ตอนที่แล้วบทที่ 13: กว้านซื้อยาอายุวัฒนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15: เคล็ดวิชาอสนีวารี

บทที่ 14: ดาบอสนีวายุ


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

บทที่ 14: ดาบอสนีวายุ

ร้านนี้ช่างดูหรูหรายิ่งนัก เมื่อเทียบกับร้านขายยาที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อสักครู่นี้ ผนังของมันทั้งสี่ด้านถูกประดับประดาด้วยอุปกรณ์วิเศษ ดาบบินต่าง ๆ อุปกรณ์ทั้งหมดมีแสงประกายที่เย็นเยียบส่องออกมา คนขายที่อยู่ภายในร้านนี้เป็นผู้ชายแข็งแรง เกือบจะอยู่ในจุดสูงจุดของระดับโฮ่วเทียนและเขากำลังจะเข้าสู่ระดับเซียนเทียนในไม่ช้า

ผู้ชายคนนี้ฝีปากไม่จัดจ้านเหมือนพนักงานที่ร้านขายยาเท่าใดนัก เมื่อเขาเห็นเจ้าอ้วนเดินเข้ามาในร้าน เขาตะโกนออกไปทันทีว่า “พี่ชาย ท่านต้องการของสิ่งใด?”

เจ้าอ้วนครุ่นคิดอยู่เพียงครู่แล้วกล่าวว่า “ข้าต้องการดาบบินที่เร็วที่สุด!”

ดาบบิน คือสิ่งที่นักฝึกฝนพลังทั้งหลายใช้สำหรับเดินทาง ส่วนในการต่อสู้นั้นจะใช้ดาบที่ใช้ในการสู้รบเท่านั้น ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ มักจะใช้เวทย์มนต์ในการป้องกันและใช้ในการโจมตีด้วย สำหรับเจ้าอ้วนนั้นดาบบินเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ใช้สำหรับหลบหนี ดังนั้นความเร็วคือสิ่งที่เขามองว่าสำคัญที่สุด เขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติอื่น ๆ เท่าใดนัก

ทันทีที่ชายผู้นั้นได้ทราบว่าเจ้าอ้วนต้องการสิ่งใด คิ้วของเขาขมวดกันเป็นปมพร้อมโพลงออกไป “ท่านต้องการเพียงแค่ความเร็วอย่างนั้นรึ ? ท่านมีความต้องการอื่น ๆ หรือไม่ ?”

“โอ้ ถ้ามันเป็นไปได้ งั้นเอารูปลักษณ์ที่มันดูน่าเกลียดหน่อย” เจ้าอ้วนตอบกลับ “สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่ทุกคนมองที่ดาบแล้วเข้าใจว่ามันเป็นเพียงดาบบินทั่วไป” เจ้าอ้วนไม่ต้องการให้ดาบบินของเขาไปสะดุดตาใครในทุกหนทุกแห่ง มันเป็นการประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเขานั้นรวยเพียงใด นั่นเท่ากับว่าฆ่าตัวตายแท้ ๆ

“อ๋ออ่า คำขอของท่านนับว่าแปลกจริง ๆ ผู้มีพลังคนอื่น ๆ มักจะซื้อดาบบินไปเพราะว่ามันสวยงาม แต่ท่านต้องการสิ่งที่น่าเกลียดที่สุด ซึ่งไม่ง่ายเลยที่ข้าจะค้นหามัน!” ชายคนนั้นได้หยิบดาบสีฟ้ามีอัสนีผ่าลงมากลางดาบลงมาจากผนังของร้านพร้อมกับกล่าวว่า “นี่คือดาบอัสนีวายุ มันอยู่ในเกรดสอง แม้ว่ามันจะไม่ใช่เกรดที่สูงมากนัก แต่ในระดับขั้นของมันถือว่ามีคุณภาพสูงที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นคือมันมีความเร็วอย่างน้อยแปดร้อย!”

