เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 173 นางพญางูขาว
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 173 นางพญางูขาว
สายลมเคลื่อนผ่านในยามที่แสงอาทิตย์เลือนหายไปอย่างเงียบเชียบ
ไป่หนิงปิงมองผ่านช่องหน้าต่างออกไปยังท้องฟ้ายามราตรี
แสงดาวส่องประกายระยิบระยับขณะที่เสียงเห่าหอนดังขึ้นเป็นครั้งคราวเพิ่มความเย็นเยียบให้กับแสงจันทร์ที่สาดส่อง
ในห้องโถง ผู้นำตระกูลไป่มองไป่หนิงปิงด้วยความงุนงง
นี่สืบเนื่องมาจากไม่นานมานี้ไป่หนิงปิงพึ่งเล่าเรื่องสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดให้ผู้นำตระกูลได้รับรู้
"กายาน้ำแข็งแห่งความมืด...สุดยอดพรสวรรค์..." ผู้นำตระกูลไป่ขมวดคิ้วพึมพำ
"ข้ารู้ดีว่าจุดจบของข้ากำลังจะมาถึง ทะเลวิญญาณของข้าแทบจะไม่สามารถแบกรับมันได้อีกต่อไป นั่นเป็นเหตุให้ข้าสร้างปัญหามากมายให้กับท่านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา" ไป่หนิงปิงถอนหายใจเบาๆ
การแสดงออกของเขาดูสงบนิ่งและไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนเช่นอดีตอีกต่อไป
มันเป็นความเงียบสงบที่เกิดขึ้นในหัวใจที่แท้จริงของเขา
เขาพบเส้นทางของตน เขาไม่ถูกกักขังด้วยชีวิตและความตายอีกต่อไป
"สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มันเห็นได้ชัดว่าเจ้ามีทะเลวิญญาณเก้าสิบเก้าส่วนในการทดสอบ พรสวรรค์ มันไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด" ผู้นำตระกูลไป่ยังไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้
"นั่นเป็นความจริง แต่หลังจากการบ่มเพาะ ข้าได้ก้าวล้ำมันไปแล้ว จากการค้นคว้าของข้า มันมีความเป็นไปได้ที่ทะเลวิญญาณเก้าสิบเก้าส่วนจะกลายเป็นหนึ่งร้อย" ไป่หนิงปิงกล่าว
"บุตรทั้งสิบของมนุษย์คนแรกล้วนมีพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์แต่พวกเขายังต้องจบชีวิตลงในที่สุด เห้อ...มันไม่มีทางแก้ไขเลยงั้นหรือ?" ผู้นำตระกูลไป่มองไปยังเด็กหนุ่มด้วยความโศกเศร้า
ไป่หนิงปิงเป็นความภาคภูมิใจและความหวังของตระกูล แต่ชีวิตของเขากลับกำลังจะดับสูญ แม้จะส่องสว่างราวดอกไม้ไฟ แต่มันก็เป็นเวลาเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
"ไม่มีทางหลบเลี่ยงโทษที่ข้ากำลังจะได้รับ แต่มีวิธีการบางอย่างที่สามารถชะลอให้ช้าลง อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ยังต้องใช้เวลาเตรียมตัวนับสิบปี แต่ข้าไม่มีเวลามากเช่นนั้น" ไป่หนิงปิงกล่าวเสียงเรียบประหนึ่งไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับตัวเขา
"อย่ากังวล มีผู้ใดสามารถหลบหนีจากความตาย กระทั่งผู้อมตะก็ยังไม่สามารถ แต่ตราบเท่าที่สามารถใช้ชีวิตอย่างน่าสนใจ นั่นก็เพียงพอแล้ว" ไป่หนิงปิงปลอบใจผู้นำตระกูล
"ข้าไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้! ไม่สามารถ! ตระกูลไป่ของข้าอยู่ใต้ตระกูลแสงจันทร์มานานหลายศตวรรษ แต่ในที่สุดพวกเราก็พบความหวัง แล้วข้าจะให้มันจบลงเช่นนี้ได้อย่างไร?"
เสียงของผู้นำตระกูลไป่ดังขึ้นเรื่อยๆ การแสดงออกของเขาราวกับว่าได้ตัดสินใจบางสิ่งบางอย่าง
"ตามข้ามา! ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่แห่งหนึ่ง..." ผู้นำตระกูลไป่ลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน
หลังจากนั้น...
แสงจันทร์ส่องสะท้อนสระน้ำแห่งหนึ่ง
"นี่คือน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติงั้นหรือ?" ไป่หนิงปิงถามหลังจากเดินตามผู้นำตระกูลเข้ามายังเส้นทางลับสายหนึ่ง
"ถูกต้อง ที่นี่คือเขตหวงห้ามของตระกูล เจ้าคงรู้ดีว่าหินวิญญาณทั้งหมดที่มอบให้แก่สมาชิกตระกูลเกิดจากน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติสายนี้ ตระกูลไป่ถือเป็นตระกูลขนาดเล็กถึงปานกลางเท่านั้น แต่ด้วยการผนวกน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติของทั้งสามหมู่บ้าน มันสามารถทำให้พวกเรากลายเป็นตระกูลใหญ่" ผู้นำตระกูลไป่ถอนหายใจ
"แล้วท่านผู้นำพาข้ามาที่นี่ด้วยเหตุใด?" ไป่หนิงปิงถาม
ใบหน้าของผู้นำตระกูลไป่เผยให้เห็นความซับซ้อนและลังเล "เดิมทีข้าไม่เคยคิดที่จะพาเจ้ามาที่นี่ อย่างไรก็ตามโลกใบนี้เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา เมื่อเจ้ามีกายาน้ำแข็งแห่งความมืด โอกาสเดียวที่อาจสามารถช่วยเหลือเจ้าได้อยู่ที่นี่"
"ที่นี่?" ไป่หนิงปิงงุนงง
"วิญญาณผู้ยิ่งใหญ่!" ผู้นำตระกูลประกาศออกมาด้วยเสียงทุ้มลึก
"วิญญาณ?" ไป่หนิงปิงประหลาดใจ
"มันคือวิญญาณอสรพิษที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้ก่อตั้งตระกูลไป่ของเรา มันชอบความสะอาดและกินดื่มน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดมา" ผู้นำตระกูลไป่กล่าว
"ก่อนที่บรรพชนรุ่นแรกจะเสียชีวิต ท่านได้ทิ้งมรดกลับเอาไว้เบื้องหลังวิญญาณตนนี้ หากเจ้าได้รับอนุญาตจากมัน เจ้าจะได้รับมรดกี่ล้ำค่า แต่หากไม่ได้รับอนุญาต..." ผู้นำตระกูลไป่หยุดกล่าวอยู่ที่จุดนี้
"แล้วจะเกิดสิ่งใดขึ้น?" ไป่หนิงปิงถาม
การแสดงออกของผู้นำตระกูลไป่กลายเป็นมืดครึ้ม "มันจะฆ่าเจ้า!"
ด้านหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล
ภายในห้องพัก ไท่รั่วหนานเก็บวิญญาณของเธอกลับเข้าไปและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "สภาพแวดล้อมของที่นี่ค่อนข้างปลอดโปร่ง"
คำว่า ปลอดโปร่ง ของเธอไม่ได้หมายถึงไม่ได้หมายถึงความปลอดโปร่งของห้องพัก แต่มันคือการขาดการเฝ้าระวัง
แต่ด้วยระดับการเฝ้าระวังที่ค่อนข้างต่ำของตระกูลแสงจันทร์มันจึงทำให้เธอรู้สึกสบายใจ นี่ทำให้ไท่รั่วหนานรู้สึกถึงความเอาใจใส่ในการต้อนรับพวกเธอของตระกูลแสงจันทร์
ไท่เซี่ยเล้งพยักหน้า "รั่วหนาน เจ้าติดตามข้ามานานและได้เรียนรู้หลายสิ่งจากข้า อย่างไรก็ตามบางสิ่งสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของตนเองเท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าให้เจ้ารับผิดชอบภารกิจนี้"
"ท่านพ่อ ข้าจะทำงานอย่างหนัก!"
"ดี เช่นนั้นข้าขอถาม เจ้าจะทำสิ่งใดต่อไป?" ไท่เซี่ยเล้งทดสอบเธอ
ไท่รั่วหนานเผยรอยยิ้มบางก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง "เป็นดวงจันทร์ที่งดงาม ท่านพ่อ ให้ข้าพาท่านไปเดินชมรอบๆหมู่บ้านดีหรือไม่?"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ไท่เซี่ยเล้งจึงเผยรอยยิ้มพึงพอใจ
ในการไขคดี พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจรายละเอียดของคดีอย่างเร่งด่วน แต่พวกเขาจะต้องทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก
คู่พ่อลูกค่อยๆเดินไปตามท้องถนน หลังจากการบุกโจมตีของฝูงหมาป่า หมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลจึงตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอย่างที่สุด
บ้านเรือนพังทลายและมีคราบเลือดอยู่รอบๆ เศษขยะทับถมส่งกลิ่นเน่าเหม็นลอยคละคลุ้งไปทั่วและยังมีเสียงกรีดร้องของผู้ได้รับบาดเจ็บดังขึ้นตลอดเวลา
คู่พ่อลูกเดินสำรวจรอบๆหมู่บ้านโดยไม่กล่าวสิ่งใด
"ฟางหยวน เจ้าสารเลว! ออกไปเดี๋ยวนี้!!" ทันใดนั้นเสียงสายหนึ่งพลันดังขึ้นจากภายในสวนหย่อนแห่งหนึ่ง
บิดาและบุตรสาวหยุดเท้าลงทันที
หลังจากชั่วครู่ ประตูคฤหาสน์จึงถูกเปิดออก ฟางหยวนเดินออกมาพร้อมกับใช้มือถูจมูกด้วยการแสดงออกที่คลุมเครือ
"ว่าไงน้องชายฟางหยวน" ไท่เซี่ยเล้งเริ่มทักทาย
"ผู้น้อยคารวะท่านเทพนักสืบ" ฟางหยวนปั้นรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับป้องมือคารวะ
"สหายตัวน้อย พวกเราพึ่งมาที่นี่ เป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าจะให้คำแนะนำพวกเราสักสองสามเรื่อง?" ไท่เซี่ยเล้งถามออกมาอย่างกะทันหัน
ไท่รั่วหนานมองหน้าบิดาของเธอแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด
สายตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ เวลานี้มาถึงเร็วกว่าที่เขาคิด
"ทั้งสองท่านเดินทางไกลมาอย่างยากลำบากเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับหมู่บ้านของเรา แน่นอนว่าข้าย่อมต้องให้ความช่วยเหลือพวกท่านอย่างเต็มที่ โปรดตามข้ามา" ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากความตั้งใจที่ชั่วร้ายก่อนจะก้าวเท้าออกไป
น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติกลายเป็นเดือดพล่าน
ไม่นานหลังจากนั้นมวลน้ำจึงถูกยกสูงขึ้นราวกับคลื่นยักษ์
เพียงเมื่อน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาตกระจัดกระจายออกไป มันจึงเผยให้เห็นอสรพิษที่มีร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวราวหิมะ
ดวงตาของมันไม่ต่างจากหยกสีเขียวที่ส่องประกายเย็นเยียบและไม่แยแส มันมีหนวดสองเส้นที่ยืดยาวลงมาจากใต้คาง
วิญญาณระดับห้า นางพญางูขาว!
