เล่ม 1 ตอนที่ 8 : ตายซะ! (2)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
เล่มที่ 1 ตอนที่ 8 : ตายซะ! (2)
อาร์คที่ได้รับเอกสารยืนยันเงินพลันยิ้มจนแก้มแทบปริ
เขาคิดว่ามันเป็นไปได้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าปัญหานี้จะนำพามาเขามาถึงตรงนี้
ส่วนลดที่เขาได้รับจากโรงตีเหล็กคือ 5% และด้วยเงินจำนวน 2,500 เหรียญทองนี้สามารถได้รับมาซึ่ง 125 เหรียญทองอย่างง่ายดาย ราวกับวันนี้ได้รับถุงเงินถุงทองมาโดยง่าย
ทว่า สิ่งที่ได้รับในตอนนี้นับว่าน่าพึงพอใจมากแล้วสำหรับมือใหม่ ยิ่งคุณได้กำไรมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น
อาร์คไปพบนอร์ตันพร้อมยื่นเอกสารการเงินให้
“ทั่วไปและหรูหราอย่างละหนึ่งร้อยกล่อง ต้องรอนานไหม?”
“อย่างละหนึ่งร้อยกล่อง? จัดส่งไปที่ปราสาทท่านลอร์ด?”
“ใช่ และถ้าไม่มากเกินไป ท่านไม่คิดให้ส่วนลดสัก 10% หน่อยหรือ?”
อาร์คเริ่มต่อรอง
“เจ้าพูดว่า 10%! พูดอะไรบ้า ๆ! ขายราคานั้นข้าก็ขาดทุนกันพอดี แต่เห็นว่าเจ้าสนิทสนมกับท่านลอร์ดนะ เอาไว้การซื้อขายครั้งหน้าข้าจะให้ส่วนลด 6% ก็แล้วกัน”
“8% ก็แล้วกัน! ในเมื่อท่านขายได้สองร้อยกล่องในครั้งเดียว จำนวนนี้ค่อยยุติธรรมหน่อยจริงไหม?”
อาร์คเริ่มโบกเอกสารการเงินต่อหน้าต่อตานอร์ตัน นอร์ตันเองก็เผยดวงตาที่เคลื่อนไหวมองตามเอกสารนั่น ท้ายที่สุดก็ต้องถอนหายใจออกมา
“ก็ได้ ข้าจะให้ส่วนลดเจ้า 7% เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้ามีเรื่องอยากขอร้องสองอย่าง”
“อะไรเหรอครับ?”
“หนึ่งนั้น ส่วนลดที่เจ้าได้รับต้องเปลี่ยนเป็นสินค้าแทนที่จะเป็นเงิน เพราะเงินที่เจ้าจ่ายมันเป็นเอกสารทางการเงิน แน่นอนว่าเจ้าคงไม่มีปัญหาอะไร”
“เข้าใจแล้วครับ แล้วอีกเรื่องล่ะ?”
“ที่จริง... วัสดุเพื่อจัดสร้างกล่องเครื่องมือเริ่มขาดแคลน ดังนั้นข้าก็เลยไม่อาจที่จะส่งมอบพวกมันถึงสองร้อยกล่องด้วยดีได้ กล่องเครื่องมือจำเป็นต้องใช้วัสดุพิเศษ สำหรับวัสดุอื่นนั้นข้ามีเพียงพอแล้ว ที่ข้าขาดก็คือวัสดุที่เรียกกันว่า ไอลาร์ด ข้าเลยอยากให้เจ้าไปหามันมาให้หน่อย”
“แล้วจะหามันได้จากที่ไหนกันล่ะครับ?”
“ไอลาร์ดเป็นไอเทมที่มีเพียงแต่นักแปรธาตุที่สามารถสร้างขึ้น นักแปรธาตุที่ร่วมธุรกิจกับเราชื่อว่าเรย์มอนด์ แต่เป็นเพราะสุขภาพของเขาในช่วงหลายวันมานี้ไม่ค่อยดีนัก เขาจึงแจ้งข้ามาว่าไม่อาจจัดสร้างไอลาร์ดได้มากเพียงพอ เขาจึงส่งคำร้องขอให้ส่งนักผจญภัยที่พอจะช่วยเขาได้ไปหาหน่อย เพราะงั้นก็ไปหาเขาเสีย ถ้าเจ้าบอกว่าข้าส่งไปเขาก็รู้เรื่องเอง”
“เข้าใจแล้วครับ แต่ว่าผมต้องไปหาวัสดุสำหรับไอเทมที่ผมจะซื้อเนี่ยนะ...”