เจ้าอ้วนทราบดีว่าความเร็วแปดร้อยนั้นคืออะไร หมายความว่าเจ้าดาบนี่สามารถบินได้แปดร้อยไมล์ต่อชั่วโมง ความเร็วของดาบบินส่วนใหญ่แล้วใช้หน่วยวัดความเร็วเป็นชั่วโมง เจ้าดาบเล็กของเขาทำความเร็วได้เพียงสองร้อย โดยปกติทั่วไปแล้ว ศิษย์ระดับที่ห้าจะได้ใช้ดาบบินเกรดสอง ความเร็วของมันอยู่ที่หกร้อย แต่ดาบเล่มนี้กลับทำความเร็วได้ถึงแปดร้อยนี่นับว่าดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนกว่ามีดาบบินมากมายที่ดีกว่านี้ แต่ยิ่งระดับของดาบบินนั้นสูงมากเท่าใด ปราณจิตวิญญาณที่ต้องใช้ในการควบคุมมันก็ต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งยังไม่ใช่สิ่งที่เจ้าอ้วนจะสามารถทำได้ในตอนนี้ แม้ดาบเล่มนี้ เขาก็ยังต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะใช้งานมันให้ได้ เขาคงไม่สามารถที่จะใช้มันสำหรับการเดินทางไกล ๆ ได้ แต่ระยะเวลาสำคัญที่จะใช้หลบหนี เขาสามารถจะใช้มันได้ในชั่วขณะหนึ่ง

เจ้าอ้วนต้องการดาบบินไว้เพื่อหลบหนี เมื่อได้ยินเสียงคำแนะนำเกี่ยวกับดาบ เขาก็รู้สึกตกตะลึงไปในทันที เขาหยิบจับมันแล้วมองเห็นว่าทั่วทั้งตัวของดาบนี้มีถูกย้อมไปด้วยสีฟ้าเต็มพื้นผิว มีรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย ดาบนี้ให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงและไม่ได้ออกแบบตกแต่งมาเยอะจนเกินไป ตอนนี้เขาถือมันไว้ในมือของเขาเขารู้สึกว่าปราณจิตวิญญาณกำลังแทรกซึมเข้ามา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างแปลกประหลาด มีคลื่นแสงประกายออกมาผ่านสลักเกลียวของมันพาดผ่านไปบนตัวของดาบ ซึ่งนั่นทำให้มันดูสวยงามผิดปกติ

ในด้านข้างของเขา ชายขายดาบก็กำลังพูดจาส่งเสริมดาบเล่มนี้ “ทำมาจากกระดูกที่หลอมขึ้นโดยลมทองแดง โดยมีพื้นฐานจากกระดูกสัตว์สายฟ้า นำมาหลวมรวมกับอัสนีบาตรและได้เป็นหินคริสตัลออกมา เวลาที่ใช้โจมตีจะมีสายฟ้าฟาดออกมา แม้ว่าจะไม่ทำให้ตายตกได้แต่ผลกระทบของมันก็คือจะมึนงงไปชั่วขณะ ซึ่งนี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการเหล่าสัตว์ร้ายหรือภูติผีปิศาจ

“อือ ไม่เลว!” เจ้าอ้วนพยักหน้าพร้อมกล่าวต่อ “ค่าใช้จ่ายของมันคือกี่หินวิญญาณ?”

“หนึ่งหมื่นห้าพัน!” ชายคนนั้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “นี่คืองานที่เจ้านายของข้านั้นภูมิใจอย่างมาก จึงไม่สามารถขายถูกกว่านี้ได้เลย!”

“มันมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินค่าใช้จ่ายของมัน เขาเกือบจะเป็นลมไปเสีย ก็ใครจะไปรู้ว่าดาบบินนี่มีค่าใช้จ่ายที่แพงขนาดนี้!

