ตอนที่แล้วตอนที่ 2: ร้านขายอาวุธฉีฟาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4: การสังหารหมู่นองเลือด

ตอนที่ 3: ดาบสั่งทำ


หลังจากที่เขาเข้าไปในห้อง จางมู่เห็นเซเหลียงกำลังจับโลหะอยู่บนพื้น เมื่อเขายกหูจับขึ้น มันทำให้เห็นว่าลึกลงไปมีบันไดไม้ เขาไม่รอช้าและปีนลงไปในหลุม จางมู่ตามเขาไปในทันที

มันคือห้องใต้ดิน เมื่อลมพัดเข้ามาในห้องใต้ดินผ่านทางหลุม หลอดไฟก็สว่างโชติช่วง ภายในห้องเต็มไปด้วยแสงเปล่งประกาย มันทำให้ตาของจางมู่ปรับให้เข้ากลับแสงจนลืมแทบไม่ขึ้น

ห้องใต้ดินนั้นไม่ใหญ่มาก เขาสามารถเห็นทุกอย่างภายในห้องใต้ดินโดยแค่มองผ่าน ๆ มีโต๊ะทำงานที่เด่นมากอยู่ตรงกลางห้อง ซึ่งนั้นก็เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ มันรกเต็มไปด้วยงานที่ยังไม่เสร็จและอุปกรณ์ต่าง ๆ

จางมู่เงยหน้าขึ้นมองก็พบกับมีดและดาบแขวนอยู่บนกำแพง

จางมู่เงียบและมองไปรอบ ๆ เขาเห็นถึงข้าวฟ่างหลายสิบถุงและอาหารอื่น ๆ วางอยู่ที่มุมห้อง

อย่างนี้นี้เองที่ทำให้เซเหลียงรอดจากช่วงเวลาที่ยากที่สุดหลังจากเกิดภัยพิบัติ เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ผู้คนจำนวนมากหิวตายภายในห้องของเขาเพราะว่ากลัวการที่จะออกจากห้อง

เซเหลียงแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มั่นใจบนปากของเขา หลังจากที่เขาเห็นความตกใจบนใบหน้าของจางมู่ ภายในห้องนี้เขาคือ ราชาที่ดีที่สุดในอาณาเขตนี้

ท่าทางเสื่อมทรามของเขาหายไป และพูดกับจางมู่ด้วยรอยยิ้ม“น้องชายจาง ดาบหรือมีดอันไหนที่นายชอบ? พวกมันไม่ใช่เครื่องมือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ดังนั้น นายอาจรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่จะใช้มัน อย่างไรก็ตาม นายดูไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญในการใช้มีดเลย ในกรณีนี้ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับนาย”

จางมู่มองไปรอบ ๆ และไม่พบอะไรที่เหมาะสม ในที่สุด เขาก็มองไปที่ดาบยาวด้านมุมของกำแพง

ใบมีดของดาบบาง แคบ และมีปลายแหลมคม ที่สำคัญที่สุดมันมีความยาวถึง 1.2 เมตรและมีแสงวูบวาบทะลุผ่านใบมีดของมัน

จางมู่รู้สึกประหลาดขึ้นในใจ เขาชี้ไปที่ดาบแล้วพูดว่า“เล่มนี้ ฉันต้องการดาบยาวเล่มนี้”

แต่อย่างไรก็ตาม เซเหลียงแสดงให้เห็นถึงความอึดอัดใจบนหน้าของเขา

“อืม น้องชายจาง นายมีดวงตาที่แหลมคม ดาบแทงค์อันนี้เป็นดาบที่ดีที่สุดที่ฉันทำมา แต่อย่างไรก็ตาม มันถูกปรับให้เหมาะสำหรับคนอื่น ไม่เช่นนั้น มันคงไม่ยาวกว่าดาบแทงค์ปกติถึง 20 เซนติเมตร มันถูกทำให้คมตามลักษณะนิสัยของคน ๆ นั้น มันไม่เหมาะสำหรับนาย ไม่ ฉันไม่เต็มใจที่จะขายให้นาย แต่อย่างไรก็ตาม มันถูกวางที่มุมห้องเป็นเวลานานถึงครึ่งปี สำหรับคน ๆ นั้นจ่ายฉันเพียงสองพันหยวนสำหรับการมัดจำและไม่เคยมาอีกเลย นายควรจะฟังคำแนะนำของฉัน มันยาวมาก นายอาจจะรู้สึกไม่สบายที่จะใช้มัน”

จางมู่รู้ว่าคำพูดของเซเหลียงนั้นจริงใจและเขาก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงโบกมือและพูดว่า“เนื่องจากคน ๆ นั้นผิดสัญญาของเขา มันจะดีกว่าที่จะขายมันให้ฉันมากกว่าที่จะวางอยู่ตรงนี้ นอกจากนั้น มันถูกทำให้แหลมคม ซึ่งประหยัดเวลาของฉันมาก”

เซเหลียงไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่ จากที่จางมู่พูดมา เขารู้ว่า จางมู่ ไม่ใช่คนธรรมดา อย่างไรก็ตาม ทำไมเขาถึงไม่รู้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับดาบนี้?

