เล่ม 1 ตอนที่ 7 : สมุนปีศาจ (3)
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
เล่ม 1 ตอนที่ 7 : สมุนปีศาจ (3)
อาร์คได้รับค่าสถานะโบนัสทำให้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเทมที่มีประโยชน์บางครั้งก็ดร็อปมาบ้าง มันจะมีที่อื่นอีกหรือที่จะน่ารื่นรมย์ถึงเพียงนี้ระหว่างที่เล่นเกม? ถ้าหากเขาทำได้ เขาก็อยากที่จะออกล่าในป่าแห่งเงานี้หลายวันเลยทีเดียว
ทว่า ปัญหาคือเขาไม่อาจทำแบบนั้นได้ สิ่งที่อาร์คต้องกังวลคือค่าความทนทานของอุปกรณ์สวมใส่
เขายังไม่ได้เรียนทักษะการซ่อมแซม เพราะเขาคิดว่าตนนั้นไม่จำเป็นต้องมี
แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในเมืองแจ๊คสัน ถ้าหากจะมีสิ่งหนึ่งที่อาร์คได้รับมา ก็คงเป็นสิทธิ์ในการเข้าพื้นที่ส่วนตัวของท่านลอร์ด ท่านลอร์ดย่อมมีผู้ใต้บัญชาเป็นช่างตีเหล็ก ถ้าหากเขาใช้ที่นั่น พวกเขาก็ย่อมที่จะคิดราคาเพียงครึ่งเดียวเพื่อซ่อมอุปกรณ์สวมใส่
ในเมื่อเขายังออกล่าอยู่รอบเมืองแจ๊คสัน มันก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแสนแพงเพื่อเรียนรู้ทักษะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาร์คถึงเพิ่งเห็นว่าความทนทานนั้นเป็นปัญหาถ้าหากจะออกล่าไกลจากเมืองแจ๊คสัน
อย่างไรก็ตาม มันยังมีปัญหาที่เลวร้ายกว่านั้นที่เขาไม่เคยนึกถึง
อาหาร
อาร์คเตรียมขนมปังเอาไว้ 10 ก้อนตอนที่ออกมาจากเมืองแจ๊คสัน ในเมื่อเขามีทักษะทำอาหารเพื่ออยู่รอด เขาก็วางแผนที่จะใช้วัตถุดิบที่หาได้จากที่นี่เพื่อทำอาหารและกินมัน แม้ว่าเขาจะสามารถทำเรื่องนั้นในป่าที่เขาออกล่าก่อนหน้านี้ได้ แต่ป่าแห่งเงานี้หาได้ใช่ป่าธรรมดาไม่
แน่นอนว่าเขาเห็นวัตถุดิบอาหารเป็นตันอยู่ในป่าแห่งเงา แต่ป่าแห่งนี้มันคือสถานที่ที่พวกอันเดตเดินเตร่ไปทั่วแม้จะเป็นเวลากลางวัน ทำให้เขาไม่สามารถออกไปหาวัตถุดิบทำอาหารตามปกติได้
จะเห็นว่ามีหญ้าที่หน้าตาดูคล้ายลูกตาหรือลำไส้ จินตนาการได้เลยว่ารสชาติของพวกมันจะเป็นยังไงหากเขาเคี้ยวพวกมันเข้าไป ไม่ รสชาติคงไม่เป็นไร ปัญหาอยู่ที่อาร์คไม่รู้ว่ามันจะมีผลข้างเคียงอะไรหากเขาทดลองทำอาหารที่นี่ นี่ก็นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของทำอาหารเพื่ออยู่รอด
‘ต้องอันตรายแน่ มันอันตรายเกินไป’
บางทีก็เป็นเพราะระดับของวัตถุดิบมันสูงเกินไป เขาจึงไม่อาจตรวจพบข้อมูลมันจากทักษะยืนยันวัตถุดิบขั้นต้นได้
แต่เขาจะรู้ได้เพียงแค่มองดูข้อมูลงั้นเหรอ?