“พี่ชายตัวน้อย ท่านไม่สามารถตัดสินคุณภาพของสินค้าได้ เครื่องมือวิเศษนี่คือดาบบินระดับสอง มีมูลค่ากว่าห้าพันจิตวิญญาณ นี้ไม่เพียงความเร็วที่มากกว่าถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ และยังมีคุณสมบัติเสริมสามารถทำให้กลายเป็นอัมพาตได้ชั่วขณะ หนึ่งหมื่นห้าพันนั้นอาจจะไม่แพงจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ ถ้าหากท่านไม่ชอบที่มันแพง ทางเราสามารถหาดาบบินราคาถูกให้ท่านได้ในราคาสามร้อย!” ในขณะที่พนักงานขายกำลังพูดนั้นมือของเขาก็เอื้อมไปคว้าดาบเหล็กดำอย่างคล่องแคล่ว

เจ้าอ้วนเข้าใจได้ทันทีว่านั่นคือดาบบินเกรดต่ำที่สุด ต่ำจนไม่สามารถรู้ได้ว่ามีต่ำกว่านี้อีกหรือไม่ การที่จะผ่านประตูไปได้ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นธรรมดาย่อมไม่ผิด ซึ่งนี่มันก็คงดีกว่าดาบที่พร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ อย่างน้อยที่สุดมันก็ถูกทำขึ้นมาแบบสดใหม่

เจ้าอ้วนเหลือบตาไปมองเหล็กดำอยู่ครานึง แล้วเขาก็หยิบดาบอัสนีวายุขึ้นมาพร้อมกับถามออกไป “ลดราคาได้อีกหรือไม่?”

“เป็นไปไม่ได้เลย ของทุกชิ้นที่อยู่ในร้านนี้ไม่เคยเปิดให้มีการเจรจาต่อรองใด ๆ เราขายในราคาคงที่ ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถจ่ายได้ ข้าคงทำได้เพียงเชิญท่านออกไปเท่านั้น!” ชายคนขายพูดอย่างตรงไปตรงมา

เจ้าอ้วนไม่มีความคิดอื่นอีกแล้ว เขาเพียงถามออกไปว่า “ข้าไม่มีหินจิตวิญญาณ ท่านรับแลกเปลี่ยนกับวัสดุหรือไม่?”

“วัสดุงั้นรึ? แน่นอน แต่เรายอมรับวัสดุจากกระดูกของสัตว์และเหล่าแร่ทางจิตวิญญาณเท่านั้น ส่วนพวกวัสดุยาเราไม่สนใจมัน!” ชายคนขายตอนกลับทันที

“นี่ ลองดูมูลค่าของพวกนี้ก่อน?!” เจ้าอ้วนกล่าวออกไป ในขณะนั้นเองเขาใช้เวลาสักครู่เพื่อจัดการกับมิติลึกลับ แล้วเขาได้หยิบลมทองแดงออกมาจำนวนนึงมันโผล่ออกมาจาง ๆ ในอากาศค่อยๆปรากฏรูปร่างขึ้น หากมองผ่าน ๆ จะไม่มีใครทราบว่าเจ้าอ้วนนั้นมีทักษะพิเศษ

ในมิติลึกลับของเจ้าอ้วน เหล็กสีดำนั้นมีปริมาณมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามวัสดุดังกล่าวก็ไม่ได้คุ้มค่ามากนัก เจ้าอ้วนจึงไม่สนใจที่จะนำมันออกมา ถัดไปก็จะเป็นลมทองแดงนี่คือวัสดุสำหรับดาบบินระดับสอง เจ้าอ้วนครอบครองภูเขาลมทองแดงอยู่ มันสูงใหญ่ขนาดเท่ากับคนหนึ่งคน ก่อนที่เขาจะมายังที่แห่งนี้เขาได้ทำการตัดแบ่งชิ้นส่วนออกมาแล้ว และในเวลานี้ก็สมควรแก่เวลาที่เขาจะเอามันออกมา

“ลมทองแดง?” ชายคนขายรีบนำมันมาตรวจสอบ หลังจากนั้นเขาก็โพลงออกมาว่า “นี่คือลมทองแดงที่บริสุทธิ์มาก! มันไม่มีสิ่งใดเจือปนเลย ท่านปรับแต่งมันได้อย่างไรกัน?”

