เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 167 ตัวที่สี่
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 167 ตัวที่สี่
"เจ้าบีบบังคับข้า!" ไป่หนิงปิงกัดฟันแน่น
เขาเร่งกระตุ้นการทำงานของวิญญาณวายุคลั่งและวิญญาณกงล้อสายลมในเวลาเดียวกันเพื่อก่อกำเนิดพายุหมุนน้ำแข็งขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับกรรโชกแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ
พื้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันการโจมตีจากตะขาบทองคำทำลายล้าง
พายุหมุนน้ำแข็งครั้งนี้เกิดขึ้นจากการผสานงานกันระหว่างวิญญาณวายุคลั่ง วิญญาณกงล้อสายลม และวิญญาณดาบน้ำแข็ง มันสามารถเป็นทั้งการโจมตีและการป้องกันที่แข็งแกร่ง ชัดเจนว่านี่คือพรสวรรค์ที่เกิดจากสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด
หากไม่มีผู้ใช้วิญญาณสองคนขึ้นไปร่วมมือกันต่อต้าน พวกเขาจะไม่สามารถรับมือพายุหมุนน้ำแข็งชนิดนี้ได้
พายุหมุนสีขาวที่ทรงพลังราวกับสัตว์อสูรที่กำลังเปิดปากและพยายามกลืนกินฟางหยวนเข้าไป
การผสานพลังของวิญญาณสามดวงก่อให้เกิดพลังอำนาจที่แม้แต่เกราะนภาของฟางหยวนก็ไม่สามารถต่อต้าน
แต่ฟางหยวนยังเผยท่าทีเย้ยหยัน
ปีกสายฟ้าระเบิดขึ้นบนแผ่นหลังของฟางหยวนและนำเขาถอยหายออกไปในระยะไกล
หากเป็นในอดีตแน่นอนว่าฟางหยวนย่อมไม่สามารถหลบหนีจากพายุหมุนน้ำแข็ง แต่ตอนนี้พายุที่กรรโชกแรงกลับไม่สามารถตามจับเขาได้ทัน
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายก่อนที่เขาจะบินหนีไปทางหุบเขา
พายุหมุนน้ำแข็งพุ่งตามไปอย่างไม่ลดละ
"อย่ามาทางนี้!"
"บัดซบ!"
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่หรือตระกูลแสงจันทร์ พวกเขาต่างสบถสาปแช่งออกมาอย่างดุเดือดเมื่อเห็นพายุหมุนน้ำแข็งใกล้เข้ามา
ฟางหยวนหัวเราะขบขันอย่างไม่หยุดยั้ง
พายุหมุนน้ำแข็งไล่ตามฟางหยวนพร้อมกับเสียงของไป่หนิงปิงที่ดังมาจากภายใน
"อย่าคิดว่าสามารถหลบหนี!" เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อาวุโสตระกูลไป่พุ่งเข้ามากีดขวางเส้นทางของฟางหยวน
แต่ในเวลาเดียวกันตะขาบทองคำทำลายล้างกลับกระโดดขึ้นมาจากพื้นและกลายเป็นดาบสีทองอยู่ในมือของฟางหยวนอีกครั้ง
"ซี่...ซี่...ซี่...ซี่..."
เสียงเลื่อยไฟฟ้าทำให้รูม่านตาของผู้อาวุโสจากตระกูลไป่หดเล็กลงอย่างกะทันหัน
ฟางหยวนถือดาบสีทองไว้ในมือขวา ขณะที่แสงจันทร์สีแดงส่องสว่างอยู่ในมือซ้าย ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวระยิบระยับพร้อมกับปีกสายฟ้าบนแผ่นหลัง เส้นผมสีดำของเขาปลิวไปตามแรงลมที่เกิดจากพายุหมุนน้ำแข็งด้านหลัง
การปรากฏตัวของเขาที่มาพร้อมกับดวงตาคู่สีดำอันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารทำให้เขาดูราวกับอัศวินแห่งความตายที่เอาพลิกคว่ำสงครามใหญ่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ศัตรูบนเส้นทางของเขาจะถูกทำลายล้างทั้งหมด
"อา..." ผู้อาวุโสตระกูลไป่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต
ความกลัวใจจิตใจกัดกินจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาไปจนหมดสิ้น
ฟางหยวนไม่สนใจคนขี้ขลาดผู้นี้แต่วิ่งไปทางราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าที่กำลังจะตาย
ทุกที่ที่เขาเคลื่อนผ่าน ผู้ใช้วิญญาณต่างหลีกทางให้เขาด้วยความหวาดกลัว
ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าดิ้นรนหันไปทางฟางหยวนพร้อมกับแยกเขี้ยวข่มขู่ ด้วยความภาคภูมิใจของราชัน มันไม่ยินยอมที่จะตกตายโดยง่าย หรือแม้มันต้องตาย มันก็จะต่อสู้จนถึงที่สุด
ฟางหยวนราวกับอุกกาบาตที่กำลังพุ่งตรงไปทางราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า แต่วินาทีสุดท้ายก่อนที่จะเกิดการปะทะ ฟางหยวนกลับทะยานร่างขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน
เขาบินออกไปจากหุบเขาก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้นเมื่อพายุหมุนน้ำแข็งปะทะกับราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า
พายุหมุนน้ำแข็งถือเป็นผลงานชิ้นเอกของไป่หนิงปิง แต่มันก็ยังมีจุดอ่อนที่ไม่สามารถหยุดได้โดยง่าย
ราชาหมาป่าที่กำลังจะตายไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไป เกล็ดสีขาวบนร่างของมันถูกตัดทำลาย เลือดและเนื้อโบยบินไปทั่ว แม้แต่กระดูกยังถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างรวดเร้ว
"บัดซบ!" ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลแสงจันทร์สบถออกมาพร้อมๆกัน
ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไป่เองก็แสดงออกด้วยความเสียดาย
การโจมตีของไป่หนิงปิงทำให้ความตายของราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้ากลายเป็นไร้ค่า แต่ไป่หนิงปิงไม่สนใจมัน ตรงข้าม เขาทำให้พายุหมุนเร็วขึ้นและเพลิดเพลินไปกับการทำลายล้างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า
วิญญาณในร่างของมันบินออกมาทันที
วิญญาณเหล่านี้อาศัยอยู่ในร่างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าในลักษณะพึ่งพาซึ่งกันและกัน แต่เมื่อราชาหมาป่าตกตาย พวกมันจึงไม่ต่างจากลูกเรือที่พยายามหลบหนีเอาชีวิตรอดเมื่อเรือล่ม
"จับพวกมัน!"
"เร็วเข้า! หยุดวิญญาณเหล่านั้น!"
ทั้งสองฝ่ายตะโกนเสียงดัง
สถานการณ์กลับเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายอีกครั้ง ขณะที่ชนชั้นสูงของทั้งสองตระกูลต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผู้นำตระกูลทั้งสองไม่สามารถปลีกตัวออกไป ดังนั้นมันจึงมีผู้อาวุโสเพียงไม่กี่คนที่พยายามตามจับวิญญาณเหล่านั้น
วิญญาณบินหนีไปทุกทิศทุกทาง ขณะที่ฟางหยวนพยายามสังเกตและแยกแยะพวกมัน
'น่าเสียดายที่วิญญาณสังเกตการณ์ของข้าคือหญ้าใบหูปฐพี มันไม่ได้ช่วยในการมองเห็น มีวิญญาณสายรักษาอยู่ในร่างของราชาหมาป่าตัวนี้ แต่ข้าจะจับมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาเท่านั้น'
ฟางหยวนทำได้เพียงเดิมพันกับโชคชะตาของเขาอย่างไม่มีทางเลือก
ด้วยปีกสายฟ้า เขาพุ่งไปยังวิญญาณที่อยู่ใกล้ที่สุด
วิญญาณที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าพยายามบินหลบหนี แต่ฟางหยวนกลับคว้าจับมันเอาไว้
"เปรี้ยง!"