“เจ้านี่โหดชะมัด ข้ายอมก็ได้ ข้าจะให้ส่วนลด 8% กับเจ้า”
“ขอบคุณมากครับ ผมก็แค่พูดไปเท่านั้นเอง แต่ว่ากับท่านลอร์ดนั้น...”
“ข้าเองก็เป็นเจ้าของร้านนะ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”
อาร์คที่ได้รับคำขอร้องจากนอร์ตันจึงไปหาเรย์มอนด์ เป็นดังที่เขาได้รับฟังมา เรย์มอนด์ออกมาต้อนรับอาร์คด้วยสภาพสีหน้าซีดเผือด
“เจ้าบอกว่านอร์ตันส่งเจ้ามา? ถึงแม้ว่าท่าทีของเขาจะทำเป็นเหมือนไม่เคยได้ยินเรื่องที่ข้าบอกจนถึงตอนนี้... เอาเถอะ เวลานี้ไอลาร์ดคงเหลือน้อยแล้วสินะ”
หลังจากที่อธิบายเป็นการส่วนตัว เรย์มอนด์จึงพยักหน้ารับ
“วัสดุที่เจ้าต้องไปหาคือแร่ที่หน้าตาคล้ายเห็ดสีแดง มันสามารถหาได้จากเพียงแค่ถ้ำที่อยู่ส่วนลึกของบึงใหญ่ เจ้าต้องไปจนแทบสุดทางเลยล่ะ แต่จำสิ่งหนึ่งเอาไว้ให้ขึ้นใจ มันเป็นแร่ที่มีมูลค่าสูงมาก เจ้าต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับแร่นี้เป็นความลับจากผู้อื่น เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดใช่หรือไม่?”
ทะ-ทะ-ด๊าม
หน้าต่างข้อมูลภารกิจพลันพุ่งขึ้นมา
=====
คำขอจากนักแปรธาตุเรย์มอนด์
นักแปรธาตุเรย์มอนด์แห่งเมืองแจ๊คสันคือผู้จัดหาไอลาร์ดให้กับโรงตีเหล็ก
แต่ทว่า เขาไม่อาจรับได้วัสดุที่จำเป็นเพราะอาการป่วย ดังนั้นเขาจึงขอร้องให้ท่านช่วยกระทำแทนให้
เรย์มอนด์ย้ำเตือนท่านหลายครั้งไม่ให้แพร่งพรายข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแร่นี้ต่อผู้อื่น
เพื่อคำร้องขอของเรย์มอนด์ ท่านต้องปกป้องความลับนี้จนกระทั่งภารกิจเสร็จสิ้น ท่านไม่อาจเข้าร่วมปาร์ตี้ได้
ระดับความยาก : F
=====
‘ภารกิจแบบนี้ก็ได้เหมือนกันเหรอเนี่ย!’
หากมีใครรู้ว่าเขาวางแผนที่จะได้รับกล่องเครื่องมือฟรีคงต้องมาขอร่วมภารกิจเป็นแน่!
