Chapter 186: ออกจากเมือง
น้ำเสียงของจางจิงนั้นจริงจังอย่างมาก เขานั้นให้ความรู้สึกที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ สำหรับการเป็นผู้นำนั้นเจียงลู่ฉีก็สามารถที่จะเข้าใจความหมายที่จางจิงสื่อออกมาได้แต่สมาชิกของทีมเจียงลู่ฉีนั้นไม่ใช่ทหาร กองทัพนั้นถามหาความช่วยเหลือของเขา ดังนั้นเจียงลู่ฉีจึงรู้สึกโกรธและเฉินเต๋านั้นละอายใจ เฉินเต๋านั้นไม่ได้คาดคิดไว้ว่าจางจิงจะไร้มารยาทขนาดนี้
“ความสามารถพิเศษของนายคืออะไร?”จางจิงถามเนื่องจากว่าเขาควรที่จะสร้างรูปแบบการต่อสู้ซึ่งขึ้นอยู่ตามความสามารถของพวกเขา “นาย บอกฉัน!”เขาชี้ไปที่ซุนคุนและพูด
เอ่อ....เขาเมินเจียงลู่ฉี
เจียงลู่ฉีคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากไม่มีใครสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานอันไหลเวียนที่ออกมาจากร่างกายของเขา ดังนั้นเขายังคงใจเย็นอยู่
เจียงลู่ฉีหันกลับไปดูเฉินเต๋าที่ซึ่งทำท่าทางแสดงความขอโทษอยู่
“ความสามารถพิเศษของผมก็คือการปีนป่ายเหมือนกับจิ้งจก”ซุนคุนตอบอย่างขี้เกียจๆกับจางจิง ในความเป็นจริงแล้วเขานั้นดูถูกจางจิงอีกด้วย จางจิงนั้นสามารถที่จะเข้าใจถึงการแสดงออกของเขาได้ แต่เขานั้นขมวดคิ้วแต่ไม่ได้โกรธ เขานั้นใช้ประโยคพูดของกองทัพ อย่างเช่น ‘ท่าน โจนรายงานตัวแล้วครับ’ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะอดทนกับการกระทำแบบนี้ได้ ที่จริงแล้วเขานั้นไม่ต้องการที่จะร่วมมือกับทีมของผู้รอดชีวิตด้วยซ้ำ แต่คนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขานั้นสั่งให้เขาทำ
“นิ้วของฉันนั้นทรงพลังมากและฉันสามารถซ่อมรถได้”จางไฮ่ตอบกลับ
[อะไร? ซ่อมรถ? ทำไมมีแต่ความสามารถที่แปลกประหลาดแบบนี้กัน?] จางจิงนั้นพูดไม่ออก เขานั้นสงสัยว่าเฉินเต๋านั้นเชินพวกเขามาช่วยทำไม
“จิตวิญญาณของฉันนั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่น”หลันซิหยู่ตอบง่ายมาก หยิงนั้นปฏิเสธที่จะตอบคำถามเนื่องจากว่าเธอนั้นแคร์แค่เพียงเจ้านายของเธอเท่านั้น ซึ่งก็คือเจียงลู่ฉี สำหรับเจียงจู้อิง เธอรู้สึกโกรธกับการแสดงออกของจางจิง ดังนั้นเธอจึงตอบคำถามเขาด้วยเพียงคำเดียว “ไฟฟ้า” เธอนั้นขี้เกียจที่จะบอกรายละเอียด ในภายหลังจางจิงก็โกรธขึ้น
ในเวลานั้นเอง เจียงลู่ฉีก็พูดขึ้น “กัปตันจาง พวกเราไม่ใช่ทหารของคุณ และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานั้นนั้นก็คือการร่วมมือกัน ดังนั้นพวกเราจะฟังคำแนะนำของคุณที่สมเหตุสมผลเท่านั้น มิฉะนั้นละก็ พวกเราก็จะปฏิเสธที่จะร่วมมือกับคุณอีกต่อไป”เจียงลู่ฉีพูดด้วยน้ำเสียงอันใจเย็น
“คำแนะนำที่สมเหตุสมผล? นายกำลังมีข้อสงสัยกับฉันเหรอ? นายนั้นไม่ได้รับรู้ถึงความอันตรายของซอมบี้กลายพันธุ์และสถานการณ์บนถนนั่นด้วยซ้ำ นายจะตัดสินได้ยังไงว่าคำสั่งของฉันนั้นถูกหรือไม่?”จางจิงจ้องไปที่เจียงลู่ฉีและน้ำเสียงของเขาก็ดังขึ้นอย่างมาก ความกล้าหาญของเจียงลู่ฉีนั้นน่ายกย่องแต่สำหรับที่เหลือนั้นตกตะลึงและมองไปยังเจียงลู่ฉี