พวกมันไม่มีสัญลักษณ์หัวกะโหลกบอกเอาไว้เสียหน่อย แต่ยังไงพวกมันก็ยังเป็นวัตถุดิบทำอาหารที่อาจบอกได้ว่าอันตราย
อาร์คยังสามารถออกล่าอย่างไม่ยากเย็นในป่าแห่งเงาได้ก็ต้องขอบคุณความสามารถซ่อนตัว แต่ถ้าหากเขาทำอาหารผิดพลาดขึ้นมาและกินมันเข้าไป ผลคงเลวร้ายเกินจะคิด เขาอาจกลายเป็นอาหารอันโอชะของพวกอันเดตที่อยู่ที่นี่ ถ้าหากมันไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย คงดีกว่าที่จะไม่ลองทำเมนูใหม่โดยใช้ทำอาหารเพื่ออยู่รอด
‘เราต้องบ้าไปแล้วแน่ ขนมปังก็หมดแล้ว อัตราการฟื้นฟูก็ลดลงเหลือน้อยกว่า 50% สุดท้ายแล้วนี่ก็เหมือนโดนลงโทษทางอ้อม... หรือเราต้องกลับไปหมู่บ้านแม้จะต้องเสียเวลาเกือบสองชั่วโมงก็ตาม? หรือเราควรเสี่ยงชีวิตลองทำอาหารแล้วกินดู?’
ขณะที่อาร์คคุ้ยกระเป๋าอยู่นั้น ความคิดหนึ่งฉับพลันก็ผุดขึ้นภายในใจ
‘อา ทำไมเราไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ?’
“อัญเชิญปีศาจ ไข่ใต้พิภพ!”
ขณะที่อาร์คส่งเสียง ไข่ปีศาจก็พลันปรากฏขึ้น
มันคือปีศาจอัญเชิญที่อาร์คไม่เคยนึกถึง เป็นเพราะมันไม่เหมือนกับเจ้ากะโหลกและเจ้าค้างคาวที่ยังพอทำอะไรได้บ้าง อาร์คเลยคิดว่ามันคงมีเหตุอะไรที่ต้องเรียกมันออกมาอีก แต่ปีศาจอัญเชิญตนนี้ในที่สุดก็มีประโยชน์
อาร์คกลืนน้ำลายขณะที่จ้องมองไข่ใต้พิภพ
‘ไม่ว่ามันจะเป็นปีศาจอัญเชิญหรือไม่ก็ตาม แต่ยังไงมันก็แค่ใหญ่กว่าไข่ธรรมดานิดหน่อย ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่อาจใช้มันเป็นวัตถุดิบทำอาหาร ในเมื่อคำอธิบายบอกว่าพวกปีศาจชอบกินมัน งั้นมันก็คงเป็นวัตถุดิบแหละน่า อย่างน้อยไข่นี่ก็น่ารังเกียจน้อยกว่าพวกวัตถุดิบในป่า และถึงมันจะหายไป เราก็เรียกมันมาได้อีก ถ้าหากสำเร็จก็หมายความว่าเรามีวัตถุดิบไร้ขีดจำกัดเลยทีเดียว มั่นใจหน่อย ไข่นี่ต้องมีเพื่อจุดประสงค์นี้ตั้งแต่แรกแล้ว’
อาร์คยกยิ้มขึ้นขณะที่วางไข่ใต้พิภพลงไปในหม้อ
“หึหึหึ ไข่มีโปรตีนทรงคุณค่า มื้ออาหารนี้คงได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลว”
จากนั้นเขาจึงใส่วัตถุดิบทำอาหารธรรมดาเล็กน้อยที่เหลือลงไปและเริ่มต้มมัน
เป็นไงน่ะเหรอ? แสงสว่างจากการทำอาหารรวมทั้งกลิ่นหอมฉุยก็ส่งออกมาน่ะสิ ข้อความที่แสดงถึงการทำอาหารสำเร็จก็ปรากฏขึ้นมา ตอนนี้ที่เหลือก็เพียงแค่ลองกินมัน
“โอ้ สำเร็จ มันทำได้ ไข่ต้ม!”
ขณะเดียวกัน อาร์คก็พลันหยิบไข่ออกมาพร้อมกับฮัมเพลง อาหารทั้งหมดภายในหม้อฉับพลันก็หายไป ไม่ช้า หน้าต่างข้อความที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็ปรากฏขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะมืดมนดังประกอบ
=====
ท่านทำอาหารเพื่ออยู่รอดเป็นผลสำเร็จ ทว่า ไข่ใต้พิภพได้ดูดกลืนทั้งหมดลงไป
ไข่ใต้พิภพไม่มีผลลัพธ์ใดปรากฏ ท่านไม่อาจคาดเดาได้ถึงผลลัพธ์จากการทำอาหาร
=====
“อะ-อะไรนะ? ดูดกลืน?”
อาร์คจ้องมองไข่ด้วยสีหน้าโง่งม
เขาใช้เวลาพิจารณาอยู่นานก่อนที่จะเข้าใจสถานการณ์
‘ไข่ดูดกลืนอาหาร แบบนั้นแล้วก็หมายความว่าไข่นี่ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อเป็นวัตถุดิบทำอาหาร? แต่มันดูดกลืน? มันหมายความว่าอะไรกัน?’
อาร์คที่โอนเอนศีรษะไปมา ฉับพลันจึงค่อยเงยหน้าขึ้น
‘ท้ายที่สุดแล้วหมายความว่าไข่นี่มันกินวัตถุดิบขณะที่ทำอาหารไป! ถ้างั้น...?’
สายตาของอาร์คเลื่อนลอยไปยังเจ้ากะโหลก
นี่หมายความว่าปีศาจอัญเชิญพวกนี้เองก็กินอาหารได้! ขณะที่เขาตระหนักเรื่องนี้ได้ ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นมาภายในใจราวกับสายฟ้าฟาด อาร์คเร่งร้อนทำอาหารจานใหม่
ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก วัตถุดิบทำอาหารมีอยู่ทุกที่รอบตัวเขา เขารวบรวมวัตถุดิบทำอาหารจากรอบตัวแล้วจึงโยนมันลงไปในหม้อ หลังล้มเหลวไปหลายครั้ง เขาก็ทำซุปที่ส่งกลิ่นแปลกประหลาดออกมาได้
อาร์คชี้นิ้วไปยังเจ้ากะโหลกด้วยดวงตาหรี่เล็ก
“เอ้า เจ้ากะโหลก ลองกินดูสิ”
เจ้ากะโหลกที่ตาโบ๋เริ่มเข้ามาใกล้เขาพร้อมความลังเล
หลังดื่มซุปเข้าไปแล้ว มันก็พลันกระโดดเด้งและล้มลง
เจ้ากะโหลกส่งสายตาตำหนิคล้ายจะบอกว่า ‘เหตุใดถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้’ มายังเขา จากนั้นมันก็ค่อย ๆ จางหายไป
=====
กะโหลกผู้ไร้นามได้รับอาการกระตุกอย่างรุนแรง ได้รับความเสียหาย 50 หน่วย!
กะโหลกผู้ไร้นามกลับคืนสู่โลกใต้พิภพ ท่านสามารถอัญเชิญได้อีกครั้งหลังผ่านไป 24 ชั่วโมง
อาหารที่ท่านทำจากการทำอาหารเพื่ออยู่รอดคือ ‘ซุปรสชาติน่าสะพรึง’ เพียงแค่จิบก็สามารถมอบอาการชักกระตุกพร้อมทั้งรสชาติที่เกินจะพรรณณา ควรห่อมันให้ดีและส่งเป็นของขวัญให้ศัตรู
=====
“อย่างที่คิดไว้เลย!”
อาร์คพยักหน้าไปมา ปีศาจอัญเชิญสามารถกินอาหารได้ แต่หลังจากที่ปีศาจอัญเชิญกินอาหารที่เขาทำเข้าไป มันก็จะถูกเพิ่มรายการอาหารในตำราทำอาหารเพื่ออยู่รอด กล่าวก็คือ ไม่ว่าใครจะเป็นคนกิน ตราบเท่าที่อาร์คเป็นคนตรวจสอบผลลัพธ์ของมันก็ไม่มีปัญหา ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องเสี่ยงอันตรายทดสอบมันเอง!
ทุกครั้งที่เขาทำอาหารจานใหม่จนถึงตอนนี้มักจะเกิดความกังวลขึ้นทุกครั้ง...
