Chapter 26: ,มิตรสหาย
เมื่อเห็นการแสดงออกของทุกคนแล้วหวังหยู่ก็เดาได้ว่าหนังสือสกิลนั้นมีค่าขนาดไหน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้เสียใจที่ให้มันไปเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงวันนี้และยุคนี้นั้นสถานที่เรียนศิลปะการต่อสู้นั้นถูกดูถูก เมื่อเห็นสมาชิกของคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในศิลปะการต่อสู้นั้นทำให้หวังหยู่รู้สึกดีมาก
เมื่อก่อน หวังหยู่นั้นก็เหมือนกับความทระนงตัว ศิลปะการต่อสู้คือชีวิตของเขาและเขาไม่เคยยอมแพ้ ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้และไม่เคยละทิ้งมัน
การที่ให้หนังสือสกิลก็ถูกพิจารณาว่าให้กำลังใจแก่คนรุ่นใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เกม
สำหรับคนที่โตแล้ว ดาบน้ำแข็งนั้นเข้าใจถึงเหตุผลเบื้อหลังของการกระทำของหวังหยู่ เขานั้นเพียงแค่เล่นตลกเมื่อเขานั้นถามเกี่ยวกับหนังสือนั่น ทุกคนนั้นไม่ได้ขาดเงินในชีวิตจริง ถึงแม้ว่าหวังหยู่จะให้หนังสือสกิลนั่นแก่พวกเขาละก็พวกเขาก็จะเอาเงินออกมาและจ่ายมัน
หลังจากเล่นตลกเสร็จแล้ว ดาบน้ำแข็งก็ถามไร้ความกลัวอย่างลับๆ “เฮ้ ไร้ความกลัว นายสนใจที่จะได้รับสำนักงานใหญ่กิลด์ไหม?”
“สำนักงานใหญ่กิลด์? มันไม่ได้เหมือนกับว่าพวกเรานั้นต่อสู้เพื่ออำนาจหรืออะไรก็ตาม มันยุ่งยากมากเกินไป บางทีพวกเราก็อาจจะเช่าแค่ออฟฟิศบางที่ก็พอ…”ไร้ความกลัวบ่นงึมงำ
ใน {REBIRTH} มันไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากในการตั้งกิลด์ ตราบเท่าที่มีผู้เล่นมากเกินห้าคนและพวกเขานั้นจ่ายค่าจัดตั้งอย่างเป็นทางการแล้วการที่จะได้รับสำนักงานใหญ่นั้นยุ่งยากกว่ากันมาก ไม่เพียงแต่กิลด์นั้นจะต้องทำเควสมากมายให้เสร็จ พวกเขาจะต้องออกไปชานเมืองเพื่อที่จะสู้กับกองกำลังไม่เป็นมิตรเพิ่มขึ้นอีก!
ด้วยเหตุนี้นี่เองมีเพียงกิลด์ที่ต้องการที่จะควบคุมเกมนั้นถึงพยายามที่จะได้รับสำนักงานใหญ่ กิลด์อื่นที่เล็กๆนั้นก็จะเช่าพื้นที่เล็กๆในเมืองเพื่อที่จะใช้มันแค่นั้น
สำหรับกิลด์เล็กอย่างนิกายซวนเฉินแล้วการเช่าออฟฟิศนั้นก็ไม่สำคัญเลย!
“งั้นมองมาที่นี่ละกัน” เมื่อเขาพูด ดาบน้ำแข็งก็หยิบผงหินปูนจากกระเป๋าของเขาและส่งให้กับไร้ความกลัว
ไร้ความกลัวกวาดตามองและพูดอย่างไม่สนใจอะไร “นายสามารถโยนขยะพวกนี้ลงไปในร้านNPC เพื่อที่จะขายได้ ทำไมนายส่งมาให้ฉันละ?”
