ตอนที่10 ความคิดแย่ๆ
ตอนที่10 ความคิดแย่ๆ
หลินหยี่ได้หัวเราะเยาะเย้ยต่อสุนัขร็อทไวเลอร์ที่พยายามจะข่มขู่เขา เขาเคยฆ่าหมาป่ามากมายด้วยการแทงทีเดียวในภารกิจที่เขาเคยทำมา ดังนั้นเจ้าสุนัขนี่จึงไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด แล้วหัวหน้าเว่ยหวู่จะทำอะไรกับเขาได้?
“เห็นรึยัง? นี่คือหัวหน้าเว่ยหวู่ เขาแข็งแกร่งมาก แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ นายควรจะอยู่ห่างๆชั้น2ไว้นะ ถ้าไม่อยากจะมีเรื่องกับเขาหน่ะ!”
“ครับผม” หลินหยี่พยักหน้า
เหมิงเหยาเชื่อว่าหลินหยี่สามารถจัดการกับสุนัขของเธอได้ แต่เธอก็พอใจที่ทำแบบนี้ ด้วยแบบนี้เธอและยู่ชูจึงรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองทันทีและปล่อยให้ท่านหัวหน้าอยู่ข้างล่างบันได
หลินหยี่หยิบกระเป๋าของเขาและเดินตรงไปยังห้องสำหรับแขก เขาหันไปมองสุนัขก่อนที่จะเดินออกไป แต่สุนัขกับเขาจ้องตากัน สุนัขก็ทำท่าทีกลัวๆ เพราะว่าสุนัขร็อทไวเลอร์เข้าใจได้ทันทีเมื่อจ้องตากับหลินหยี่ว่า หลินหยี่ไม่ใช่คนธรรมดา มนุษย์คนนี้ยากที่จะสู้ด้วย
แต่หลินหยี่ก็ไม่ได้อยากจะเล่นกับสุนัขมากนัก เขาจึงเดินต่อไปยังห้องของเขาที่เหมิงเหยาได้บอกทันที
การตกแต่งต่างๆนั้นเรียบง่าย มี1เตียง 1โต๊ะ 1ตู้เสื้อผ้า แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับหลินหยี่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยี่ตะลึงคือ ที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัว เหมือนกับเขากำลังอยู่ในโรงแรมเลย!
ร่างกายของเขามอมแมมมากหลังจากเดินทางมาเป็นเวลานาน ดังนั้นสิ่งแรกที่หลินหยี่จะทำก็คืออาบน้ำ
เขาได้ดูเวลา และพบว่าตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น ดังนั้นหลินหยี่จึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำก่อน
ในตอนนี้หลินหยี่พอใจกับงานนี้มาก ค่าตอบแทน3หมื่นหยวนต่อเดือน มีห้องพักแบบโรงแรม นี่มันสุดยอดจริง... ดีกว่าทำรองเท้าฟางขายให้ตาเฒ่าเยอะ
…
“ชู ฉันรู้สิ่งเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปอะ ฉันคิดว่าหลินหยี่คนนี้ไม่สามารถปกป้องฉันได้หรอก!” เหมิงเหยาที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าอยู่บ้านก็ได้บ่น
“ฉันคิดว่าเขาก็เยี่ยมนะ” ยู่ชูที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับนำขาไปพาดกับกำแพงไว้ก็ได้ตอบ เพราะว่าเธอได้อ่านมาว่าทำแบบนี้จะช่วยลดน้ำไขมันได้
“เขาเยี่ยมยังไง? ฉันคิดแต่ว่าต้องเป็นบอดี้การ์ดหล่อๆที่ทำตัวเหมือนเป็นแฟนของฉันได้! แต่ให้ตายเถอะ ตอนนี้ฉันมีชาวนามาติดตามแทน! ฉันจะออกไปข้างนอกกับเขาได้อย่างไรถ้าเขาเป็นแบบนั้น? ฉันคงจะถูกคนอื่นๆขำเยาะเย้ยน่ะสิ!” เหมิงเหยากัดฟันพูด “แล้วทำไมเธอไม่เอาเขาเป็นแฟนละ ถ้าเขาเยี่ยมอย่างที่เธอว่า!?”
“ก็น่ะ... ฉันไม่ใช่คนที่ถูกคนอื่นไล่ตามจีบนิ เข้าใจมั้ย ฉันไม่ต้องการคนมาป้องกัน และถ้าฉันเป็นแบบเธอ ฉันก็ยินดีที่จะมีเขามาป้องกันตัว” ยู่ชูกล่าวแบบหยาบคาย
“ก็แน่สิเธอไม่ต้องการหน่ะ เพราะเธอมีพี่ชายที่เป็นทหารนิ! ถ้าฉันมีพี่ชายที่สามารถเตะต้นไม้จนหักได้! ฉันก็คงไม่มาเจอปัญหาแบบนี้หรอก!” เหมิงเหยารู้ว่ายู่ชูจะพูดเพื่อผลักดันปัญหา แต่เหมิงเหยาก็รู้ดีว่าทำไมไม่มีใครมาตามจีบชู ก็เพราะพี่ชายที่สุดโหดของเธอนั่นเอง
“เหยาเหยา ทำไมฉันถึงไม่ถามพี่ฉันว่ามีใครในทีมจะมาปกป้องเธอบ้างหล่ะ? บางทีอาจจะเป็นพี่ของฉันเองก็ได้นะ!” ยู่ชูกระพริบตา “บางทีจงผินเหลียงคงจะไม่มีตามเธอเลยก็ได้!”
“ชู!” เธอกำลังไร้สาระ เหมิงเหยาจึงจ้องมองไปที่เธอ “ความคิดแย่ๆนี่มันอะไรกันเนี่ย? โลกนี่มันอะไรกัน ทำไมพ่อถึงส่งคนแบบนี้มาให้ฉัน?! แต่แล้วตอนนี้เธอก็ยังมาเพิ่มความคิดไร้สาระให้ฉันอีกหรอ? โลกนี้มันอะไรกันเนี่ย!”
“โอเค โอเค ไม่พูดแล้วก็ได้ โอเคมั้ย?” ยู่ชูไม่อยากจะทำให้เหมิงเหยาโกรธไปมากกว่านี้
…
หลินหยี่ได้มองของในกระเป๋าของเขา ขณะที่หลีฟูมาถึงพร้อมกับอาหารเย็น มันไม่มีเสื้อผ้าอะไรดีๆเลย! ตาเฒ่านี่ขี้เหนียวจริงๆ ขนาดเสื้อผ้าใหม่หรืออะไรใหม่ๆก็ไม่มีเลย!
เหมิงเหยาคิดว่าหลินหยี่คงจะใส่เสื้อผ้าเน่าๆออกมาเหมือนเดิม และเขาก็จะต้องถูกห้ามนั่งบนโซฟาอีกครั้ง แต่หลินหยี่กับเลือกใส่เครื่องแบบนักเรียนที่หลีฟูให้มา
ยู่ชูและเหมิงเหยารู้สึกตะลึงมากเมื่อเห็นหลินหยี่เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขาแต่งตัวยากจนมาก แต่การอบน้ำเพียงครั้งเดียวทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!
แต่อย่างไรก็ตามเหมิงเหยาก็ไม่ได้ทักหรือชมใดๆ เพราะว่าเธอมองเขาดูแย่ไปแล้ว สิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็คือหยุดมองเขาว่าเขาเป็นคนที่ซกมก
หลีฟูได้มาส่ง เนื้อปลานึ่ง เนื้อปลา ผักสด ซุปเห็ด มากมาย...
มันนานมากแล้วที่หลินหยี่ไม่ได้กินอาหารหรูๆแบบนี้ เขาจึงไม่เสียเวลาและไปนั่งรอที่โต๊ะทันที
และในขณะที่เขากำลังจะกิน เหมิงเหยาก็หยุดเขาทันที “นายทำอะไรของนาย! ฉันและชูยังไม่ได้กินเลยนะ! นายไม่ควรจะกินก่อนพวกเรา!”
หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อไปหยิบช้อน ส้อมต่างๆที่เป็นเครื่องเงิน เพราะเธอชอบใช้มันมาตั้งแต่เด็ก และเครื่องเงินเหล่านี้ก็ถูกทำมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ
หลินหยี่ยิ้มกับสิ่งที่เหมิงเหยาทำ เขาวางตะเกียบลง และเหมือนกับว่าเขาได้แต่นั่งดูพวกผู้หญิงกินข้าวกัน “มีน้ำอะไรดื่มได้บ้างไหมครับ?” เขาเริ่มถามหาน้ำเพราะเขาเริ่มหิวแล้ว
“น้ำอยู่นั้นไปหยิบเอง” เหมิงเหยาชี้นิ้วไปยังตู้เย็น
“โอ้..” หลินหยี่หันไปเห็นตู้เย็นที่ใหญ่ยักษ์ และเขาก็เดินไปเลือกหยิบน้ำส้มมาดื่ม
เหมิงเหยาก็กำลังคุยกับยู่ชูอยู่ ถึงอาหารบนโต๊ะ
“นั่นของโปรดฉัน ปลานึ่ง!”
“นี่ นี่ กระหล่ำปลีทอด ชูดูสิ!”
เหมิงเหยากำลังชื่นชมอาหารที่ทำมาจากเชฟในโรงแรมหรูของเพงซาน และหลีฟูมันจะนำมาส่งตรงเวลาเสมอ
ฉูเพงซานเป็นคนที่มีงานเยอะมาก และไม่มีเวลาเลย แม่ของเธอก็ยังทิ้งเธอไปตั้งแต่เด็กๆ และเธอก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก และพ่อของเธอก็ไม่เคยบอกเธอเลย
ชีวิตประจำวันของเหมิงเหยานั้นจึงอยู่ในการดูแลของหลีฟู