“อะแฮ่ม ๆ!” เจ้าอ้วนไอออกมาสองครั้งเป็นการเตือนสติพร้อมกล่าวต่อ “ข้าว่าเรื่องนี้มันคงจะไม่เกี่ยวกับข้อตกลงของเราใช่หรือไม่?”

“อ่า ข้าขออภัย ข้าลืมกฎเสียสิ้น!” ชายคนขายกล่าวขอโทษด้วยความอับอาย “ราคาของลมทองแดงนี้คือหนึ่งร้อยหินวิญญาณระดับต่ำ เป็นค่าใช้จ่ายของตะเกียงลมทองแดง แต่นี่ไม่ใช่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของมัน สิ่งนี้มีน้ำหนักสิบสี่จินซึ่งมันยังไม่เพียงพอ ถ้าหากเป็นสิบห้าจินก็จะได้ราคาที่หินจิตวิญญาณหนึ่งหมื่นห้าพันก้อน แต่ลมทองแดงของท่านนั้นบริสุทธิ์มากดังนั้นข้าจะไม่โต้เถียงกับท่านอีก เราจะแลกเปลี่ยนกันเช่นนี้ ท่านเห็นว่าอย่างไร?”

“ตกลง!” เจ้าอ้วนไม่ได้ใส่ใจกับลมทองแดงปริมาณเพียงน้อยนิดนั่นสักเท่าไหร่นัก ขณะที่เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันกับเขาแล้ว เขาก็จัดการเก็บดาบบินอัสนีวายุลงในมิติลึกลับทันที

เวลาถัดมา เจ้าอ้วนต้องการชุดเกราะป้องกัน ถึงอย่างไรเสียก็น่าเสียดายที่มันไม่เหมาะสมนัก เขาค่อนข้างที่จะอ้วนมาก ขนาดของเจ้าชุดพวกนั้นมิได้เหมาะสมกับหุ่นของเขาเสียเลย โดยส่วนใหญ่ชุดเกราะที่สามารถปรับขนาดได้มักจะอยู่ในประเภทจำพวกอุปกรณ์วิเศษระดับสูง ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้เขาคงไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้

เจ้าอ้วนได้แต่เดินจากไปอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากเดินไปรอบ ๆ อย่างสบายใจ เขาเดินมาถึงร้านหนึ่ง ติดป้ายชื่อว่า หอเก็บสมบัติ ร้านนี้ดูหรูหราเสียยิ่งกว่าร้านที่เขาได้ไปเยี่ยมชมก่อนหน้านี้ และลูกค้าทุกคนจะมีห้องส่วนตัวอีกด้วย ลูกค้าที่เดินเข้ามาทุกคนจะถูกพาไปยังห้องส่วนตัวเพื่อสนทนา เหตุที่ทำไมพวกเขาจักต้องระมัดระวังนั้นมีเพียงเหตุผลเดียว เพราะทุกสิ่งอย่างที่ถูกขายอยู่ที่นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีมนต์ขลังทั้งสิ้น เครื่องมือวิเศษ หนังสือโบราณอื่น ๆ ที่หาได้ยากซึ่งสิ่งของเหล่านี้คือสมบัติมีค่าทั้งสิ้น ส่วนของการซื้อขายในที่แห่งนี้ ทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ต้องการให้บุคคลที่สามมารับรู้ว่ากำลังกระทำการอันใดกันอยู่ ดังนั้นจึงมีการสร้างห้องส่วนตัวจำนวนมากเพื่อรองรับลูกค้า

