บทที่ 13: กว้านซื้อยาอายุวัฒนะ
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
*ผู้แปล : แก้ไข ผู้บ่มเพาะพลัง เป็น ผู้ฝึกตน*
บทที่ 13: กว้านซื้อยาอายุวัฒนะ
“แน่นอนว่ามันมี เพราะถ้าหากว่าไม่ พี่ชายผู้ดูแลประตูจะไม่มีทางให้มันออกไปอย่างแน่นอน!” หวาง ซุงกล่าวพร้อมกับลูบคางอย่างครุ่นคิด พร้อมพูดต่อว่า “ข้าได้ยินมาว่า เจ้าอ้วนนั้นเป็นบุตรของศิษย์เอกของสำนักเสวียนเทียน แต่หลังจากบิดามารดาของเจ้านั่นได้เสียชีวิตไปแล้วเพราะถูกไล่ล่าจากการไปทำภารกิจ ถ้าเป็นเจ้า คิดเห็นว่าอย่างไร มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่ามันจะแอบนำสมบัติของบิดามารดาของมันมาแอบซ่อนไว้ ?”
“อืม อันนี้ข้าว่าเป็นไปได้มาก!” หานหลิงเฟิงตระหนักได้ทันที พร้อมกล่าวต่อ “ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะมีหินจิตวิญญาณระดับต่ำถึงยี่สิบก้อน!”
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้นแล้วนี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ยากลำบาก บางทีมันอาจจะมิได้ครอบครองเพียงแค่หินจิตวิญญาณระดับต่ำเท่านั้น แต่บางทีมันอาจจะครอบครองอุปกรณ์ระดับสูงอยู่ด้วย!” หวางซุงขมวดคิ้วพร้อมกล่าวต่อไป “ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ จะทำให้เราจัดการมันได้ยากขึ้น”
ทุกคนรู้อยู่แล้ว ผู้ที่มีพลังนั้นจะแข่งขันกันอยู่สองด้านหลัก ๆ หนึ่งการฝึกตนด้านอุปกรณ์วิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นนั้นอุปกรณ์ที่ดีจะมีประโยชน์มากกับสถานการต่าง ๆ ชิ้นส่วนเกรดสูงที่นำมาประดิษฐ์ สามารถทำให้เกิดหินจิตวิญญาณระดับต่ำได้ถึงหนึ่งหมื่นก้อน ซึ่งนั่นแม้แต่หวางซุงและหานหลิงเฟิงก็ไม่สามารถจ่ายออกไปได้ ในปัจจุบันพวกเขายังใช้แค่อุปกรณ์วิญญาณระดับต่ำที่นิกายนั้นมอบให้ ถ้าหากว่าเจ้าอ้วนนั้นมีอุปกรณ์วิญญาณระดับสูง แม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างกันอยู่มาก แต่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้เจ้าอ้วนนั้นก็สามารถที่จะฆ่าเขาทั้งสองลงอย่างง่ายดาย
จู่ ๆ หานหลิงเฟิงก็นึกถึงภาพของเจ้าอ้วนที่เย่อหยิ่งเล็ก ๆ ก่อนที่เขาจะจากไป ‘เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพึ่งพาของบางสิ่งอยู่! ถ้าหากว่าไม่ เขาไม่มีทางที่จะหยาบคายใส่ข้าพร้อมกลับพ่นคำว่าจะกลับมาดูแลข้าแน่นอน!’
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น หานหลิงเฟิงถึงกับควบคุมใบหน้าของตัวเองไม่ให้แสดงสีหน้ารังเกียจออกมาไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกเสียใจ ตราบเท่าที่นางได้มีชีวิตและเติบโตขึ้นมา นางเพิ่งรู้ตัวว่านางได้สร้างศัตรูกับบุคคลที่จะแข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าหากเรื่องราวที่เขาทั้งสองคิดกันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ต่อไปในวันข้างหน้านั้นจะต้องไม่เป็นผลดีกับนางอย่างแน่นอน
ณ ตอนนี้จิตใจของหวางซุง ก็มีความกังวลไม่แพ้กัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวว่าเจ้าอ้วนนั้นจะกลับมาแก้แค้นเขา อีกอย่างช่วยก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาเริ่มบ่นในใจเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องของเขาที่สร้างปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดกับตัวเอง ‘เหตุใดกันนะ เจ้าจึงไม่ประพฤติตัวให้ดี หรือฝึกฝนพลังเพื่อที่จะจัดการคนที่กระทำผิดกับเจ้าได้ แทนที่เจ้าจะจัดการมันด้วยตนเอง แต่ในเวลานี้เจ้าได้ดึงข้าเข้ามามีส่วนร่วมกับปัญหาเหล่านี้เสียแล้ว’
ขณะที่ทั้งคู่นั้นกำลังกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ภายในจิตใจ พวกเขาจ้องหน้ากัน ก็ปรากฏความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจกันขึ้นมา ‘ศัตรูของสหาย คือศัตรูของเรา’ เมื่อใดที่เจ้าอ้วนนั้นแข็งแกร่งขึ้นมา พวกเขาสองคนเท่านั้นที่จะฝ่าฟันมันไปพร้อมกัน
เมื่อเจ้าอ้วนได้มาถึงประตูเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ ถึงเวลาที่จะต้องทำตามกฎแล้ว เขาหยิบหินจิตวิญญาณจิตระดับต่ำกว่า 20 ชิ้นจากคลังเก็บข้อมูลมิติของเขาซึ่งเขาเตรียมไว้ก่อนแล้ว เขาแสร้งทำเป็นไม่เต็มใจที่จะจ่ายมันเพื่อเหย้าผู้ดูแล และในตอนนี้เขาก็ได้มาถึงนครเวหาเสียที
ตอนนี้เจ้าอ้วนได้มาถึงนครเวหาแล้ว เขากำลังประทับใจกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ นครเวหานั้นมีพื้นที่ราวหลายร้อยไมล์ เต็มไปด้วยภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และจุดสูงสุดของภูเขานั้นเต็มไปด้วยวัดและศาลาต่าง ๆ มากมาย เป็นสถานที่ ๆ จำเพาะให้สำหรับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ผู้ฝึกฝนพลังทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ ในชั้นกลางนั้นมีโครงสร้างขนาดใหญ่และสูงอยู่หลายแห่ง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้งดงามเท่ากับที่ที่อยู่ในจุดสูงสุด แต่ด้วยความสูงเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรนั้น ผู้คนก็ยังชื่นชมในสถาปัตยกรรม และเพื่อที่จะเข้าสู่โครงสร้างชั้นพื้นฐานของระดับกลาง จะต้องมีระดับขั้นพลังอย่างน้อยหนึ่งขั้น ในตอนที่เจ้าอ้วนยังเยาว์ เขามักจะติดสอยห้อยตามบิดามารดาของเขาเข้าไปใช้บริการที่นั่น แต่ในตอนนี้เขาเพิ่งได้เข้าสู่ระดับเซียนเทียน จึงสามารถใช้บริการได้แค่สิทธิ์ที่ต่ำสุดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในขั้นที่ต่ำที่สุดของนครเวหานี้ ก็แทบไม่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างใด ๆ เลย พื้นที่ในเมืองทุกหนแห่งมีร้านค้ามากมาย พร้อมประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ที่ตรงบันไดด้านหน้ามีต้นไม้ใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่ มีอายุราวหนึ่งร้อยปี พื้นถนนถูกปูด้วยหินสีน้ำเงิน ทั้งหมดถูกออกแบบมาอย่างหรูหราที่สุดเท่าที่โลกมนุษย์จะรังสรรค์ได้
หลังจากที่เขาได้ก้าวออกมาจากประตูเคลื่อนย้าย สถานที่ ๆ เจ้าอ้วนยืนอยู่ตอนนี้คือจุดที่ต่ำที่สุดของนครเวหา และก่อนที่เขาจะมีช่วงเวลาแห่งความสุข เขารู้สึกได้ว่าคนรอบ ๆ ได้มองเขาอย่างรังเกียจ พร้อมดูถูกผ่านสายตาพวกนั้น แม้แต่มนุษย์ที่เขากราบไหว้ ก็ยังส่งสายตามาดูแคลนเขาได้
เจ้าอ้วนรู้สึกโกรธจัดจนอกจะระเบิดออกมา แต่เขาจะไม่หลอกตัวเองอีกต่อไป ในตอนนี้เขารู้ถึงปัญหานั้นแล้ว ตอนนี้เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ และผิวสีดำของเขาซึ่งได้รับมาจากตอนที่เขากำลังพยายามหลบหนี สภาพของเขาดูไม่ต่างจากขอทานสักเท่าไหร่!