“ผงนี้สามารถที่จะเคาน์เตอร์ [หลบซ่อน] ได้!”ดาบน้ำแข็งตอบกลับ
“นายจริงจังดิ?”ไร้ความกลัวอ้าปากค้าง
“ถ้ามันเป็นเรื่องหลอกลวงละก็ หลังจากนั้นฉันจะคืนเงินให้กับนายด้วย เทพเจ้ากระทิงเหล็กลองมันด้วยตัวเองมาแล้ว!”ดาบน้ำแข็งตอบกลับอย่างมั่นใจ
“โอ้พระเจ้า! นี่มันไม่น่าเชื่อ! แต่สิ่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับการได้สำนักงานใหญ่ละ?”ไร้ความกลัวถามอีกครั้ง
“เทพเจ้ากระทิงเหล็กนั้นจัดการที่จะได้สมญานามในการเริ่มต้นของการได้รับสำนักงานใหญ่กิลด์ ตำแหน่งของสำนักงานใหญ่นั้นอยู่ในตำแหน่งของที่ผงหินปูนสามารถที่จะฟาร์มได้!”ดาบน้ำแข็งพูด
เมื่อฟังคำพูดนี้ ตาของทุกคนก็สว่างขึ้น
ในช่วงเวลานี้ อาชีพที่จัดการได้ยากที่สุดก็คืออาชีพที่ข้องเกี่ยวกับโจร ภายใต้ [หลบซ่อน] พวกเขาไม่สามารถที่จะถูกตรวจจับได้เลย การโจมตีด้านหลังนั้นความเสียหายเพิ่มเติมอีก 50% จากสกิลติดตัวของอาชีพ พร้อมกับความเร็วที่สูงนี้ทำให้โจรนั้นใช้เทคนิคในการฟันแล้วหนีโดยตลอด นอกจากนักธนูแล้วไม่มีอาชีพอื่นที่สามารถต่อต้านมันได้เลย อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ว่านักธนูนั้นมีพลังชีวิตที่ต่ำทำให้พวกเขานั้นหวาดกลัวกับอาชีพที่ต่อสู้ใกล้อย่างมาก..
ด้วยเหตุนี้ก่อนที่อาชีพผู้พิทักษ์และเทมพลาร์นั้นเติบโตขึ้นละก็โจรก็ไม่มีสิ่งใดที่เคาน์เตอร์ได้เลย
ถ้าไอเทมต่อต้านการหลบซ่อนนี้สามารถทำได้จริงๆละก็ นั่นหมายความว่าความน่ากลัวของโจรนั้นสิ้นสุดลงแล้วอย่างงั้นเรอะ?
ยิ่งไปกว่านั้น ไอเทมในตำนานนี้นั้นถูกผูกขาดโดยกิลด์ของพวกเขาอย่างสมบูรณ์....พวกเขานั้นได้แจ็คพ็อตแล้ว!
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไร้ความกลัวนั้นมีการแสดงออกที่น่าอายเมื่อเขาพูด “นี่มันมากเกินไปแล้ว! พี่ชายกระทิงพึ่งจะเข้าร่วมกับพวกเราและเขาก็ยังให้ของขวัญที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้!”
เมื่อฟังคำพูดของเขา ใบหน้าของดาบน้ำแข็งก็มืดมนแล้วเขาก็พูดขึ้น “หน้าด้านจริงๆ! สมญานามนี้มีค่าเท่ากับเมืองทั้งเมืองและนายก็ยังคิดว่าเขาจะให้นายฟรีๆนี่นะ?”
“อ๊า? เขาจะไม่ให้พวกเรา?”ไร้ความกลัวมึนงงเล็กน้อยกับคำพูดของดาบน้ำแข็ง เมื่อเห็นหวังหยู่นั้นโยนหนังสือสกิลหายากให้กับความทระนงตัวได้อย่างๆง่ายทำให้เขาคิดเกี่ยวกับมันผิด
ใครๆก็จะต้องรู้ว่าหนังสือสกิลที่หวังหยู่นั้นให้นั้นไม่ได้มีค่าน้อยกว่าสมญานามของสำนักงานใหญ่เลยแม้แต่น้อย!
“ให้แม่มึงเถอะ! ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ กระทิงเหล็กก็ไม่ได้ร่ำรวยในชีวิตจริง! ตั้งแต่ที่เขาให้หนังสือสกิลไปฟรีๆแล้วพวกเรายังจะเอาผลประโยชน์ไปจากเขาอีกเหรอ?”ดาบน้ำแข็งพูด
เมื่อฟังคำพูดของเขาแล้วที่เหลือก็มึนงง
เมื่อเห็นสกิลหของหวังหยู่แล้ว มันก็เป็นที่เด่นชัดว่าเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีเพียงสองเรื่องที่เป็นไปได้ที่คนแบบเขานั้นมาเล่นเกมนี้อย่างแรกก็คือ พวกเขาไม่ต้องการที่จะทำงานหรือไม่กังวลเกี่ยวกับเงินและในชีวิตจริงของพวกเขานั้นเบื่อหน่ายมาก สมาชิกส่วนมากในนิกายซวนเฉินนั้นเป็นแบบนี้ อีกหนึ่งประเภทนั้นก็คือความต้องการที่จะพัฒนาศิลปะการต่อสู้ในอนาคต
เมื่อเห็นว่าหวังหยู่นั้นให้หนังสือสกิลที่ล้ำค่าเช่นนั้นก็ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาจะต้องเป็นประเภทแรก ใครจะไปคิดว่าเขานั้นจน
“ไม่มีทาง…. พี่ชายกระทิง รูปร่างและท่าทางของคุณนั้นทำให้คุณเหมือนกับคนร่ำรวย! คุณไม่เหมือนคนจนเลยแม้แต่น้อย!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิอ้าปากด้วยความช็อค
“ที่จริงแล้ว ผมเป็ฯส่วนหนึ่งของกลุ่มฟาร์มเงินพริมโรส......ผมมาเล่นเกมนี้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว…”หวังหยู่ตอบกลับอย่างอึดอัด
“กลุ่มฟาร์มเงินพริมโรส? ลุงทำงานให้กับกลุ่มระดับสองเช่นนี้นี่นะ? ลุงกระทิง ความสามารถของคุณนั้นไร้ประโยชน์สำหรับที่นั่น! มาทำงานกับผมเถอะ ผมจะจ่ายให้คุณมากเท่าที่ลุงต้องการเลย!”ความทระนงตัวพูดและก็เปิดเผยสถานะของเด็กผู้ร่ำรวยอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อฟังคำพูดแล้วทุกคนที่เหลือก็เงียบ ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะมาจากกิลด์เดียวกันและรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมีเจตนาที่ดี แต่น้ำเสียงที่เลวร้ายของเขานั้นจะทำลายศักดิ์ศรีของอีกคน
“ขอบคุณที่ชวนนะไก่น้อย แต่ลุงเพียงแค่ทำงานที่นี่ชั่วคราวแค่นั้น เมื่อลุงนั้นถึงเป้าหมายของแต่ละเดือนละก็ลุงก็สามารถที่จะทำงานของลุงได้หลังจากนั้น”หวังหยู่พูดอย่างง่ายๆ
“โอ้...โอเค ถ้าอย่างงั้นละก็...”ความทระนงตัวพยักหน้าอย่างผิดหวัง
หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ไร้ความกลัวก็พูด “ถ้าอย่างงั้นละก็ พวกเราก็จะซื้อสมญานามด้วยราคา 500000ดอลลาร์!”
หวังหยู่รีบหันกลับไปมองดาบน้ำแข็งที่พูดขึ้น “มันราคาประมาณนั้นเลย!
”
“โอเค ถ้าอย่างงั้นละก็ เอาไป!”หวังหยู่พูด เมื่อเขาหยิบสมญานามออกมาจากกระเป๋าของเขาและโยนไปให้กับไร้ความกลัว
เมื่อเขาจับไปที่สมญานาม ไร้ความกลัวก็หันไปหาสมาชิกกิลด์ที่เหลือและพูด “ตั้งแต่ที่พวกเรานั้นซื้อสมญานามนี้มา ดังนั้นทุกคนก็ได้รับผลประโยชน์รวมกัน พวกเราก็จะต้องแบ่งกันจ่าย! มีใครมีปัญหากับเรื่องนี้ไหม?”
“ไม่มี!”ความทระนงตัวตะโกนในทันที
“ไม่มี!”คนที่เหลือก็ตอบกลับกันทีละคน
ทุกคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกมที่มีประสบการณ์มากและรู้ดีว่าคุณค่าของไอเทมชิ้นนี้ที่สามารถเคานเตอร์กับหลบซ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่โจรนั้นทรงพลังอย่างมากเช่นนี้ ถ้าพวกเขานั้นสามารถที่จะผูกมัดผงหินปูนได้ละก็หลังจากนั้นเงิน 100000ดอลลาร์ก็จะได้กลับคืนมาอย่างง่ายดาย!
“ถ้าอย่างงั้นละก็! นายก็ส่งเงินมาให้ผมเพียงแค่ 410000พอ” หวังหยู่พูด หลังจากที่ฟังการพูดคุยกัน
“สมญานามนี้มีค่ามากกว่า 600000 และส่วนของนายก็ถูกรวมไว้แล้ว!”ไร้ความกลัวหัวเราะ
“แต่นี่มัน.....ไม่ดีอย่างมาก….”หวังหยู่รู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากที่ฟังคำพูดของเขา พวกเขานั้นพยายามที่จะให้เขาได้รับผลประโยชน์มากที่สุด!
“ฮ่าๆ พี่ชายกระทิงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน! ตั้งแต่ที่พวกเรานั้นอยู่กิลด์เดียวกัน พวกเราก็เป็นพี่น้องกันแล้ว! พวกเราสามารถที่จะจ่ายเงินเพียงแค่นี้ได้!’ ที่เหลือหัวเราะอย่างสบายๆ
“นั่นถูกแล้ว! หนังสือสกิลที่ลุงให้ผมนั้นมีค่ามากกว่าที่ผมจ่ายไปซะอีก ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็ ผมเป็นคนที่ใช้ประโยชน์จากลุงมากที่สุด!”ความทระนงตัวเพิ่มเติมเข้าไป
“ขอบ...ขอบคุณนะทุกคน!”หวังหยู่พยัดหน้าพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นด้านในของเขา ถึงแม้ว่าคนพวกนี้นั้นจะไม่ธรรมดามาก แต่พวกเขาก็ดูแลเขาเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิท....
หวังหยู่นั้นมีชีวิตที่ไร้ความกังวลใดๆ นอกจากศิลปะการต่อสู้แล้ว สิ่งที่เขามีก็คือครอบครัว
หลังจากที่เขาเริ่มต้นหางาน หวังหยู่ก็ได้รับประสบการณ์อันโหดร้ายและความเย็นชาของโลกใบนี้
อย่างไรก็ตาม หวังหยู่ก็ได้รับประสบการณ์ของเพื่อนแท้จากเกมนี้ ด้วยเหตุนี้นี่เอง ความรู้สึกเกี่ยวกับโลกอันโหดร้ายและเย็นชานี้ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อย
“ถ้ามีใครจำเป็นต้องใช้ผมในอนาคตละก็ เพียงแค่ถามผม! ผมจะทำมันอย่างเต็มกำลังเลย!”หวังหยู่ประกาศ
“แน่นอน พวกเรา! นิกายซวนเฉินของพวกเรานั้นมีพี่น้องแค่ไม่กี่คน! ถ้ามีใครกล้าที่จะรังแกพวกเราละก็พวกเราก็จะรวมตัวเข้าด้วยกัน!”พวกเขาหัวเราะ
“ฮ่าๆ ไม่เลวเลย!”หวังหยู่หัวเราะ
“พี่ชายกระทิง ถึงแม้ว่าพวกเราจะพึ่งเจอกัน มันก็รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเรานั้นรู้จักกันมาหลายปีแล้ว! ทำไมพวกเราไม่ไปร้านอาหารและหาอะไรดื่มกันซักหน่อยละ!”