อย่างไรก็ตามในวินาทีนี้มันกลับปลดปล่อยสายฟ้าออกมาโจมตีฟางหยวน
เขากัดฟันแน่นขณะที่ใช้เกราะนภาป้องกันเอาไว้และเลือกที่จะยอมแพ้
ความสามารถของวิญญาณดวงนี้ถูกเปิดเผยแล้ว มันเป็นวิญญาณสายโจมตี แต่สิ่งที่ฟางหยวนต้องการคือวิญญาณสายรักษา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้อย่างชาญฉลาด จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางวิญญาณดวงอื่น
เมื่อเขาเข้าใกล้มัน สิ่งที่อยู่ในมุมมองสายตาของเขาก็คือคริสตัลสีฟ้าที่มีรูปร่างคล้ายกระดองเต่า
วิญญาณโล่สายฟ้า!
มันคือวิญญาณป้องกันที่สามารถสร้างโล่สายฟ้า
ฟางหยวนยอมแพ้อีกครั้งและกวาดตามองไปรอบๆเพื่อค้นหาวิญญาณดวงที่สาม
แต่ในจังหวะนี้เงาร่างสีขาวกลับพุ่งมาจากหุบเขาและตะโกนเรียกชื่อเขา
ฟางหยวนถอนหายใจและตระหนักว่าเทพธิดาแห่งโชคลาภไม่ได้อยู่ข้างเขาในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากคว้าจับวิญญาณโล่สายฟ้าที่อยู่ข้างกายเท่านั้น
วิญญาณโล่สายฟ้าพยายามต่อต้านขัดขืน
แต่ฟางหยวนกลับยิ้มเยาะและปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณกาลเวลาออกมากำหราบมันก่อนจะส่งพลังวิญญาณเข้าไปปรับแต่งมันทันที
วิญญาณเกล็ดลี้ลับ!
ระลอกคลื่นอากาศกระจายออกจากร่างของฟางหยวนก่อนที่เขาจะหายตัวไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว
"ฟางหยวน!" เห็นฟางหยวนหายตัวไปต่อหน้า สายฟ้ากลับปะทุขึ้นในดวงตาของไป่หนิงปิงอย่างฉับพลัน
มันเป็นวิญญาณระดับสาม วิญญาณดวงตาสายฟ้าที่สามารถมองทะลุการเร้นกายของคู่ต่อสู้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายฟ้าของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงอาศัยป่าทึบเพื่อปิดบังตนเอง สายตาของไป่หนิงปิงกวาดมองไปรอบๆ แต่เขากลับต้องส่งเสียงสาบแช่งออกมาด้วยความโกรธเมื่อไม่สามารถค้นพบฟางหยวน
ฟางหยวนหาสถานที่ปลอดภัยและกระตุ้นใช้งานบุปผาสวรรค์เพื่อนำหินวิญญาณออกมา
แม้เขาจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามแต่เขามีระดับทะเลวิญญาณเพียงสี่สิบสองส่วน หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือด ทะเลวิญญาณของเขาจึงเหลืออยู่เพียงสามในร้อยส่วนเท่านั้น
ผู้ใช้วิญญาณจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณในการกระตุ้นการทำงานของวิญญาณ
ปราศจากพลังวิญญาณ ผู้ใช้วิญญาณก็ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา ในความเป็นจริง พวกเขายังกระทั่งจะอ่อนแอกว่ามนุษย์ธรรมดาที่มีร่างกายแข็งแกร่งอีกด้วย
ตอนนี้เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม ดังนั้นเขาจึงต้องดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณมากขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งหรือสอง มันจึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการเติมเต็ม
เสียงการต่อสู้ของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณยังสามารถได้ยิน หลังจากแปดหรือเก้านาทีผ่านไป ฟางหยวนจึงสามารถเต็มเติมพลังวิญญาณของเขาในที่สุด
เขาเดินออกมาจากที่ซ่อนและพบศพของผู้อาวุโสห้าคนนอนอยู่
สามคนมาจากตระกูลแสงจันทร์และสองจากตระกูลไป่
ผู้อาวุโสผู้ใช้วิญญาณระดับสามถือเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูล แต่พวกเขากลับต้องมาตกตายในเวลานี้ ขณะที่อวี๋โป้ยังอยู่ในการต่อสู้อันเข้มข้นกับผู้นำตระกูลไป่ ยิ่งพวกเขาได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็ยิ่งก้าวร้าวมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ของผู้อาวุโสอยู่รอบๆป่าแห่งนี้
ผู้ใช้วิญญาณทั่วไปไม่มีวิญญาณกาลเวลาให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากในการจับกุมวิญญาณเหล่านั้น
มีวิญญาณแปดหรือเก้าดวงลอยออกมาจากร่างราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า แต่มีเพียงไม่กี่ดวงที่พวกเขาจับได้ ดังนั้นจึงมีวิญญาณอีกหลายดวงที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้
กลุ่มผู้อาวุโสล้อมรอบวิญญาณสามดวงเอาไว้และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางออก เพราะทั้งสองฝ่ายไม่สามารถทำสิ่งใดกันได้
"วิญญาณกรงขังน้ำ กักขังพวกมันเอาไว้!" ผู้ใช้วิญญาณตระกูลไป่โยนบอลน้ำออกไป
บอลน้ำขยายใหญ่ขึ้นสองเมตรและกักขังวิญญาณสามดวงไว้ภายใน
"ปัง!"
แต่ในพริบตาต่อมา ดาบแสงจันทร์สีทองกลับพุ่งเข้าระเบิดทำลายกรงน้ำอย่างรุนแรง
วิญญาณดวงหนึ่งฉวยโอกาสหลบหนีออกไป
นี่ทำให้ผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลไป่ต้องสบถสาปแช่ง
ด้านผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลแสงจันทร์โกรธแค้นเป็นอย่างมาก เดิมทีวิญญาณเหล่านี้ควรเป็นรางวัลในการต่อสู้ของพวกเขา แต่คนตระกูลไป่กลับเข้าแทรกแซงทำให้พวกเขาไม่ได้รับสิ่งใดเลย
"พวกสุนัขตระกูลไป่ ไปลงนรกซะ!"
"ตระกูลแสงจันทร์ของพวกเจ้าจบสิ้นแล้ว ตระกูลไป่จะเหยียบย่ำพวกเจ้าเอาไว้ใต้ฝ่าเท้า!"
ทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยความเกลียดชังซึ่งกันและกัน พวกเขาต่อสู้ห้ำหั่นจนตวงดาเปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่อฟางหยวนเห็นวิญญาณดวงหนึ่งบินหนีไป เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากมองไปยังวิญญาณอีกสองดวงซึ่งอาจเป็นวิญญาณสายรักษาที่เขาต้องการ
ฟางหยวนรู้ว่าโลกใบนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ฝันที่เป็นจริง! แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากลอง
เพียงเมื่อเขากำลังจะเคลื่อนไหว เขากลับได้ยินเสียงเห่าหอนของหมาป่าดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ไม่นานหลังจากนั้นฝูงหมาป่าสายฟ้าจึงปรากฏตัวออกมาราวกับน้ำหลาก
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็คือหมาป่าที่มีร่างกายใหญ่โตราวกับภูเขา
ราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้า!!
"มีราชาหมาป่ามงกุฎสายฟ้าสี่ตัวงั้นหรือ!?" ผู้อาวุโสทั้งหมดตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระลึงและไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้อีกต่อไป