หลังจากที่เขาได้ตระหนักถึงปัญหาตรงนี้ เขาอับอายและโกรธทันที มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาได้แต่สาปแช่งอยู่ในใจ ‘หานหลิงเฟิง ข้าไม่จบกับเจ้าแน่นอน!’ แต่ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมามีปัญหากับ หานหลิงเฟิง เขาแบกหน้าตัวเองวิ่งเข้าไปในโรงแรมใกล้เคียง พร้อมกับใช้จ่ายเป็นชิ้นส่วนเกรดต่ำสำหรับเช่าห้องพักสามวัน จากนั้นเขาก็รีบทำการชำระล้าง เปลี่ยนเสื้อคลุมตัวใหม่ พร้อมรวบรวมความกล้าก้าวออกจากที่พัก
ในตอนนี้เขากำลังเดินทอดน่องอยู่บนทางเท้าของนครเวหา เขารู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านมาเป็นเวลาสิบปีเต็ม ที่เขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่ดีเลย ทุกสิ่งที่เขาได้ประจักษ์ที่นี่คือความสดใหม่ในชีวิต หลังจากที่เดินใช้จ่ายอยู่ในตลาด เขาก็หวนคิดถึงอาการแขนหักของเจ้าลิง การบาดเจ็บนั้นไม่สามารถที่จะรอต่อไปได้ ยิ่งเร็วก็จะยิ่งมีโอกาสหายเป็นปรกติ
เมื่อคิดดังนั้นแล้ว เจ้าอ้วนเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบป้ายร้านโอสถ เป็นร้านที่ขายยาอายุวัฒนะสำหรับผู้ฝึกตน ดังนั้นเขาจึงรีบเดินเข้าไปทันที
คนขายของร้านนี้มีอายุราว ๆ ยี่สิบปี เขามีพรสวรรค์และอยู่ในระดับโฮ่วเทียน สำหรับเขาที่ยังอยู่ในระดับเซียนเทียน หนทางตรงนี้ยังอีกยาวไกลนัก
เมื่อคนขายเห็นว่ามีลูกค้าเขามาภายในร้าน เขายกยิ้มพร้อมรีบพูดอย่างกระตือรือร้น “พี่ชาย ท่านต้องการซื้อยา หรือต้องการขายยาบางอย่างใช่หรือไม่?”
ร้านยาสำหรับผู้ฝึกตนนั้นแตกต่างกับที่อื่นเพราะการขายยาอายุวัฒนะนั้นแตกต่างกัน มีทั้งผู้ที่เอายามาขาย และผู้ที่ไม่ได้จริงจังอะไรมากพวกเขาจะจัดหาสมุนไพรเพื่อมาแลกกับยา เขาเห็นว่าเจ้าอ้วนนี่เป็นคนปรกติทั่วไป แล้วมิติเก็บของที่พาดเอวของเขานั้นคร่ำครึกสุดแสนจะโบราณ สภาพร้าวรานใกล้แตกหักเต็มที จึงคิดว่าเขานั้นคงมาเพื่อแลกเปลี่ยนยา หรือนำยามาขาย คงไม่สามารถจะเอาหินจิตวิญญาณออกมาซื้อยาได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณที่กล้าหาญซุกซ่อนอยู่ในตัวของเจ้าอ้วน แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเป็นคนรับใช้มานานนมแล้ว แต่เขาเคยถูกสอนสั่งด้วยประสบการณ์ในวัยเด็กของเขา แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เขามายืนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใด เขากล่าวออกไปอย่างใจเย็น “ข้ามาที่แห่งนี้เพื่อซื้อยา!”
