Chapter 31: ปิดกั้นประตูไว้! ฆ่ากระทิงเหล็กซะ!!!
“มึง!!!”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของหวังหยู่แล้ว สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดก็โกรธจนแทบหมดสติ
พันธมิตรอันนองเลือดนั้นกุมอำนาจของเกมมากมายไว้ด้วยจำนวนสมาชิกผู้เล่นที่พวกเขามี เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว ก็ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องสมาชิกของพวกเขาละก็จะโดนล่าในทันทีโดยสมาชิกทุกคน
เหตุผลเดียวที่พวกเขายังคงนั่งและพูดคุยกับหวังหยู่เนื่องจากชื่อเสียงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับ1 รวมไปทั้งพวกเขาไม่ต้องการที่จะยั่วยุนิกายซวนเฉินอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้นี่เองตราบเท่าที่หวังหยู่นั้นก้มหัวลงและยอมรับผิดของเขาละเรื่องนี้ก็จะแก้ไขปัญหากันได้
ใครจะไปจินตนาการว่าหวังหยู่นั้นยังคงดื้อรั้นและไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดจากการกระทำของเขากันละ? สิ่งที่เขาควรทำก็คือก้มหัวขอโทษลง แต่เขานั้นยังคงพูดอะไรแบบว่า “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผม” อย่างงั้นเหรอ?
เขากล้าที่จะพูดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องขอบคุณเขาหลังจากที่เขาฆ่าผู้คนของพวกเขาอย่างงั้นเหรอ? ทำไมชายคนนี้โอหังขนาดนี้กัน?
แม้กระทั่งพริมโรสอันนองเลือดนั้นก็หงุดหงิดเล็กน้อยกับคำพูดของหวังหยู่และดึงแขนของเขาและพูด “เทพเจ้ากระทิงเหล็ก หัวหน้ากิลด์ธงสงครามของพวกเรานั้นเป็นคนที่ใจกว้างมาก ตราบเท่าที่คุณยอมรับความผิดของคุณและขอโทษละก็ พวกเราก็จะทำเป็นเรื่องนี้นั้นผ่านไปและไม่สนใจมันอีก เป็นยังไงบ้าง?”
“เธอต้องการที่จะให้ผมยอมรับผิดที่ผมทำไปอย่างงั้นเหรอ? เธอจะบอกให้ผมว่าการทุบตีเด็กสาวโดยปราศจากเหตุผลนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้อย่างงั้นเหรอ?”หวังหยู่เปิดตากว้างและพูด
ธงสงครามอันนองเลือดก็กดความโกรธไว้และถาม “ถ้าอย่างงั้น เทพเจ้ากระทิงเหล็กจะแก้ปัญหานี้ยังไง?”
หวังหยู่ชี้ไปที่นกสวรรค์แล้วก็พูด “มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ไอ้เด็กบัดซบนี้จำเป็นที่จะต้องมาขอโทษเพื่อนของผม! ผมจะไม่สนใจกับเรื่องนี้อีกต่อไปหลังจากนั้น”
ที่จริงแล้ว หวังหยู่นั้นไม่ได้ต้องการที่จะแตกหักกับพันธมิตรอันนองเลือดอย่างสมบูรณ์เลย ถึงแม้ว่าเด็กสาวทั้งสี่นั้นเป็นเพียงแค่ผู้เช่าบ้านของพวกเขาและหวังหยู่นั้นก็ไม่ใช่คนที่ดื้อรั้นขนาดนั้น แต่การโจมตีใครบางคนโดยไม่มีเหตุผลนั้นเป็นที่ยอมรับไม่ได้! มันไม่ได้สำคัญหรอกว่ากิลด์ประเภทไหนนั้นหนุนหลังเขาอยู่ ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นมาถึงจุดนี้แล้ว การขอโทษเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแน่นอน!
ธงสงครามอันนองเลือดไม่สามารถที่จะเก็บกักความโกรธในหัวใจของเขาได้อีกต่อไป แล้วเขาก็ลุกขึ้น “ถ้าเขาไม่ต้องการที่จะขอโทษละ?”