“ทำอาหารกลายเป็นเรื่องน่าสนุกเสียแล้วสิ จะยังไงอาหารพวกนี้ก็ยังมีประโยชน์ทางอื่น”
อาร์คเริ่มทำอาหารอีกครั้งขณะที่ฮัมเสียงเพลงไปพร้อมกัน
ทว่า เจ้าค้างคาวหาได้ภักดีเทียบเท่าเจ้ากะโหลกไม่ เจ้าค้างคาวที่ได้เห็นสภาพน่าอนาถของเจ้ากะโหลกหลังจากได้กินอาหารจนหายไป มันก็เปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวจนต้องถอยกลับ แน่นอน อาร์คไม่ยอมปล่อยมันไปแน่
หลังจากที่คว้าเจ้าค้างคาวเอาไว้และบังคับให้มันกลืนสลัดในหม้อลงไป หน้าต่างข้อความอีกอันก็เด้งขึ้นมา
=====
อาหารที่ท่านทำจากการทำอาหารเพื่ออยู่รอด สลัดสมุนไพรต้องสงสัย รูปลักษณ์ของมันน่าสงสัยยิ่ง แต่ผลลัพธ์ของมันกลับช่วยฟื้นฟูค่าความอดทนได้อย่างรวดเร็ว
อัตราการฟื้นฟู +50% ฟื้นคืนพลังชีวิต 150 หน่วยหลังผ่านไป 30 วินาที
=====
อาร์คจึงทำอาหารจานเดิมอีกครั้งและกินมันเพื่อยืนยันผลลัพธ์
ป่าแห่งเงานี้ อัตราส่วนวัตถุดิบอาหารที่เป็นพิษและกินได้มีประมาณครึ่งต่อครึ่ง ปัญหาคือจำพวกที่มีพิษนั้นกลับมีพิษร้ายแรงเกินจะกล่าว มันยังมีอาหารอีกมากที่สามารถส่งอาร์คไปเกิดใหม่ได้ถ้าหากเขากินเข้าไปโดยไม่คิดให้ดี ทว่า ตอนนี้อาร์คไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเองอีกแล้ว
อาร์คที่พบวิธีการตรวจสอบหาผลลัพธ์ของอาหารได้อย่างปลอดภัยก็ไม่รั้งรอ เขาเริ่มรวบรวมวัตถุดิบทั้งหมดที่จะหาได้และทำอาหารโดยไม่หยุดพัก ราวกับว่าเขาโดนจิตวิญญาณแห่งพ่อครัวเข้าสิงก็ไม่ปาน
“โอ้โอ้โอ้ หรือนี่เราควรลองใช้เนื้อเน่าพวกนี้ดูนะ?”
ทั้งเจ้ากะโหลกและเจ้าค้างคาวต่างกอดคอกันร่างสั่นเทิ้มทุกครั้งที่ต้องพบเจอกับเรื่องสยองขวัญเหล่านี้
อาร์คส่งสายตามองพร้อมพูดขึ้น “อย่างน้อยก็ดีกว่าให้เจ้านายต้องตายใช่ไหม?”
ทว่า พวกมันต้องมากลายเป็นทาสให้กับเจ้านายผู้ชั่วร้ายที่ไม่มีทางให้หลบหนี ทั้งเจ้ากะโหลกและค้างคาวต่างก็อดไม่ได้ที่จะต้องตายแล้วเกิดใหม่เป็นว่าเล่น หลังผ่านไปหลายชั่วโมง เจ้ากะโหลกที่มีค่าความภักดี 200 เริ่มปล่อยแสงในดวงตาแปลกไปขณะมองมาที่อาร์ค ค้างคาวที่ค่าความภักดีต่ำอยู่แล้วก็ทำท่าจะหนี
“หืม ถึงจะหนีไปแต่ก็ซ่อนตัวไม่ได้หรอกนะ ยกเลิกอัญเชิญ อัญเชิญค้างคาว”
เจ้าค้างคาวที่หนีไปไกลพลันหายตัวและปรากฏตัวขึ้นใหม่อีกครั้งเบื้องหน้าอาร์ค
อาร์คจ้องมองค้างคาวที่ดิ้นไปมาขณะต่อว่า “จะขี้ขลาดเกินไปแล้ว นี่เพิ่งครั้งที่สามเอง”
อาร์คที่ไร้ซึ่งความเมตตาโยนเจ้าค้างคาวลงไปในหม้อ
เจ้าค้างคาวที่ร่างสั่นเทิ้มพลันส่งเสียงกรีดร้องออกมา
“หวา หยุดเถอะขอรับเจ้านาย!”