‘ภารกิจนี้มอบให้แต่ผู้ที่สั่งซื้อกล่องเครื่องมือหลายร้อยกล่อง? งั้นก็คงมีไม่กี่คนสินะที่เคยทำภารกิจพวกนี้”
การจับหนูจนได้เรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไม่ต่างกัน
ถ้าหากความยากเป็น F ก็ดูเหมือนว่าจะพอทำสำเร็จด้วยตัวเองได้
อาร์ครับภารกิจโดยไม่ลังเล ถ้าหากภารกิจนี้ลุล่วงด้วยดี เขาจะได้ส่วนลดค่ากล่องอุปกรณ์ถึง 8% ลำพังแค่เงินที่เขาจะได้รับเป็นส่วนลดนั่นก็กว่า 200 เหรียญทองแล้ว! ในเมื่อเขาจะได้รับกล่องเครื่องมือหรูหราถึงสิบกล่องฟรีก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ
อาร์ครับการกำหนดตำแหน่งในแผนที่พร้อมกับโพชั่นฟื้นฟูและขนมปัง รวมถึงกล่องเครื่องมือระดับหรูหราอีกสองกล่องเพราะเขาต่อรองมาได้ในฐานะค่าจ้างล่วงหน้า หลังจากที่เตรียมของเสร็จสิ้น เขาจึงเริ่มออกเดินทางไปยังถ้ำที่อยู่ภายในบึงใหญ่
* * *
“เจ้าค้างคาว แกออกไปสำรวจภายในถ้ำแล้วกลับมาด้วย”
“รับทราบแล้วเจ้านาย”
หลังอาร์คพูดจบ เจ้าค้างคาวก็สะบัดปีกของมันบินเข้าไปในถ้ำ
ขณะที่เดินทางผ่านบึงใหญ่มานั้น อาร์คก็เลเวล 32 แล้ว
บึงใหญ่อยู่ห่างจากเมืองแจ๊คสันประมาณหนึ่งวัน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์หลากหลายชนิด แม้จะเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ได้ยากนัก เป็นเพราะเขาได้ทำการยกระดับเลเวลของตนมาจากป่าแห่งเงาแล้ว แต่ยังมีศัตรูที่น่าปวดหัวอย่างสไลม์ เพราะร่างกายของมันเป็นกรด ทุกครั้งที่เขาเข้าต่อสู้ด้วย ค่าความทนทานของอุปกรณ์สวมใส่จะลดลงไปทีละน้อย ถ้าหากเขาไม่มีกล่องเครื่องมือมาด้วย เขาคงต้องวิ่งกลับหมู่บ้านไปแทบนับครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว
‘บ้าจริง ไอ้เจ้ากล่องเครื่องมือนี่ก็แพงบัดซบ...’
ถ้าหากต้องต่อสู้กับสไลม์ เขาจะกังวลเรื่องค่าซ่อมแซมมากกว่าพลังชีวิตของตนเองเสียอีก
‘จะยังไงก็ตาม ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ดันเจี้ยนที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกนะ’ อาร์คพึมพำด้วยความเสียดาย
ตอนที่คำอธิบายเกี่ยวกับถ้ำแห่งนี้โผล่ขึ้นมา มันไม่ได้มีโบนัสอะไรเพิ่มมาด้วย
กระทั่งว่าเป็นดันเจี้ยนที่เคยโดนบุกฝ่าไปแล้ว ทั้งมอนสเตอร์และไอเทมก็จะเกิดขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าหากคุณมีโชคเพียงแค่น้อยนิด คุณอาจต้องกลับไปมือเปล่า ทว่า อาร์คไม่ได้กังวลเรื่องนั้นมากนัก ในเมื่อจุดประสงค์สำคัญของเขาคือมาเพื่อจัดการภารกิจ
‘ในเมื่องานนี้มีค่าถึง 200 เหรียญทอง เราก็คงจะประมาทไม่ได้’
จากนั้น เจ้าค้างคาวก็พลันบินกลับออกมาจากถ้ำ
“เจ้านาย มีคนอยู่หนึ่งคน”
“คนเหรอ? แกหมายถึงคน?”
“ถูกต้อง เขากำลังมาทางนี้”
ดวงตาของอาร์คพลันเผยความระมัดระวัง
เขาต้องระมัดระวังผู้เล่นมากกว่ามอนสเตอร์เสียอีก กล่าวได้ว่าคนนั้นเป็นศัตรูโดยธรรมชาติกับตัวเขาก็ไม่ได้กล่าวเกินจริง ยิ่งพบเจอในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ ในสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดเข้าช่วยเหลือได้ ถ้าหากเขาถูกพบเจอโดยพวกชอบปะทะผู้เล่นเลเวลสูงเข้าล่ะก็ เขาอาจต้องพบเจอกับเภทภัย
อาร์ครอคอยด้วยสีหน้าตึงเครียด ไม่ช้า ใครคนหนึ่งก็เดินออกมาจากถ้ำ
ขณะที่อาร์คยืนยันใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาพลันเบิกกว้าง
“... นะ-นี่นาย?”