“ถ้าอย่างงั้นละก็พันธมิตรอันนองเลือดก็จะสามารถลืมการมีชีวิตอยู่อย่างสงบในเมืองรัตติกาลนี้ได้เลย!”หวังหยู่พูดสบายๆ
“ไอ้เย็...แม่! มึงคิดว่ามึงเป็นพระเจ้าอย่างงั้นเรอะ?”อสุราอันนองเลือดตะโกนอย่างโกรธแค้น เมื่อเขานั้นดึงดาบออกมาและฟันใส่โต๊ะด้านหน้าหวังหยู่
อย่าปล่อยให้ไอ้เหี้..นี่ได้เล่นเกมอีกต่อไป! นี่เป็นประโยคปกติที่สุดของกลุ่มสมาชิกในพันธมิตรอันนองเลือดใครจะไปคิดว่าคนเพียงคนเดียวแบบหวังหยู่นั้นจะพูดอะไรที่คล้ายคลึงกับพวกเขากัน?
อสุราอันนองเลือดนั้นหงุดหงิดตั้งแต่ที่หวังหยู่นั้นมาแล้ว แน่นอนว่าเมื่อมีสมาชิกทั้งหมดนั้นอยู่ที่นี่ เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่สูญเสียการควบคุมและด่าทอหวังหยู่
หวังหยู่นั้นหัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อเผชิญหน้าการโจมตีของอสุราอันนองเลือด เขานั้นหลบอย่างสบายๆและยืดมือขวาออกไปอย่างรวดเร็วและจับไปที่เอวของอสุราอันนองเลือดและทุ่มลงพื้นอย่างรุนแรง โชคดีที่มันเป็นเพียงแค่เกม มิฉะนั้นละก็แขนของอสุราอันนองเลือดนั้นคงหักไปแล้ว!
จากการที่โดนโยนแบบนั้น อสุราอันนองเลือดก็ปล่อยดาบอย่างไม่รู้ตัว
หวังหยู่ก็จับดาบกลางอากาศและแทงมันเข้าไปที่คอของเขา
-887
ตั้งแต่ที่เขานั้นเป็นเจ้าแห่งอาวุธแล้ว อสุราอันนองเลือดนั้นก็ไม่ได้มีพลังชีวิตมากมายและเขาก็กลายเป็นแสงสีขาวในทันที!
ฆ่าภายในหนึ่งการโจมตี!!!
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงแรกของเกม อะไรอย่างการฆ่าภายในหนึ่งการโจมตีแบบนี้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเห็นมันก็ตาม อย่างไรก็ตาม สำหรับอาชีพที่เน้นคอมโบแบบนักต่อสู้ของหวังหยู่ที่โจมตีได้รุนแรงขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ตั้งแต่ที่อสุราอันนองเลือดนั้นมีสิทธิ์ที่นั่งบนโต๊ะนี้นั้นก็หมายความว่าเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในพันธมิตรอันนองเลือดแต่เขาก็ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย!
สิ่งที่ทำให้สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นมากที่สุดก็คือหวังหยู่กล้าที่จะฆ่าคนของพวกเขาภายใต้จมูกและแม้กระทั่งขโมยอาวุธของเขาอีกด้วย!
เกมจำนวนมากนั้นมีระบบดรอปไอเทมเมื่อผู้เล่นตาย อย่างไรก็ตามการที่จะขโมยผู้เล่นคนอื่นนั้นนี่เป็นครั้งแรก
ทุกคนจากพันธมิตรอันนองเลือดมึนงง ปกติแล้วพวกเขาทั้งหมดนั้นรู้ว่าอาวุธนั้นดรอปมาจากบอสระดับ15 แล้วพวกผู้เชี่ยวชาญของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นลงแรงกับการฆ่ามันเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่ที่อสุราอันนองเลือดนั้นเป็นตัวทำความเสียหายหลักของทีมแล้ว ดาบนั่นก็คือรางวัลของเขา ในตอนนี้อาวุธของเขานั้นถูกขโมยไปและทำให้สมาชิกที่เหลือของกิลด์นั้นกราดเกรี้ยวในทันที อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครเลยที่จะกล้าเคลื่อนไหวแบบห่ามๆ
ตั้งแต่ที่ผู้เล่นนั้นถูกเปลี่ยนแปลงเป็นแสงสีขาวตอนตายนั้น อสุราอันนองเลือดก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับดาบของเขาคืน!