ในขณะเดียวกัน หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นมา
=====
จากผลลัพธ์ของอาหารลึกลับ ค่าสถานะของค้างคาวผู้เกลียดชังได้เพิ่มขึ้น
ค้างคาวผู้เกลียดชัง
เผ่าพันธุ์ : ปีศาจ
แนวโน้ม : ความมืด
ระดับชั้น : -
พลังชีวิต : 50 (+5)
ความภักดี : 50
พละกำลัง : 5 (+1)
ความคล่องตัว : 10 (+1)
ความอดทน : 10 (+1)
สติปัญญา : 10 (+1)
ความฉลาด : 10 (+2)
โชค : 0
*ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อัญเชิญถูกสร้างขึ้น
(หมายเหตุ : อาหารที่กินไปครั้งหนึ่งแล้วจะไม่ส่งผลอีกในครั้งที่สอง มีเพียงแค่อาหารใหม่ที่จะกระตุ้นให้ปีศาจจากใต้พิภพเผยพลังที่ปิดซ่อนออกมา)
=====
“โห อะไรกันเนี่ย? ค่าสถานะของปีศาจอัญเชิญเพิ่มขึ้นได้ด้วยอาหารงั้นเหรอ?”
ดวงตาของอาร์คเบิกกว้าง
เขาไม่เคยคิดเลยว่าปีศาจอัญเชิญจะเติบโตขึ้นได้
สิ่งที่เขาได้อ่านมาจากหน้าต่างข้อมูลนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะเติมเต็มเงื่อนไขได้ เขาต้องหาอาหารที่ถูกต้องสำหรับปีศาจอัญเชิญจากหลายร้อยชนิด อีกทั้ง เขายังสามารถเพิ่มค่าสถานะให้กับพวกมันได้แค่หนึ่งครั้งต่อหนึ่งเมนูอาหาร ถ้าหากเขาต้องการเพิ่มค่าสถานะมันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็ต้องหาเมนูอาหารจานใหม่
มันเป็นเรื่องน่าเวียนหัวเหมือนกันที่ต้องมาใช้วัตถุดิบจำนวนนับไม่ถ้วนและการทดลองหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วเรื่องที่ค่าสถานะของปีศาจอัญเชิญสามารถเพิ่มขึ้นได้นั้นมันสร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล
ถ้าหากมันเป็นไปได้ ย่อมหมายความว่าคุ้มค่าที่จะลอง อีกทั้งมันไม่ได้มีเพียงแค่ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีความสามารถใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“แต่ความสามารถแรกที่ได้มาอย่างภาษานั้นก็ค่อนข้างดี... มันต้องการสื่อสารกับเราขนาดนั้นเลย?”
ถ้าหากมอนสเตอร์คล้ายกับผู้เล่น เช่นนั้นพวกมันก็ต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะที่พวกมันต้องการเป็นอย่างแรก
อาร์คเริ่มมองเจ้าค้างคาวด้วยดวงตาที่เผยความประหลาดใจ เจ้าค้างคาวตอนนี้กำลังกระพือปีกขณะกัดฟันไปมา
“นี่มันไร้สาระเกินไปนะเจ้านาย! นี่ท่านทำท่าเหมือนอยากรู้ว่าทำไมข้าถึงพูดได้? ก็เหมือนอย่างเจ้านาย พวกเราต่างก็รู้สึกถึงรสชาติและเจ็บปวดเป็นนะ! ข้าขอตายดีกว่าต้องกินอาหารน่ากลัวพวกนั้น!”
“นี่แกกำลังท้าทายเจ้านายอยู่?”
“มะ-ไม่กล้า ข้าแค่ทวงความชอบธรรม!”
“แล้วเจ้าล่ะคิดยังไงหือ เจ้ากะโหลก?”
ขณะที่อาร์คหันหน้าไปเล็กน้อย เจ้ากะโหลกที่มีค่าความภักดี 200 พลันส่ายกะโหลกอย่างรวดเร็ว
เจ้าค้างคาวถึงกับสะดุ้งตัวขึ้น
“กะ-แก ไอ้คนทรยศ!”
“ถ้ายังส่งเสียงโวยวายต่อจะเพิ่มอาหารให้เป็นสองเท่านะ”
“อะ-อึก!”