อีกฝ่ายเองก็คล้ายจำเขาได้จนต้องถอยกลับไปก้าวหนึ่ง
เป็นนักรบที่สวมใส่ชุดเกราะโลหะ เขาคืออันเดลนั่นเอง
ชื่อนี้เป็นเขาร่ำร้องออกนับครั้งไม่ถ้วนจนต้องกัดฟันแทบแตก!
อันเดลย่อมต้องจดจำอาร์คได้ เพราะเขาถึงกับก้าวถอยหลังเมื่อพบเจอ จากนั้น ราวกับเขาคิดอะไรบางอย่างได้ ดวงตาของเขาพลันกลิ้งกลอกไปมา เขาใคร่ครวญอยู่ว่าควรตอบสนองยังไงดี หลังผ่านไปนาน อันเดลจึงตัดสินใจได้เพราะมุมปากของเขาลอบยกขึ้นและกล่าวคำพูดออกมา
“อา นึกว่าใครที่ไหน เป็นนายที่เคยร่วมปาร์ตี้กับเรามาก่อนนี่เอง ชื่อของนายคืออาร์คใช่ไหม?”
อาร์คพยักหน้าเงียบงัน
เขาไม่อาจพึงพอใจได้แม้ว่าเขาจะพุ่งเข้าไปจัดการไอ้หมอนี่ทันทีเลยก็ตาม มันนานแค่ไหนกันที่เขารอคอยโอกาสเช่นนี้?
แต่ทว่า อาร์คกลับสะกดโทสะและอดทนเอาไว้
เขายังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าหากเขาไม่คิดหน้าคิดหลังกระทำตามอารมณ์ เขาอาจต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เขาเองก็อยากที่จะเห็นว่าอันเดลเป็นเช่นไรขณะที่เข้าไปใกล้
“นายคืออันเดลสินะ?”
“นายจำได้นี่เอง”
‘นี่แกนึกเหรอว่าฉันคนนี้จะลืมแกได้?’
อาร์คฝืนกล้ำกลืนและก่นด่าสาปแช่งอยู่ภายใน
“ดีเลย อยากเจอนายอีกครั้งอยู่พอดี”
“ฉันเหรอ...?”
“ใช่ เพราะดูเหมือนว่าเป็นข้าทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไป ใครจะรู้ว่าทุกครั้งที่นายตายจะต้องเสียค่าสถานะไป? หลังได้ยินเรื่องราวพวกนี้ข้าก็เลยไปยังหมู่บ้านฮารันเพราะอยากขออภัย แต่นายก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ข้าเป็นกังวลมากว่านายจะยอมแพ้เรื่องเกมนี้ไปเสียแล้ว แต่ในเมื่อนายมาถึงนี่ได้ก็ดูเหมือนจะเพิ่มเลเวลขึ้นมาได้มากเลยสินะ?”
‘นี่แกไม่รู้? ขออภัย? อีกไม่ช้าได้เห็นดีกันแน่ไอ้บัดซบ!’
ท้ายที่สุด สิ่งที่อันเดลสงสัยก็คือเลเวลของอาร์ค มันมีความเป็นไปได้ว่าท่าทีของเขาอาจเปลี่ยนไปถ้ารู้ว่าเลเวลของอาร์คต่ำกว่าตนเอง อาร์คจึงตอบกลับไปอย่างคลุมเครือ
“เอาเถอะ ช่างมัน ตามตรงนะ ตอนนั้นฉันโกรธมาก กระทั่งว่าอยากจะเลิกเล่นเกมนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็อย่างที่เห็นคือไม่อาจเลิกเล่นได้ เพราะงั้นก็เลยทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้”
“นายไม่ได้เข้าใจผิดไปใช่ไหม?”
“หา? เข้าใจผิดเรื่องอะไร?”
อันเดลสำรวจอาร์คโดยมองขึ้นลงอยู่หลายครั้งจึงค่อยเผยสีหน้าโล่งใจ
ด้วยชุดเกราะหนังหนูหมีสีดำ อุ้งตีนแมว และหมวกกับรองเท้าซอมซ่อที่เขาได้มาจากป่าแห่งเงา ไม่ว่าความสามารถของเขาจะเป็นยังไง มันก็ห่างไกลเกินกว่าสภาพภายนอกที่เป็นอยู่ เขาในตอนนี้ดูแล้วสภาพไม่ต่างกับขอทาน
สิ่งเดียวที่ดูมีค่าก็คือผ้าคลุมสีแดงโลหิตที่โบกสะบัดอยู่ด้านหลังเขา!