“นี่มัน...บางทีอาจจะเป็นครั้งหน้า ผมหิวมากแล้วในตอนนี้ ผมต้องการที่จะออกจากเกมไปหาอะไรกินก่อน!”หวังหยู่พูดพร้อมกับรอยยิ้มอายๆบนใบหน้าของเขา
เมื่อฟังคำพูดของเขา ใบหน้าของคนที่เหลือก็เปลี่ยนไปเช่นกัน “เมื่อฟังนายพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มันก็ทำฉันหิวเหมือนกัน! เกมนี้มันสมจริงเกินไป! ฉันลืมกินข้าวเสมอๆเลย! แม่ของฉันนั้นกำลังจะบ่นฉันอีกครั้งแล้ว…”โบซอนบ่น
“ฮ่าๆๆๆ โบซอน! นายอายุสามสิบแล้วก็ยังอาศัยอยู่กับแม่อีกเหรอ?”ไร้ความกลัวเยาะเย้ย
“ไอ้เย็...แม่ นายกล้าที่จะเยาะเย้ยฉันเรอะ? ไม่ใช่ว่านายก็อยู่กับพ่อเหมือนกันเรอะ?”
ใบหน้าของไร้ความกลัวเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วและเขาก็รีบพูด “ก็ดี งั้นพวกเราออกจากเกมและไปหาอะไรกินก่อนละกัน! ไว้ค่อยเจอกันครั้งหน้า!”
“โอเค!”
หลังจากที่ทุกคนตอบกลับพร้อมกัน หวังหยู่ก็ออกจากเกม
หลังจากที่หวังหยู่ถอดหมวก เขาก็ได้รับข้อความยืนยันที่เขาได้รับเงิน 500000ที่โอนเข้ามาในธนาคารของเขา!
เมื่อเขานั้นตรวจสอบเวลาบนมือถือของเขา หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่ามันเกือบจะบ่ายแล้ว!
มู่จี่เซียนนั้นกลับมาจากการทำงานและกำลังเตรียมทำอาหารอย่างยุ่ง ทำให้เกิดกลิ่นหอมลอยออกมาจากห้องครัว
“ที่รัก ทำไมคุณไม่บอกผมละว่าคุณกลับบ้านแล้ว?”หวังหยู่ถาม แล้วเขาก็ช่วยมู่จี่เซียนนั้นจัดมื้ออาหารบนโต๊ะ
มู่จี่เซียนเช็ดมือของเธอและจิ้มไปที่แก้มของหวังหยู่แล้วเธอก็พูดขึ้น “คุณดูจริงจังมากก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉันจึงไม่กล้าที่จะรบกวนคุณ คุณกำลังสู้กับบอสอยู่เหรอ?”
หวังหยู่หัวเราะออกมาและเขาก็ใช้มือที่ว่างจับไปที่มือของมู่จี่เซียน
“ดังนั้น? คุณได้เงินมาเท่าไหร่กันวันนี้?” เมื่อเธอหยิบจานมาวางบนโต๊ะอาหาร มู่จี่เซียนก็ถามขึ้น
“ไม่เลวเลย ไม่เลวเลย…”หวังหยู่หัวเราะ
“ก็ดี คุณอย่าฝืนตัวเองมากเกินไปโอเคนะ? เพียงแค่เล่นเกมไป”มู่จี่เซียนพูดพร้อมกับความกังวล
“ผมรู้ ที่รัก ผมรู้ โอ้ใช่เลย เครดิตการ์ดของผมมีเงินแล้วจากที่ผมนั้นได้รับมันมาจากการขายอุปกรณ์ คุณเอามันไปและใช้มันกับตัวคุณเอง โอเคไหม?”หวังหยู่พยักหน้าเมื่อเขาหยิบเครดิตการ์ดออกมาและส่งให้กับมู่จี่เซียน
อย่างไรก็ตาม มู่จี่เซียนก็ไม่ได้หยิบการ์ดไปและพูดแทนว่า “คุณเก็บมันไปเถอะ เมื่อคุณเป็นผู้ชาย คุณก็จำเป็นจะต้องมีเงินบางส่วนเมื่อคุณออกไปข้างนอก”
เมื่อฟังคำตอบของเธอ หวังหยู่ก็ยิ้มอย่างทะเล้นและพูด “ตั้งแต่ที่พวกเราคบกันแล้ว มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าใครเป็นคนถือเงิน!”