หลังจากที่ฆ่าอสุราอันนองเลือดนั้นหวังหยู่ก็ยังคงเล่นกับดาบและพูด “ผมบอกเขาแล้วนะว่าให้พูดกันอย่างใจเย็น! ตั้งแต่ที่เขาตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ละก็ มันก็ไม่ใช่ความผิดผมหรอก!”
ในเวลาเดียวกัน ช่องแชทกิลด์ของนิกายซวนเฉินก็เต็มไปด้วยคำพูดไร้สาระ
“พระเจ้า! กระทิงเหล็กโจมตีจริงๆด้วย”
“น้องชายกระทิงเหล็กนี่ไม่ทำให้ชายแก่คนนี้ผิดหวังจริงๆ! ไก่น้อยจ่ายเงินมาได้แล้ว!”
“ไอ้เหี้.. สุนัขฤดูใบไม้ผลิ หาคนอื่นที่จะรังแกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่มีใครปัญญาอ่อนเท่านายแล้วละ”
“โบซอน?”หวังหยู่รีบส่งข้อความ
“ผมอยู่ที่นี่พี่ชายกระทิง!”
“นายสามารถที่จะใช้ดาบนี่ได้ใช่ไหม?”หวังหยู่ส่งรูปถ่ายของดาบอสุราอันนองเลือดให้
{ ดาบแสงเงิน (ระดับเงิน) }
พลังโจมตีกายภาพ : 19-34
พลังโจมตีเวทย์มนตร์ : 11-17
[ศักดิ์สิทธิ์] : ต่อต้านผลกระทบของมอนสเตอร์ประเภทมืด
[โชคชะตา] : เพิ่มสถานะทุกค่า 5%
ระดับที่ต้องการ : 10
ดาบนี้นั้นมีค่าพลังโจมตีธรรมดามากและสถานะที่มันเพิ่มให้ก็ไม่ได้พิเศษอะไร อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ระดับเงินยังคงหายากในตอนนี้ โบซอนนั้นยังคงใช้ดาบระดับทองแดงตั้งแต่ที่เขาออกมาจากเมืองเริ่มต้น…
หลังจากที่มองไปที่ค่าสถานะของดาบแล้ว โบซอนก็พูด “50000! ผมจะส่งให้พี่ในภายหลัง”
“โอเค!” เพียงแค่คำพูดเดียว หวังหยู่ก็โดนดาบไปด้านหลังของเขาพร้อมกับเสียงกระแทกบนโต๊ะของนิกายซวนเฉินอันดังก้องและผ่าเหล้าแตก
“มึง! มึงมากเกินไปแล้ว!”
การกระทำของหวังหยู่นั้นทำให้สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดนั้นโกรธจนแทบจะลุกไหม้เป็นไฟ
ธงสงครามอันนองเลือดนั้นคิดว่าหวังหยู่นั้นจะใช้ดาบนั้นเป็นข้อต่อรองกับเขา ใครจะไปคาดคิดว่าไอ้บัดซบนั้นจะอำมหิตขนาดนี้และส่งของขวัญให้กับคนอื่นตรงๆ!
เขาก็ทำลายความหวังอย่างสุดท้ายลง ธงสงครามอันนองเลือดก็หันไปหาไร้ความกลัวและพูด “หัวหน้ากิลด์ไร้ความกลัว ตั้งแต่ที่กระทิงเหล็กนั้นเป็นหนึ่งในคนของนาย นายควรที่จะอธิบายให้แก่ฉันสินะ เกี่ยวกับเรื่องนี้?”
“เฮะเฮะ ฉันมั่นใจว่านายก็รู้ว่าฉันเป็นหัวหน้ากิลด์แค่เพียงชื่อ กิลด์ของฉันนั้นมันเป็นประชาธิปไตยมากไม่ใช่แบบพวกนาย ดังนั้นไอ้ของอย่างหัวหน้ากิลด์นั้นก็ไม่มีอยู่ในสายตาของสมาชิกพวกเราหรอก!”ไร้ความกลัวหัวเราะ
เมื่อฟังคำพูดของเขาแล้วใบหน้าของพันธมิตรอันองเลือดก็มืดคล้ำยิ่งขึ้น
สมาชิกทุกคนของนิกายซวนเฉินก็หัวเราะขึ้น แล้วก็ทำอย่างกับเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก พวกเขานั้นไม่ได้มีธุรกิจเหมือนกับกิลด์อื่นที่มีระดับระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง
“ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นิกายซวนเฉินของเราจะต้องอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเราทำลงไปละ?”ไร้ความกลัวก็ยังคงหัวเราะต่อไป
ธงสงครามอันนองเลือดในที่สุดก็กราดเกรี้ยวแล้วเขาก็เริ่มหัวเราะ “เยี่ยม! ยอดเยี่ยมมาก! นิกายซวนเฉินมันก็เป็นพวกกลุ่มคนที่หยิ่งยโสและโง่เง่าจริงๆ!”
ธงสงครามก็สั่งการในช่องแชทกิลด์ “ล้อมรอบร้านอาหารไว้! และกวาดล้างนิกายซวนเฉิน!”
เมื่อพวกเขาได้รับคำสั่ง สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดที่อยู่ด้านนอกนั้นก็รีบพุ่งเข้ามาในร้านอาหาร ตั้งแต่ที่มันมีพื้นที่จำกัดในร้านอาหารนั้น คนจำนวนมากก็ทำได้แค่ยืนกองกันอยู่ตรงหน้าประตู
เมื่อเห็นผู้คนมากมาย ใบหน้าของความทระนงตัวก็เปลี่ยนไปแล้วเขาก็ด่า “โอ้ ไอ้เหี้... พันธมิตรอันนองเลือดมีคนจำนวนมากจริงๆ! พวกเราไม่สามารถที่จะหนีออกจากที่นี่ได้!”
“มันไม่รวมฉัน! พ่อของนายนั้นมีหลบซ่อนอยู่!”ดาบน้ำแข็งหัวเราะ
“ฉันด้วย! ฉันยังมีตัวประกันอยู่!”หวังหยู่พูด
ไร้ความกลัวโบกมือของเขาและตะโกนอย่างโกรธ “นายยังมีเวลาพูดไร้สาระอีกเหรอ? พี่ชายฤดูใบไม้ผลิรีบปิดประตูให้กระทิงเหล็กเร็วเข้า!”
“ได้เลย!”สำหรับสมาชิกที่อาวุโสสุดของนิกายซวนเฉิน รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นคนที่น่าเชื่อถือได้ในสถานการณ์แบบนี้
พร้อมกับแสงของการร่ายเวทย์มนตร์ ผีสี่ตัวก็ปรากฏขึ้นและรีบสร้างรูปแบบเป็นแถวตรงและปิดกั้นประตูไม่ให้พันธมิตรอันนองเลือดเข้ามาได้
สกิลหายากของหมอผี – [การเรียกร้องของนรก]
เมื่อเห็นฉากนี้ สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดก็มึนงง
แม้กระทั่งหัวหน้ากิลด์ใหญ่อย่างธงสงครามอันนองเลือดที่ได้เข้าร่วมเบต้าเทสต์ของ {REBIRTH}และรู้สกิลที่แข็งแกร่งที่สุด มันก็ยังคงถูกพิจารณาได้ว่าเป็นบัคอยู่ดี
สกิลของหมอผีนี้ก็คือ [การเรียกร้องของนรก]
[การเรียกร้องของนรก] มันคือสกิลตอนระดับ10และมันจะถูกอัพเกรดขึ้นทุกๆ5ระดับ หลังจากที่มันอัพเกรดในทุกครั้ง สกิลนี้ก็สามารถที่จะเรียกผีเพิ่มมากขึ้นอีกสองตัวพร้อมกับแต่ละตัวนั้นได้รับค่าสถานะของเจ้าของ 80%!
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ความสมดุลพังทลาย! สกิลนี้ยังคงสามารถที่จะเลื่อนระดับได้ในทุก10ระดับและเมื่อผู้เล่นถึงระดับที่20 ผีที่ถูกเรียกออกมาก็จะได้ค่าสถานะของผู้เล่น 100%!