"คารวะท่านผู้ยิ่งใหญ่" ผู้นำตระกูลไป่คุกเข่าลงบนพื้นและเร่งเตือนไป่หนิงปิง "ไป่หนิงปิง เหตุใดเจ้าจึงไม่รีบคุกเข่าลง?"
"ข้าจะไม่คุกเข่าให้กับวิญญาณ" ไป่หนิงปิงยืนตัวตรงด้วยความหยิ่งยโส
แม้นางพญางูขาวจะปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมาด้วยความตั้งใจฆ่าอันเข้มข้น แต่ไป่หนิงปิงกลับไม่แยแส ดวงตาคู่สีฟ้าของเขายังจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอสรพิษขาวอย่างไม่เกรงกลัว
เวลาราวกับหยุดเดินอย่างกะทันหัน
น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติและผู้นำตระกูลไป่ไม่ต่างจากพื้นหลังที่ไร้ความหมาย
ภายใต้แสงจันทร์ เด็กหนุ่มตาฟ้าประสานสายตากับอสรพิษขาว ขณะที่วิญญาณในทะเลวิญญาณของไป่หนิงปิงถูกบังคับให้หลบซ่อนอยู่ที่ขอบด้านข้างด้วยความหวาดกลัว
"นี่..." ผู้นำตระกูลไป่กลายเป็นงุนงง "มันไม่เหมือนสิ่งที่ระบุไว้ในบันทึกลับ"
บันทึกลับของตระกูลกล่าวไว้ว่า หากนางพญางูขาวอนุญาต มันจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและนำผู้สืบทอดเข้าไปในด่านทดสอบรับสืบทอดมรดก
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในขณะนี้กลับแปลกประหลาดเมื่อนางพญางูขาวพุ่งเข้าไปในทะเลวิญญาณของไป่หนิงปิง มันไม่ได้ฆ่าเขา นี่หมายถึงมันให้การยอมรับเขา แต่เหตุใดมันไม่บินขึ้นสู่ท้องฟ้า?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าบันทึกลับจะผิดพลาด
ผู้นำตระกูลไป่ไม่สามารถทำความเข้าใจแม้แต่น้อย...
เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ
"มากน้อยทุกคนก็รู้ว่าหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาลมีถ้ำใต้พิภพแต่มันเป็นเขตหวงห้ามของตระกูล บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเช่นกัน" ฟางหยวนกล่าว
เขาเงยหน้ามองดวงจันทร์ก่อนจะกล่าวต่อ "นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกท่านควรกลับไปพักเพื่อเก็บพลังงานไว้สำหรับการตรวจสอบในวันพรุ่งนี้"
"ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายฟางหยวนกล่าวได้ถูกต้อง เจ้าก็ควรพักเช่นกัน" ไท่เซี่ยเล้งกล่าว
"หากเป็นกรณีนี้ เช่นนั้นข้าก็ขอลา" ฟางหยวนป้องมือกล่าว
ไท่เซี่ยเล้งมองฟางหยวนด้วยความสนใจกระทั่งเขาเดินลับตาไป
"รั่วหนาน เจ้าคิดอย่างไรกับฟางหยวนผู้นี้?" ไท่เซี่ยเล้งถาม
"ข้าไม่ชอบเขา สัญชาตญาณของข้าบอกว่าเขาเต็มไปด้วยความลับ" เด็กหญิงขมวดคิ้ว
ไท่เซี่ยเล้งพยักหน้า "ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิญญาณสัญชาตญาณซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัญชาตญาณของเจ้า แต่เราต้องหาหลักฐานที่แน่ชัด ในการไขคดี ไม่สามารถอาศัยเพียงสัญชาตญาณ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าใช้สัญชาตญาณในการแก้ปัญหา"
"เข้าใจแล้ว ท่านพ่อ"