“โอ้” พนักงานขายอุทานด้วยความตกใจ แต่เขาก็กลับสีหน้าเดิมอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนที่เข้ามาที่นี่คือลูกค้า เขาไม่กล้าที่จะทำตัวเหยียดหยามได้ จึงยิ้มพร้อมกล่าวออกไป “พี่ชายอยากได้ยาชนิดไหนหรือ? ร้านเราเป็นร้านขายยาที่มีมานานกว่าร้อยปีแล้ว ยาสำหรับฝึกฝนพลังทุกชนิด ยาแห่งการรักษา หรือจะเป็นยาอายุวัฒนะทางเราก็มี!”
“ข้าต้องการยาบางชนิด ที่ไว้ใช้รักษาอาการบาดเจ็บจากการที่กระดูกแตกหัก ข้าต้องการยาที่ดีที่สุด!” เจ้าอ้วนตอบกลับ
“กระดูกแตกหัก? เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ทางร้านค้าของเราทำยาชนิดนี้ไว้ ซึ่งมันใช้ดีมาก ประกอบไปด้วยสมุนไพรที่มีอายุกว่าร้อยปี ยานี้ถูกจัดทำขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ ตราบใดที่กระดูกมิได้หายไปและไม่บาดเจ็บมานานเกินห้าวัน มั่นใจได้เลยว่าสามารถกลับมาเชื่อมต่อกันใหม่ในเวลาไม่เกินหกชั่วโมง!” ในขณะที่เขากำลังกล่าวสรรพคุณยาชนิดนี้ มือของเขาก็ไม่อยู่เฉย หยิบขวดหยกออกมาจากลิ้นชักพร้อมกับส่งให้เจ้าอ้วน
เจ้าอ้วนแสร้งทำเป็นดมกลิ่นของมัน เขารู้สึกได้ถึงความหอมของมันเท่านั้น รูขุมขนของเขาทั้งหมดถูกเปิดออกพร้อมกับความสบายใจที่ถาโถมเข้ามาทำให้เขาประหลาดใจ เขาเข้าใจทันทีว่านี่ไม่ใช่ยาปกติที่มนุษย์จะสามารถปรุงได้ ยานี้ได้รับการปรุงแต่งอย่างดีโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญหญ้าจิตวิญญาณระดับสูง
คนขายทำการบอกเล่าสรรพคุณอย่างต่อเนื่อง “พี่ชายสบายใจได้ ร้านของเรามีชื่อเสียงโดดเด่น ยาอายุวัฒนะที่เราขายทุกตัวในร้านได้รับการยกย่องจากผู้คนเสมอ ไม่เช่นนั้นร้านเราคงไม่สามารถอยู่รอดในนครเวหามาได้กว่าร้อยปี และถ้าหากเป็นเช่นนั้นร้านของเราก็คงถูกทำลายไปสิ้นแล้ว!”
“อือ!” เจ้าอ้วนแสดงการยอมรับด้วยการพยักหน้า เขาถามออกไป “แล้วเจ้ายาขวดนี้ต้องใช้หินจิตวิญญาณสักเท่าไหร่ ? แล้วมันใช้ได้กี่ครั้ง ?”