พร้อมกับสกิลนี้นั้น การต่อสู้กับหมอผีระดับ 20 ก็เหมือนกับสู้กับปาร์ตี้ของผู้เล่นเจ็ดคน!
เมื่อกลับไปยังเบต้าเทสต์นั้น หมอผีก็ถูกนับว่ากลายเป็นบอส ภูตผีธรรมะ! พร้อมกับกองทัพของผีแล้วพวกเขาก็กวาดล้างทุกสิ่งและไม่มีสิ่งที่ใดที่เทียบได้!
ตั้งแต่ที่สกิลนี้นั้นมันทำลายสมดุลของเกมอย่างย่อยยับ ผู้เล่นจำนวนมากก็นำเรื่องนี้ไปฟ้อง
และหนึ่งในGMก็ตอบกลับมาว่าเมื่อเกมถูกเปิดออกมา มันจะมีหนังสือสกิลนี้เพียงแค่หนึ่งเล่ม! นอกจากนี้แล้วอาชีพอื่นก็สามารถที่จะมีสกิลที่คล้ายคลึงกับสกิลนี้ได้ ถ้าผู้เล่นสามารถที่จะหามันเจอ...
สิ่งนี้ก็ทำให้ฝูงชนที่โกรธแค้นก็ลดลง โชคนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถผู้เล่น ถ้าใครก็ตามที่ไม่สามารถหาหนังสือสกิลเจอละก็ เขาก็จะไม่สามารถที่จะโทษใครอื่นได้นอกจากตัวของเขาเอง!
อย่างไรก็ตามเมื่อธงสงครามอันนองเลือดเห็นผีตัวเล็กทั้งสี่ตัวปรากฏขึ้น เขาก็สาปแช่งระบบ
ทำไมกลุ่มของขยะที่มาจากนิกายซวนเฉินนั้นมีทุกสิ่งทุกอย่างเลย???
ผีตัวเล็กทั้งสี่ตัวนั้นมีค่าสถานะแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของค่าสถานะหมอผี ซึ่งมันก็ไม่ถูกนับว่าแข็งแกร่ง พร้อมกับจำนวนของพวกมันนั้น พันธมิตรอันนองเลือดนั้นก็สามารถที่จะทำให้พวกมันบาดเจ็บร้ายแรงจากการโจมตีเพียงหนึ่งครั้งและฆ่าพวกมันในครั้งต่อไปได้!
อย่างไรก็ตาม ถ้ารัศมีฤดูใบไม้ผลิมีสกิลนี้เพียงสกิลเดียว เขาจะกล้าไปปิดกั้นประตูได้อย่างไร? คทาของเขาก็ยกขึ้นอีกครั้งและพื้นที่รอบๆประตูทางเข้าร้านอาหารนั้นก็แคบลง ในเวลาเดียวกัน สมาชิกของพันธมิตรอันนองเลือดก็รู้สึกว่ามันแน่นขนัดและเขาก็ถูกขังไว้ตรงนั้น!
สกิลของหมอผีระดับ 15 – [บิดเบือน]
ใช้พลังของความมืดสร้างพื้นที่คุมขัง แล้วก็ควบคุมมันโดยอาชีพ ซึ่งนับว่าเป็นสกิลหลักของอาชีพหมอผีได้เลย
พื้นที่ด้านในร้านอาหารนั้นเล็กอยู่แล้วในตอนแรก ดังนั้นหลังจากที่พุ่งเข้ามาก่อนก็เป็นพวกแท็งค์และอาชีพระยะใกล้
ผีทั้งสี่ตัวนั้นก็โจมตีผู้คนที่อยู่ด้านหน้าอย่างต่อเนื่องในขณะที่รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ร่ายพิษใส่เหล่าผู้เล่นและทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาช้าลง 30%
รัศมีฤดูใบไม้ผลิสามารถที่จะปิดกั้นทางเข้าของร้านอาหารทั้งหมดได้โดยตัวของเขาเพียงคนเดียว!