บุคคลที่เดินมารับเจ้าอ้วนนั้นเป็นชายชรา เขานั้นอยู่ในระดับเซียนเทียน แน่นอนว่าพรสวรรค์ของเขานั้นอยู่ในขั้นเลว แม้ว่าอายุของเขาจะมากถึงเพียงนี้ เขายังอยู่ในระดับขั้นที่สามเท่านั้น เพราะถ้าหากไม่ใช่อย่างนั้นเขาจะไม่มีทางได้เข้ามาเป็นพนักงานรับลูกค้าที่นี่ ถึงแม้ว่าชายผู้นี้ไม่อาจฝึกตนได้ แต่สมองของเขานั้นเต็มไปด้วยความรอบรู้ สินค้าธรรมดา ไม่สามารถที่จะหลอกตาของเขาได้เลย

ถึงแม้ว่าเจ้าอ้วนนั้นจะตบแต่งตนเองให้ดูดีขึ้น แต่นั่นก็ยังดูซ่อมซ่อในสายตาคนทั่วไป แต่ในหอสมบัติแห่งนี้ไม่มีความล่าช้าใด ๆ ที่จะไม่ต้อนรับลูกค้า พวกเขาเชิญเจ้าอ้วนเข้ามาอย่างกระฉับกระเฉง พร้อมเสิร์ฟชาให้เขา ชายชราถามเขาด้วยความสุภาพ “ท่านลูกค้า ท่านมีสิ่งใดที่ต้องการในร้านค้าของเราขอรับ?”

ร้านค้าทั้งหมดในพื้นที่แห่งนี้มีไว้สำหรับผู้ฝึกตนเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  หอเก็บสมบัตินี้ก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่เพียงแต่ขายสินค้า แต่พวกเขายังรับซื้อสินค้าอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้เข้าใจผิดว่าเจ้าอ้วนนั้นจะมาขายสินค้า เพราะผู้มีพลังระดับล่างส่วนใหญ่แล้วมาเพื่อทำการขายสมบัติที่พวกเขาหาได้โดยบังเอิญทั้งสิ้น

เจ้าอ้วนยกชาขึ้นมาจิบพร้อมหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต หลังจากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอย่างใจเย็น “ข้าต้องการจะซื้อสินค้าบางอย่าง!”

“โอ้? สิ่งใดหรือที่ท่านต้องการ?” ชายชราถามซอกแซกขึ้นมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าขอทานที่ดูจะต่ำต้อยแบบนี้จะกล้าเดินเข้ามาหาซื้อของในหอสมบัติที่เป็นสถานที่ชั้นสูงแบบนี้ ดังนั้นไม่ผิดที่เขาจะอยากรู้อยากเห็น พร้อมภาวนาในใจ ‘ขอให้หนุ่มน้อยผู้นี้อย่าได้สร้างปัญหาให้กับเขาเลย’

“ข้าต้องการเช่นนั้น” เจ้าอ้วนตอบกลับอย่างกระทันหัน

“ขอรับ!” เมื่อชายชราได้ยินดังนั้น เขาเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน พร้อมท่าทางที่ระมัดระวังเจ้าอ้วนมากขึ้น ในขณะที่เขากำลังแปลกใจกับสิ่งที่เจ้าอ้วนกระทำ เขาก็ได้เอ่ยออกมาว่า “คุณลูกค้า ท่านต้องการสิ่งใดงั้นหรือ?”

ที่เรียกกันว่าเทคนิคการปรุงแต่งสายฟ้า เทคนิคของสายฟ้านั้นแท้จริงแล้วเป็นศิลปะมายากลขั้นสูงน่าเกรงขาม ถ้าหากเป็นคาถาปกตินั้นหากนำปราณจิตวิญญาณมาแสดงในอากาศนั้นอาจจะหมายถึงการฆ่าตัวตายได้ การสะกดพลังดังกล่าวนั้นจำเป็นจะต้องใช้ปราณจิตวิญญาณของตนเอง ดังนั้นหาดพลาดพลั้งจึงไม่สามารถที่จะรักษาได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในระดับจินตันก็ยังไม่สามารถที่จะปลดปล่อยพลังอย่างต่อเนื่องได้ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ อัจฉริยะในยุคโบราณนั้นพยายามสร้างอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมันเป็นเพียงเครื่องรางที่ทำมาจากจิตวิญญาณและผิวหนังของสัตว์ อัตราการสำเร็จนั้นไม่ได้มีสูงนักและความแข็งแรงของพวกเขานั้นก็มีขีดจำกัด ดังนั้นจึงใช้ได้แค่เวทย์มนต์ระดับต่ำเท่านั้นและบุคคลที่อยู่ในระดับสูงนั้นหายากมากจริง ๆ