“เฮ้..คุณไปพบกับเด็กประเภทไหนกันในเกม? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ลิ้นคุณคมกริบขนาดนี้... ดูสิคุณพยายามที่จะล่อลวงฉันด้วย!”พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก มู่จี่เซียนก็หยิบการ์ดไปและด่าเขาแบบตลกๆ
“ผมเป็นคนซื่อสัตย์ ถ้าคุณไม่เชื่อผมละก็ หลังจากนั้นคุณก็ฟังเสียงหัวใจของผมก็พอ!”หวังหยู่พูดเสร็จเขาก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
ในจุดนี้ เด็กผู้หญิงทั้งสี่คนก็ได้กลิ่นมื้ออาหารที่ถูกเตรียมพร้อมและพวกเธอก็ออกจากเกมและออกจากห้องมาเพื่อที่จะกินอาหาร และเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว พวกเธอก็รีบหันหลังและพูด “พวกเราไม่เห็นอะไรเลยนะ!”
มู่จี่เซียนหน้าแดงทันทีและเธอก็เบียดตัวออกจากอ้อมกอดของหวังหยู่
“ว้าว พี่ชายหยู่และพี่สะใภ้นั้นแต่งงานมานานแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งขนาดนี้...”หลี่ซั่วพูดอย่างอิจฉา
มู่จี่เซียนมองไปที่หวังหยู่อย่างลึกๆพร้อมกับการแสดงออกที่พึงพอใจบนใบหน้าของเธอ เธอก็หันกลับไปมองหลี่ซั่วและพูด “ไม่ต้องกังวลไป เธอก็จะหาใครบางคนเจอสักวันหนึ่งเหมือนกัน!”
“ใช่....ฉันหวังว่า...”หลี่ซั่วพูดพร้อมกับเสียงอันเศร้าสร้อยเมื่อเธอมองไปที่หวังหยู่
“โอ้ใช่เลยพี่ชายหยู่ พี่ถึงระดับ10หรือยัง? สาขาหลักของเราตั้งออฟฟิศด้านในเมืองรัตติกาล! เมื่อพี่ถึงระดับ10ก็มาที่ประตูหลักและหาพวกเราซิ!”หลี่ซั่วพูดกับหวังหยู่อย่างฉับพลัน
“โอ้ ผมอยู่ในเมืองรัตติกาลแล้ว!”หวังหยู่ตอบกลับ
“หื้อ? จริงหรอ? นี่เป็นเรื่องบังเอิญอะไรกันเนี่ย! โอเค ถ้าอย่างงั้นเมื่อพี่เข้ามาในเกมก็แอดเพื่อนฉันมาละกัน ฉันมีชื่อว่า หิมะอันนุ่มนวล พวกเราสี่คนนั้นจะพาพี่ไปสู้กับก็อบลิน และเมื่อพี่ถึงระดับ15 พวกเราก็สามารถที่จะเข้าดันเจี้ยนได้พร้อมกัน!”
“ก็อบลิน?”หวังหยู่มึนงงเล็กน้อย ทำไมต้องไปฆ่ามอนสเตอร์อย่างก็อบลินด้วย?
“คุณเจ้าของบ้านไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวไป ถึงแม้ว่าก็อบลินนั้นจะมีระดับที่15ก็ตาม พวกเรานั้นล่าพวกมันเป็นกลุ่มดังนั้นพวกเราสามารถที่จะจัดการมันได้! พี่แค่หลบอยู่ด้านหลังและเก็บอุปกรณ์ก็พอ!”แมรี่พูดอย่างใจดี
“โอเค…”หวังหยู่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้