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ธงสงครามอันนองเลือดจะนั่งเฉยๆและรอความตายได้อย่างไร? เขารีบดึงอาวุธของเขาออกมาและแทงไปที่หวังหยู่
เมื่อเป็นครูเซเดอร์แล้ว อาวุธของธงสงครามอันนองเลือดนั้นก็คือหอก
ความยาวที่ยาวกว่าหนึ่งนิ้วก็คือความแข็งแกร่งที่มากกว่า! ธงสงครามอันนองเลือดนั้นตั้งใจที่จะใช้ข้อได้เปรียบของระยะการโจมตีกดดันมือเปล่าของหวังหยู่
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ตามจินตนาการของเขา หวังหยู่ก็จับไปที่หอกได้อย่างง่ายดาย...
เมื่อเขานั้นจำสิ่งที่เกิดกับอสุราอันนองเลือดได้ ธงสงครามอันนองเลือดก็จับไปที่หอกของเขาอย่างแน่นหนาและพยายามที่จะดึงมันกลับ
ตั้งแต่ที่ความแข็งแกร่งของค่าสถานะนักต่อสู้ที่มีการเติบโตไม่สามารถที่จะเทียบเท่าได้กับอัศวิน หวังหยู่นั้นก็ไม่พยายามที่จะปะทะโดยใช้ความแข็งแกร่งของเขากับธงสงครามอันนองเลือด หวังหยู่ก็ปล่อยหอกลงและทำให้ธงสงครามอันนองเลือดล้มลงเข้ากระแทกกับโต๊ะ
แทนที่จะฆ่าหวังหยู่ ธงสงครามอันนองเลือดก็ถูกทำให้อับอายด้วยตัวเองแทนสิ่งนี้นั้นทำให้เขาระเบิดความโกรธออกมาและด่าหวังหยู่รัวๆในหัวใจของเขา
เมื่อเขายืนขึ้นและเตรียมที่จะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง เจ้าของของร้านอาหารนั้นก็รีบจับไปที่ธงสงครามอันนองเลือดและพูด “จ่ายค่าเสียหายมาด้วย…”
“ไอ้เหี้...!”
เมื่อเห็นผู้นำนั้นพ่ายแพ้ สมาชิกที่เหลือของพันธมิตรอันนองเลือดก็พุ่งเข้าหาหวังหยู่ในทันที
และโจรที่ต้องการที่จะใช้ข้อได้เปรียบของความโกลาหลหรือกำลังดูถูกหวังหยู่อยู่ก็พยายามที่จะลอบไปฟันด้านหลังของเขาโดยไม่ได้ใช้ [หลบซ่อน] ในตอนท้ายเขาก็ถูกฆ่าโดยหวังหยู่เพียงแค่ลูกเตะลูกเดียว
สำหรับหน่วยโจมตีทั้งหมดนั้นนกสวรรค์มีสภาพการตายที่น่าอนาถมากที่สุด เขานั้นต้องการที่จะใช้โล่ของเขากระแทกเข้าไปกับหลังหัวของหวังหยู่ แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกบีบคอจนตายโดยหวังหยู่โดยที่เขายังไม่หันกลับไปมองเลยด้วยซ้ำ!
พร้อมกับการแลกเปลี่ยนการโจมตีเพียงครั้งเดียว พันธมิตรอันนองเลือดก็เหลือเพียงแค่คนสี่คนในร้านอาหาร นอกจากพริมโรสอันนองเลือดและธงสงครามอันนองเลือดนั้นก็เหลือเพียงแค่นักธนูและนักเวทย์
สำหรับอาชีพระยะไกลทั้งสองคนก็รีบเว้นระยะห่างของพวกเขาเมื่อการต่อสู้นั้นเริ่มขึ้นและเล็งไปที่คนอื่นในขณะที่อีกคนกำลังร่ายเวทย์
“อั๊ก!!! อ๊า!!!”
พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นสองเสียงของนักเวทย์และนักธนูก็เปลี่ยนกลายเป็นแสงสีขาวและดาบน้ำแข็งก็ปรากฏตัวขึ้นในตำแหน่งที่นักธนูเคยอยู่
ความทระนงตัวที่ยืนอยู่ในตำแหน่งของนักเวทย์ก็ยกหมัดขึ้นและตะโกน “มันเป็นการต่อสู้แบบคนจำนวนมาก! ทำไมพวกนายทำเหมือนกับว่ากำลังดวลเดี่ยวกันอยู่เลยละ?”