“มีค่าใช้จ่ายสิบห้าก้อนต่อหนึ่งขวด ยานี้สามารถใช้ได้สามครั้ง เจ้านี่สามารถเก็บไว้เพื่อช่วยชีวิตได้ ท่านจะไม่เสียใจถ้าหากว่าซื้อมันไป!” คนขายตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเจ้าอ้วนได้ทราบค่าใช้จ่ายของมันแล้ว เหมือนหัวใจของเขากำลังกลิ้งไป หินจิตวิญญาณระดับต่ำสิบห้าก้อน นั่นคือค่าอาหารเสริมของนิกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งปี! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเหล่าศิษย์นอกถึงยากจนกันนัก ยาแบบสุ่มมีราคาอยู่เท่านี้ สิ่งที่เกี่ยวกับการฝึกตนใช้อยู่เป็นปรกติ เท่าไหร่ก็ต้องจ่ายเพราะการฝึกฝนพลังนั้นเป็นเรื่องเผาผลาญเงินจริง ๆ !
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้าอ้วนถามออกไปอีกครั้ง “ท่านมียาอายุวัฒนะที่ช่วยในการฝึกตนหรือไม่?”
“แน่นอน! เราจะไม่มีได้อย่างไร?” คนขายตอบกลับอย่างกระตือรือร้น “พี่ชาย ยารักษาโรคชนิดไหนที่คุณต้องการ ? ไม่ว่าท่านจะกล่าวสิ่งใดออกมา เราจะก็ตอบท่านว่าเรามีทุกอย่างที่นี่!”
“ท่านมีอะไรดี ๆ อยู่ที่นี่งั้นรึ?” เจ้าอ้วนขยิบตาของเขาในตอนตอบกลับ
“ยาเร่งการฝึกฝนธาตุทั้งห้า, เพิ่มพละกำลัง, เม็ดยาสัมผัสเทพ ช่วยชำระและขยายเส้นลมปราณ, ต้านวิถีปีศาจ, เพิ่มสัมผัสเทพ, เพิ่มความยืดหยุ่นสัมผัสเทพ กล่าวอีกอย่างก็คือ เรามีเกือบทุกอย่างอยู่ที่นี่!” พนักงานตอบกลับด้วยความเฉลียวฉลาด
“ยาเร่งการฝึกฝนธาตุทั้งห้างั้นรึ ไม่ได้หมายถึงยาของจิตวิญญาณของธาตุไฟ ธาตุน้ำ หรือธาตุอื่น ๆ?” เจ้าอ้วนถามกลับ
“ใช่แล้ว วิธีการฝึกฝนพลังของท่านใช้ยาจิตวิญญาณใด! ข้ารับประกันเลยว่ามันจะรวดเร็วขึ้นกว่ายาที่ท่านใช้อยู่สามเท่าอย่างแน่นอน” คนขายตอบอย่างมั่นใจ
“แล้วในแต่ละวันข้าจะต้องใช้ยาเท่าใด?” เจ้าอ้วนถามอีกครั้ง
เจ้าอ้วนจำได้ว่าเขาเคยเห็นบิดาและมารดาของเขากินยานี้ แต่พวกเขามิได้กินมันทุกครั้งที่ทำการฝึกฝนพลัง เนื่องจากผลกระทบของยานั้นยังคงตกค้างอยู่ ซึ่งนั่นก็คือจะต้องใช้ยานี้ทุกสองถึงสามวัน
พนักงานขายตอบกลับทันที “พี่ชาย ยาจิตวิญญาณที่เรามีนั้นนับว่าเกรดสูงมาก เพราะยานั้นไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้ทั้งหมดในคราวเดียว ดังนั้นแล้วควรจะกินยาหนึ่งครั้งในทุก ๆ สี่วัน และแน่นอนว่าการกินยาด้วยวิธีนี้จะช่วยลดผลข้างเคียงของยาได้อย่างดีเยี่ยม แต่ถ้าหากท่านสามารถกินมันได้ทุกวัน แม้ว่าจะทำให้เกิดยาเสียอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แต่ในทางฝึกฝนพลังนั้นจะรวดเร็วมาก”
“อือ!” เจ้าอ้วนผงกหัวของเขาเป็นการรับรู้พร้อมถามต่อไป “ถ้าหากข้าต้องการที่จะฝึกฝนพลังของทั้งสองธาตุพร้อมกัน และใช้ยาที่แตกต่างกันสองชนิด จะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่?”