ด้วยข้อจำกัดมากมายของผ้าคลุม ทำให้เขาไม่สวมมันในขณะที่ออกล่า เขาเพิ่งสวมมันก็ตอนที่ได้ยินเจ้าค้างคาวบอกว่ามีผู้เล่นกำลังออกมานั่นแหละ
แม้กระนั้นเขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นเลเวลสูงมากมายอะไรนัก ในสายตาของอันเดลที่มองมานั้น มันเผยความเวทนา
“อาร์คนิม ถ้าหากนายมีเวลา สนใจเข้าไปในดันเจี้ยนนี้กับข้าไหม?”
*นิม เป็นคำกล่าวยกย่องผู้อื่นคล้าย คุณ ในภาษาไทย*
“ดันเจี้ยน?”
“ข้าเพิ่งพบดันเจี้ยนนี้เพราะผ่านทางมาน่ะ แต่มันก็ค่อนข้างยากอยู่บ้างถ้าจะลุยเดี่ยว เพราะงั้นก็เลยอยากหาคนที่รู้จักมาช่วย ในเมื่ออาร์คนิมอยู่ที่นี่ก็เลยอยากชวนเข้าไปด้วยกัน คิดว่าไง?”
“นั่นสินะ”
ขณะที่เองเผยท่าทีเหมือนยังไม่อาจตัดสินใจได้ อันเดลก็พลันพูดขึ้นมา
“ถ้าหากตกลง ไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนข้าขอยกให้อาร์คนิมทั้งหมดเลย”
“ถ้านายทำแบบนั้นคงไม่ดีมั้ง”
“ไม่หรอก ทำเหมือนกับที่เคยเป็นมาเมื่อครั้งล่าสุดก็พอ ตกลงไหม?”
“ก็นะ ในเมื่อนายพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็...”
อาร์คพยักหน้ารับ เขาไม่รู้เลยว่าอันเดลมีจุดประสงค์อะไรแอบซ่อน แต่อาร์คก็ไม่ต้องการปล่อยให้ไอ้เจ้านี่ลอยนวลเช่นกัน กระทั่งว่าถ้าเขาไม่อาจเอาชนะมันได้ เขาก็จะหาทางฝากรอยแผลเป็นให้อันเดลเอาไว้ดูต่างหน้าถ้ามีโอกาส เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่ได้ลงมือทำอะไรเขาคงนอนไม่หลับ
แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องยากถ้าเขาจะเข้าร่วมปาร์ตี้กัน เพราะเงื่อนไขของภารกิจ...
“ไปด้วยกันก็พอ พูดตามตรงนะฉันไม่อยากเข้าปาร์ตี้น่ะ”
“ไม่มีปัญหา”
อันเดลตอบรับอย่างรวดเร็ว
เมื่ออาร์คต่อรองเสร็จสิ้น เขาจึงเดินเข้าไปมองภายในถ้ำ และพลันสำรวจสภาพแวดล้อมรอบด้าน ขณะที่อาร์คเงยหน้าขึ้นพร้อมเผยสีหน้าตื่นตัวนั้น อันเดลก็เกาศีรษะด้วยสีหน้าเขินอาย
“นี่นายตกใจอะไร? ก็แค่อยากดูหน้าต่างสถานะของนายเอง ในเมื่อพวกเราไม่ได้สร้างปาร์ตี้ ข้าทำได้เพียงแค่คอยช่วยเหลือก็เลยอยากรู้ความสามารถของอาร์คนิมเอาไว้”
‘ไอ้หมอนี่มันคิดว่าเราอ่อนหัดหรือไง?’
