ตอนที่ 222 คลังสมบัติเคลื่อนที่
หลังกลับมาที่ห้องพัก หานเซิ่นก็เช็ครายละเอียดของวิชาอีบาสที่เขาเพิ่งซื้อมา
"นี่มันวิชาระดับCจริงๆหรอเนี่ย" หานเซิ่นเบิกตากว้าง ตอนแรกเขาคิดว่าวิชาระดับcจะต้องเป็นระดับพื้นฐานและง่ายกว่านี้ แต่วิชาที่เขาซื้อมามันซับซ้อนมาก ยิ่งกว่าวิชาระดับsที่เขาเคยเรียนซะอีก
"มันอาจจะเป็นวิชาระดับCก็เพราะมันฝึกยาก และผลลัพธ์อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร"
เนื่องจากเขาซื้อมันมาจากร้านของทางโรงเรียน และเขาก็ได้รับขวดยาปรับปรุงพันธุกรรมจากหุ่นยนต์ขายของอัตโนมัติ ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ที่สำคัญที่สุดคือหลังจากที่เขาลองอ่านรายละเอียดแล้ว เขาพบว่ามันเป็นวิชาที่น่าดึงดูดมาก มันเป็นสิ่งที่เขากำลังต้องการ
แต่หลังจากเช็คข้อมูลเสร็จแล้ว เขาก็ยังไม่เริ่มฝึกอีบาสในทันที และยังไม่ได้ดื่มยาปรับพันธุกรรมด้วย เขาเก็บมันไว้ในล็อคเกอร์ของเขา
ถึงแม้มันจะดูไม่มีปัญหาอะไรในการฝึก แต่หานเซิ่นรู้สึกว่าชายวัยกลางคนคนนั้นดูท่าทางแปลกๆ เหมือนว่าเขาจะมาสังเกตการหานเซิ่น หานเซิ่นมั่นใจมากว่าชายคนนั้นจงใจมาดูเขาโดยเฉพาะ และพยายามช่วยฉวี้ลี่ลี่เลือกวิชาไฮเปอร์จีโนเพื่อกลบเกลื่อน ดังนั้นหานเซิ่นจึงยังไม่เริ่มฝึกอีบาสในทันที
ความคิดของหานเซิ่นนั้นไม่ผิดเลย ชายวัยกลางคนคนนั้นคือไป๋อี้ซาน และวิชาอีบาสที่หานเซิ่นซื้อมาจริงๆแล้วมันก็คือวิชาคลื่นหยินหยางที่ไป๋อี้ซานเป็นคนคิดค้น
ไป๋อี้ซานเชื่อว่าหานเซิ่นมีคุณสมบัติในการฝึกคลื่นหยินหยาง เขาพยายามใช้วิธีทางการในการชวนหานเซิ่นมาเป็นผู้ช่วยแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งไป๋อี้ซานได้ทำเรื่องขอวิจัยคลื่นหยินหยางต่อเป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าเขาหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะจะฝึกได้แล้ว และขอเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อที่จะแสดงผลให้กับสถาบันได้เห็น โดยเขาสัญญาว่าถ้าภายใน 2-3 วันนี้ไม่มีความคืบหน้า เขาจะยอมให้คลื่นหยินหยางถูกแบนอย่างถาวร
ในตอนนี้ไป๋อี้ซานไม่สามารถสอนวิชาคลื่นหยินหยางให้กับใครได้ การสอนวิชาที่ถูกแบนถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงในกาแล็กซี่ ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต
ดังนั้นไป๋อี้ซานต้องทำให้หานเซิ่นฝึกคลื่นหยินหยางภายใน 2-3 วันนี้เท่านั้น ซึ่งมันจะได้รับยกเว้นความผิดทางกฎหมาย เพราะอยู่ในขั้นตอนพิจารณาพิเศษที่เขาเป็นคนร้องขอ
ตามปรกติแล้วไป๋อี้ซานจะไม่มีทางใช้วิธีการแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาแล้ว เขาต้องทำให้หานเซิ่นฝึกมันให้เร็วที่สุด
โชคดีที่ผู้อำนายการโรงเรียนเหยี่ยวดำเป็นคนรู้จักของไป๋อี้ซาน และเขาก็เป็นที่คลั่งไคล้ในวิชาศิลปะป้องกันตัวคนหนึ่ง หลังจากได้ดูรายละเอียดของคลื่นหยินหยางแล้ว เขาก็ไม่อยากให้มันต้องถูกแบน หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจช่วยไป๋อี้ซาน
แต่ไม่ว่าพวกเขาทั้ง 2 คนจะคิดยังไง คนที่ตัดสินใจฝึกก็คือหานเซิ่น พวกเขาได้แต่รอลุ้น
2 วันต่อมา ไป๋อี้ซานไปสังเกตการณ์หานเซิ่น ใบหน้าของเขามืดมนทันที เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นยังไม่ได้ดื่มยาปรับปรุงพันธุกรรมและเริ่มฝึกคลื่นหยินหยาง ไม่งั้นลักษณะภายนอกของหานเซิ่นจะต้องเปลี่ยนไปบ้างแล้ว เนื่องจากเป็นคนคิดค้นวิชา ไป๋อี้ซานจึงรู้จักมันดี
"เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขายังไม่ฝึกคลื่นหยินหยาง?" ไป๋อี้ซานเริ่มวิตกกังวล
ไป๋อี้ซานต้องการให้หานเซิ่นเป็นทดลองฝึก ซึ่งอีกไม่นานสถาบันเซนท์จะต้องขอเอกสารการทดลองฝึกของเขา เพื่อพิจารณาว่าจะถูกแบบอย่างถาวรเลยรึเปล่า แต่ตอนนี้หานเซิ่นยังไม่ยอมฝึก เขาจำเป็นต้องให้หานเซิ่นเซ็นต์สัญญาเป็นผู้ทดลองก่อนจะถึงกำหนดให้ได้
ในตอนนี้หานเซิ่นยังไม่ได้ดื่มยาปรับปรุงพันธุกรรม ซึ่งมันจะต้องถูกสถาบันเรียกคืนในอีกไม่ช้านี้ ถึงตอนนั้นต่อให้หานเซิ่นจำวิธีการฝึกได้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่มียาปรับปรุงพันธุกรรม มันก็ไม่สามารถฝึกให้สำเร็จได้
ขณะที่ไป๋อี้ซานกำลังรู้สึกวิตกกังวล เขาก็เห็นหานเซิ่นเดินไปที่เครื่องเทเลพอร์ต เขากำลังจะไปยังก็อตเเซงชัวรี่
ไป๋อี้ซานหน้าซีดทันที การพิจารณาจะเริ่มในอีก 2 วัน ถ้าหานเซิ่นไปก็อตแซงชัวรี่ตอนนี้ เขาจะหมดโอกาสทันที ไป๋อี้ซานไม่มีทางเลือก เขาต้องไปหยุดหานเซิ่น
"หานเซิ่น" ไป๋อี้ซานหยุดหานเซิ่นไว้ก่อนที่เขาจะเข้าไปในสถานี
"คุณคือ?" หานเซิ่นจำเขาได้ แต่ไม่รู้จักชื่อของเขา
"ฉันไป๋อี้ซาน พวกเราเคยพบกันแล้วที่ร้านขายไฮเปอร์จีโน ฉันเป็นคนแนะนำให้เธอซื้ออีบาส แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมฝึกมัน?" ไป๋อี้ซานไม่สนอะไรแล้วตอนนี้
ด้วยคำถามนี้ ทำให้หานเซิ่นมั่นใจว่าไป๋อี้ซานมีจุดประสงค์บางอย่างจริงๆ
"ศาสตราจารย์ไป๋ ผมต้องขอโทษด้วย ผมไม่มีเวลาจริงๆ ไว้ผมจะฝึกมันวันหลังนะครับ" หานเซิ่นพูดอย่างนุ่มนวล
"ไม่ได้ เธอต้องฝึกมันภายใน 2 วันนี้" ไป๋อี้ซานรีบพูด เขาดูร้อนรนมาก
"ทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น?" หานเซิ่นถาม และมองไปที่ไป๋อี้ซาน
ไป๋อี้ซานไม่รู้จะอธิบายยังไง เขาใช้วิธีที่ไม่ปรกติ เพื่อทำให้หานเซิ่นฝึกมัน เขาลังเลที่จะพูด
"หานเซิ่น พวกเราไปหาที่อื่นคุยกันดีกว่า เดี่ยวฉันจะอธิบายให้เธอฟังทุกอย่าง"
"ได้ครับ" หานเซิ่นพยักหน้า เขาก็อยากรู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ไป๋อี้ซานพาหานเซิ่นไปที่ห้องประชุมส่วนบุคคล และบอกความจริงเขาทุกอย่าง
"ฉันต้องขอโทษเธอด้วย หานเซิ่น ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้ เธอเป็นคนเดียวที่เหมาะจะฝึกมัน และเธอก็ปฏิเสธคำชวนของฉันที่ต้องการให้เธอเป็นผู้ช่วย ทำให้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่ต้องการให้คลื่นหยินหยางถูกแบน" ไป๋อี้ซานพูดขอโทษหานเซิ่น
เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋อี้ซาน ตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา เขาคิดว่าเขาถือไพ่เหนือกว่าไป๋อี้ซาน 'เขาคือผู้เป็นเลิศ และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันเซนท์ เขาต้องศึกษาวิชาการต่อสู้มาหลายอย่าง แน่ เขาเป็นเหมือนกับคลังสมบัติเคลื่อนที่ มันเป็นโอกาสดีที่จะหาประโยชน์จากเขาให้มากที่สุด'
หานเซิ่นใช้คอมพกพาของเขาหารูปไป๋อี้ซานในเน็ต และพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของคือไป๋อี้ซานจริงๆ
หานเซิ่นยิ้ม และมองไปที่ไป๋อี้ซาน เขาคิด 'อย่าตำหนิผมเลยนะ ก็คุณเป็นคนที่ผิดตั้งแต่แรก'