“ไม่เลย แม้ว่าท่านจะกินยาทั้งห้าธาตุลงไปพร้อมกัน ฝึกฝนพลังพร้อมกันทั้งห้าธาตุ แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย เนื่องจากยาอายุวัฒนะนั่นจะหลั่งไหลออกมาด้วยจิตวิญญาณของตัวมัน ซึ่งนั่นทำให้ไม่สามารถเกิดข้อผิดพลาดได้” คนขายยาให้ความมั่นใจกับเจ้าอ้วน
“เป็นอย่างนี้นี่เอง!” เจ้าอ้วนถามต่ออย่างรวดเร็ว “ในขวดยาขวดนึงนี่มียาอยู่กี่เม็ด? แล้วข้าต้องจ่ายให้มันเท่าไหร่?”
“พี่ชาย ยาของเราขายได้ทุกชิ้น ยาเม็ดแต่ละตัวใช้เพียงหินจิตวิญญาณระดับต่ำ!” คนขายตอบกลับพร้อมยิ้มอย่างสุภาพ “ท่านต้องการเท่าไหร่หรือ?”
เจ้าอ้วนใช้ความคิดขณะที่ลูบคางของตนเอง นึกถึงหินจิตวิญญาณที่อยู่ในมิติของเขา ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานั้นหินจิตวิญญาณระดับต่ำถูกสร้างขึ้นทุกวัน มันมีมากกว่าหนึ่งพันก้อน ซึ่งมันเพียงพอที่เขาจะใช้จ่ายออกไปอย่างเหมาะสม
ไม่นานนักหลังจากนั้น เจ้าอ้วนก็ได้เดินออกจากร้านขายยา คนขายที่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสโค้งคำนับเพื่อบอกลาเขาอย่างสุภาพ หลังจากที่เห็นว่าเจ้าอ้วนนั้นเดินไปไกลโขแล้ว เขาก็แสดงสีหน้าโล่งใจออกมา พร้อมกับพึมพำกับตัวเองว่า “เจ้าอ้วนนั้นดูราวกับคนปกติ แต่เขากลับร่ำรวยมาก เขาใช้จ่ายหินจิตวิญญาณระดับต่ำออกมามากกว่าแปดร้อยก้อน เพื่อซื้อยาในครั้งเดียว สิ่งนี้เทียบเท่ากับยอดขายในสิบวัน! ฮ่า ๆ การขายนี้จบลงอย่างสวยงาม เจ้านายจะต้องให้รางวัลแก่ข้าเป็นแน่แท้!”
หลังจากออกจากร้านขายยาแล้ว เจ้าอ้วนเริ่มมองไปรอบ ๆ ตัว เขาคิดกับตัวเอง ‘ตอนนี้ข้าก็มีเงินแล้ว และเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกตนของข้า ข้าจะต้องไม่ใส่ใจกับการค่าใช้จ่ายเหล่านี้มากนัก ข้าซื้อยามาทุกธาตุ ธาตุล่ะหนึ่งร้อยเม็ด ในวันข้างหน้าข้าสามารถกินมันพร้อมกันได้ห้าเม็ด บวกกับสร้างพลังทางร่างกาย เสริมสร้างพลังวิญญาณ ข้าจะกินมันทั้งหมด! ข้าไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าผู้อื่นจะกินยาจนเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ แต่ข้าไม่สามารถทำได้อย่างงั้นหรือ? เพียงแค่หินจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อย? ข้าจะไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ!”
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เจ้าอ้วนก็เงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าเขาได้มาถึงร้านขายอาวุธเสียแล้ว ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว เขาเดินเข้าไปดูภายในทันที!