“ฉันคิดอย่างตรงไปตรงมาแล้วนายน่าจะคิดมากกว่านี้”

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ดาบนี้ราคาเท่าไร? บอกฉันมาและฉันจะซื้อมัน”

เซเหลียงรู้ว่าจางมู่ตัดสินใจไปแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนมันได้

เขาบอกราคากับจางมู่ “เนื่องจากมันไม่ใช่ดาบที่เก็บรักษาไว้อีกต่อไปและมันดีมากที่ได้พูดคุยกับนาย ฉันสามารถพิจารณาคำขอที่จริงใจของนายได้ นายให้ฉันมาสองพันห้าร้อยหยวนแล้วมันจะเป็นของนาย”

สองพันห้าร้อยหยวนนั้นเป็นราคาที่ถูก ในกรณีอื่น เขาไม่สามารถซื้อมันได้ในราคานั้น

จางมู่ดีใจกับโชคของเขา เงินสามพันหยวนมันเพียงพอ เขาสำนึกบุญคุณชายโชคร้ายที่ถูกเขาขโมยเงิน

แม้ว่าสัญชาตญาณของจางมู่ในฐานะพ่อค้าจะหงุดหงิดในใจ แต่เขาก็ไม่เจรจาต่อรอง เขารู้ถึงความหมายของ “พอแล้วก็คือแล้ว” เขาไม่อาจเสี่ยงต่อการทำลายมิตรภาพที่เพิ่งสร้างขึ้น นอกจากนี้ ถ้าเซเหลียงรู้สึกหงุดหงิดและปฏิเสธที่จะขายดาบให้กับเขา นั่นก็คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเขา

จางมู่ให้เงินแก่เซเหลียงในทันที

“ดีมาก นายมีหัวใจที่ใหญ่มาก น้องชาย ดาบจะเป็นของนายในตอนนี้ รอสักครู่ ฉันจะเขียนใบเสร็จให้กับนาย”

จางมู่ยิ้มและโบกมือของเขา

“ไม่เป็นไร ขอบคุณ ฉันไม่ต้องการใบเสร็จ”

เขาเดินเข้าไปที่กำแพงและเอาดาบแทงค์จับไว้ในมือของเขา

เขาค่อย ๆ ลูบใบมีดของดาบ เป็นครั้งแรกหลังจากที่เขากลับมาในเวลานี้ หัวใจของเขารู้สึกผ่อนคลาย

“ดีเลยเพราะนายไม่จำเป็นให้ฉันเขียนใบเสร็จรับเงิน ... ฉันสามารถคืนเงินนายหนึ่งร้อยหยวน”

เซเหลียงรู้สึกแปลก ๆ ในใจ แต่เขาไม่ได้คิดมากเกินไป เขาคืนเงินให้จางมู่หนึ่งร้อยหยวน

จางมู่ไม่ปฏิเสธเขา เขาต้องการใช้เงินในตอนนี้

จางมู่ต้องการที่จะตรวจสอบดาบอย่างถี่ถ้วน แต่ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาบนกำแพง

เขาขมวดคิ้วแล้วก็เอาดาบใส่ฝักและถือไว้ในมือของเขา

“พี่เซเหลียง ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำในแผนที่วางไว้ ฉันขอตัวก่อน!”

หลังจากนั้น จางมู่ก็รีบปีนบันไดและวิ่งออกจากร้าน

ก่อนที่เซเหลียงจะรับรู้ จางมู่ก็ได้วิ่งออกไปแล้ว ชายร่างใหญ่ได้แต่ยืนอยู่ที่เดิมและกระซิบว่า“ดูเถอะ..น้องชายจางนี่แปลกจริง ๆ”

หลังจากออกจากซอยแล้ว จางมู่ก็วิ่งถือดาบยาวไว้ในมือของเขา เขาไม่สนใจสายตาที่แปลกประหลาดของคนอื่นและวิ่งเข้าไปในตลาดมือสอง

ตลาดมือสองมีชื่อเสียงในหมู่ผู้ที่อาศัยในฐานะล่างของสังคมในเมืองหลัวหยาง

แม้ว่าสินค้าที่ขายที่นี่เป็นสินค้ามือสอง แต่ส่วนใหญ่พวกมันเป็นของแท้ นอกจากนี้พวกมันจะมีราคาถูก จางมู่ค้นกระเป๋าของเขาและพบเงินเพียง 6 ร้อยหยวนเท่านั้น เขาต้องใช้อย่างระมัดระวัง

จางมู่มีความรู้สึกประทับใจลึก ๆ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นสถานที่ที่ธรรมดา แต่ในอนาคตเนื่องจากมีสินค้าที่เหมาะสมและร้านขายเมล็ดพืชหลายแห่งในตลาด มันจึงเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ในสายตาของกองกำลังหลายแห่งในเมืองหลัวหยาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด