ตอนที่แล้วตอนที่ 227 งานอดิเรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 229 ศตรูที่เเข็งเเกร่ง

ตอนที่ 228 โปรดอธิบายต่อ


แม้ว่าซื่อถูชิงจะอยู่ระดับท็อปในหมู่ผู้วิวัฒนาการและเกือบจะเป็นผู้เป็นเลิศแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีฝีมือมวยขาวและดำเหนือกว่าหานเซิ่น

มวยขาวและดำไม่ได้พึ่งพาความแข็งแกร่งและความเร็วมาก สิ่งที่สำคัญคือการควบคุมร่างกาย การวิเคราะห์ การคาดเดาและสภาพจิตใจ

เนื่องจากหานเซิ่นฝึกกายหยก ทำให้การควบคุมร่างกาย รวมไปถึงความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้วิวัฒนาการแล้วเลย

ที่สำคัญหานเซิ่นพึ่งจะเริ่มฝึกคลื่นหยินหยาง และเขาก็รับแรงบันดาลใจจากมัน เขาสามารถนำหลักการของมันมาประยุกต์ใช้ได้

ที่ไป๋อี้ซานพูดนั่นไม่ผิด การฝึกคลื่นหยินหยางไม่มีความอันตราย แถมมันยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายผู้ฝึกอีกด้วย

อันตรายจริงๆของวิชานี้ก็คือการนำไปใช้งาน

การใช้พลังหยินและพลังหยางพร้อมกัน เป็นเรื่องที่มีความท้าทายต่อตัวผู้ใช้สูงมาก ถ้านำมันไปใช้แบบผิดพลาด ตัวผู้ใช้อาจจะบาดเจ็บเสียเอง

พลังหยินเป็นพลังอ่อน ขณะที่พลังหยางนั่นรุนแรง แต่แข็งกระด้าง พลังทั้ง 2 จะอยู่ตรงกันข้ามแบบสุดขั่ว

มันคล้ายกับมวยขาวและดำที่ต้องใช้การความสามารถในการคาดการ การวิเคราะห์และการตัดสินใจที่ถูกต้อง ผู้ใช้ต้องรู้ว่าคู่ต่อสู้จะใช้พลังแบบไหน และตัดสินใจว่าจะใช้พลังหยินหรือพลังหยางในการตอบโต้

ถ้าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่ามาก เราจะต้องใช้พลังหยินในการต่อสู้ ถ้าไปใช้พลังหยางมันก็เหมือนกับการเอาไข่ไปกระทบหิน

เพราะการใช้พลังหยางจะกินพลังงานสูงมาก การโจมตีที่ผิดพลาดอาจจะทำให้ถึงชีวิตได้

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างแบบง่ายๆ การใช้งานจริงๆนั้นแตกต่างออกไป การผสมผสานพลังหยินและหยางจะทำให้ผู้ใช้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลาย แต่นั่นก็คือส่วนที่ยากที่สุดของวิชาคลื่นหยินหยาง

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของวิชานี้ก็คือการคาดการ และการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ รวมไปจนถึงสภาพจิตใจของผู้ใช้

ผู้ที่ใช้คลื่นหยินหยางได้จะต้องฝึกหนักมาก ดังนั้นหานเซิ่นยังไม่สามารถนำมันมาใช้ในตอนนี้ได้ แต่กระนั้นเขาก็ได้ประโยชน์จากหลักการของมัน

ความรู้จากหลักการของมันก็อยู่เหนือกว่าระดับของผู้ยังไม่วิวัฒนาการ ความซับซ้อนของมันอยู่ในระดับผู้วิวัฒนาการและผู้เป็นเลิศ แม้แต่ผู้เป็นเลิศก็สามารถนำมันไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ระดับกึ่งเทพ ตัวของไป๋อี้ซานยังไปไม่ถึงระดับนั้น ดังนั้นเขายังไม่สามารถบอกได้ว่าพลังของคลื่นหยินหยางจะใช้ได้แค่ในระดับไหน

ถึงมันจะซับซ้อน แต่หานเซิ่นก็สามารถเข้าใจหลักการของมันได้เกือบหมด

เมื่อเขาใช้ความรู้ที่ได้มาสู้กับซื่อถูชิง ผลของมันเหนือกว่าที่เขาคาดคิด

สีหน้าและท่าทางของซื่อถูชิงเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ในตอนแรกเขาตั้งใจจะมาสั่งสอนหานเซิ่น แต่พอเริ่มไปสักพักเขาก็เริ่มจริงจัง และในที่สุดซื่อถูชิงก็ต้องช็อค

"เธอทำแบบนั้นได้ยังไง?" ซื่อถูชิงจ้องไปที่หานเซิ่น เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะไม่ได้สักคะแนนเลย หลังจากที่สู้กันมา 10 กว่ารอบ ซื่อถูชิงสงสัยว่าหานเซิ่นอาจจะใช้อุปกรณ์โกงเขารึเปล่า

"นั่นมันง่ายมาก วิชาที่คุณใช้มันโบราณเกินไป ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณออกหมัดดำ กล้ามเนื้อบริเวณแขนของคุณ..." หานเซิ่นพูดทฤษฎีบางส่วนของคลื่นหยินหยางไป

ซื่อถูชิงพยักหน้าอย่างเดียว ขณะที่ฟังหานเซิ่น ตอนนี้ดูเหมือนกับว่า เขาเป็นนักเรียนที่กำลังตั้งใจฟังสิ่งที่ครูอธิบาย

"เอ่อ... ขอโทษครับ ผมอาจจะพูดมากไปหน่อย ผมควรจะกลับไปฝึกเก้าอี้ลมต่อ"

ซื่อถูชิงหยุดเขาไว้ และให้หานเซิ่นมานั่งที่เก้าอี้ของเขา เขาเทน้ำชาให้หานเซิ่น และพูด "ลืมมันไปซะ แล้วอธิบายต่อ"

"ผมว่ามันจะดูไม่ดีนะครับ แบบนี้" หานเซิ่นคิดว่าถ้าคนอื่นมาเห็นเขาในสภาพนี้ มันอาจจะดูไม่ดี

"จะมีอะไรไม่ดี? ฉันได้ดูวิดีโอของเธอหมดแล้ว ฝีมือของเธอเรียกได้ว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบ เดี๋ยวฉันจะสอนเทคนิคให้เธอสักหน่อย แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไปฝึกเอาเองละกัน" ซื่อถูชิงพูด

"เธอแค่สอนฉันเกี่ยวกับเทคนิคมวยขาวและดำก็พอ เดี๋ยวฉันจะแสดงเทคนิคการยิงธนูให้เธอดูเอง ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ เธอสามารถถามฉันได้ตลอดเวลา"

"งั้นให้ผมอธิบายต่อเลยใช่ไหมครับ?" หานเซิ่นถาม

"ใช่" ซื่อถูชิงยืนกรานจะให้หานเซิ่นสอนเทคนิคมวยขาวและดำ

หานเซิ่นยิ้มและพูดเกี่ยวกับมวยขาวและดำต่อ ขณะที่ซื่อถูชิงเอาธนูออกมา และแสดงเทคนิคการยิงธนูระดับสูงให้หานเซิ่นดู

"อย่าหยุดสิครับ" หานเซิ่นเห็นซื่อถูชิงหยุดยิงธนู ขณะที่กำลังฟังเขาอธิบาย เขาต้องการดูซื่อถูชิงสาธิตวิธีการยิงธนูต่อไป เพราะเขาตระหนักดีว่าฝีมือการยิงธนูของซื่อถูชิงดีกว่าเขา

"โอเค โอเค" ซื่อถูชิงพูดและยิงธนูต่อไป

หลังจากนั้น 2 วัน ซื่อถูเซียงรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ต้องไปดูหานเซิ่นแล้ว เธออยากเห็นว่าสภาพของเขาจะเป็นยังไง แต่ยังไงเขาต้องมาขอให้เธอช่วยแน่ และถึงตอนนั้นเธอจะให้เขาเข้ามาอยู่ในทีม

ขณะที่กำลังจิตนาการถึงหน้าของหานเซิ่น ซื่อถูเซียงก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอรีบก้าวเท้าเร็วขึ้น

ในตอนที่เธอเหยียบเข้าไปในโรงฝึก นักเรียนของเธอกับกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของพ่อเธอ และกำลังนั่งจิบชาอยู่อย่างชิวๆ

ขณะที่พ่อของเธอกำลังยิงธนูให้หานเซิ่นดู และกำลังยิ้มให้นักเรียนของเขา ตอนนี้มันดูราวกับว่าซื่อถูเซียงอยู่ภายใต้การฝึกสอนของหานเซิ่น ซื่อถูเซียงตกตะลึง และคิดว่าเธอต้องตาฟาดไปแน่ๆ

"ทำไม?" เธออ้าปากค้าง

ทำไมพ่อของเธอที่ได้ฉายาว่านาซี ถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้? หานเซิ่นใช้เวทย์มนตร์อะไรสะกดเขาไว้

เธอไม่อาจยอมรับสิ่งที่เห็นได้ เธอคิดว่ามันต้องเป็นความฝันแน่ๆ

"นี่ต้องเป็นความฝัน พ่อของเราต้องไม่..." ซื่อถูเซียงหยิกตัวเอง เพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นขึ้น

"โอ้ย!" ความเจ็บปวดคือสิ่งยืนยันว่าเธอไม่ได้อยู่ในความฝัน เธอเอามือปิดหน้า เธอไม่อยากจะมองพ่อของเธอในตอนนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด