ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 166 การต่อสู้ครั้งที่สองกับไป่หนิงปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 168 มนุษย์หมาป่าสายฟ้า

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 167 ตัวที่สี่


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 167 ตัวที่สี่

"เจ้าบีบบังคับข้า!" ไป่หนิงปิงกัดฟันแน่น

เขาเร่งกระตุ้นการทำงานของวิญญาณวายุคลั่งและวิญญาณกงล้อสายลมในเวลาเดียวกันเพื่อก่อกำเนิดพายุหมุนน้ำแข็งขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับกรรโชกแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ

พื้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันการโจมตีจากตะขาบทองคำทำลายล้าง

พายุหมุนน้ำแข็งครั้งนี้เกิดขึ้นจากการผสานงานกันระหว่างวิญญาณวายุคลั่ง วิญญาณกงล้อสายลม และวิญญาณดาบน้ำแข็ง มันสามารถเป็นทั้งการโจมตีและการป้องกันที่แข็งแกร่ง ชัดเจนว่านี่คือพรสวรรค์ที่เกิดจากสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด

หากไม่มีผู้ใช้วิญญาณสองคนขึ้นไปร่วมมือกันต่อต้าน พวกเขาจะไม่สามารถรับมือพายุหมุนน้ำแข็งชนิดนี้ได้

พายุหมุนสีขาวที่ทรงพลังราวกับสัตว์อสูรที่กำลังเปิดปากและพยายามกลืนกินฟางหยวนเข้าไป

การผสานพลังของวิญญาณสามดวงก่อให้เกิดพลังอำนาจที่แม้แต่เกราะนภาของฟางหยวนก็ไม่สามารถต่อต้าน

แต่ฟางหยวนยังเผยท่าทีเย้ยหยัน

ปีกสายฟ้าระเบิดขึ้นบนแผ่นหลังของฟางหยวนและนำเขาถอยหายออกไปในระยะไกล

หากเป็นในอดีตแน่นอนว่าฟางหยวนย่อมไม่สามารถหลบหนีจากพายุหมุนน้ำแข็ง แต่ตอนนี้พายุที่กรรโชกแรงกลับไม่สามารถตามจับเขาได้ทัน

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายก่อนที่เขาจะบินหนีไปทางหุบเขา

พายุหมุนน้ำแข็งพุ่งตามไปอย่างไม่ลดละ

"อย่ามาทางนี้!"

"บัดซบ!"

ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่หรือตระกูลแสงจันทร์ พวกเขาต่างสบถสาปแช่งออกมาอย่างดุเดือดเมื่อเห็นพายุหมุนน้ำแข็งใกล้เข้ามา

ฟางหยวนหัวเราะขบขันอย่างไม่หยุดยั้ง

พายุหมุนน้ำแข็งไล่ตามฟางหยวนพร้อมกับเสียงของไป่หนิงปิงที่ดังมาจากภายใน

"อย่าคิดว่าสามารถหลบหนี!" เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อาวุโสตระกูลไป่พุ่งเข้ามากีดขวางเส้นทางของฟางหยวน

แต่ในเวลาเดียวกันตะขาบทองคำทำลายล้างกลับกระโดดขึ้นมาจากพื้นและกลายเป็นดาบสีทองอยู่ในมือของฟางหยวนอีกครั้ง

"ซี่...ซี่...ซี่...ซี่..."

เสียงเลื่อยไฟฟ้าทำให้รูม่านตาของผู้อาวุโสจากตระกูลไป่หดเล็กลงอย่างกะทันหัน

ฟางหยวนถือดาบสีทองไว้ในมือขวา ขณะที่แสงจันทร์สีแดงส่องสว่างอยู่ในมือซ้าย ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวระยิบระยับพร้อมกับปีกสายฟ้าบนแผ่นหลัง เส้นผมสีดำของเขาปลิวไปตามแรงลมที่เกิดจากพายุหมุนน้ำแข็งด้านหลัง

การปรากฏตัวของเขาที่มาพร้อมกับดวงตาคู่สีดำอันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารทำให้เขาดูราวกับอัศวินแห่งความตายที่เอาพลิกคว่ำสงครามใหญ่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ศัตรูบนเส้นทางของเขาจะถูกทำลายล้างทั้งหมด

"อา..." ผู้อาวุโสตระกูลไป่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

ความกลัวใจจิตใจกัดกินจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาไปจนหมดสิ้น

ฟางหยวนไม่สนใจคนขี้ขลาดผู้นี้แต่วิ่งไปทางราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าที่กำลังจะตาย

ทุกที่ที่เขาเคลื่อนผ่าน ผู้ใช้วิญญาณต่างหลีกทางให้เขาด้วยความหวาดกลัว

ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าดิ้นรนหันไปทางฟางหยวนพร้อมกับแยกเขี้ยวข่มขู่ ด้วยความภาคภูมิใจของราชัน มันไม่ยินยอมที่จะตกตายโดยง่าย หรือแม้มันต้องตาย มันก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด

ฟางหยวนราวกับอุกกาบาตที่กำลังพุ่งตรงไปทางราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า แต่วินาทีสุดท้ายก่อนที่จะเกิดการปะทะ ฟางหยวนกลับทะยานร่างขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน

เขาบินออกไปจากหุบเขาก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้นเมื่อพายุหมุนน้ำแข็งปะทะกับราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า

พายุหมุนน้ำแข็งถือเป็นผลงานชิ้นเอกของไป่หนิงปิง แต่มันก็ยังมีจุดอ่อนที่ไม่สามารถหยุดได้โดยง่าย

ราชาหมาป่าที่กำลังจะตายไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไป เกล็ดสีขาวบนร่างของมันถูกตัดทำลาย เลือดและเนื้อโบยบินไปทั่ว แม้แต่กระดูกยังถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างรวดเร้ว

"บัดซบ!" ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์สบถออกมาพร้อมๆกัน

ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไป่เองก็แสดงออกด้วยความเสียดาย

การโจมตีของไป่หนิงปิงทำให้ความตายของราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้ากลายเป็นไร้ค่า แต่ไป่หนิงปิงไม่สนใจมัน ตรงข้าม เขาทำให้พายุหมุนเร็วขึ้นและเพลิดเพลินไปกับการทำลายล้างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า

วิญญาณในร่างของมันบินออกมาทันที

วิญญาณเหล่านี้อาศัยอยู่ในร่างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าในลักษณะพึ่งพาซึ่งกันและกัน แต่เมื่อราชาหมาป่าตกตาย พวกมันจึงไม่ต่างจากลูกเรือที่พยายามหลบหนีเอาชีวิตรอดเมื่อเรือล่ม

"จับพวกมัน!"

"เร็วเข้า! หยุดวิญญาณเหล่านั้น!"

ทั้งสองฝ่ายตะโกนเสียงดัง

สถานการณ์กลับเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายอีกครั้ง ขณะที่ชนชั้นสูงของทั้งสองตระกูลต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผู้นำตระกูลทั้งสองไม่สามารถปลีกตัวออกไป ดังนั้นมันจึงมีผู้อาวุโสเพียงไม่กี่คนที่พยายามตามจับวิญญาณเหล่านั้น

วิญญาณบินหนีไปทุกทิศทุกทาง ขณะที่ฟางหยวนพยายามสังเกตและแยกแยะพวกมัน

'น่าเสียดายที่วิญญาณสังเกตการณ์ของข้าคือหญ้าใบหูปฐพี มันไม่ได้ช่วยในการมองเห็น มีวิญญาณสายรักษาอยู่ในร่างของราชาหมาป่าตัวนี้ แต่ข้าจะจับมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเท่านั้น'

ฟางหยวนทำได้เพียงเดิมพันกับโชคชะตาของเขาอย่างไม่มีทางเลือก

ด้วยปีกสายฟ้า เขาพุ่งไปยังวิญญาณที่อยู่ใกล้ที่สุด

วิญญาณที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าพยายามบินหลบหนี แต่ฟางหยวนกลับคว้าจับมันเอาไว้

"เปรี้ยง!"

อย่างไรก็ตามในวินาทีนี้มันกลับปลดปล่อยสายฟ้าออกมาโจมตีฟางหยวน

เขากัดฟันแน่นขณะที่ใช้เกราะนภาป้องกันเอาไว้และเลือกที่จะยอมแพ้

ความสามารถของวิญญาณดวงนี้ถูกเปิดเผยแล้ว มันเป็นวิญญาณสายโจมตี แต่สิ่งที่ฟางหยวนต้องการคือวิญญาณสายรักษา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้อย่างชาญฉลาด จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางวิญญาณดวงอื่น

เมื่อเขาเข้าใกล้มัน สิ่งที่อยู่ในมุมมองสายตาของเขาก็คือคริสตัลสีฟ้าที่มีรูปร่างคล้ายกระดองเต่า

วิญญาณโล่สายฟ้า!

มันคือวิญญาณป้องกันที่สามารถสร้างโล่สายฟ้า

ฟางหยวนยอมแพ้อีกครั้งและกวาดตามองไปรอบๆเพื่อค้นหาวิญญาณดวงที่สาม

แต่ในจังหวะนี้เงาร่างสีขาวกลับพุ่งมาจากหุบเขาและตะโกนเรียกชื่อเขา

ฟางหยวนถอนหายใจและตระหนักว่าเทพธิดาแห่งโชคลาภไม่ได้อยู่ข้างเขาในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากคว้าจับวิญญาณโล่สายฟ้าที่อยู่ข้างกายเท่านั้น

วิญญาณโล่สายฟ้าพยายามต่อต้านขัดขืน

แต่ฟางหยวนกลับยิ้มเยาะและปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณกาลเวลาออกมากำหราบมันก่อนจะส่งพลังวิญญาณเข้าไปปรับแต่งมันทันที

วิญญาณเกล็ดลี้ลับ!

ระลอกคลื่นอากาศกระจายออกจากร่างของฟางหยวนก่อนที่เขาจะหายตัวไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว

"ฟางหยวน!" เห็นฟางหยวนหายตัวไปต่อหน้า สายฟ้ากลับปะทุขึ้นในดวงตาของไป่หนิงปิงอย่างฉับพลัน

มันเป็นวิญญาณระดับสาม วิญญาณดวงตาสายฟ้าที่สามารถมองทะลุการเร้นกายของคู่ต่อสู้

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายฟ้าของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงอาศัยป่าทึบเพื่อปิดบังตนเอง สายตาของไป่หนิงปิงกวาดมองไปรอบๆ แต่เขากลับต้องส่งเสียงสาบแช่งออกมาด้วยความโกรธเมื่อไม่สามารถค้นพบฟางหยวน

ฟางหยวนหาสถานที่ปลอดภัยและกระตุ้นใช้งานบุปผาสวรรค์เพื่อนำหินวิญญาณออกมา

แม้เขาจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามแต่เขามีระดับทะเลวิญญาณเพียงสี่สิบสองส่วน หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือด ทะเลวิญญาณของเขาจึงเหลืออยู่เพียงสามในร้อยส่วนเท่านั้น

ผู้ใช้วิญญาณจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณในการกระตุ้นการทำงานของวิญญาณ

ปราศจากพลังวิญญาณ ผู้ใช้วิญญาณก็ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา ในความเป็นจริง พวกเขายังกระทั่งจะอ่อนแอกว่ามนุษย์ธรรมดาที่มีร่างกายแข็งแกร่งอีกด้วย

