บทที่ 39 ฉินกุย
บทที่ 39 ฉินกุย
ขณะเดียวกันที่เชาเวนจุนตะโกน หลินเฟิงรูกสึกถึงลมกระโชกแรงซึงเกิดจากอาวุธตัดอากาศ เขาหลบไปด้านข้างอย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหลบพ้นมันบาดเข้าที่แขนซ้าย โชคดีที่แผลไม่ลึกนัก
“ฉินกุย”
ในขณะที่เขาหันกลับไปก็เห็นฉินกุยยืนอยู่ตำแหน่งเดิมพร้อมมีดในมือ
“มอบเม็ดสีเขียวมา!”
เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถฆ่าหลินเฟิงได้เขาก็ตะโกนออกมา
“ทำไมเราต้องมอบมันให้นาย ซอมบี้คลาส 4 ถูกพี่ชายหลินและฉันเป็นคนฆ่า”
ดงวูเห็นมีดในมือของฉินกุยเพราะเขาเป็นนักล่าดงวูเลยรูสึกยำเกรง อย่างไรก็ตามเมื่อตระหนักได้ว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งเขาจึงกล้าที่จะพูดขึ้นมากับฉินกุย
“ทำไม? ยังไงก็ต้องมอบมันให้กับฉัน”
ฉินกุยยกมีดข่มขู่อีกครั้ง
“ฉินกุย คุณกำลังเดินทางผิด ซอมบี้คลาส 4 ถูกฆ่าโดยกลุ่มของหลินเฟิง นอกจากนี้หลินเฟิงเองก็เป็นผู้มีพระคุณของฉัน แล้วคุณยังบอกให้พวกเขามอบของมาอีก พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ”
เชาเวนจุนกล่าวด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าฉินกุยและหลินเฟิงตั้งท่าต่อสู้แก่กัน
“เพื่อน? ที่เป็นเพื่อนกับแก เพียงเพราะฉันไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยฐานนะนักล่าของฉันดังนั้นฉันเลยเปิดร้านร่วมกับแก แกหลงคิดว่าฉันจะเป็นเพื่อนกับแกหรือ คนอย่างแกเนี่ยนะ” ขณะที่ฉินกุยกล่าวดวงตาของเขายังคงจ้องมองที่เม็ดสีเขียวในมือหลินเฟิง
“หลินเฟิงไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน วันนี้ฉันต้องได้รับเม็ดสีเขียวไม่เช่นนั้นก็ตาย”
หลังจากฉินกุยพูดเสร็จ หลินเฟิงก็เห็นได้ชัดว่าพลังงานผันผวนของเขาเพิ่มขึ้นจนเป็นนักล่าระดับ 5
นักล่าระดับ 5!
หลินเฟิงแค่คิดว่าฉินกุยเป็นนักล่าธรรมดาไม่คิดมาก่อนว่าจะถึงระดับ 5
“เขาทำได้อย่างไร” หลินเฟิงพึมพำ
หลินเฟิงรู้ว่านักล่าสามารุปกปิดระดับพลังงานผันผวนได้แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่ามันจะปิดได้ถึงระดับนี้
“คิดไม่ถึงสินะ” เมื่อเห็นการแสดงออกของหลินเฟิงและการแสดงออกอย่างโง่งมของเชาเวนจุน ฉินกุยแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด
“ฉันเป็นนักล่าระดับ 5 มาตลอด แต่คริสตัลวิญญาณของฉันพิเศษ มันจะสามารถลดระดับที่แสดงได้”
ฉินกุยมองไปที่เชาเวนจุนและพูดต่อ
“ฉันซ่อนความจริงที่ว่าฉันเป็นนักล่า เพราะฉันไม่อยากทำงานให้ฐาน และฉันหวังว่าสักวันฉันจะสามารถฆ่าซอมบี้คลาส 4 เพื่อได้รับเม็ดสีเขียวในหัวมันแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”
ฉินกุยจ้องมองไปที่เม็ดสีเขียวแล้วหัวเราะ
ถ้าเขามีเม็ดสีเขียวเขาจะสามารถปลุกจิตวิญญาณของเขาได้ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดในโลกที่โหดร้ายนี้ได้ ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาต้องฝึกฝนอีกหลายปีกว่าจะสู้กับซอมบี้คลาส 4 ได้ แต่เวลานี้ ฉินกุยเหมือนกับได้รับชิ้นเนื้อจากสวรรค์
ฟังสิ่งที่ฉินกุยกล่าวเชาเวนจุนสั่นด้วยความโกรธแม่ว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนสนิทกันแต่เชาเวนจุนก็ถือว่าเขาเป็นเพื่อนด้วยความจริงใจ เขาไม่คิดว่าแค่วัตถุชิ้นเดียวจะเปลี่ยนฉินกุยได้มากขนาดนี้
“นายนี้ป็นสวะ จริงๆ ต้องการฉกฉวยในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง”
หลินเฟิงไม่พูดมากแทงฉินกุยด้วยดาบปลายปืนของเขา
พลังของหลินเฟิงนั้นธรรมดามากสำหรับฉินกุย แต่เขามีรูปแบบในการต่อสู้ทุกครั้งที่ฉินกุยเข้าทำร้ายหลินเฟิงมักจะพลิกแพงหลบหลีกได้อย่างต่อเนื่องและหลินเฟิงก็โจมตีเข้าที่จุดที่ไร้การป้องกันของฉินกุย
หลายนาทีผ่านไป ทั้งสองคนหยุด ทุกคนสามารถเห็นว่าหลินเฟิงได้รับบาดเจ็บแต่ในขณะที่ฉินกุยเต็มไปด้วยบาดแผลใหญ่ตรงจุดสำคัญของเขา
“อึก..นักเต้น...”
นี้คือคำสุดท้ายของฉินกุย
บางทีเพราะเขาหลบซ่อนในฐานนานเกินไปทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาไม่ดีนอกจากนี้เมื่อเทียนกับชายวัยกลางคนที่ลักพาตัวดงวูแล้วหลินเฟิงคิดว่า ฉินกุยนั้นอ่อนแอกว่า
“ขอโทษนะหลินเฟิง”
เชาเวนจุนมายืนต่อหน้าหลินเฟิงและลดศีรษะลงแม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าแต่ครั้งนี้ดูราวกับว่าเขาเป็นเด็กที่ทพผิดพลาด
“ไม่ใช่ความผิดของคุณ อย่างไรก็ตามอย่ายอมรับคนอื่นเป็นเพื่อนง่ายๆ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อใจทุกคนในโลกที่เลวร้ายนี้”
หลินเฟิงไม่โทษเขา หัวใจของคนในยุคที่เลวร้ายนี้เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ ต่อหน้าเม็ดสีเขียวชิ้นนี้อย่าว่าแต่นักล่าระดับ 5 อย่างฉินกุยเลย นักล่าระดับ 7 อย่างวูฟก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้
เมื่อนึกถึงวูฟ หลินเฟิงมองไปที่นาฬิกาของเขาและพบว่าภารกิจกำจัดซอมบี้คลาส 4 ยังอยู่ ฮ่าฮ่าฮ่า หลินเฟิงหัวเราสะใจเขารีบกดยอมรับภารกิจและระบบก็ยืนยันความสำเร็จอย่างรวดเร็วเขาได้รับรางวัล 10,000 คริสตัลขาว
“ถ้าวูฟมาเห็นว่าภารกิจถูกทำเสร็จแล้วเขาคงอกแตกตายเป็นแน่”
เนื่องจากเขาทำภารกิจเสร็จแล้วกลุ่ม ซ่านเส่อถังของเขาเลื่อนเป็นระดับ 3
หลังจากนั้นเขาทั้ง 5 คนเริ่มเคลื่อนย้ายไปตามทอศทางของ เมือง หนานซาน ต่อไป
เมื่อพวกเขาเข้าใกล้บริเวณฐาน หลินเฟิงก็สักเกตุเห็นด้านข้างของถนนมีที่กั้นในพื้นที่รอบๆมีการเพาะปลูกและมีคนถืออาวุธปืนเดินรอบๆ
นี้ควรเป็นพื้นที่เพาะปลูกนอกเมืองหนานซาน คนเหล่านี้เป็นยามที่คอยปกป้องพืช ฐานจางหลางเองก็มีพื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งแต่ก็เต็มไปด้วยซอมบี้กระจัดกระจาย เขามองในแผ่นที่เมืองหนานซานจะถึงอีก 5 กิโลเมตร นับตั้งแต่ตรงนี้เป็นทุ่งนากว้าง
ดูเหมือนว่าการจัดการฐานของหนานซานจะดีกว่าฐานจางหลางมาก หลังจากนั้น 10 นาที เขาก็มาถึงทางเข้า เมือง หนานซาน