ประกายไฟพลันพวยพุ่งจากดวงตาของอาร์ค
มันเป็นเรื่องปกติที่จะใช้ระบบ [สำรวจ] เพื่อขออนุญาตตรวจสอบหน้าต่างสถานะของผู้เล่นอื่น แต่นั่นต้องหลังการพูดขอเสียก่อน ถ้าหากอีกฝ่ายใช้คำสั่งโดยไม่ได้รับการยินยอม มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามีแรงจูงใจซ่อนเร้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่สิ่งที่แน่นอนว่าต้องเผยก็มีพลังชีวิตและค่าสถานะหลัก
ผ้าคลุมสีแดงชาดแห่งความฝันเป็นไอเทมที่ลดค่าสถานะทุกอย่างลง -15 หน่วย
อันเดลจะต้องคิดแน่ว่าค่าสถานะของอาร์คนั้นมันต่ำกว่าเลเวล 32 ตามปกติ กล่าวคือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอันเดลได้ความมั่นใจแล้วเพราะความสามารถและทักษะของเขาที่ค่อนข้างต่ำ มันคงไม่ค่อยดีนักที่จะเผยให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนเองอ่อนด้อยกว่า แต่มันก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้เขานอนใจ
ดังคาด อันเดลเผยสีหน้าโล่งใจออกมา
“ดูเหมือนนายจะไม่สามารถเรียกคืนค่าสถานะทั้งหมดที่เสียไปในตอนนั้นได้สินะ”
“ฉันเพิ่มเลเวลไปโดยไม่รู้อะไรน่ะ ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนอาชีพแล้วก็ตาม สภาพก็ตามที่เห็นแหละ”
“นายเปลี่ยนอาชีพเป็นอะไรเหรอ?”
“โจรน่ะ”
“อา เพราะงั้นสินะค่าความคล่องตัวกับโชคถึงสูง ข้านั้นเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบ ให้ข้านำเองก็แล้วกัน”
อันเดลชักเอาดาบยาวและยกโล่ขึ้นมา จากนั้นจึงเริ่มเคลื่อนตัวไปด้านหน้า การไม่ระวังหลังเช่นนี้ไม่นับเป็นอะไรเพราะเขามั่นใจว่าตนสามารถมีชัยเหนือเขาได้ถ้าหากเขาเล่นตุกติกอะไร
นี่เป็นข้อยืนยันว่าอีกฝ่ายลดการระวังที่มีต่ออาร์คโดยสมบูรณ์
‘เหอะ รอดูไปเถอะ แล้วแกจะต้องเสียใจที่นอนใจแบบนี้’
ขณะที่อาร์คครุ่นคิดกับตนเองอยู่นั้น
“เจ้านาย ข้าไม่ชอบมนุษย์ผู้นั้น”
เขาได้ยินเสียงไม่พอใจดังมาจากไหล่ของตน เป็นเจ้าค้างคาว อาร์คให้เจ้าค้างคาวเกาะไหล่ของตนเอาไว้ และปล่อยให้เจ้ากะโหลกแขวนอยู่ข้างเอว ในเมื่ออันเดลไม่ได้ถาม ก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นแค่ของประดับ
จะยังไงก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่อาร์คเห็นด้วยกับเจ้าค้างคาว
มันคือสหายที่เขาเชื่อใจไม่ว่าจะสถานการณ์ใด การพบเจออันเดลอีกครั้งทำให้เขาได้ตระหนักว่าการคงอยู่ของพวกมันมีค่ามากแค่ไหน
อาร์คอุทานออกมาขณะที่อันเดลอวดโอ่อุปกรณ์สวมใส่ของตน “ว้าว ดูเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมานายจะยกระดับตัวเองได้เยอะเลยนะ”
“ก็ไม่มากหรอก ตอนนี้เพิ่งเลเวลแค่ 35 เอง”
อันเดลโพล่งออกมาภายในถ้ำด้วยสีหน้าอหังการ
ถ้ำแห่งนี้มีมอนสเตอร์รวมตัวอยู่ค่อนข้างมาก ทั้งมนุษย์กิ้งก่าหรือก็อบลินที่เขาเคยพบเจอมาแล้วที่บึงใหญ่ ถ้าหากเป็นอาร์คตามปกติ เขาคงใช้ทักษะหลบซ่อนร่างกายตัวเองแล้วลากพวกมันออกมาทีละหนึ่งหรือสองตัว แต่อันเดลนั้นกลับใช้โล่เข้าปะทะซึ่งหน้าอย่างไม่แยแส
อันเดลจัดการพวกมันสองตัวได้แทบจะในทันที จากนั้นจึงดื่มโพชั่นฟื้นพลังและจัดการพวกมันที่เหลือต่อ
‘หืม จะอวดว่านี่เลเวล 35?’