เจ้าค้างคาวส่งเสียงร้องออกมาขณะหุบปากลง
มันยุติธรรมตรงไหนที่ต้องกินอาหารน่าสะพรึงพวกนั้นเพื่อให้พูดได้? ขณะที่อาร์คที่ยิ่งมายิ่งชั่วร้าย เมื่อเขาเห็นท่าทีตอบรับจากปีศาจอัญเชิญเขาเองก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
“เอาล่ะ งั้นหลังจากนี้จะลดจำนวนให้น้อยลงแล้วกัน”
“แต่ก็หมายความว่ายังไงก็ต้องกินพวกมันอยู่ดี?”
“นี่เจ้านายนะ ทำไมฉันต้องประสงค์ร้ายกับแกด้วยล่ะ? ทั้งหมดนี่ก็เพื่อประโยชน์พวกแกเองนะ ไม่อยากเจริญเติบโตหรือไง?”
“กะ-โกหก!”
“ไม่โกหกหรอกน่า” อาร์คกล่าวด้วยความมั่นใจ
‘หึหึหึ นี่แกคิดว่าวิธีการอันสะดวกสบายเช่นนี้จะยอมปล่อยไปโดยง่ายหรือไง? อีกทั้งเรายังเจอหนทางใช้ประโยชน์จากพวกมันอีกด้วย’
ในตอนนี้เขาแน่วแน่ที่จะป้อนอาหารที่ยังไม่ได้รับการยืนยันกับพวกปีศาจอัญเชิญมาก
เขาไม่คิดหลบตาเพราะความรู้สึกผิดเลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ไม่เป็นไรไม่ใช่หรือไง? ไม่สิ นี่เขายังได้รับอาวุธชั้นเลิศเพื่อควบคุมปีศาจอัญเชิญของตัวเองอีกต่างหาก
“ไร้สาระ! ข้าไม่ต้องการ!”
“แกนี่น่ารำคาญนะ ถ้ายังพูดต่อเดี๋ยวก็ป้อนอาหารให้ตอนนี้เลยเอาไหม!”
เจ้าค้างคาวกระเด้งตัวด้วยความแตกตื่นขณะหุบปากลง
“เด็กดี การต่อสู้ในภายหน้า ใครไม่ทำงานให้ดีล่ะก็ได้ลิ้มรสอาหารแน่ เข้าใจไหม?”
“ขะ-เข้าใจแล้วขอรับ” เจ้าค้างคาวตอบรับเสียงอ่อน
เจ้ากะโหลกก็แข็งทื่อตอบรับด้วยการขบกรามไปมา
อาร์คมีการปกครองเหนือปีศาจอัญเชิญเป็นที่เรียบร้อย แน่นอน ไม่ว่ามันจะฟังคำสั่งของเขาเป็นอย่างดีหรือไม่ เขาก็คิดที่จะป้อนอาหารให้พวกมันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรผลลัพธ์ก็ต้องออกมาเช่นเดียวกัน
“เจ้าค้างคาว ออกไปสำรวจพื้นที่แล้วกลับมา ให้ละเอียดถี่ถ้วนด้วย คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผิดพลาด?”
อาร์คเผยรอยยิ้มอ่อนบนใบหน้าขณะที่มองเจ้าค้างคาวตัวน้อยบินหายลับไป
ผู้เดินทางแห่งความมืด เป็นอาชีพที่คุ้มค่ามากมายยิ่งนัก
จะยังไงพวกมันก็เป็นปีศาจอัญเชิญ แต่เขาก็ไม่อาจที่จะจับมัดแล้วกระทำอะไรได้ตามที่พึงพอใจ บางครั้งทั้งเจ้าค้างคาวและกะโหลกก็ทำอะไรอย่างที่เขาต้องการได้ เช่นนั้นเขาจึงละเว้นพวกมันจากบทลงโทษ
แน่นอนว่าอาหารพวกนั้นถูกเอาไปให้เจ้าไข่แทน
‘ถ้าหากเจ้ากะโหลกกับเจ้าค้างคาวโตขึ้นได้ เจ้าไข่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันสินะ’
อาร์คคาดเดาได้ถูก หลังจากที่ดูดกลืนอาหารเข้าไปจำนวนหนึ่ง เจ้าไข่ก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
มันเริ่มกระดิกและเกิดรอยแยกเล็กน้อยขึ้นบนเปลือกของมัน ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ไม่อาจถูกพบเห็นได้ถ้าไม่สังเกตให้ดีพอ แต่นี่ก็เป็นสัญญาณว่ามันเติบโตเพราะอาหารได้