลางจะปรากฏตัวเมื่อสังหารเหล่าอันเดตไปจำนวนหนึ่ง เป็นยมทูต ยมทูตที่ร่างเริ่มเด่นชัดกำลังเข้ามาใกล้เขา มันมากับเสื้อคลุมสีดำที่โบกสะบัดพร้อมกับเหวี่ยงเคียวขนาดยักษ์เข้าใส่
“เจ้าถึงกับกล้าสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ของข้า!”
เสียงร้องต่ำพลันสั่นสะท้านป่าแห่งเงา
แม้ว่ามันจะดูน่ากลัว แต่ทว่ามันที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นคือค่าประสบการณ์มากมายมหาศาลในสายตาของอาร์ค
หลังผ่านการออกล่าอย่างไม่หยุดในป่าแห่งเงา เลเวลของอาร์คเพิ่มขึ้นเป็น 39 แล้ว ด้วยโบนัสค่าสถานะ 20% ที่จะเพิ่มขึ้นในความมืด เขาในตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นเลเวล 40 ปลาย ๆ
ด้วยระดับทักษะของเขาที่โหมกระหน่ำยกระดับขึ้นมา ทำให้ทักษะต่อสู้ด้วยดาบและมือตอนนี้เข้าถึงขั้นกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กระทั่งว่ายมทูตที่เป็นมอนสเตอร์เลเวล 50 เขายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัวมัน
“อย่าเสียเวลาพูดมาก เข้ามา!”
“หึหึหึ เผชิญหน้ากับผู้เฝ้าประตูแห่งยมโลกเช่นข้า ไอ้เด็กน้อย เจ้าไม่ได้ตายดีแน่!”
ยมทูตพุ่งเข้าหาอาร์คอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเหวี่ยงเคียวยักษ์ของมัน
อาร์คที่หลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังอยู่ในระยะโจมตีประชิดจึงใช้คมดาบแห่งความมืดสวนกลับ
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ยมทูตเริ่มที่จะชักเท้ากลับ
ขณะเดียวกัน เจ้าค้างคาวและกะโหลกต่างก็โรมรันจากด้านข้างของยมทูต
เจ้าค้างคาวและกะโหลกแยกด้านกัน เป็นเพราะจำนวนอาหารที่พวกมันจะได้กินนั้นขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากการต่อสู้
“แค่ก แก...!”
ขณะที่ยมทูตเริ่มซวนเซ อาร์คพลันใช้เนตรแห่งแมว
พลังชีวิตของยมทูตปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของมันพร้อมกับจุดสีแดงที่ปรากฏบนร่างกาย พวกมันคือจุดอ่อนที่ถูกพบเห็นโดยเนตรแห่งแมว
ปะ-ปะ-ปะ-ปัง!
ขณะที่เขารัวการโจมตีใส่จุดสีแดง พลังชีวิตของยมทูตก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อพลังชีวิตลดลงเหลือเพียงครึ่ง ออร่าสีดำพลันเริ่มทะลักออกมาจากร่างของยมทูต
“จงหวาดกลัวความตาย!”