เมื่อทีมพายุคลั่งนั้นสังเกตเห็นฉากนี้ พวกเขาก็เริ่มที่จะแสยะยิ้ม อย่างไรก็ตามในเวลานั้น ฉู่ซงหมิงก็พูด “ถึงแม้ว่าพวกเราจะร่วมมือกัน แต่คำสั่งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องทำ หรือไม่ถ้าทุกคนนั้นทำตามใจตัวเองละก็ ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็จะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก....ด้วยสถานการณ์นั้น ฉันคิดว่านายไม่ต้องการให้เหตุการณ์อะไรแบบนั้นเกิดขึ้นใช่ไหม?”ฉู่ซงหมิงพูดพร้อมกับขยับแว่นพร้อมกับร้อยยิ้ม
จางจิงจ้องไปยังเฉินเต๋า ที่จริงแล้วเขานั้นมึนงงกับการตัดสินใจของเฉินเต๋า
เฉินเต๋ารู้สึกผิดในหัวใจดังนั้นเขาจึงอธิบายขึ้น “กัปตัน ฉันได้เห็นความแข็งแกร่งของทีมเจียงลู่ฉี เจียงลู่ฉีนั้นเป็นบุคคลที่ทรงพลังมากที่สุดและเขายังคงมีความสามารถพิเศษอีกด้วย”
“อะไร?”จางจิงไม่เชื่อในสิ่งที่เฉินเต๋าได้พูด มันเป็นเรื่องที่เห็นได้เด่นชัดว่าการไหลเวียนพลังงานของเจียงลู่ฉีนั้นอ่อนแอ
“ความสามารถของเขานั้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนรูปร่างของยานพาหนะ และในความคิดของฉันมันก็รวมไปถึงการปรับแต่งรถยนต์ รถมินิบัสนั่นก็คืองานของเขา”เฉินเต๋าอธิบายต่อ
“รถที่ถูกปรับแต่ง?”จางจิงนั้นขี้เกียจที่จะไปดูที่รถมินิบัสนั่น “แล้วรถติดเกราะ?”จางจิงถามขึ้น แต่เฉินเต๋าก็เปิดปากแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา มันเป็นเรื่องที่ถูกประเมินได้ว่าเจียงลู่ฉีนั้นไม่รู้เกี่ยวกับการปรับแต่งรถยนต์ติดเกราะ
“กัปตัน มันถึงเวลาแล้ว”ฉู่ซงหมิงมองไปที่นาฬิกาและพูดกับจางจิง ภารกิจนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นและเขาไม่ต้องการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปกับทีมของเจียงลู่ฉี
“อย่าไปสนใจเขาเลย”เฉินเต๋าพูดกับเจียงลู่ฉีโดยความรู้สึกผิด
เจียงลู่ฉียิ้มและพูด “มันโอเค แต่ฉันก็ยังคงยืนยันกับสถานะของพวกเราว่าพวกเรานั้นจะทำตามคำสั่งที่ฉันคิดว่ามันถูกต้องเท่านั้น”เจียงลู่ฉีพูดอย่างชัดเจนมาก เขานั้นมีหลักการเป็นของตัวเอง
ในเวลานั้นเอง จางจิงก็เดินไปยังรถติดเกราะของเขา ดวงตาอันสูงส่งของเขานั้นก็กวาดไปมองใบหน้าของทุกคนและหลังจากนั้นก็พูดเสียงดัง “ในตอนนี้ทุกคนได้อยู่ที่นี่แล้ว มันก็ถึงเวลาที่จะออกเดินทางได้แล้ว!”เมื่อจางจิงโบกมือ รถติดเกราะของเขานั้นก็พุ่งออกไป สำหรับการเป็นจอมทัพนั้นรถของเขาจะต้องเป็นผู้นำทีม ถึงแม้ว่าคำพูดของจางจิงนั้นจะน่ารำคาญก็ตาม สิ่งที่เขาทำนั้นมันถูกต้อง ในวันโลกาวินาศนั้นความแข็งแกร่งมันก็กลายเป็ฯพื้นฐาน รถติดเกราะนั้นเป็นผู้นำและก็มีรถกองทัพสามคันนั้นตามมา รถของผู้รอดชีวิตนั้นอยู่ตรงกลางและรถกองทัพอีกสองคันนั้นก็ปิดท้าย
ทีมของผู้รอดชีวิตนั้นออกจากเขตแรกของเกาะเชนไฮ่ ใครบางคนกลับมาพร้อมกับผลลัพธ์ที่ดีแต่ใครบางคนก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย เมื่อพวกเขาออกไปนอกประตูแล้วเจียงจู้อิงก็มองกลับไปและเธอรู้สึกว่าประตูเหล็กด้านหลังของเธอรวมไปทั้งกำแพงเมืองนั้นกำลังก่อตั้งเป็นกำแพงขนาดมหึมาซึ่งมันแยกพวกเขาออกจากโลกด้านใน