แต่สายฟ้านั้นแตกต่างออกไป มันคือการรวมปราณจิตวิญญาณไว้รวบรวมกันเพื่อเป็นลูกบอลไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ การใช้มันก็แค่โยนมันออกไปมันไม่เพียงแค่สร้างอันตรายเท่านั้น แต่มันยังไม่กินปราณจิตวิญญาณอีกด้วย ตราบใดที่ยังมีเก็บสำรองไว้ก็สามารถใช้มันได้อย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้เกิดปัญหาถ้าหากใครที่โยนมันออกไปอย่างพร่ำเพื่อ นอกจากนี้มันยังหลวมรวมสภาพตนเองกับธรรมชาติได้ เช่น ชลธาร อัคคี ปัฐพี หรืออะไรที่คล้ายคลึงกัน ปราณจิตวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นแบบพิเศษนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ มันสามารถที่จะสร้างอัสนีเหมันต์ศักดิ์สิทธิ์หรือ อัสนีอัคคีศักดิ์สิทธิ์ และอีกมากมาย

อย่างไรก็ตามแม้อนุภาพของสายฟ้านั้นจะรุนแรงสักเพียงไหน แต่การฝึกฝนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะกระบวนการฝึกตน มันมักจะเป็นความลับ หากปราศจากนิกายแล้วนับว่าไม่สามารถค้นพบได้ การฝึกฝนของสายฟ้านั้นเป็นสิ่งที่พิเศษกว่าสิ่งอื่น เพราะถ้าหากประมาทเพียงเล็กน้อยแล้วนั้นมันจะเกิดการปะทุขึ้นมา ดังนั้นในสถานการณ์ที่ปกติทั่วไปแล้ว ครูฝึกนั้นจะค่อย ๆ แนะนำให้กับลูกศิษย์ เพราะมันไม่สามารถสอนได้เหมือนกับคาถาปกติ หนึ่งคือเรียนรู้จากสิ่งที่ถูกเขียนไว้บนหยกไม้ไผ่ และสองเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ หรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกไว้

ถ้าหากว่าต้องการจดบันทึกเกี่ยวกับการฝึกฝนพลังของเวทย์สายฟ้า หนึ่งจะต้องใช้หยกไม้ไผ่คุณภาพสูงเท่านั้น กระบวนการของการเพาะปลูกนั้นจะถูกบันทึกไว้ในรูปลักษณ์ของภาพลวงตา เพราะหยกชนิดนี้นั้นมีมูลค่าสูง ซึ่งสามารถเก็บรักษาภาพลวงตาได้ มันจึงมีราคาแพงมากบวกกับความสำคัญของเวทย์สายฟ้าแล้วนั้น ทำให้แผ่นไม้ไผ่หยกที่บันทึกเวทย์มนต์สายฟ้าที่หายากนั้นมีราคาที่สูงขึ้นไปอีก เหล่าสาวกทั้งหลายที่อยู่ในขั้นเริ่มต้นนั้นอาจจะต้องรอจนถึงระดับขั้นที่สูงมาก กว่าจะได้พบเจอกับเวทย์สะกดสายฟ้า ซึ่งเหล่าคนยากคนจนนั้นหมดสิทธิ์ที่จะไปถึงระดับจินตันอย่างแน่นอน เฉพาะทายาทของเหล่าผู้ฝึกตนที่พอจะมีฐานะร่ำรวยเท่านั้นที่จะได้ฝึกเวทย์มนต์สายฟ้าในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในระดับเซียนเทียนได้

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด