บทที่ 18: ราตรีแห่งรัก
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
บทที่ 18: ราตรีแห่งรัก
หานหลิงเฟิงนั้นรู้สึกราวกับว่าปราณจิตวิญญาณของนางนั้นกำลังหายไป เพียงไม่กี่ช่วงลมหายใจ แขนและขานั้นเริ่มอ่อนแรง ร่ายกายของเธอถูกมัดไว้ราวกับไก่ที่อยู่ในตู้โชว์ของร้านอาหาร
“อา นี่มันอะไรกัน? ปราณจิตวิญญาณของข้าหายไปไหน? พละกำลังของข้าอยู่ที่ใด? เหตุใดจึงหายไปทั้งหมด!?” หานหลิงเฟิงร้องออกมาอย่างตระหนก
“หยุดโวยวายเสีย!” เจ้าอ้วนหัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า “มันถูกปิดผนึกไว้เพียงชั่วคราว ที่ข้าดูแลเจ้าเมื่อครู่นั้นคือยาสลายพลัง มันมีค่าใช้จ่ายสิบก้อนของหินจิตวิญญาณ! ข้าใช้จ่ายมาพิเศษเพื่อเจ้า! เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าพอใจกับมันหรือไม่?”
เมื่อหานหลิงเฟิงได้ฟังดังนั้นแล้ว สีหน้าของนางแสดงความหวาดกลัวขึ้นมาทันที พร้อมถามออกไปอย่างลนลาน “เจ้า เจ้า เหตุใดเจ้าจึงปิดผนึกพลังของข้าไว้?”
“เพราะว่าข้านั้นตรึกตรองมาดีแล้ว ความคับข้องใจของเรานั้นมีมายาวนานหลายปี!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมา เขาอุ้มหานหลิงเฟิงพาดบ่าแล้วเดินขึ้นไปบนกระท่อมน้อย
“เอ๊ะ” หานหลิงเฟิงถูกวางลงบนเตียงไม้ นางตัวสั่นพร้อมพูดออกมาด้วยความกลัว “น้องชาย ในอดีตที่ผ่านมาข้านั้นเป็นคนไม่มีเหตุผล ท่านก็รู้ว่าข้านั้นสำนึกผิดแล้ว ในตอนนี้เราอยู่ร่วมสำนักเดียวกัน ท่านคิดจะทำให้ข้าด่างพร้อยงั้นหรือ?”
“ข้าไม่ทำ!” เจ้าอ้วนตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ท่านพูดจริงหรือ?” ขณะนั้นเองหานหลิงเฟิงก็แสดงอาการประหลาดใจออกมา
“แน่นอนมันคือเรื่องจริง ข้านั้นจะทำให้เจ้าด่างพร้อยได้เช่นไร? ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะให้รางวัลเจ้า!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างเดือดดาล “พี่สาว น้องชายคนนี้จะช่วยให้เจ้าให้ลิ้มรสความทรมานใจของข้า!”
“กรี๊ด” หานหลิงเฟิงกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว
เมื่อเจ้าอ้วนมองเห็นดังนั้นเขาไม่แสดงอาการหวาดหวั่นใด ๆ แต่เขากลับมีรอยยิ้มที่แจ่มใส “พี่สาว เสียงกรีดร้องของท่านช่างไพเราะเสียจริง แต่ท่านคิดว่าอย่างไรหรือถ้าหากบุคคลอื่นมาได้ยินเสียงนี้เข้า?”
“เหตุใดจะไม่ได้?” หานหลิงเฟิงโต้ตอบอย่างโกรธเคือง “หยุดขืนใจข้าเสีย เสียงของข้านั้นดังกว่าคนอื่น ถ้าหากข้านั้นกรีดร้องอย่างสุดกำลังปอดของข้านั้นจะทำงานเป็นพิเศษทำให้เหล่าผู้คนในบริเวณหนึ่งลี้ถัดจากนี้ได้ยิน หากว่าพี่ชายของข้า หรือเพื่อนในสำนักมาเห็นว่าเจ้ากำลังทำการอัปยศกับข้า เจ้าจะถูกลงโทษโดยหอคุมกฎอย่างแน่นอน!”
“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขัน!” เจ้าอ้วนหัวเราะจนตัวของเขานั้นโยกไปมา
“มีอะไรให้เจ้าขำงั้นหรือ? มีกฎระเบียบในนิกายเคร่งครัดเป็นหนักหนาในอาชญากรรมทางเพศ ถ้าหากถูกหอคุมกฎจับได้ เจ้าจะถูกส่งไปสู่ความตายอย่างแน่นอน!” หานหลิงเฟิงรีบกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “ถ้าว่าเจ้าปล่อยข้าไปในตอนนี้ ข้าจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอันใดเกิดขึ้นระหว่างเรา!”
“น่าขัน!” เจ้าอ้วนหัวเราะพร้อมกล่าวต่อ “พี่สาว เจ้านี่ตลกเสียจริง! แม้ว่าข้าจะยอมรับว่าเสียงของเจ้านั้นดังมาก แต่บ้านของข้านั้นถูกล้อมไว้ด้วยคาถาสกัดกั้น แม้ว่าเจ้าจะแหกปากจนเจ็บคอ เสียงก็ไม่มีทางเล็ดลอดออกไปข้างนอก แล้วชายสองคนที่อยู่ข้าง ๆ นี้ก็เป็นเพียงชายพิการเท่านั้น แล้วอย่างนี้ข้ายังจะต้องเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือไม่ ?”
ในตอนนี้หานหลิงเฟิงก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าพวกนางได้ร่ายคาถาสกัดกั้นไว้ในตอนต้น ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีเทาทันที นี่คือผลผลิตจากสิ่งที่หว่านออกไปนั่นเอง
เมื่อเห็นว่าหานหลิงเฟิงนั้นสติหลุดไปแล้ว เขากลับรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ แต่ในขณะที่เขากำลังหวนนึกถึงสิ่งที่นางได้เคยทำกับเขา เจ้าอ้วนก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการของเขาได้อีกต่อไป ความรู้สึกสงสารนั้นถูกหักล้างหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ฮ่าฮ่า พี่สาว เจ้าไม่ควรตำหนิถ้าหากข้าต้องการจะทำลายดอกไม้ ข้าสงสารท่านแต่เพราะว่าที่จริงแล้วท่านกระทำไว้มากเกินไป ในจุดที่ข้านั้นต้องไปทิ้งขยะ เจ้ากลับเสกน้ำมาให้ข้าดื่ม เสกไฟมาเผาข้า บังคับให้ข้าเปลือยกายวิ่งในฤดูหนาว ให้กลายเป็นเรื่องตลกของเหล่าทาสรับใช้ ทั้งหมดนั้นเพียงเพราะความสุขของท่านเท่านั้น!” เจ้าอ้วนกล่าวด้วยความโกรธ “แล้วเรื่องในวันนี้เพียงแค่หินจิตวิญญาณสิบก้อนเท่านั้น ทำให้เจ้าคิดจะฆ่าข้า ถ้าหากไม่ใช่ว่าข้านั้นเตรียมตัวมาดี ไม่ฉะนั้นแล้วข้าคงไม่เหลือแม้แต่ซากศพของตัวเอง! เนื่องจากเจ้าไม่เคยมีหัวใจให้กับผู้ใด อย่ามาตำหนิข้าเพียงเพราะเจ้าไม่ชอบใจสิ่งที่เจ้าเป็นหนี้ข้าอยู่ ข้าขอเอามันคืนกลับมา!”
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ทุกคนควรรู้โดยไม่ต้องพูดจาอันใด เจ้าอ้วนนั้นทนทุกข์ทรมานมานานนับทศวรรษ มันไม่เคยได้พบความสุขใด หลังจากเก็บความโกรธไว้ในใจมายาวนาน วันนี้มันปล่อยความโกรธออกไปในนัดเดียว ความรู้สึกถูกครอบงำด้วยความเบิกบานใจพร้อมกับการล้างแค้น ความรู้สึกเหล่านี้กำลังวิ่งเข้าหาเขา ทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังจะบินได้อย่างไรอย่างนั้น
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เจ้าอ้วนรู้สึกดีอย่างมากพร้อมกับยิ้มและถามว่า “พี่สาว ท่านรู้สึกดีหรือไม่?”
หลังจากที่ถูกทรมานโดยเจ้าอ้วน สติของหานหลิงเฟิงนั้นถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์ เมื่อได้ยินเจ้าอ้วนกล่าววาจาน่ารังเกียจออกมา นางก็ไม่ทราบว่าจะตอบกลับด้วยถ้อยคำอันใด
เมื่อเห็นว่าหานหลิงเฟิงนั้นยังคงเงียบ เจ้าอ้วนรู้สึกโกรธเคืองพร้อมพูดออกมาว่า “ดูเหมือนว่าพี่สาวจะยังไม่รู้สึกดี! ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องทำมันอย่างหนัก!”
หานหลิงเฟิงไม่สามารถอดทนกับเรื่องนี้ต่อไปได้อีก จึงร้องขอออกมา “น้องซ่ง เจ้าได้แก้แค้นแล้ว ได้โปรดปล่อยข้าไปเสีย!”
“ฮ่าฮ่า ข้านั้นมีใจที่จะปล่อยเจ้า แต่ว่าข้าไม่สามารถ!” เจ้าอ้วนแสร้งทำเป็นพูด “วันนี้ข้าเดือดร้อนเพราะพี่ชายสองคนข้างนอกนั้น ถ้าหากว่าเจ้ารายงานเรื่องนี้เมื่อเจ้ากลับออกไป ฮี่ฮี่ ตามกฎของนิกายแล้ว ปราณของข้านั้นจักถูกทำลาย! หึ พี่สาว ข้าไม่อาจทำให้ท่านผิดหวังได้”
ขณะที่หานหลิงเฟิงทราบเรื่องนี้แล้ว นางตกใจไปชั่วครู่ แต่ก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว นางกล่าวคำขอร้องต่อเจ้าอ้วนทันที “ข้าจะไม่ทำอย่างนั้นน้องชาย ข้าสาบานว่าจะไม่ทรยศเจ้า!”
“เจ้าจะใช้คำสาบานงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนถามอย่างดูถูก
“ข้าจะใช้ถ้อยคำสาบานของปีศาจ ถ้าหากว่าข้าต่อต้านมัน ชีวิตของข้าจะไม่มีวันเจริญรุ่งเรือง!” หานหลิงเฟิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องเหล่านั้น!” เจ้าอ้วนตอบกลับอย่างใจเย็น
“แล้วข้าต้องทำอย่างไรเพื่อให้เจ้าปล่อยข้าไปงั้นหรือ?” หานหลิงเฟิงถามกลับ
“ความจริงนั้นง่ายมาก สิ่งที่ข้าต้องการก็คือครอบครองด้ายจิตวิญญาณของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว!” เจ้าอ้วนตอบกลับอย่างใจเย็น
“อะไร? เจ้าพูดถึงด้ายจิตวิญญาณ? ความเป็นความตายของข้าจะขึ้นอยู่กับเจ้างั้นหรือ?” หานหลิงเฟิงตกใจอย่างรุนแรง
จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับบุคคลและสามารถทำอันตรายต่อมันได้น้อยที่สุด ดังนั้นถ้าหากมีใครได้ครอบครองด้ายจิตวิญญาณของผู้ใดแล้วล่ะก็ มันจะสามารถกำหนดความเป็นความตายได้ ถ้าหากว่าหานหลิงเฟิงนั้นมอบด้ายจิตวิญญาณของนางออกไปให้กับเจ้าอ้วน ในอนาคตนางก็จะกลายเป็นทาสเขาโดยสมบูรณ์ ถ้าหากเขาต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ นางก็จะมีชีวิต เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าเขาต้องการให้นางตาย นางก็ไม่อาจทำการอันใดได้นอกจากตายไปเสีย จึงไม่แปลกที่นางจะตกใจเมื่อได้ยินคำขอร้องนี้จากเขา
การขอครั้งนี้ทำให้หานหลิงเฟิงนั้นสติหลุดลอยไปอีกครา เจ้าอ้วนนั้นสงสารนางแต่เขาก็ไม่อาจปล่อยนางไปได้โดยง่าย เพราะเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องร้ายแรง หากว่ามีข่าวแว่วออกมา เจ้าอ้วนคงต้องตายโดยไร้สถานที่กลบฝัง ดังนั้นเขาจึงปรับหัวใจให้แข็งกระด้างพร้อมกล่าวออกไป “พี่สาว ข้านั้นหาได้ไร้ความปราณีไม่ แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่อาจเปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้ได้ ถ้าหากว่าเจ้าไม่ใช้ชีวิตของเจ้าเป็นประกัน ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”
“เจ้า เจ้าเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังต้องการมันอีก” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมาอย่างน่าเวทนา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอันใดกัน!” เจ้าอ้วนกล่าวต่อ “ถ้าหากว่าความจริงเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนี้ ข้าจะไม่สามารถพูดคุยกับเจ้าได้ เจ้าคงตายเหมือนกับสองคนที่อยู่ด้านนอกนั่น แม้ว่าวิธีการของข้านั้นไม่ได้รุนแรงแต่ข้าก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก ในตอนนี้เจ้าต้องโทษตนเองเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่าพวกเจ้าทุกคนมาหาข้าเอง และนี่คือการแก้แค้น! แล้วในตอนนี้ข้ายังต้องจัดการศพอีก ข้าหมดเรี่ยวแรงที่จะมานั่งคุยกับเจ้าแล้ว ข้าขอร้องเจ้าเพียงเรื่องเดียวให้เจ้าตอบมาว่าจะอยู่หรือตาย!”
เขาพูดคำว่าจะอยู่หรือตายออกมา ‘ตลอดช่วงชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้น ปัญหาที่ท้าทายที่สุดคือความตาย’ เมื่อชีวิตได้เผชิญกับความตาย แม้ว่าเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ นางก็ไม่ได้มีความกล้าที่จะก้าวข้ามไป เมื่อเผชิญหน้ากับการแสดงออกอย่างอ่อนโยนของเจ้าอ้วน นางรู้ดีว่านางนั้นไม่อาจอ้อนวอนสิ่งใดจากเขาได้เลย มันไร้ประโยชน์เสียเปล่า ถ้าหากว่านางไม่ส่งต่อด้ายจิตวิญญาณออกไป บุคคลทั้งสองข้างนอกนั้นล้วนตายไปแล้ว และนางไม่ต้องการจะตามไป ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นางต้องปฏิบัติตามคำขอเท่านั้น
แม้ว่าปราณจิตวิญญาณของนางจะลดน้อยลง แต่ว่าหานหลิงเฟิงยังคงมีปราณทางจิตที่นางสามารถควบคุมได้ นางหยิบเอาจิตวิญญาณของนางออกมา พร้อมกับเปลี่ยนเป็นลูกบอลซึ่งมีรูปร่างพิเศษ และส่งมันลอยไปหาเจ้าอ้วน