ตอนนี้เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ดังนั้นเขาจึงต้องดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณมากขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งหรือสอง มันจึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการเติมเต็ม

เสียงการต่อสู้ของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณยังสามารถได้ยิน หลังจากแปดหรือเก้านาทีผ่านไป ฟางหยวนจึงสามารถเต็มเติมพลังวิญญาณของเขาในที่สุด

เขาเดินออกมาจากที่ซ่อนและพบศพของผู้อาวุโสห้าคนนอนอยู่

สามคนมาจากตระกูลแสงจันทร์และสองจากตระกูลไป่

ผู้อาวุโสผู้ใช้วิญญาณระดับสามถือเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูล แต่พวกเขากลับต้องมาตกตายในเวลานี้ ขณะที่อวี๋โป้ยังอยู่ในการต่อสู้อันเข้มข้นกับผู้นำตระกูลไป่ ยิ่งพวกเขาได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็ยิ่งก้าวร้าวมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ของผู้อาวุโสอยู่รอบๆป่าแห่งนี้

ผู้ใช้วิญญาณทั่วไปไม่มีวิญญาณกาลเวลาให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากในการจับกุมวิญญาณเหล่านั้น

มีวิญญาณแปดหรือเก้าดวงลอยออกมาจากร่างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า แต่มีเพียงไม่กี่ดวงที่พวกเขาจับได้ ดังนั้นจึงมีวิญญาณอีกหลายดวงที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้

กลุ่มผู้อาวุโสล้อมรอบวิญญาณสามดวงเอาไว้และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางออก เพราะทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำสิ่งใดกันได้

"วิญญาณกรงขังน้ำ กักขังพวกมันเอาไว้!" ผู้ใช้วิญญาณตระกูลไป่โยนบอลน้ำออกไป

บอลน้ำขยายใหญ่ขึ้นสองเมตรและกักขังวิญญาณสามดวงไว้ภายใน

"ปัง!"

แต่ในพริบตาต่อมา ดาบแสงจันทร์สีทองกลับพุ่งเข้าระเบิดทำลายกรงน้ำอย่างรุนแรง

วิญญาณดวงหนึ่งฉวยโอกาสหลบหนีออกไป

นี่ทำให้ผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่ต้องสบถสาปแช่ง

ด้านผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลแสงจันทร์โกรธแค้นเป็นอย่างมาก เดิมทีวิญญาณเหล่านี้ควรเป็นรางวัลในการต่อสู้ของพวกเขา แต่คนตระกูลไป่กลับเข้าแทรกแซงทำให้พวกเขาไม่ได้รับสิ่งใดเลย

"พวกสุนัขตระกูลไป่ ไปลงนรกซะ!"

"ตระกูลแสงจันทร์ของพวกเจ้าจบสิ้นแล้ว ตระกูลไป่จะเหยียบย่ำพวกเจ้าเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า!"

ทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยความเกลียดชังซึ่งกันและกัน พวกเขาต่อสู้ห้ำหั่นจนตวงดาเปลี่ยนเป็นสีแดง

เมื่อฟางหยวนเห็นวิญญาณดวงหนึ่งบินหนีไป เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากมองไปยังวิญญาณอีกสองดวงซึ่งอาจเป็นวิญญาณสายรักษาที่เขาต้องการ

ฟางหยวนรู้ว่าโลกใบนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ฝันที่เป็นจริง! แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากลอง

เพียงเมื่อเขากำลังจะเคลื่อนไหว เขากลับได้ยินเสียงเห่าหอนของหมาป่าดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ไม่นานหลังจากนั้นฝูงหมาป่าสายฟ้าจึงปรากฏตัวออกมาราวกับน้ำหลาก

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็คือหมาป่าที่มีร่างกายใหญ่โตราวกับภูเขา

ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า!!

"มีราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าสี่ตัวงั้นหรือ!?" ผู้อาวุโสทั้งหมดตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระลึงและไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้อีกต่อไป