“เนตรแห่งแมว!”
อาร์คเรียกใช้งานทักษะโดยมีเป้าหมายคืออันเดลที่กำลังรับมือกับมอนสเตอร์ ดังที่เขาคาด เลเวลของอันเดลนั้นเปลี่ยนอาชีพเป็นนักรบแล้วเรียบร้อย และมีเลเวลถึง 43
ยิ่งไปกว่านั้น พลังป้องกันของเขายังมากมายเพราะสวมใส่ชุดเกราะโลหะและโล่ ที่จริงแล้วกระทั่งว่าเขาต้องสู้กับมอนสเตอร์สามหรือสี่ตัว พลังชีวิตก็คงไม่ลดลงมากสักเท่าไหร่
ที่น่าประหลาดใจคือ ชื่อของอันเดลกลับเป็นสีแดง
ตัวละครฆาตกร กล่าวคือ เขาเคยมีประวัติการฆ่าผู้เล่นมาก่อน
ก็นะ ถ้าเป็นอันเดลมันก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลกใจอะไร
‘ดีนะที่เราไม่สิ้นคิดโจมตีใส่มัน’
ทว่า มันก็เร็วเกินไปที่จะผ่อนคลาย วิธีการที่อันเดลใช้นั้นมันเด่นชัดเกินไป
แผนการก็คงจะเป็นใช้ประโยชน์จากอาร์คในดันเจี้ยนที่ยากจะฟันฝ่าด้วยตัวคนเดียว ที่เขาพูดว่าจะมอบไอเทมให้กับอาร์คถ้าหากมันดร็อป มันมีอีกความนัยคือเขาจะฆ่าอาร์คหลังจากที่ไอเทมนั้นปรากฏออกมา
‘ถึงงั้นก็เถอะ เราจะถอนตัวตรงนี้ไม่ได้ งั้นก็คงทำได้แค่ต้องคอยระวังสินะ มีเพียงหนทางเดียวที่เราจะเอาชนะผู้เล่นที่เลเวลสูงกว่าตัวเองถึง 10 เลเวลได้คืออาศัยแผนการที่ดีพร้อม’
อาร์คพิจารณาสำรวจท่าทีการเคลื่อนไหวของอันเดลในขณะที่ต่อสู้
เมื่อเห็นอาร์คกำลังกระหืดกระหอบกับมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่สู้อยู่ด้วย อันเดลก็เริ่มที่จะเผยความเหนือกว่าและเริ่มพุ่งตัวออกไปอย่างรุนแรง
มันเป็นวิธีการต่อสู้ของพวกนักรบที่จะพุ่งไปด้านหน้าด้วยพละกำลัง ความอดทน และพลังป้องกัน มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อาจพิชิตดันเจี้ยนนี้ได้แม้ว่าจะเลเวล 43 แล้วก็ตาม
แทนที่จะใช้พละกำลังจัดการและรับมือพวกมันทีละตัวเหมือนอาร์ค เขากลับใช้พลังโจมตีและป้องกันทุ่มเทไปด้านหน้าเพื่อพุ่งเข้าชน
‘วิธีนี้คงดีถ้าหากมันเป็นเกมอื่นล่ะก็นะ แต่นี่คือนิวเวิร์ลด์ เขายังไม่รู้วิธีการแท้จริงที่จะใช้ต่อสู้ในนิวเวิร์ลด์ นั่นคือหนึ่งในกุญแจแห่งชัยชนะเลยล่ะ’
อาร์คติดตามหลังอันเดลไปขณะที่เริ่มตระเตรียมแผนการอยู่ภายในใจ อย่างแรก ในเมื่อที่นี่คือดันเจี้ยนของภารกิจระดับความยาก F แล้วล่ะก็ เลเวลของมันก็ไม่น่าจะสูงมากนัก
ด้วยอันเดลที่เลเวล 43 คอยช่วยเหลืออาร์ค ไม่ช้าพวกมอนสเตอร์ก็ถูกจัดการไปได้มาก และเมื่อผ่านไปเกือบจะครบสองชั่วโมง ทั้งสองก็จัดการมอนสเตอร์ไปกว่าร้อยและเข้ามาถึงส่วนในสุดของถ้ำ